📚 “2” ⋆ ☪︎*。꙳ ᨳ ﹅♥︎₊˚
📒 การใกล้ชิดที่เลี่ยงไม่ได้ ༊*·˚
ฝนตกตั้งแต่บ่ายยาวถึงค่ำ 🌧️
กระจกห้องสมุดเต็มไปด้วยหยดน้ำแน่น ๆ เหมือนโปรเจกต์ที่ยังไม่เสร็จ เสียงแอร์กลายเป็นเพลงพื้นหลัง คืนนี้เหลือเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงก่อนพรีเซนจริง เดดไลน์กดดันทุกคนเท่ากัน แต่โต๊ะมุมเดิมของ “ทีม 304” กลับเงียบกว่าทุกวัน
สายธารเปิดโน้ตบุ๊ก โพสต์อิทแปะเรียง “สคริปต์สุดท้าย” “เช็กกราฟ” “ปรับภาพ” “ทวนเวลา” เธอกดเซฟทุกห้านาทีตามนิสัย แก้วมัทฉะข้างคีย์บอร์ดน้ำแข็งละลายแล้ว แต่เธอก็แค่จิบ ๆ ไม่ได้สนใจมาก
วายุมาช้ากว่าปกติหน่อยเพราะรถติด 🚦 เขาวางน้ำสามขวดเหมือนเดิม แต่วันนี้ไม่มีชาไข่มุก ไม่มีโพสต์อิทเล่น ๆ เขานั่งลง เว้นระยะ เปิดแฟ้มกราฟ ปรับเส้น ปรับฟอนต์ พูดสั้น ๆ
“เริ่มเลย”
สองคำเหมือนกดสวิตช์ ⚡ ทุกอย่างเข้าสู่โหมดจริงจังทันที สายธารพิมพ์ สรุป กดส่งโค้ด วายุอ่านทวน ปรับคำอธิบายใต้ภาพให้ง่าย ไม่ใช้ศัพท์ซับซ้อน ทุกอย่างไหลไปทางเดียวกันโดยไม่ต้องถามซ้ำ
ภาคินโผล่มาตอนหัวค่ำ ถือข้าวกล่องกับกล้วยหนึ่งหวี 🍱🍌 “กูฝากไว้ จะได้ไม่ลืมกิน เดี๋ยวเบลอ” เขาชูสองนิ้ว ส่งสายตา “สู้ ๆ กันเองนะ” แล้วก็ถอยไปนั่งอีกโซน ทิ้งสองคนไว้กับฝนและเดดไลน์
เกือบสามทุ่ม ห้องสมุดเหลือโต๊ะไม่กี่โต๊ะ ไฟขาวบนเพดานทำให้เงายาวบนพื้น เงาของวายุทาบกับเงาของสายธารโดยบังเอิญ ทั้งคู่ไม่ทันสังเกต แต่ใจรู้ว่าคืนนี้มันเงียบต่างไปนิด ๆ
“หน้า 7 กราฟ ‘ความซ้ำที่ไม่เจ็บ’” สายธารพูดตาไม่ละจากจอ “เส้นอย่าให้หนาเกิน พอเด่น แต่ไม่กรีดขวางตา”
“โอเค” วายุเลื่อนเมาส์ ปรับทีละพิกเซล “แบบนี้?”
