ทว่า...การกระทั้นแรงจากกายแกร่งทำฉันกรีดเสียงซะก่อน ร่างกายเกร็งค้าง แสบแปลบและเจ็บสะท้านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำตาถึงกับไหลซึมหางตา
เสียงพี่กายสบถบางอย่างที่ฉันฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ดีตรงเขาไม่ขยับตัวอีก ไม่ได้ถามอะไร เพียงแค่ปลดผ้าผูกตาฉันออก เริ่มจูบซับจากหางตาลงมาถึงปาก มือใหญ่ไล้ลูบไปทั่วหลังไหล่ สัมผัสครั้งนี้ดูจะอ่อนโยนและอบอุ่นจนใจฉันอุ่นขึ้นมาด้วย
เขาจูบอ้อยอิ่ง หยอกเย้าจนที่สุดฉันเริ่มจูบตอบ สอดลิ้นเข้าพันพัวจนเปียกชื้นไปหมด สองมือใหญ่กอบกุมสองเต้า บีบเคล้าคลึงเคล้น คลึงเม็ดสีหวานจนกระแสซาบซ่านพล่านไปทั่วร่างกายฉันอีกครั้ง พี่กายถึงค่อย ๆ ขยับผลักดันเอวแผ่วเบา ความแข็งกร้าวกดดุนจุดอ่อนไหวภายใน ทำให้ฉันหลั่งไหลน้ำหล่อลื่นออกมาตามการขยับสอดสาวสั้น ๆ และเริ่มลากยาวมากขึ้นทุกจังหวะ
“เธอฟิตมาก”
ฉันเหมือนจะปริแตก แปลบปลาบซ่านกระสันขึ้นทุกจังหวะเมื่อความใหญ่โตแทรกประสานฝ่าความแน่นหนึบเข้าออก อารมณ์รุ่มร้อนยิ่งทะยานพุ่ง ไม่รู้ตอนไหนที่ลำขาเกี่ยวรัดสะโพกแกร่ง ไม่รู้ตอนไหนที่สะโพกหยัดลอยร่อนสะบัดรับการตอกตรึงร้อนแรง
“พี่...พี่กาย ซี้ด...”
เสียงครางระงมงึมงำดังลั่นระงมเตียง ก่อนจะหวีดสะท้านพอ ๆ กับเนื้อตัวที่สั่นสะบัดระริกยามทะยานถึงจุดสุดท้ายทางอารมณ์
“โคตรดีเลยนาเนียร์” หน้าคมสันเข้มข้น แววตาลึกล้ำร้อนแรงขณะหยุดนิ่งให้ฉันได้ผ่อนคลายการเครียดเกร็ง เห็นแล้วอดใจไหวไม่ได้ ปากไม่รักดีส่งเสียงออกไป
“ระ เราไม่เป็นไร พี่ต่อได้เลย” เพราะรู้เขายังไม่เสร็จ
“น่ารักจริง”
พี่กายมอบจูบดูดดื่มให้ เริ่มโยกเอวอีกครั้ง จังหวะเร่าร้อน เขาทำให้ฉันลอยล่อง ทะยานลิบสู่จุดสูงสุดไปอีกสองครั้งติด ก่อนที่กายใหญ่จะหมดความอดทนอดกลั้น ทะลักทลายอย่างรุนแรง...
ครืด… ครืด...
เสียงเตือนจากสมาร์ตโฟนปลุกฉันให้ตื่น กระบอกตาแสบจนน้ำตาไหล ยังดีว่าภายในห้องนั้นมืดสลัว ควานมือหาสมาร์ตโฟนไม่ทันเจอ มือก็ถูกดึงกลับมากดกับหน้าท้อง จากมือที่ใหญ่กว่าและลำแขนกำยำแข็งแรงที่โอบกอดมาจากทางด้านหลัง
“อื้อ” ฉันครางประท้วง รู้ทันทีว่าเจ้าของอ้อมกอดคือใคร ร่างกายที่เมื่อยขบก็เป็นสิ่งยืนยันอย่างดีว่านี่ไม่ใช่ความฝัน เมื่อคืนฉันกับพี่กายทำอย่างนั้นกันแทบทั้งคืน
“นอนต่อเถอะ”
“มีคนโทรมา กี่โมงแล้ว”
“เกือบบ่าย”
คำตอบเรียบเรื่อยทำเอาฉันแทบทะลึ่งพรวด ติดที่ถูกกอดรัดแน่น
“เราโดดเรียนคาบเช้าไปแล้ว”
“ขาดวันเดียว”
ฉันค้อนฝ่าความมืดสลัวนี่แหละ หยิกหลังมือใหญ่ไปทีหนึ่ง
คนตัวใหญ่ยอมหยัดกายขึ้นนั่ง ก่อนห้องจะสว่างโร่หลังผ้าม่านเลื่อนเปิดด้วยการควบคุมผ่านรีโมตในมือหนา เขากดเปิดม่านออกสองด้านเสร็จโยนมันไปทาง แล้วหยิบสมาร์ตโฟนที่ยังส่งเสียงร้องไม่หยุดมาให้
คนที่โทรมาคือชมพู ฉันรีบกดรับ เพราะเห็นจำนวนสายที่เพื่อนโทรมาหลายครั้ง กำลังจะกรอกเสียงไป ปลายสายส่งเสียงมาก่อน และอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ รวบตัวฉันไปกอด กดจมูกลงระรานบ่าเปลือยทันทีเช่นกัน
“มึงมาเรียนปะวันนี้”
“เปล่า” ตอบเพื่อนพลางหันไปถลึงตาปรามอีกคน
เขามีหรือจะสน ซุกปากเข้าเลียลากลำคอ เลื่อนมือที่กอดเอวขึ้นมาบีบคลึงอกฉันเล่นไปด้วยอีกต่างหาก ทำให้เผลอหลุดเสียงออกมา
“ฮื้อ...”
