“ก่อนวันแต่ง💍”

1484 Words
คาริสายังคงยืนกอดเดย์ ร้องไห้อยู่นาน น้ำเสียงสะอื้นสั่นเบาจนแทบขาดใจ จนกระทั่ง… เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นจากทางเดินก่อนจะหยุดลงตรงหน้าประตู “คาริสา… เป็นอะไร!” เสียงเข้มของคิริวเอ่ยถามอย่างตกใจ คาริสาที่เหมือนจะเริ่มสงบลงไปแล้ว พอได้ยินเสียงของพี่ชาย น้ำตาที่เพิ่งหยุดก็พรั่งพรูออกมาอีกครั้ง เธอผละจากอ้อมแขนของเดย์ก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดคิริวแน่น “ฮึก… เฮีย…” เสียงของเธอสั่นเครือ “แม่… แม่บังคับให้ริสาแต่งงานอ่ะ” คิริวขมวดคิ้วแน่น มือใหญ่โอบกอดน้องสาวไว้แน่น พลางเอ่ยเสียงต่ำ “ก่อนหน้านี้แม่ก็เคยบังคับเหมือนกันนี่… แล้วทำไมครั้งนี้ถึงร้องไห้ขนาดนี้?” คาริสาส่ายหน้า น้ำตาไหลอาบแก้ม “แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน…” “ยังไง?” หญิงสาวสะอื้นจนเสียงขาดห้วง ก่อนจะพูดออกมาทั้งน้ำตา “ครั้งนี้… แม่บอกว่า ถ้าริสาไม่แต่ง… แม่จะให้ริสาเลิกเรียกเขาว่าแม่…” คิริวชะงัก ดวงตาเข้มที่เคยนิ่งแข็งเริ่มสั่นไหว เขากอดน้องสาวแน่นขึ้นโดยไม่พูดอะไรอีก เดย์ยืนนิ่งอยู่ห่าง ๆ มองภาพนั้นเงียบ ๆ ใบหน้าคมเข้มไม่แสดงอารมณ์ แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความสงสาร และบางอย่างที่เกือบจะกลายเป็น “ความโกรธแทน” “เฮีย…” เสียงของคาริสาสั่นจนแทบฟังไม่เป็นคำ “ริสาไม่อยากแต่ง… เฮียช่วยพูดกับแม่ให้หน่อยนะ” น้ำตาเริ่มไหลไม่หยุด มือบางกำชายเสื้อของคิริวแน่นเหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายจะหายไป “หรือไม่ก็…” เธอสะอื้นเบา ๆ “พาริสาหนีไปอยู่ที่อื่นก็ได้ ริสาไม่อยากแต่งจริง ๆ … จะให้แต่งกับใครก็ไม่รู้…” คาริสาเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงช้ำเต็มไปด้วยความน้ำตา “เฮียคิริวก็น่าจะรู้ใช่ไหม… ว่าการแต่งกับคนที่ไม่ได้รัก มันเป็นยังไง” คำพูดนั้นเหมือนกรีดลงกลางใจของคิริวโดยตรง ความทรงจำเก่าแล่นกลับมาในหัว ภาพของความว่างเปล่าที่ต้องทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่มีหัวใจ เขามองหน้าน้องสาวนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบศีรษะเธอเบา ๆ “เฮียรู้…” น้ำเสียงทุ้มของเขาแผ่วลง “เฮียรู้ดีเลย ว่ามันทรมานแค่ไหน…” คาริสากัดริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นสะอื้น แต่สุดท้ายก็โผเข้ากอดเขาแน่นอีกครั้ง “งั้น… อย่าให้ริสาต้องเจอแบบนั้นเลยนะเฮีย… ริสาทนไม่ไหวจริง ๆ” คิริวโอบกอดน้องสาวไว้แน่นขึ้น เขาไม่ตอบ แต่แววตาที่มองเลยไหล่ของคาริสาไปยังเดย์นั้น… เต็มไปด้วยคำสัญญาเงียบ ๆ ว่า เขาจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีก —— ก่อนงานแต่งหนึ่งวัน… ภายในห้องนอนหรูของคฤหาสน์ อากาศขมุกขมัวคล้ายบรรยากาศก่อนฝนตก เสียงรูดซิปกระเป๋าดังเป็นระยะ ขณะที่คาริสากำลังรีบพับเสื้อผ้าแล้วยัดลงกระเป๋าใบใหญ่ตรงหน้า “พี่ริสา…” เสียงใสของอัญชันดังขึ้นจากมุมห้อง “อัญชันว่าพี่ขนเสื้อผ้าไปเยอะไปไหมคะ?” คาริสาเงยหน้าขึ้นมองอัญชันแล้วส่ายหน้าเบา ๆ “พี่ว่าไม่นะ… นี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ” “แบบนี้เรียกน้อยเหรอคะ?” อัญชันถามอย่างตกใจเมื่อเห็นกระเป๋าใบใหญ่ที่แทบปิดไม่ลง คาริสาหัวเราะในลำคอเบา ๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความกังวล “น้อยสิ… ที่พี่เก็บไปยังไม่ถึงครึ่งเลยนะ” เธอหยุดมือไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดเสียงแผ่วลง “อีกอย่าง… พี่ก็ไม่รู้ว่าพอหนีไปอยู่ลำปางจะต้องอยู่นานแค่ไหน ถ้าอยู่เกินที่คิดไว้ พี่ก็ต้องเตรียมไปเยอะ ๆ ไว้ก่อนน่ะสิ” อัญชันมองใบหน้าคาริสาเงียบ ๆ เห็นทั้งความมุ่งมั่นและความกลัวซ่อนอยู่ในสายตาคู่นั้น เธอจึงค่อย ๆ เดินเข้ามาช่วยพับเสื้อผ้าโดยไม่พูดอะไรอีก หลังจากเก็บของทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ห้องที่เคยเต็มไปด้วยกลิ่นน้ำหอมและเสียงหัวเราะกลับเหลือเพียงความเงียบงัน คาริสาทรุดตัวนั่งลงที่ปลายเตียง สายตาจับจ้องไปยังชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ที่แขวนอยู่ตรงหน้า ผ้าซาตินเนียนสะท้อนแสงไฟอ่อน ๆ จนเกือบแสบตา เธอมองมันอยู่นาน… ก่อนจะยกยิ้มจาง ๆ ที่แฝงไปด้วยความเจ็บ “ฉันก็อยากใส่แกนะ…” เสียงแผ่วราวกระซิบ “แต่ฉันอยากใส่กับคนที่ฉันอยากแต่งด้วย… ไม่ใช่คนที่ใครเลือกมาให้” คำพูดจบลงพร้อมกับรอยน้ำตาที่ร่วงลงบนมือของเธออย่างเงียบงัน ในแสงไฟสลัว ชุดแต่งงานสีขาวกลับดูเหมือน “โซ่ล่าม” มากกว่าจะเป็น “ความฝันของผู้หญิงคนหนึ่ง” ไม่นาน เสียงเปิดประตูดังขึ้นตามด้วยเสียงของอัญชันที่รีบเอ่ยขึ้น “พี่ริสา ไปกันเถอะค่ะ ตอนนี้ทางสะดวก คุณแม่ยังอยู่ที่งาน” คาริสาหันมาพยักหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลแต่ก็เด็ดเดี่ยว “อืม… ไปสิ” เธอคว้ากระเป๋าเดินทางใบใหญ่และของใช้จำเป็น รีบลากออกมาจนถึงหน้าประตูบานใหญ่ของคฤหาสน์ ลมกลางคืนพัดแรงจนผมเธอปลิวตามแรงก้าว ทันทีที่ออกมา เธอก็เห็นรถคันหรูจอดรออยู่แล้ว “ทำไมลงมาช้าขนาดนี้ เดี๋ยวแม่ก็กลับมาพอดี!” เสียงคิริวดังขึ้นจากข้างรถด้วยน้ำเสียงกึ่งตำหนิ คาริสาหอบเบา ๆ “ก็กระเป๋ามันหนักนี่นา… แล้วทำไมเฮียไม่ไปช่วยละ?” ชายหนุ่มหันขวับมา “พูดมาก!” ก่อนจะตะโกนเรียกเสียงดัง “ไอเดย์! มาช่วยกูขนของขึ้นรถหน่อย!” เดย์ที่ยืนรออยู่ข้างรถรีบเดินมาช่วยโดยไม่พูดอะไร ใบหน้าเคร่งขรึมแต่สายตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “เฮีย…” คาริสาเอ่ยเสียงเบา “ถ้าแม่รู้เข้า… จะไม่เป็นอะไรเหรอ?” คิริวหันมามองน้องสาวตรง ๆ แววตาแน่วแน่ “ทำไม… หรือเริ่มใจเสาะแล้ว?” คาริสาก้มหน้า “ก็เปล่า…” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย คิริวสูดหายใจลึก ก่อนจะพูดเสียงเรียบแต่ชัดเจน “ไม่ต้องห่วงทางนี้ ทางนี้เฮียจัดการเอง” เขาหันไปมองเธอตรง ๆ “ริสา… ไปอยู่ในที่ที่ริสาสบายใจเถอะ” คาริสาเงยหน้ามองพี่ชาย ดวงตาเริ่มคลออีกครั้ง “เฮีย…” คิริวเดินเข้ามา ยกมือวางบนศีรษะของเธอเบา ๆ “อย่าร้องตอนนี้เลย เดี๋ยวตาแดงหมด รีบไปก่อนที่แม่จะกลับมา” เธอกัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ แล้วหันไปมองเดย์ที่เปิดประตูรถรออยู่ เดย์สบตาเธอเงียบ ๆ แต่แววตานั้นเต็มไปด้วยคำเดียว เชื่อใจฉัน คาริสาขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังรถ ก่อนที่เดย์จะปิดประตูให้เบา ๆ หญิงสาวเลื่อนกระจกลงเล็กน้อย เห็นอัญชันรีบเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าเป็นห่วง “พี่ริสา อยู่บ้านที่ลำปางได้ตามสบายเลยนะคะ” อัญชันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “อยากอยู่นานแค่ไหนก็ได้ ขอให้สวนของอัญชัน… ทำให้พี่ริสาสดใส ร่าเริงอีกครั้ง ทำให้พี่ลืมเรื่องงานแต่งนั่นไปเลยนะคะ” คาริสายิ้มบาง ๆ “อืม… ขอบใจนะอัญชัน” ยังไม่ทันที่บรรยากาศจะซึ้งไปกว่านี้ เสียงของคิริวก็ดังขึ้นจากอีกฝั่งอย่างเข้มแต่แฝงความเอ็นดู “ดูแลตัวเองดี ๆ แล้วก็อย่าไปทำสวนของอัญชันพังละ ที่ยอมให้ไปอยู่ ไม่ได้ให้ไปอยู่ฟรี ๆ ช่วยคนอื่นเขาทำงานด้วยล่ะ” คาริสาหัวเราะเบา ๆ ทั้งน้ำตาที่คลอ “รู้แล้วน้า เฮีย~” คิริวไม่ได้ตอบน้องสาว แต่หันไปมองเดย์แทน ดวงตาคมนิ่งแต่หนักแน่น “ขับรถดี ๆ ละมึง… กูฝากน้องกูด้วย” เดย์พยักหน้าช้า ๆ “อืม” คาริสาหันขวับมามอง “นี่เฮียให้เฮียเดย์ไปกับริสาด้วยเหรอ?” คิริวเลิกคิ้ว “ทำไม? หรืออยากให้คนอื่นไปแทน?” “มะ…ไม่ ๆ!” เธอส่ายหน้าเร็ว “แค่ถามเฉย ๆ” คิริวยกมุมปากขึ้นนิด ๆ ก่อนจะตบบ่ารถเบา ๆ “ไปได้แล้ว ก่อนที่แม่จะกลับมาเจอ” คาริสามองพี่ชายกับอัญชันครั้งสุดท้าย ก่อนที่กระจกจะเลื่อนขึ้นช้า ๆ เดย์หันไปสบตาคิริวอีกครั้ง ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไร แต่ต่างคนต่างเข้าใจในความหมายเดียวกัน เขาจะปกป้องเธอ… เหมือนที่พี่ชายเคยทำเสมอมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD