📚 ‧₊˚ ୨ ୧ ˚₊ ⟢⊹
🔆 บ่ายวันจันทร์
ห้องสมุดแน่นเพราะใกล้สอบโต๊ะมุมเดิมยังว่าง สายธารวางกระเป๋า เปิดโน้ตบุ๊ก เช็กลิสต์ใหม่
หัวข้อวันนี้คือ “รายงานขยายผล” อาจารย์สั่งเพิ่มบทวิเคราะห์ยาวขึ้น พร้อมแนบข้อมูล
วายุเดินมา เขาใส่เสื้อเชิ้ตปลดกระดุมเม็ดบน ไหล่ซ้ายยังพันแต่ดีขึ้น
เขาวางขวดน้ำบนโต๊ะ โค้งกวน ๆ “สวัสดีครับหัวหน้าทีม”
“วันนี้ต้องปิดบทวิเคราะห์ 1,200 คำ กับแนบกราฟเพิ่มหนึ่ง” เธอพูด
“รับทราบ” เขานั่ง เปิดโน้ตบุ๊ก
แต่ยังไม่ทันพิมพ์ก็เล่าเรื่องเรื่อย
“เมื่อเช้ากูเจอแมวส้มหน้าหอ มันตามฉันมาถึงลิฟต์ เหยียบเซนเซอร์ให้ประตูเปิดเหมือนบอดี้การ์ด”
สายธารพิมพ์ต่อ “อืม”
“แล้วร้านชานมหน้า ม. ปรับสูตร หวานน้อยจริง ฉันลองแล้ว รอด”
“จดงานก่อน เดดไลน์บ่ายสาม” เธอเตือน
“โอเค ๆ เริ่มแล้ว” เขายกมือรับ
เขาพิมพ์สามบรรทัดแล้วหยุด “เมื่อวานพี่ที่โรงกลึงสอนขันน็อตไม่ให้เสียเกลียว เสียงมันฟินมาก—”
สายธารวางปากกา “วายุ”
“ครับครู”
“งานก่อน เล่าทีหลัง”
“ได้ ๆ” เขาหัวเราะ แล้วก้มพิมพ์ต่อ
เงียบได้สองนาที เขาพูดอีก “เมื่อคืนฉันเจอเพลงใหม่ มือกีตาร์โคตรเทพ เล่นดรอป D เสียงอย่างสุด”
สายธารเงยหน้า “วายุ”
“ครับผม”
“มีอะไร”
“มีอะไรคือ?” เขายิ้มบาง ๆ
“ก็เล่าไม่หยุด นายมีปัญหาอะไร?”
เขานิ่งหนึ่งวินาที แล้วยิ้มกั้นไว้ “ไม่มี”
“แน่ใจ?”
“แน่ใจ เริ่มทำละ”
เธอไม่เชื่อ แต่ไม่ถามต่อ หันไปพิมพ์งาน เขาเขียนย่อหน้า เงียบสิบห้านาที ก่อนพูดอีก
“เมื่อเช้าฝ่ายวินัยส่งเมลเลื่อน จากพรุ่งนี้ไปสัปดาห์หน้า”
สายธารชะงัก “ทำไม”
“บอกว่าขอรวบรวมคำให้การเพิ่ม ฉันก็รอ” เขายักไหล่
“นายโอเคจริง?”
