ฉันหันไปมองเขาเต็มตา จำได้ทันทีว่าเขาชื่อสอง ผู้ชายที่เข้ามาทักทายพวกพี่ศิลป์เมื่อคืน
คณะที่ฉันเรียนอยู่ใกล้กับคณะวิศวะ ต้องใช้ประตูออกร่วมกัน แปลกที่เราไม่เคยเจอกัน พอได้เจอกลับเจอติด ๆ กันเลย
“ยางแบนสองล้อเลยพี่”
“แล้วยังไง เรียกช่างหรือยัง”
“เรากำลังจะเรียกค่ะ”
“งั้นพี่เรียกให้ดีไหม อู่เพื่อนพี่อยู่ไม่ไกลนี่เอง” พี่สองบุ้ยหน้าไปทางรถอีกคันที่จอดอยู่ เพื่อนเขาอีกคนโผล่หน้ามาโบกมือให้
“หรือไม่ไว้ใจพี่”
“ไม่เป็นไรค่ะ เรารบกวนพี่หน่อยแล้วกัน”
“ด้วยความยินดีเลย รถเราแต่งจัดเต็มขนาดนี้เข้าอู่เพื่อนพี่เหมาะสุดแล้ว”
พี่สองก้มหน้ากดบางอย่างในมือถือ แป๊บหนึ่งเงยหน้ามาบอก
“อีกเดี๋ยวรถยกจะมา เราไปรอที่อู่เลย”
“ค่ะ รบกวนหน่อยนะคะ”
กับคนที่ให้ความช่วยเหลือ ฉันไม่ทำหยิ่งจนตัวเองลำบากเกินไปหรอก อีกอย่างพี่สองกับเพื่อนไม่ได้มีท่าทางกะล่อนใส่ฉันแต่อย่างใด
หลังจากที่เขาพยักหน้าให้เดินตามไปที่รถ ฉันพบว่าในรถมีเพื่อนเขาที่ชื่อธีมอยู่คนเดียว เมื่อคืนเห็นมีสามคน นึกแปลกใจนิดหน่อยอีกคนหายไปไหนแต่ไม่ได้ถามออกไป
คนหน้าตาเย็นชาคนนั้น...
“นี่ไอ้ธีมเพื่อนพี่”
“หวัดดีค่ะ นาเนียร์ค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับ น้องขับรถร้ายมากเมื่อคืน”
นั่นคงเป็นคำชม ฉันเห็นแววชื่นชมในตาของพี่ธีมเลยเอ่ยขอบคุณเขาออกไป
“นาน ๆ จะเจอผู้หญิงขับรถเก่งขนาดนี้ วันไหนว่าง ไปแข่งกันเล่น ๆ ไหม” พี่สองถามหลังจากเขาขับรถออกจากบริเวณมหาวิทยาลัยแล้ว
“พวกพี่ขับรถกันดุมาก เราคงสู้ไม่ไหวหรอกค่ะ แต่ถ้ามีโอกาสก็น่าสนุกอยู่เหมือนกัน ได้แข่งกับคนเก่ง ๆ”
แบ่งรับแบ่งสู้ นึกถึงตอนพวกเขาลงแข่ง ฉันได้ดูด้วยเหมือนกัน แต่ละคนอย่างจัด อ้อ เพื่อนเขาคนหน้าตายคนนั้นไม่ได้ลงด้วย ไม่รู้ขับเก่งแค่ไหน
พี่สองชวนคุยเรื่องรถเรื่องแข่งอีกหลายคำก่อนจะพาฉันมาถึงอู่ขนาดใหญ่ ใกล้กับอู่เป็นศูนย์รถยนต์สปอร์ตหรูด้วย
“อู่ไอ้กายเองแหละ โชว์รูมนั่นก็ของบ้านมัน หรือถ้าอยากแต่งรถก็มาอู่มันได้นะ อ้อ นาเนียร์นั่งตากแอร์เย็น ๆ รอให้ห้องก่อน พี่ไปดูไอ้เจ้าของอู่หน่อย จะได้บอกมันดูรถให้เธอด้วย”
“ขอบคุณค่ะพี่”
พี่สองพาฉันขึ้นมาที่ห้องรับรองลูกค้าตรงชั้นสอง ภายในเปิดแอร์ไว้เย็นฉ่ำ ก่อนเขาจะออกไปสมทบกับพี่ธีม เดินหายออกไปด้านไหน ฉันไม่ทันมอง ครู่ต่อมา รถตัวเองถูกพาเข้ามาในอู่ พอมองลงไปชั้นหนึ่งเห็นพวกเขาสามคนเข้าไปดูรถให้ทันที นั่นทำให้ฉันวางใจขึ้น อีกไม่นานเปลี่ยนยางเสร็จจะได้กลับบ้าน
ตอนนี้เองที่มีข้อความมาจากชมพู รายนั้นส่งลิงก์อะไรสักอย่างมาให้ กดเข้าไปดูจึงพบว่ามันเป็นเพจ ๆ หนึ่งชื่อว่า A.Angel
ชมพูเคยเล่าให้ฟังว่าเพจนี้มักจะลงรูปสาวสวยที่เรียนมหา’ลัยเอ ฉันเองก็เคยเข้าไปดูอยู่เหมือนกัน
รูปในเพจสวยจริง ๆ และโพสต์นี้เป็นการลงรูปของฉัน พร้อมบอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวคร่าว ๆ ไม่กี่บรรทัด
นางฟ้าหน้าสวยหุ่นแซ่บ ลลินา ภาณฤทธาดลย์ นามสกุลคุ้นไหมทุ้กคน หุ่นดี ดีกรีหลานสาวเจ้าสัวรวยล้นฟ้า... ตอนนี้เป็นน้องใหม่ของคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มีหนุ่มคนไหนอยากเป็นเขยหมื่นล้านมั่ง ยกมือขึ้น....