“มึงทำไรอยู่อะนาเนียร์ แล้วนี่อยู่ไหน เมื่อคืนกลับไปกับพี่กายเหรอ”
“อื้อ กะ กูอยู่ห้องไง มึงมีไร”
“ว่าจะชวนมากินข้าวเที่ยงกัน ถ้ามึงไม่ได้มาก็แค่นี้ล่ะ”
“อะ อืม”
ฉันรีบกดตัดสายเพื่อน พี่กายเริ่มจะรุกเร้าจนเสียวซ่าน แต่เพราะไม่อยากให้เขาได้ใจมากเกินไปจึงเบือนหน้าออกห่าง
“พอแล้ว เราจะกลับแล้ว เดี๋ยวโอนตังค์ให้ บอกเลขบัญชีพี่มา”
“กลับไหว” เขากลับถามไปอีกเรื่อง ฉันยู่หน้าใส่ จำได้ว่าเคยบันทึกบัญชีอู่เขาไว้จึงกดโอนไปเลขนั้น เสร็จนั้นโชว์หน้าจอให้เขาดู ยอดเงินห้าล้าน
คิ้วเข้มขมวด หน้าหล่อตึงขึ้นบอกความไม่ชอบใจ ฉันผลักอกเขาออก หันหลังทำท่าจะลงจากเตียง
นั่นเพราะ การที่ฉันยอมมีอะไรกับเขา มันทำให้วันนี้ความรู้สึกวูบไหวแปลก ๆ เพียงแค่มองหน้าพี่กาย
“อ๊ะ พี่”
ความคิดจะลงจากเตียงถูกหยุดชะงักไว้ เนื้อตัวถูกกดลงคว่ำลงบนเตียง คนด้านหลังตามมา ก้มลงจูบลูบไล้ลิ้นไปบนท้ายทอย
“ดูเหมือนคุณหนูไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่”
“พี่กาย พอแล้ว”
“พี่ไม่อยากพอ”
“คนเอา อื้อ!” ฉันจะด่าว่าเขาเอาแต่ใจแต่ถูกปิดปากซะก่อน ผ้าห่มถูกเหวี่ยงออกไปทางปลายเตียง เนื้อตัวที่ไร้เสื้อผ้าของฉันเย็นวาบ ก่อนจะถูกมือใหญ่วางลงลูบไล้ ตั้งแต่แผ่นหลัง บั้นเอวถึงสะโพกกลมงอน มันถูกบีบขยำหนัก ๆ ก่อนจะถูกตีไปสองครั้ง ไม่แรงถึงขั้นเจ็บปวดหรอก แต่เหมือนจะปลุกอารมณ์อีกชนิด พี่กายยังกระตุ้นอารมณ์ที่ว่าด้วยการแทรกมือเข้ามากลางซอกขา กดปลายนิ้วสอดซุกสู่ช่องทางหนึบหน่วง กดนิ้วโป้งลงบดคลึงตูมเนื้อเหนือร่องเล็ก
“อื้อ...” ความเสียวปลาบวาบขึ้นจนฉันกระตุก ถูกเขางอนิ้วเกี่ยวลากไม่กี่ครั้ง ช่องทางคับแคบนั้นเริ่มเปียกลื่น
“จ่ายมาขนาดนี้ ต้องดูแลดี ๆ ถูกต้องไหมครับคุณหนู”