“ไม่โอเคก็ต้องโอเค” เขายิ้มแห้ง “เรื่องใหญ่แล้ว”
เธอมองตรง “งั้นพูดตรง ๆ ว่านายเครียด”
เขาหลบตา “เธออยากได้คำว่า ‘เครียดครับ’ เพื่ออะไร”
“เพื่อวางแผน ถ้านายต้องไปเคลียร์ เราจะจัดตารางใหม่”
เขาเงียบ แล้วพยักหน้า “โอเค ฉันเครียดนิดหน่อย”
“เท่าไหร่จากสิบ”
“หกครึ่ง บางนาทีเจ็ด”
“งั้นเร่งปิดส่วนวันนี้ให้เสร็จในสองชั่วโมง ที่เหลือฉันเกลา นายไปซ้อมมวยคุมตัวเอง”
“รับทราบหัวหน้า” เขายกมือ ทำท่าจะเล่าอีก “เออ ๆ—”
“วายุ” เธอตัดสั้น ๆ
เขาหัวเราะ “โอเค ไม่เล่าแล้ว จริง ๆ”
เงียบไปสิบ นาที
มีแต่เสียงพิมพ์กับเสียงกระดาษ งานคืบหน้าเร็วกว่าที่คิด
แล้ววายุหยุด พูดลอย ๆ
“ถ้าเธอเป็นสี คงสีน้ำเงินเข้ม”
สายธารเงยหน้า “ทำไม”
“นิ่ง สงบ แต่ทึบ ๆ หน่อย” เขาเอียงหัว “ส่วนฉันคงเทาเข้มปนดำ โดนฝนก็คล้ำกว่าเดิม”
“แล้วทำไมต้องคิดเรื่องสีตอนนี้”
“ไม่รู้ สมองฉันชอบวิ่ง” เขายิ้ม
สายธารถอนหายใจ “วายุ ฟังนะ เล่าได้ถ้ามันช่วย แต่ต้องบอกด้วยว่ามีอะไรที่เราควรระวัง”
เขาพยักหน้า “โอเค ข้อระวังพรุ่งนี้เช้าอาจมีคนโทรมาเรื่องเดิม ถ้าโทรมา ฉันจะออกไปคุยนอกห้องสิบนาทีแล้วกลับ”
“ได้ บอกทีมก่อนออก”
“รับทราบ”
ทั้งคู่พิมพ์ต่อ รอบนี้เขาจริงจังขึ้น
ยี่สิบนาที มินตราเดินเข้ามาพร้อมชานม
“เติมหวานนิดเดียว” เธอยื่นให้สายธาร แล้วหันไปให้วายุ “ของนาย น้ำเปล่า”
วายุรับแล้วยิ้ม “ขอบคุณหัวหน้ากองพิทักษ์เพื่อน”
“อย่ากวน” มินตรานั่งลง “เรื่องฝ่ายวินัยมีอะไรคืบไหม”
“เลื่อน” เขาตอบสั้น ๆ
มินตราขมวดคิ้ว “อย่าไปหาเรื่องนะ”
“ไม่หาแล้ว สัญญา” น้ำเสียงจริง
มินตรามองสองคน พอเห็นว่างานเดินก็พยักหน้า “โอเค งั้นฉันไปเวรจองโต๊ะฝั่งโน้นต่อ” แล้วเดินออกไป
ห้องเงียบ
สายธารดูกราฟ “ตัวเลขนี้ดีนะ คนที่ลองเช็คอินทุกวัน ความสัมพันธ์ดีขึ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์”
“เพราะทำซ้ำ” วายุพูด “นิสัยเล็ก ๆ”
“ใช่ คีย์คือสม่ำเสมอ” เธอตอบ
เขามองหน้าเธอแวบหนึ่งแล้วก้มพิมพ์ต่อ ก่อนถามอีก “เธอว่าคนเราต้องซื่อสัตย์แค่ไหนถึงจะพอดี”
สายธารคิด “ซื่อสัตย์เท่าที่ไม่ทำร้ายตัวเองกับคนรอบข้าง”
“แล้วถ้าความจริงมันทำร้าย”
“ก็เล่าทีละนิด ไม่ต้องโยนหมดจนพัง”
วายุหัวเราะเบา ๆ “เธอเก่งเรื่องเล่าทีละชิ้น”
“ก็ใช้วิธีนี้เอาตัวรอด” เธอยักไหล่ “โอเค ทำงานต่อ”
เขาพยักหน้า พิมพ์รัวไม่แทรก จนปิดย่อหน้าสำคัญครบ
🔆 บ่ายสองสิบ
งานเกือบเสร็จ สายธารเกลา เขาจัดกราฟ ทุกอย่างราบรื่นจนโทรศัพท์วายุดัง ชื่อ “Krit” ขึ้นจอ เขากดปิดเสียงทันที พลิกคว่ำ
สายธารเห็น แต่ไม่พูด จนห้านาทีต่อมามีข้อความเด้ง “โทรกลับด้วย…ด่วน”
วายุขบกรามนิดเดียว แล้วทำเป็นพิมพ์ต่อ
สายธารตัดสินใจถาม “นายกับกฤตย์ยังมีเรื่องค้าง?”
