📚 ꒰ ⁺⋆ °˖✧₊˚
🌒 ค่ำวันนั้น
ห้องสมุดเริ่มโล่ง คนทยอยกลับ โต๊ะมุมหน้าต่างยังมีสองคนทำงาน
สายธารเช็กเอกสารทีละบรรทัด ขีดแก้คำซ้ำ แปะโพสต์อิทเตือนงานที่เหลือ
วายุนั่งตรงข้าม ฟังเสียงตัวเองจากไฟล์แล้วแก้คำให้ลื่นขึ้น ไหล่ซ้ายยังพันผ้าไว้ เขายกน้ำขึ้นดื่มแล้วพิมพ์ต่อ
นอกหน้าต่างฟ้ามืด รถเมล์คันสุดท้ายวิ่งผ่าน ไฟบนบันไดหนีไฟตึกตรงข้ามสว่างเป็นเส้น
“เหลืออีกกี่หัวข้อ” สายธารถาม
“สองครึ่ง” วายุตอบ “นิสัยเล็ก ๆ กับกรณีตัวอย่าง…ยังไม่รู้จะเรียงยังไง”
“ลองเอาที่ไม่เวิร์กขึ้นก่อน แล้วตามด้วยที่เวิร์ก” เธอว่า “คนฟังอยากรู้ว่าอะไรควรเลี่ยงก่อน”
วายุพยักหน้า ย้ายสไลด์ ลองอ่านทวน เสียงที่ออกมานิ่มกว่าเดิม “อืม…ดีขึ้น”
สายธารยืดคอ มองนาฬิกา “พักสิบนาที”
วายุถอดหูฟัง เอนหลัง กดหลังคอ “เมื่อยตรงไหน”
“หลังล่างนิดหน่อย” เธอตอบยิ้ม ๆ
“ออกไปยืดที่ระเบียงไหม” เขาชี้ประตู
เธอพยักหน้า ทั้งคู่เก็บของสำคัญ เดินผ่านบรรณารักษ์ที่แซว “อยู่นานได้ แต่อย่าหลับนะ”
ลมเย็นพัดตรงระเบียง เมืองข้างล่างมีไฟเรียงเป็นเส้น สายธารพิงราว วายุยืนข้าง ๆ แต่เว้นระยะ
“ฟ้าไม่งอแง” เขาพูดเหมือนบ่นกับตัวเอง
“เหมือนบางคน” เธอว่าเรียบ ๆ
เขามองเธอแวบหนึ่ง แล้วยิ้มบาง ๆ ก่อนหันกลับไปที่วิว
“ตอนเด็ก ๆ แม่ชอบพาไปยืนหน้าต่างครัว ฟังเสียงฝน บ้านเราอยู่ชั้นสี่ เสียงหยดบนสังกะสีข้าง ๆ มันเหมือนกลอง ทำให้ใจเงียบลงได้” เขาเล่าช้า ๆ
สายธารเงียบ ฟังต่อ
“แม่ชอบร้องเพลงเก่า ๆ มีท่อนหนึ่งบอกว่า ถ้าโลกมันดังเกินไป ให้หลับบนไหล่ใครสักคน แม่ร้องตอนล้างจาน ตอนแขวนผ้า หรือแม้แต่ตอนดุ”
วายุพยักหน้า ย้ายสไลด์ ลองอ่านทวน เสียงที่ออกมานิ่มกว่าเดิม “อืม…ดีขึ้น”
สายธารยืดคอ มองนาฬิกา “พักสิบนาที”
วายุถอดหูฟัง เอนหลัง กดหลังคอ “เมื่อยตรงไหน”
“หลังล่างนิดหน่อย” เธอตอบยิ้ม ๆ
“ออกไปยืดที่ระเบียงไหม” เขาชี้ประตู
เธอพยักหน้า ทั้งคู่เก็บของสำคัญ เดินผ่านบรรณารักษ์ที่แซว “อยู่นานได้ แต่อย่าหลับนะ”
ลมเย็นพัดตรงระเบียง เมืองข้างล่างมีไฟเรียงเป็นเส้น สายธารพิงราว วายุยืนข้าง ๆ แต่เว้นระยะ
“ฟ้าไม่งอแง” เขาพูดเหมือนบ่นกับตัวเอง
“เหมือนบางคน” เธอว่าเรียบ ๆ
เขามองเธอแวบหนึ่ง แล้วยิ้มบาง ๆ ก่อนหันกลับไปที่วิว
“ตอนเด็ก ๆ แม่ชอบพาไปยืนหน้าต่างครัว ฟังเสียงฝน บ้านเราอยู่ชั้นสี่ เสียงหยดบนสังกะสีข้าง ๆ มันเหมือนกลอง ทำให้ใจเงียบลงได้” เขาเล่าช้า ๆ
สายธารเงียบ ฟังต่อ
“แม่ชอบร้องเพลงเก่า ๆ มีท่อนหนึ่งบอกว่า ถ้าโลกมันดังเกินไป ให้หลับบนไหล่ใครสักคน แม่ร้องตอนล้างจาน ตอนแขวนผ้า หรือแม้แต่ตอนดุ”