ฉันไม่รู้ว่าถูกถ่ายรูปไปตอนไหน ใต้โพสต์นั้น คอมเมนต์เด้งรัว ๆ ทั้งพวกที่ชมเรื่องรูปร่างหน้าตาของฉัน คอมเมนต์แซว บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของฉัน และคอมเมนต์แซะต่าง ๆ นานา ฉันดูนิดหน่อยก่อนกดปิดมือถือ ไม่ได้ใส่ใจอีก
ช่วงจังหวะนี้เองที่ฝนกระหน่ำลงมา ฟ้าลั่นครืน ๆ มีสายฟ้าแปลบปลาบจนต้องเปลี่ยนสายตาจากสายฝนไปมองรถ พี่สองกับพี่ธีมหายไปไหนแล้วไม่รู้เหลือแค่ช่างใหญ่ที่กำลังยืนคุมลูกน้องเปลี่ยนยางใหม่ ร่างสูงสง่าภายใต้เสื้อกล้ามสีมอซอกลับส่งเสริมให้เขายิ่งโดดเด่น กล้ามแขนดูแน่นน่าสัมผัส เนื้อตัวเขาไม่มีส่วนไหนเป็นไขมันส่วนเกิน ฉันอดจินตนาการอย่างอยากรู้ ถ้าได้ลูบได้แตะมันจะแน่นสักแค่ไหน มองไปมองมาก็กลายเป็นมองเพลินจนความง่วงงุนเข้าเล่นงาน ทำให้ฉันเผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้
ตื่นอีกทีเพราะถูกพี่สองเขย่าปลุก
“รถเราเสร็จแล้วเหรอคะพี่”
“อืม เสร็จแล้ว พอดีเห็นว่าช่วงล่างมันมีปัญหานิดหน่อย ไอ้กายมันเลยช่วยดูให้ด้วย ตอนนี้รับรถกลับได้แล้ว”
“เท่าไหร่คะพี่”
“มันบอกไม่คิดเงินนะ ไม่ได้ทำไรมาก”
“เปลี่ยนยางไปสองเส้นเลยนะ จะบอกว่าไม่ทำไรมากได้ไง ตอนนี้เพื่อนพี่ไปไหนแล้ว”
ฉันลงจากชั้นสองพร้อมพี่สอง ถึงรถก็ไม่เจอเจ้าของหน้าตาเย็นชาเจ้าของอู่ ได้แต่นึกเสียดายในใจที่ไม่ได้ทำความรู้จักเขาสักที
“มันติดลูกค้าครับ ถ้าไงนาเนียร์ค่อยถามมันอีกทีวันหลังได้”
พี่สองไม่ได้โกหก เขาบุ้ยหน้าไปทางหนึ่ง ตรงนั้นเป็นห้องกระจกใส มันทำให้ฉันเห็นได้ว่า ภายในมีรถยนต์สปอร์ตหรูจอดอยู่และเจ้าของอู่กำลังคุยกับผู้ชายวัยทำงานคนหนึ่ง พวกเขาคุยแล้วก็ชี้ไปที่รถคันนั้น
“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเราโอนเงินจ่ายเลยแล้วกัน”
“พี่ว่า...”