“นิดหน่อย” เขาตอบสั้น ๆ
“ไหนว่ายุติแล้ว”
“หยุดบวกแล้ว” เขายิ้มจาง ๆ “นี่ไม่ใช่บวก แค่คุย”
“งั้นออกไปคุยสิบนาที แล้วกลับมา” เธอชี้โทรศัพท์
“เดี๋ยวคุยทีหลัง งานก่อน” เขายักไหล่ “เธอชอบพูดแบบนี้ใช่ไหม”
“ใช่ แต่ฉันก็เห็นว่านาย ‘เลี่ยง’” เธอก้มตามองจอ “บอกตรง ๆ วายุ…นายเล่าเรื่องไร้สาระเพราะไม่อยากแตะเรื่องจริง”
เขาหยุดนิดเดียว
ไม่ยิ้ม ไม่กวน เอนหลังพับแขน มองเธอตรง ๆ
“งั้นถามมา” เสียงเรียบ “ถามให้จบ”
สายธารคิดสั้น ๆ ก่อนพูด “นายมีปัญหาอะไรกับที่บ้าน ฝ่ายวินัย หรือกฤตย์…บอกเท่าที่บอกได้”
เขามองเธอ เหมือนแปลกใจที่เธอถามตรง ๆ แล้วถอนหายใจ
“บ้าน—เหมือนเดิม เงียบ ๆ ไม่คุยก็ไม่ตีกัน”
“ฝ่ายวินัย—รอเรียก ฉันไปทุกครั้ง”
“กฤตย์—มีทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ แต่ฉันไม่บวก”
เขาหยุด แล้วพูดช้า ๆ “กับตัวเอง—ฉันพยายามไม่หายตอนเครียด”
สายธารพยักหน้า “โอเค ขอบใจที่ตอบ”
เขายังมองเธอไม่หลบ มุมปากยกขึ้นนิดเดียว “แต่มีอย่างหนึ่งที่เธอควรหยุดทำ”
“อะไร”
วายุพิงพนัก สูดลมหายใจ แล้วพูดสั้น ๆ
“อย่าพยายามเข้าใจฉัน มันเสียเวลา”
คำนี้ค้างกลางอากาศ โต๊ะรอบ ๆ เงียบเองเหมือนบรรยากาศเปลี่ยน
สายธารจับปากกาแน่น แต่ไม่ตอบทันที เธอนิ่ง นับหนึ่งถึงห้าในใจ ก่อนหันกลับไปพิมพ์ต่อ จังหวะคีย์บอร์ดเรียบเหมือนเดิม
วายุยังเอนหลัง ดวงตาแข็งขึ้น เหมือนปิดกำแพงกลับมาอีกชั้น เขาไม่พูดต่อ เธอก็ไม่ถามซ้ำ
เวลาผ่านไปห้านาที สิบ นาที สิบห้า นาที
งานเสร็จชุดแรก เธอกดแชร์ไฟล์เข้าคลาวด์ สำรองลงแฟลชไดรฟ์เหมือนเช็กก่อนบิน
“พักห้านาที” เธอพูดเรียบ ๆ “ยืดไหล่ ดื่มน้ำ”
วายุพยักหน้า ลุกขึ้น ยืดแขนสองสามที
เขามองออกหน้าต่าง สีหน้ากลับมาเรียบเฉยเหมือนใส่หน้ากาก
มินตราเดินกลับมา เห็นบรรยากาศแปลก ๆ
“มีอะไร?” เธอถามเบา ๆ
“ไม่มี” สายธารยิ้มบาง “งานเสร็จส่วนแรกแล้ว”
มินตรามองหน้าวายุแวบหนึ่ง ก่อนตบไหล่เพื่อน “โอเค ไปต่อ”
บ่ายสามครึ่ง กลุ่มแยกย้ายโต๊ะ
สายธารบอก “ฉันไปร้านหนังสือ เอาของที่บ้านมาเพิ่ม”
วายุเงียบครู่หนึ่ง ก่อนพูดเบา ๆ “ให้ไปส่งไหม”
“ไม่ต้อง” เธอส่ายหัว “อยู่เกลางานกับเพื่อนเถอะ เดี๋ยวฉันกลับมา”
“โอเค” เขาตอบสั้น ๆ
เธอเก็บของ ก่อนออก เธอวางโพสต์อิทไว้ตรงหน้าเขา
มีสามบรรทัด
•ปิดงานส่วน 1 แล้ว ✔
•ถ้ามีโทรศัพท์ ออกไปคุยได้ แต่บอกทีม
•17:00 กลับมาซ้อมพรีบล็อกสุดท้าย
วายุอ่าน พยักหน้า ไม่ยิ้ม ไม่กวน แค่รับไว้
อากาศหน้าตึกครึ้ม ๆ เหมือนฝนจะมา
สายธารเดินไปทางร้านหนังสือ ไม่ได้อยากซื้ออะไรจริง ๆ แค่อยากพักหายใจ
พ่อกำลังจัดชั้น แม่กำลังแพ็กของขวัญเล็ก ๆ
เสียงกริ่งดังตอนเธอเปิดประตู
“มาคนเดียวเหรอ” แม่ถาม
“ค่ะ” เธอยิ้ม “มาเอาโพยคำศัพท์เพิ่ม”
พ่อเหลือบมองหน้า “เหนื่อย?”
