วันประจันหน้า
ชินนักศึกษาปีสามคณะเกษตรศาสตร์ เอกสัตว์บาล ยืนเชียร์รุ่นพี่ที่คณะมาต่อยมวยอย่างดุเดือด ซึ่งในค่ำคืนนี้มาคนเดียวเพราะเป็นรุ่นพี่ที่แอบชอบ ยิ่งเห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าท่อนบนใจแท่บละลายในทันใด แต่เก็บอาการไว้อย่างมิดชิดไม่ให้ใครได้เห็น แม้กระทั่งรุ่นพี่ถึงแม้จะมองมาบางครั้ง ชินแสร้งทำหน้านิ่งๆไม่สนใจแต่อย่างใด
เมื่อผลการแข่งขันเสร็จสิ้นปรากฏว่าอาร์ตเป็นฝ่ายชนะ แค่นี้ชินอิ่มเอมใจอย่างหนักไม่ต้องการสิ่งใดมากกว่านี้ ในขณะกำลังจะเดินกลับห้องพักรุ่นพี่หน้าตาคมเข้มได้เข้ามาหา
“วันนี้น้องชินมาเชียร์พี่ด้วยเหรอเนี่ย”อาร์ตยืนยิ้มพร้อมเอื่อมมือมาหยิกแก้มน้อยๆอย่างเอ็นดู
“พอดีวันนี้ว่างผ่านมาทางนี้เลยมาครับ”ชินยิ้มอย่างเอียงอาย
“ขอบใจชินมากนะที่มาเชียร์พี่ วันหลังค่อยเจอกันที่มหาวิทยาลัย”
“ครับ”
ชินรับคำและมองรุ่นพี่เดินจากไปยังห้องเก็บตัวอย่างมีความสุข หลังจากนั้นได้เดินออกไปยังสนามมวยซึ่งอยู่ลึกพอสมควรจากถนนใหญ่ ในระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆจูจูได้มีชายหนุ่มห้าถึงหกคนมาล้อมหน้าล้อมหลัง
“พี่เป็นใครกัน”ชินหน้าตื่นมองไปรอบๆตัวซึ่งแต่ละคนหน้าตาดีๆทั้งนั้น
“จะเป็นใครก็ช่างอย่ารู้เลย แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ใครมายุ่งกับอาร์ตมันต้องเจ็บตัวทุกราย”ชายหนุ่มหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นพร้อมเดินเข้ามาใกล้ๆชินพร้อมกับบีบปาก
“ปล่อยนะ”ชินจับมือของชายหนุ่มผู้นั้นออก แต่ไม่เป็นผลเพราะคนที่เหลือต่างเข้ามาประชิดตัวจับแขนไว้แน่น
“นี่คือการสั่งสอน”ชายหนุ่มคนเดิมปล่อยมือออกจากปาก พร้อมกับฟาดมือไปที่ใบหน้าของชินอย่างแรง
“เพลี้ยะ”
“พี่มาตบผมทำไม ชินเจ็บนะ เราไม่รู้จักกันด้วยมาทำร้ายร่างกายแบบนี้ไม่ถูกต้อง”ชินตกใจทำอะไรไม่ถูกได้แต่ดิ้นให้หลุดพ้น
“ไม่ต้องดิ้นหนีไม่พ้นหรอก”
“เพลี้ยะ”
“พี่อย่าทำอะไรผมเลยผมเจ็บ ผมกลัวผมยอมแล้วครับ”ชินรู้สึกหน้าชาพร้อมกับมีเลือดไหลซิบๆออกมายังริมฝีปาก
“นี่ยังน้อยไปสำหรับการมาอ่อยอาร์ตของกู”ชายหนุ่มผู้นั้นดึงกระชากผมพร้อมกับเหวี่ยงร่างให้ล้มลงกับพื้นดิน
ร่างกายของชินล่วงหล่นกองกับพื้นอย่างรวดเร็วและไม่ทันได้ตั้งตัว ในช่วงเวลานั้นนั่นเองชินรีบลุกขึ้นแต่ไม่ทัน ชายหนุ่มคนเดิมถีบชินจนกระเด็นนอนลงกับพื้นอีกครั้ง
“นี่แค่ตักเตือนถ้าเห็นหน้ามึงอีกครั้งระวังตัวไว้จะเจ็บหนักกว่านี้”ชายหนุ่มผู้นั้นพูดจบเตะต่อไม่ยั้งจนชินแท่บจะทนไม่ไหว
เหมือนโชคช่วยอาร์ตพึ่งออกมาจากสนามมวยกับเพื่อนร่วมค่ายเห็นเข้าพอดี จึงรีบลงจากรถบิ๊กไบค์เข้ามาช่วยอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเพื่อนๆในค่ายต่างลงมาพร้อมกัน
