สัมผัสของเขามันล่อลวงขณะเดียวกันทำให้ฉันสะบัดร้อนสะบัดหนาว เกิดมายังไม่เคยถูกใครล่วงล้ำร่างกายขนาดนี้มาก่อน รู้สึกวูบวาบทุกที่ที่มือและปากของพี่กายแตะต้อง
ยิ่งตามองไม่เห็น ภาพในจินตนาการยิ่งเข้มข้น นึกถึงว่าตอนนี้เขามองฉันด้วยสายตาแบบไหน เขากำลังจะทำอะไรต่อไป ในอกก็ยิ่งหวามไหว
แต่ฉันไม่อยากให้เขารู้ว่ากำลังทรมานกับความบาดวาบหวาม
“อยากครางจะแย่ละ” ถ้อยท้าทายจึงดังออกไป “ไม่คิดว่าพี่จะเป็นคนใจเย็นแบบนี้”
ฉันไต่มือขึ้นไปตามต้นแขนกำยำ โอบคล้องลำคอหนา ผงกหน้าขึ้นกระทั่งปากชนปาก จึงยื่นลิ้นออกมาเลียลากริมฝีปากได้รูปน่าจูบ ได้ยินเสียงเขาหัวเราะแผ่วเบา ยื่นลิ้นออกมาแตะเลียลิ้นกัน
“คิดว่าเธออาจจะอยากค่อยเป็นค่อยไป แต่ถ้าไม่ใช่...”
สุ้มเสียงลากแล้วขาดหายไปของเขา ทำให้ฉันลุ้น ไม่กี่วินาทีก็เกือบหลุดอุทานเมื่อเขาผละห่าง ชายเสื้อเอวลอยของฉันถูกตลบรั้ง รูดออกไป เปิดเปลือยเรือนกายที่มีเพียงซิลิโคนสีเนื้อปกปิดยอดอก แต่แค่ไม่กี่วินาทีเช่นกันที่มันถูกดึงออกง่ายดาย ทำฉันขนอ่อนลุกชัน ปลายยอดเต้าดีดดันจนรู้สึก
“เธอสวย”
ปากอุ่นอ้าวก็แนบเข้าคาบงับ ดูดขย้ำยอดเต้าสลับกันทั้งสองข้าง ทำให้มันเปียกชื้น หดตัวแข็งเป็นไต เขายังตามเลียไล้ คาบอม ขบคลึงด้วยฟันคม ยามที่ปากร้อนละเลงดูดลูบเลีย มือแข็งแรงก็กอบกุมอีกด้าน บีบขยำ สะกิดเขี่ยปลายเต้าอีกข้าง ฉันซ่านสยิว ลมหายใจสะท้าน กับความรวดร้าวแปลบปลาบ ขยุ้มเล็บจิกตรึงท้ายทอยหนาระบายอารมณ์
หลังทรมานอกฉันจนเปียกฉ่ำ เขาลากปากละเลงลิ้นผ่านกึ่งกลางอกลงไปยังหน้าท้องแบนราบ พรมปากจูบ พรมลิ้นลูบเลียและเย้าหยอกแอ่งสะดือเล็ก ไล้ลิ้นไปตามสายสร้อยคล้องเอวไปยังสีข้างด้านหนึ่ง พรมลูบตรงจุดที่ฉันสักรูปนกฟินิกซ์เอาไว้
“ตรงนี้ก็สวย”
เขาชื่นชม วนลิ้นจูบพรมจนฉันสั่น หลงลืมใจกาย จนไม่ทันสังเกตว่ากระดุมกางเกงขาสั้นถูกปลดตอนไหน รู้อีกทีคือตอนที่มันถูกรั้งผ่านสะโพก ลงไปตามเรียวขา พร้อมด้วยกางเกงในเนื้อบางที่ใส่ก็เหมือนไม่ได้ใส่ ความเย็นวาบทำให้เผลอปราดมือเข้าไปปิดนูนเนินความสาวด้วยใจที่เต้นระรัว
พี่กายเริ่มชื่นชมรอยสักของฉันลงไปตามบั้นท้ายกระทั่งถึงปลายหางนกแสนสวยตามการคาดเดาของฉันเอง เขาเริ่มวกจูบพรมมาตามหน้าขา ที่สุดก็กดจูบลงบนมือฉัน ก่อนจะดึงออกจากพื้นที่ส่วนตัว ทำให้ฉันหลุดเสียงสะท้าน เมื่อความอุ่นของลิ้นกดลงบนนวลเนื้อ
“อ๊ะ!”
ความเสียดเสียวจู่โจมเข้าหา เนื้อตูมน้อยตอดกระตุกรับปลายลิ้นที่สะบัดละเลงรัว กล้ามเนื้ออ่อนภายในร่องคับแคบบีบรัดทั้งตอดตุบ เอ่อซึมน้ำอุ่นออกมาชุ่มเปียก ก่อนจะรู้สึกถึงลำนิ้วที่เข้ามากดคลึง ฉันแอ่นอ้าแยกขาออกห่างเปิดทางให้ปากและมือพี่กายละเลงใส่ได้ถนัดถนี่
สองขาตั้งชั้น บั้นท้ายยกหยัดสะบัดสั่นแอ่นความอวบสวยเสนอต่อปากและลิ้นแสนร้ายกาจ ได้แต่ผงกหน้า สูดปาก ส่งเสียงครางระริก
พี่กายสะบัดปลายลิ้นลงเซาะไซ้ไล้เลียไปทั่วทั้งกลีบเนื้อ เขาทำเหมือนกำลังชิมรสชาติจากแอ่งน้ำ ก่อนจะกดปลายลิ้นแยงยัดอัดร่องแคบ กดปลายจมูกขยี้กลีบในและตุ่มไตไวความรู้สึก โรมรันร้อนแรง ทำฉันสั่นเป็นเจ้าเข้า เท่านั้นไม่พอ มือใหญ่สอดเข้ามาใต้บั้นท้าย ยกกายส่วนล่างของฉันขึ้นจนสองขาพาดไหล่กว้าง
ท่าทางที่เป็นตอนนี้น่าอายมาก ฉันร้อนซ่านไปทั้งหน้า แต่ความเสียวกลับยิ่งแปลบปลาบมากมาย เมื่อพี่กายคลึงหน้าคลึงปาก ตะโบมบดลากสลับดูดดุนไปทั้งช่อดอกไม้สาว
“พี่กาย...”
ฉันเหมือนใจจะขาด ก้อนเนื้อในอกกระแทกแรงจนลั่นในรูหู สองมือขยุ้มทึ้งผ้าปูที่นอนจนคิดว่าอาจทำมันขาดได้นาทีใดนาทีหนึ่ง รับรู้ถึงซอกสาวหลั่งล้นน้ำอุ่นออกมาไม่ขาดสาย จนเกิดเสียงเปียกแฉะเจ๊าะแจ๊ะทุกการตะโบมเลีย กระทั่งถึงจุดหนึ่ง บั้นท้ายบีบเกร็ง ท่อนขาจิกเกร็ง ช่องท้องหดตัวบีบรัดแรง แล้วบางสิ่งบางอย่างก็ระเบิดออก ร่างทั้งร่างเกร็งกระตุก ทะลักน้ำอุ่นออกมาจนชุ่มโชกซอกขา พี่กายปาดลิ้นเลียกินมันอยู่พักหนึ่งเขาถึงวางร่างกายที่อ่อนระทวยของฉันลงบนที่นอน ได้ยินเสียงเสื้อผ้าถูกปลด ก่อนกายอุ่นอ้าวจะแนบลงหา ปากฉันถูกเขาขยี้จูบดูดดื่ม ความร้อนและแข็งกร้าวของร่างกายเขาเริ่มดุนดันที่กลางซอกขา ทำฉันขนอ่อนลุกเกรียวขึ้นมา เบี่ยงหน้าหนีปากร้อนแต่ไม่พ้น
“อื้อ...”
พี่กายยังขยี้จูบดูดวิญญาณไม่หยุด ที่บอกดูดวิญญาณเพราะลิ้นฉันถูกปากเขารูดตั้งแต่โคนลิ้นจนถึงปลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล่อลวงให้ฉันอยากเอาคืน ดูดรูดเขากลับไปบ้างนั่นแหละ เขาถึงยอมล่าถอย หากสัดส่วนแข็งกร้าวไม่ยอมหยุดดุดัน ทั้งมันยังค่อยกดลึก คลี่ขยายร่างกายคับแคบของฉันจนรู้สึกได้
“พะ พี่...”
“คืนนี้ ฉันจะทำให้เธอครางลั่นทั้งคืน”
สุ้มเสียงต่ำพร่าบอกชิดริมฝีปาก ขยี้จูบกันอย่างไม่รู้เบื่อไม่รู้พอ เอวสอบเกร็งผลักดันแกนกายเข้ามาในตัวฉันจนคลี่ขยาย ปริเป่งและเจ็บร้าว เขาอวบใหญ่และยาวชวนผวา
ฉันแทบกระชากผ้าผูกตาออก