เธอนั่งลงหลังเคาน์เตอร์ “นิดหน่อย”
แล้วเล่าแบบสั้น ๆ ว่าวายุพูดอะไรเมื่อกี้
พ่อฟังเงียบ ๆ ก่อนพูดช้า ๆ
“บางคนไม่อยากถูกเข้าใจ เพราะกลัวว่าถ้าใครเข้าใจแล้ว…เขาต้องยอมเปลี่ยน”
“เขาเลยกันไว้ก่อน”
แม่ยื่นน้ำให้ “คนที่กล้าพูดแบบนี้ แปลว่าเขายังเห็นเราเป็น ‘คน’ ไม่ใช่กำแพง เขาเลือกใช้คำกันไว้ ไม่ให้เราเข้าไปเร็วเกินไป”
สายธารพยักหน้า เธอรู้ว่าพ่อแม่ไม่ได้บอกให้ถอย แค่เตือนให้ค่อย ๆ เดิน
“แล้วหนูอยากทำไง” แม่ถาม
“หนูจะไม่บังคับให้เขาเล่า แต่จะไม่เลิกสังเกต” เธอตอบตรง “หนูจะทำงานให้เสร็จ แล้วค่อยเก็บทีละชิ้นที่เขายอมเปิด”
พ่อยิ้มบาง “ดี เดินแบบนี้แหละ”
สายธารหยิบโพยคำศัพท์ใส่กระเป๋า หยิบชูโรสสองแท่ง “เอาไปฝากทีม”
แม่หัวเราะ “ฝากบอกเขาด้วยว่า ‘กลับบ้านตรงเวลา’”
“จะบอกค่ะ”
เธอออกจากร้าน ฟ้ายังครึ้ม ลมแรงขึ้น แต่ยังไม่ตกฝน ใจเธอนิ่งกว่าเดิม ประโยค “อย่าพยายามเข้าใจฉัน เธอจะเสียเวลาเปล่า” ยังดังในหัว แต่เธอรู้ว่ามันหมายถึง “ยังไม่พร้อม” ไม่ใช่ “อย่ามายุ่ง”
เธอกระชับกระเป๋า ก้าวเร็วขึ้น
ห้องสมุดตอนเย็น คนลดลงแล้ว
วายุนั่งที่โต๊ะเดิม มินตรานั่งอีกฝั่ง เพื่อนอีกสองคนเกลาไฟล์
สายธารวางชูโรส “พักสิบ นาที แจกของหวาน”
มินตราแซว “สปอนเซอร์โดยร้านหนังสือบ้านเพื่อนเรา”
วายุรับไปหนึ่งแท่ง “ขอบคุณ” สั้น ๆ
ตาเขายังดูเหนื่อย แต่ไม่แข็งเหมือนตอนบ่าย
“ซ้อมบล็อกสุดท้าย 17:10” สายธารเตือน
ทุกคนพยักหน้า
ซ้อมรอบแรกผ่านไปเร็ว วายุพูดตรง ๆ ไม่ใส่มุก
สายธารปิดด้วยประโยค “นิสัยเล็ก ๆ” เหมือนเดิม
มินตราพูด “โอเค เสียงเสมอกันแล้ว”
วายุหันถามสายธาร “คืนนี้ต้องเกลาต่อไหม”
“ครึ่งชั่วโมงพอ แล้วพัก” เธอตอบ
“ครับ” เขาพูดเบา ๆ
ทั้งคู่ทำงานเงียบ ๆ อยู่พักหนึ่ง
ถึงเวลา สายธารเก็บของช้า ๆ แล้วบอกทุกคน “แยกได้”
มินตราลุก “ฉันไปส่งนะธาร”
“ขอบใจ” เธอยิ้ม
วายุสะพายเป้ ลุกขึ้น เงียบไปนิด ก่อนพูดเบา ๆ
“เมื่อกี้ที่ฉันพูด…แรงไปไหม”