“เฮ้ย หยุดนะเว้ย”อาร์ตยืนนิ่งมองชายหนุ่มทั้งห้าคนที่คุ้นหน้าเป็นอย่างดี ก่อนที่นั่งลงมาประคองร่างของชินไว้
ชายหนุ่มกลุ่มนี้เห็นท่าไม่ดีต่างวิ่งหนีหายกันไปคนละทิศละทาง อาร์ตใช้มืออันหนาจับใบหน้าของรุ่นน้อง
“เป็นไงบ้างชิน”อาร์ตมีสีหน้าที่เป็นห่วง
“เจ็บมากเลยพี่อาร์ตเป็นครั้งแรกที่ชินโดนแบบนี้”ชินพยายามพยุงร่างลุกขึ้นนั่ง
“เดี๋ยวพี่จะพาไปหาหมอนะ”อาร์ตพยุงร่างชินให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับอุ้มไปยังรถบิ๊กไบค์ของตัวเองหลังจากนั้นพาไปหาหมอรักษาแผลกาย
เมื่อทำแผลทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ทีแรกอาร์ตจะพาชินไปแจ้งความแต่ได้รับการปฏิเสธ เพราะไม่อยากเป็นข่าวให้อื้อฉาว อาร์ตจึงได้แต่ทำตามอย่างไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย จนกระทั่งพามาถึงห้องของชิน
“น้องชินมัวแต่กลัวโน้นกลัวนี่พวกนั้นมันก็ได้ใจน่ะสิ พวกพี่มีตั้งเยอะจะเป็นพยานให้เอง”อาร์ตนั่งลงข้างชินที่ปากเจ๋อหน้าเต็มไปด้วยรอยซ้ำ
“ไม่เอาหรอกชินกลัว แก้แค้นกันไปกันมามันไม่ได้ไม่จบไม่สิ้นซะที ไม่ต้องแจ้งความนี่ดีแล้วแหละ”ชินพูดเสียงแผ่วเบา
“น้องชินก็เป็นแบบนี้ทุกทีตั้งแต่อนุบาลยันมัทธยมแล้วนะ โดนคนอื่นแกล้งตลอดเวลาเลย”สายตาของอาร์ตมองชินอย่างอ่อนโยน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ชินก็เป็นของชินแบบนี้แหละ”
“ตามใจน้องชินก็แล้วกันนะ ว่าแต่ห้องน้องชินนี่น่าอยู่มากเลย ตั้งแต่น้องชินมาเรียนที่นี่พี่ยังไม่ได้มาเที่ยวที่ห้องเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาและอาจจะได้มาครั้งต่อๆไปด้วย”อาร์ตมองไปรอบๆห้องที่ดูสะอาดสบายตา ซึ่งแตกต่างจากห้องของเขาที่รกรุงรังยังกับรังหนู แต่ไม่นานก็จะมีหลายๆคนมาช่วยทำความสะอาดให้ดูดีเรียบร้อย
“ขอบคุณพี่อาร์ตมากที่เข้าใจชิน”ชินอมยิ้มนิดๆอายหน่อยๆ
“พี่ก็แปลกใจทำไมไม่ได้มาหาน้องชินเลยจนพี่จะจบการศึกษาอยู่แล้ว”อาร์ตมีท่าทีครุ่นคิด
“พี่อาร์ตไม่ค่อยมีเวลาหรอก ชินเห็นไปกับคนโน้นคนนี้ตลอดเลย กว่าชินจะเจอพี่ก็อยากแสนเข็น เหมือนตอนเรียนมัธยมพี่อาร์ตก็ไม่ค่อยว่าง มีแต่คนห้อมล้อมเต็มไปหมดชินเข้าไม่ถึง”
“พูดประชดหรือเปล่าน้องชิน”
“เปล่าชินไม่ได้พูดอย่างนั้นซะหน่อย ชินแค่อธิบายให้ฟังพี่อาร์ตอย่าโกรธชินน่ะครับ”ชินเปลื่ยนสีหน้าเศร้าเล็กๆ
“ดูน้องชินทำหน้าเข้าให้นั่น พี่พูดเล่นใครจะไปโกรธน้องชินได้ล่ะ พี่เห็นน้องชินตั้งแต่ประถมแล้วนิ ไม่ใช่สิตั้งแต่อนุบาลมากกว่า ร้องไห้ขี้มูกโป่งขี้แยด้วย พี่ต้องตามดูแลตลอดเวลาเลย ตอนที่พี่อยู่อนุบาลสองต้องดูแลน้องชินที่อยู่อนุบาลหนึ่ง คิดอีกทีหน้าขำหนอตัวพี่ยังเอาตัวไม่รอดดันต้องดูแลน้องชินอีก”