วายุพยักหน้า แล้วเปิดประตูระเบียง เดินกลับเข้าห้องสมุด นั่งลงที่โต๊ะเดิม เขาขยับไมค์ กดอัดต่อ เสียงที่ออกมานิ่งกว่าตอนแรก ไม่กวน ไม่แข็ง ฟังแล้วตรง ๆ
สายธารก้มแก้งานในโน้ตบุ๊ก เกลาประโยค เปลี่ยนเครื่องหมายบางจุดให้สั้นลง งานดูไหลขึ้น เธอพิมพ์เรื่อย ๆ จังหวะสม่ำเสมอ
วายุเงยหน้าบ้างเวลาหยุด เขามองเธอเหมือนมองไฟเล็ก ๆ ที่ช่วยให้ทำงานต่อได้ เขายกน้ำดื่มแล้ววางลงเบา ๆ
เสียงพนักงานทำความสะอาดลากไม้ถูพื้นดังผ่านไป สายธารขีดเส้นใต้ประโยคสุดท้าย “รักที่ออกแบบได้ ไม่ได้เริ่มจากสัญญาใหญ่โต แต่มาจากการทำเล็ก ๆ ซ้ำในวันที่ไม่มีใครเห็น”
เธอวางปากกา หันไปหาเขา “อ่านปิดท้ายอีกครั้งไหม” น้ำเสียงเรียบ แต่มั่นใจกว่าเดิม
วายุพยักหน้า กดอัด แล้วอ่านสคริปต์ปิดท้าย เสียงไม่สะดุด ไม่กวน ฟังนิ่งกว่าเดิม
พออ่านจบ เขาถอนหายใจยาว หันมามองสายธารเหมือนถามว่า “โอเคไหม”
“โอเค” เธอตอบสั้น ๆ ยิ้มบาง “คืนนี้เสียงใช้ได้แล้ว”
เขาก้มหน้ากดเซฟสองครั้งตามนิสัยที่เธอสอน สายธารขีดเช็กลิสต์ “อัปโหลดกลางคืน เสร็จ” แล้วปิดสมุด
นาฬิกาบอกเกือบห้าทุ่ม วายุพูดเบา ๆ “สถิติใหม่”
“ถ้าพรุ่งนี้ตื่นทันก็ไม่ผิด” เธอตอบเรียบ ๆ
ทั้งคู่เก็บของ วายุม้วนถุงขยะเล็กโยนทิ้ง สายธารคล้องกระเป๋าผ้า เดินออกจากห้องสมุดด้วยกัน
บรรณารักษ์ยกมือให้ “เกือบเที่ยงคืนแล้วนะ”
“อัปโหลดแล้ว เหลือเกลาเช้า” วายุตอบเหมือนรายงาน
ข้างนอกอากาศเย็น ลานเงียบ เสียงจักจั่นดังบาง ๆ ท้องฟ้ามีหมอกเจือไฟเมือง สายธารเงยหน้าสูดหายใจลึก เหมือนได้พักจากทั้งวัน
วายุชี้ไปที่ตู้กดน้ำ “เติมน้ำก่อนกลับ?”
เธอพยักหน้า ทั้งคู่เดินไปหย่อนเหรียญ เสียงน้ำไหลลงขวด เขาหมุนฝาแน่น แล้วยื่นให้เธอ “สำหรับหัวหน้าทีม”
สายธารรับ เงยตามองเขาสั้น ๆ แววตาเขาไม่แข็งเหมือนตอนกลางวัน แต่ดูสงบกว่าที่เคย
สายธารรับขวด เอียงคอพูดเบา ๆ “คืนนี้นายเล่าฝนจนฉันแทบได้กลิ่นสังกะสี”
วายุหัวเราะในคอ มุมปากยกนิดเดียว “คราวหน้าจะเล่าเรื่องแดดบ้าง เผื่อใจไม่ชื้นเกินไป”
ทั้งคู่เดินไปลานจอดรถ ก้าวช้าพอให้เดินพร้อมกัน เงาสองเงายาวข้างกัน
ระหว่างรอไฟท้ายมินตรา สายธารเปิดมือถือ ลบเช็กลิสต์ “อัดเสียงเวอร์ชันกลางคืน” แล้วเพิ่ม “พักบ่าย—แมวส้ม” เธอเงยหน้าบอกเขา “ถ้าพรุ่งนี้เจอแมวส้ม ให้มันช่วยเปิดลิฟต์อีก”
วายุทำหน้างง “กลายเป็นแรงงานเงาแล้วเหรอ”
“จ่ายค่าแรงเป็นปลาทู”
“งั้นมันจะติดเธอมากกว่าฉันแน่”
เสียงหัวเราะค่อย ๆ หายไป เมื่อไฟท้ายมินตราเลี้ยวเข้าลานจอดพอดี
วายุหยิบหมวกกันน็อก แตะสองครั้งเบา ๆ เหมือนส่งสัญญาณว่า ฉันยังอยู่ เขามองสายธาร ตาใสขึ้นกว่าเมื่อครู่เหมือนจะพูดอะไร แต่สุดท้ายแค่ยกมือแตะปากแล้วหัวเราะเบา ๆ แทน
สายธารเห็นหมด ทั้งที่เหมือนจะเล่า ทั้งที่หยุดกลางคัน เธอไม่ดึง ไม่เร่ง แค่ยิ้มบาง ๆ ส่งไป รอยยิ้มที่บอกว่า ฉันอยู่ตรงนี้
มินตราจอดเทียบ ลดกระจก “ขึ้นเลยคุณลูกค้า คืนนี้ดูหน้าไม่บูดแล้ว แสดงว่างานผ่าน”
“ผ่าน” สายธารตอบสั้น ๆ ก่อนหันไปพยักหน้าให้วายุเป็นคำลาบาง ๆ
วายุยกมือขึ้นเล็กน้อยแล้วปล่อยลงช้า ๆ เขามองไฟท้ายรถที่ไกลออกไปเรื่อย ๆ ก่อนหันกลับมาที่มอเตอร์ไซค์ สวมหมวก เก็บกระเป๋า ขยับไหล่ซ้ายเบา ๆ แล้วบิดกุญแจ
เสียงเครื่องยนต์ไม่ดังเหมือนก่อน เขาขับช้า ๆ ผ่านรั้วมหาลัยที่ปิดลงทีละนิด คิดถึงเสียงฝน เสียงกีตาร์ของแม่ ความเงียบของพ่อ และเสียงของเธอที่บอกว่า “ใช้ได้”
บนถนนกลับคอนโด ลมเย็นตัดผ่าน เสื้อแนบผิว ความเหนื่อยค่อย ๆ คลาย เขามองไฟถนนที่สว่างเป็นช่วง ๆ เหมือนปุ่มเซฟบันทึกไว้ในใจ ว่าคืนนี้เขาเริ่มเล่า หยุดทัน และเธอไม่ถามต่อแค่ยิ้มให้
🌒 คืนนั้น
ในห้อง 1207 โต๊ะข้างหน้าต่างยังมีโพสต์อิท “อัปโหลดฉบับกลางคืน—เสร็จ” วายุวางหมวก ไม่แตะเหล้า ไม่แตะกีตาร์ เขาเปิดตู้เย็น หยิบเจลเย็นขึ้นมาดู แล้ววางคืน ไหล่ซ้ายไม่ปวดเท่าเดิม เหมือนเริ่มจำวิธีดูแลตัวเองได้
เขาเดินไปเจอกระดาษโน้ตเล็ก ๆ ตกอยู่บนพื้น หยิบขึ้นมาอ่าน “พัก – ดื่มน้ำ – ยืดไหล่ – บันทึก – เสร็จ”
เขายิ้มบาง ๆ แล้วแปะไว้บนตู้เย็น ข้างคำว่า STAY OK แตะเบา ๆ เหมือนบอกตัวเองว่าพักได้แล้ว
อีกฟากหนึ่งของเมือง สายธารนั่งพิงหัวเตียง
✍️ เปิดสมุด เขียนสั้น ๆ
💗 “คืนนี้เขาเล่าฝน เล่ากีตาร์ เล่ากระจกแตก หยุดกลางคัน แล้วปิดปาก ฉันไม่ถามต่อ แค่ยิ้มให้”
เธอขีดเส้นใต้คำว่า “ยิ้ม” บาง ๆ ก่อนปิดสมุด วางไว้ข้างกรอบรูปครอบครัวที่ยังสมบูรณ์ แล้วดับไฟ ห้องเงียบพอให้หลับ
นอกหน้าต่าง เมฆบังจันทร์บาง ๆ โคมไฟถนนสว่างเงียบ ๆ เมืองทั้งเมืองเหมือนพักเสียง เหลือแค่ไฟกระพริบไกล ๆ
🌒 ค่ำคืน
นี้จบด้วยการไม่ถามต่อ และรอยยิ้มบาง ๆ แค่นั้นก็พอให้ทั้งสองยืนอยู่ข้างกัน แม้จะไม่เล่าเรื่องเดียวกันทั้งหมด
พรุ่งนี้ งานยังรอ โต๊ะมุมเดิมก็ยังอยู่ อาจมีแมวส้มเหยียบเซนเซอร์ให้ประตูเปิดอีก
พายุในใจบางคนอาจยังมาแต่คืนนี้ แค่ได้ฟังเสียงฝนในความทรงจำ และได้เห็นรอยยิ้มที่ไม่ถาม ก็มากพอสำหรับการนอนหนึ่งคืน 🌼🔆🫠
˘͈ᵕ˘͈ ✦ ߹𖥦߹ ꒰ ꒱ +.*.。 ´ސު`