สายธารสบตา “แรง แต่ตรง”
“ขอโทษ” เขาพูดง่าย ๆ
“ไม่เป็นไร” เธอส่ายหน้า “ฉันเข้าใจว่านายยังไม่อยากให้ใครเข้าไปไกลกว่านี้”
วายุหัวเราะเบา ๆ “พูดแบบนี้ได้ไงวะ”
“ก็พูดไปแล้ว” เธอยักไหล่
เขามองเธอหนึ่งจังหวะ ก่อนแตะพวงกุญแจที่ห้อยตัว ST “พรุ่งนี้เจอ”
“เจอ” เธอตอบ
มินตราพาเธอกลับ ไฟในมหาลัยเริ่มเปิด สายธารมองฟ้าใจคัน ๆ เหมือนอยากเกา
มินตราถาม “วันนี้เขาพูดแรงใส่ใช่ไหม”
“อือ แต่ฉันโอเค”
“เธอจะถอยไหม”
“ไม่ถอย แต่ไม่พุ่งชน”
มินตรายิ้ม “นั่นแหละสไตล์เธอ”
คืนนั้นที่บ้าน สายธารเปิดโน้ตบุ๊ก พิมพ์หัว “Observation – Vayu”
ไม่ใช่ไดอารีรัก แต่เป็นโน้ตข้อมูล
•เล่าไร้สาระตอนเครียด → ปล่อยให้เล่า 2–3 นาทีแล้วดึงกลับ
•ไม่ชอบคำว่า “น่าสงสาร” → ใช้คำว่า “เห็น”
•โทรจากกฤตย์ = ตัวกระตุ้น → ให้เวลาออกไปคุย แล้วนัดกลับมา
•ฝ่ายวินัยเลื่อน = กังวล → เผื่อเวลายืดหยุ่น
•ยอม “ขอโทษ” เมื่อรู้ว่าพูดแรง → สัญญาณว่ายังคุมได้
เธออ่านทวน ยิ้มบาง ๆ นี่คือแผนทำงานกับคนที่มีพายุในตัว
📱 มือถือสั่น
📩 Vayu: ถึงห้องแล้ว
📩 Vayu: วันนี้พูดแรง ขอโทษ
📩 Vayu: พรุ่งนี้ 9:30 ฉันไปก่อน
📱 เธอตอบ
📩 Saitharn: โอเค
📩 Saitharn: พรุ่งนี้ 9:30 โต๊ะเดิม
📩 Saitharn: พักผ่อน
เขาตอบสั้น
📩 Vayu: รับทราบหัวหน้า
เธอปิดโน้ตบุ๊ก ไปช่วยพ่อแม่เก็บร้าน กลิ่นกระดาษกับชาหอมยังเหมือนเดิม
คำว่า “อย่าพยายามเข้าใจฉัน เธอจะเสียเวลาเปล่า” ยังวนในหัว
แต่เธอแปลมันใหม่ว่า “ยังไม่พร้อม” ไม่ใช่ “อย่ามายุ่ง”
🌒 คืนนี้
เธอเขียนบันทึกสั้น ๆ ต่อท้าย
💗 “วันนี้เขาพูดแทงใจ แต่ฉันไม่ถอย ฉันจะไม่พยายามเข้าใจจนล้ำเส้น แต่ฉันจะอยากรู้พอที่จะไม่ทิ้งกันกลางทางงานยังต้องเสร็จคนก็ยังต้องอยู่ พอแล้วสำหรับตอนนี้”
เธอปิดสมุด หรี่ไฟ เมืองเงียบลง
ในความเงียบ เธอยิ้มบาง ๆ
พรุ่งนี้…เริ่มใหม่
ที่โต๊ะเดิม เช็กลิสต์เดิม
และหัวใจที่ยังอยากรู้ให้ได้ 🫠🌼✍️
﹆ ᐧ༚̮ᐧ ✦ ✱ ꊞ ↺ °•*⁀➷=͟͟͞♡