“ตอนนั้นพี่อาร์ตรำคาญชินไหมครับ”ชินมองหน้าอาร์ตด้วยอยากทราบคำตอบ
“ไม่นะ ก็บ้านเราอยู่ใกล้กันนี่พ่อแม่เราก็สนิทกัน พี่ก็ต้องดูแลน้องชินเหมือนน้องคนหนึ่ง”อาร์ตใช้มือลูบที่ศีรษะของชินอย่างเอ็นดู
“ขอบคุณพี่อาร์ตมากนะที่ดูแลชินตลอดเวลา ตั้งแต่เด็กจนจะจบการศึกษาแล้ว ถ้าเกิดพี่อาร์ตเรียนจบชินคงจะเหงาอย่างแน่นอนเลยครับ”
“เอาน่า อย่าพูดเรื่องนี้เลยยังเจ็บปากอยู่ไม่ใช่เหรอ พักผ่อนดีกว่านะเดี๋ยววันหลังพี่จะมาเยื่อมใหม่ อ่อ อย่าไปเรียนล่ะหน้าตาเละขนาดนี้”อาร์ตหัวเราะออกมา
“ใครจะกล้าไปเรียนล่ะครับพี่อาร์ต ขืนไปคนคงมองทั้งมหาวิทยาลัยอย่างแน่นอน”
“ไม่ชอบเหรอจะได้เป็นคนดังในมหาวิทยาลัยไง”
“ดังแบบนี้ไม่เอาหรอกครับน่าอายมากเลย”
“เอาล่ะพี่ไม่รบกวนแล้วนะ พี่ไปก่อน แล้วดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะพี่ไม่สามารถที่จะดูแลน้องชินได้ตลอดหรอกนะ”
“ครับ”
ชินพยักหน้ารับคำและมองอาร์ตได้ออกจากห้องไปจนลับตา นี่เป็นครั้งแรกที่ชินได้ใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวอาร์ต เพราะตั้งแต่เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่6 อาร์ตได้มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้จึงทำให้ห่างเหินกันไป แต่ความคิดถึงยังไม่ได้จางหายจากแต่ก่อนเจอกันทุกวัน จนมาถึงวันที่ห่างกันจึงทำให้คิดถึงทุกวันเวลา ชินได้ตัดสินใจมาเรียนคณะเดียวกันกับอาร์ต เพื่อได้เจอหน้าและกลับมาคุ้นเคยอย่างที่เป็นมาก่อน แต่แล้วไม่ใช่อย่างที่คิดเพราะต่างคนต่างอยู่มีสังคม เป็นเหตุให้ห่างกันไปตามระยะเวลา
ต้อมยังคิดถึงวันที่จบการศึกษาได้ไม่มีวันลืม วันนั้นต้อมได้มาที่โรงเรียนซื้อดอกไม้ช่อใหญ่ให้อาร์ตเพื่อเป็นกำลังใจในวันจบการศึกษา
“ของพี่อาร์ตนะครับ”ชินยื่นดอกไม้ช่อใหญ่ให้พร้อมกับยิ้มอย่างยินดี
“ขอบใจน้องชินมาก แต่ไม่น่าลำบากเลย”อาร์ตพลิกช่อดอกไม้ดูอย่างมีความสุข
ในช่วงเวลาที่ทั้งสองกำลังคุยกันอย่างสนุกนั้น ได้มีเพื่อนกลุ่มใหญ่ของอาร์ตเดินเข้ามาหา พร้อมกับส่งเสียงแซวกันยกใหญ่
“น้องชินให้แต่พี่อาร์ตแล้วพี่ล่ะไม่เห็นได้อะไรเลย แบบนี้ลำเอียงนี่พี่น้อยใจมากเลยนะ”
“ใช่ พี่ก็อีกคน”
“ไอ้พวกนี้อย่ามาแซวน้องนะ ดูสิหน้าแดงหมดแล้ว”อาร์ตเอ่ยขึ้น
ด้วยความเขินอายชินจึงไม่พูดอะไร ยิ้มนิดหน่อยแล้วรีบวิ่งออกไปจากโรงเรียนในทันที เพราะไม่อยากเจอหน้าเพื่อนๆของอาร์ตไม่ใช่เหตุที่ไม่ชอบ แต่อายกลัวโดยแซวเลยเถิดไปมากกว่านี้