“ลดอีกนิด…อืม พอดีแล้ว” เธอพยักหน้า “ใต้ภาพเปลี่ยน ‘ความสัมพันธ์’ เป็น ‘ความไว้ใจ’ จะตรงกว่า”
“ได้” เขาพิมพ์ แก้ กดเซฟสองครั้งตามนิสัยใหม่ที่ติดจากเธอ “เสร็จ” ✅
เงียบไปห้าวินาที เหมือนทั้งคู่หายใจพร้อมกันโดยไม่ตั้งใจ วายุก้มจะหยิบปากกาดำ แต่เห็นว่าเธอกำลังใช้ เขาเลยหยิบปากกาสีฟ้าสำรองจากกระเป๋า ยื่นให้โดยไม่เงยหน้า
“ใช้ปากกานี่ก่อน หมึกเธอจะหมดแล้ว”
สายธารเงยขึ้นพอดีกับที่เขาเงยตา สายตาชนกันแว้บเดียว 👀 เธอยื่นมือไปรับ แต่เขายื่นมาใกล้ไปนิด ปลายนิ้วก้อยเลยเฉียดหลังมือเธอเบา ๆ พอให้ไฟช็อตเล็ก ๆ วิ่งผ่านแขนทั้งสองคน
หัวใจเธอกระตุกแรงกว่าปกติ 💓 เขาก็กระพริบตาเร็วเหมือนโดนน้ำสาด มือที่ถือปากกาชะงักครู่หนึ่ง ก่อนจะวางลงบนโต๊ะตรงหน้าเธอ
ความเงียบกลับมาอีก แต่คราวนี้ไม่อึดอัด แค่ทำให้เสียงฝนบนกระจกชัดขึ้น 🌧️ สายธารเป็นฝ่ายหลบตาก่อน รีบหยิบปากกามาติ๊กเช็กลิสต์ต่อ ส่วนวายุก็ขยับเก้าอี้เล็กน้อย จัดระยะใหม่แล้วก้มทำงานต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ทั้งคู่รู้ว่าหัวใจยังเต้นแรงกว่าก่อนหน้านั้น
“ย่อหน้าเปิดบทสรุป ฉันอยากลองเวอร์ชันสั้น” สายธารพูดให้เสียงนิ่ง “ตัดอุปมาออก เหลือแต่ใจความ เดี๋ยวค่อยพูดเติมตอนพรี”
“โอเค พิมพ์ตรงนี้เลย” วายุหันจอให้เธอดู
เธอขยับเข้าใกล้ครึ่งฝ่ามือ กลิ่นสบู่สะอาดจากเขาลอยมาเบา ๆ 🫧 เธอตั้งสติแล้วพิมพ์ช้า ๆ อ่านออกเสียงไปด้วย
“เราเชื่อว่าความไว้ใจ ไม่ใช่คำสัญญาใหญ่ ๆ แต่คือการซ้ำที่ไม่เจ็บในเรื่องเล็ก ๆ และการยอมรับว่าคนตรงหน้าเป็นคนจริง ๆ ไม่ใช่ตัวละครในนิยาย”
วายุยิ้มมุมปากเล็ก ๆ แบบประหยัดรอยยิ้ม “เก็บ”
“เก็บ” เธอยิ้มตอบ แล้วกดเซฟ ก่อนเอนตัวกลับไปครึ่งฝ่ามือเหมือนเดิม 🙂
เวลาเดินไปเรื่อย ๆ ความเงียบกลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ขยันที่สุดคืนนี้ ⏳ เสียงพิมพ์ หยุด หายใจ ดื่มน้ำ เช็กเวลา เหมือนทุกคนในห้องเข้าสัญญาณเดียวกัน สองทุ่มครึ่งกลายเป็นสี่ทุ่มแบบไม่ต้องดูนาฬิกา พนักงานเวรเย็นเดินมาบอกเบา ๆ “ห้าทุ่มครึ่งปิดนะคะ” ทั้งคู่พยักหน้าพร้อมกันเหมือนตั้งค่าไว้
“พักห้านาที” สายธารประกาศ
วายุพยักหน้า เอนหลัง บิดข้อมือ หมุนคอเบา ๆ เธอยื่นขวดน้ำ เขารับทันจังหวะ ไม่ต้องพูดกันเพิ่ม เธอหยิบมือถือขึ้นดู แชตครอบครัวส่งรูปหมาในร้าน 🐶 ลูกค้าประจำถ่ายไว้ แม่พิมพ์แคปชัน “ฝนตกแต่คนยังแวะมาหา ‘บ้าน’ กันอยู่” เธอยิ้มบาง ๆ ก่อนวางโทรศัพท์ลง
“พรุ่งนี้ตอนเช้า ฉันผ่านร้านได้แค่ครึ่งชั่วโมง” วายุพูดเสียงต่ำ “จะเอาชาขาวไปฝากแม่”
“ฝากคำขอบคุณด้วยก็พอ” เธอตอบ “แม่จะยิ้มทั้งวัน”
เขาพยักหน้า “โอเค”
หมดเวลาพัก ทั้งคู่กลับเข้าโหมดจริงจัง วายุทวนสคริปต์เสียงเบากับเธอทีละย่อหน้า สายธารเติมคำเชื่อม แก้คำแข็ง ๆ ให้เป็นภาษาพูด พอเจอบรรทัดที่ยาก เขาหยุดให้เธอคิดก่อน พอเธอเงยหน้า เขาก็พร้อมต่อทันที
“ลองยกตัวอย่างจริง” เธอแนะ “ไม่ต้องเรียกชื่อใคร บอกว่า ‘เราเจอว่าในทีมของเรา…’ แล้วเล่าให้เรียบง่ายพอ”
เขาคิดแค่ครู่เดียว ก่อนพูด “เราเจอว่าในทีมของเรา ถ้าใครพูดน้อยเพราะกลัวผิด เราจะเว้นให้ก่อน ไม่ซ้ำ ไม่กด เราเชื่อว่าความไว้ใจไม่ได้มาจากเสียงดัง แต่มาจากพื้นที่เงียบ ๆ ที่ปลอดภัย”
สายธารมองเขา ไม่ได้รีบพยักหน้าหรือยิ้ม แต่ปล่อยให้คำลอยอยู่ห้าวินาที แล้วค่อยพูด “เก็บทั้งก้อนนี้เลย”
เขาปล่อยลมหายใจเบา ๆ คลายไหล่ “อืม”
สี่ทุ่มครึ่ง ห้องสมุดเริ่มประกาศรอบแรก 📢 คนจากโต๊ะอื่นทยอยเก็บของ เดินผ่านโต๊ะพวกเขาพร้อมรอยยิ้มให้แบบไม่รู้จัก แต่เหมือนเข้าใจว่า “คืนนี้พวกเธอเก่งมาก” สายธารยกมือโบกนิด ๆ ก่อนก้มเช็กงานครั้งสุดท้าย “คอนคลูชันเสร็จ สคริปต์เสร็จ สไลด์เสร็จ เหลือซ้อมท่ากับเวลา”
“ลองอีกสองรอบ” วายุพูด “แล้วกลับ”
“ตามนั้น” เธอตอบทันที 🙂
รอบแรกผ่านไปเรียบ ๆ สะดุดนิดตรงชี้กราฟ วายุเลยขยับตำแหน่งยืนให้ไม่บังโปรเจกเตอร์ 🔦 สายธารขีดบนกระดาษ “ยืนซ้ายครึ่งก้าว” รอบสองลื่นขึ้น ความมั่นใจมาเองแบบไม่ต้องฝืน
ใกล้ห้าทุ่ม ฝนข้างนอกเบาลง ฟังเหมือนเสียงฝักบัวไกล ๆ 🌧️ พนักงานเดินมาบอก “อีกสิบนาทีนะคะ” ทั้งคู่พยักหน้ารับแล้วเริ่มเก็บของ วายุเก็บสายชาร์จอย่างเป็นระเบียบ สายธารปิดไฟล์ เซฟลงแฟลชไดรฟ์และคลาวด์ครบ
เดินออกจากห้องสมุด ล็อบบี้แทบว่าง เสียงรองเท้าผ้าใบชัดกว่าปกติ ประตูอัตโนมัติเปิด ลมเย็นพัดเข้ามา สายธารยกปกเสื้อขึ้น วายุดึงหมวกแก๊ปใส่แล้วชี้ไปทางกันสาด “เดินตรงนี้ เปียกน้อยสุด”
เธอพยักหน้า ก้าวตามขอบตึก พื้นเปียกสะท้อนไฟยาวเหมือนทางช้างเผือก ✨ กลิ่นฝนสดใหม่จนเหมือนหายใจง่ายขึ้น ทั้งคู่ไม่พูดเรื่องงานแล้ว มีแต่เรื่องเล็ก ๆ ที่พาใจเบาลง
“ชอบฝนแบบนี้” เธอว่า
“ฝนที่ไม่บังคับให้ใครวิ่ง” เขาต่อ
“ใช่ แบบนั้นแหละ”
ถึงบันไดหลังตึกที่พวกเขามักใช้พักหายใจ กลางคืนยิ่งเงียบ มีแค่เสียงน้ำหยดกับรองเท้ากระทบเหล็ก เธอหยุดตรงขั้นกลาง “พรุ่งนี้เก้าโมงครึ่งนะ ฉันอยากซ้อมเร็วหน่อย”
“โอเค” เขาตอบทันที “เดี๋ยวแวะร้านหากาแฟให้”
“ไม่ต้องก็ได้ นายต้องพัก”
“ไม่ใช่ของกู ของหัวหน้า” เขายิ้มมุมปากเล็ก ๆ 🙂
เธอหัวเราะเบา ๆ “งั้นถ้าอยากซื้อ ก็ซื้อ”
ลมเย็นปะทะแขน เธอกอดแฟ้มแน่นขึ้น เขาเห็นแต่ไม่พูดอะไร แค่วางมือบนราวบันได ระยะห่างคุ้นเคยที่เหมือนถูกขีดไว้แล้ว ห่างพอปลอดภัย ใกล้พอรู้สึก
“เมื่อกี้…ตอนปากกา” วายุพูดต่ำ ๆ เหมือนเก็บไว้นาน “ขอโทษนะ ถ้าเผลอไปชน”
สายธารเม้มปากนิด แต่หัวใจยิ้ม เธอส่ายหัว “ไม่ชน แค่เฉียด”
“เฉียดก็เสียงดังดี” เขาพูดตรง ๆ ไม่มีมุก ไม่มีสายตากวน
“อืม แต่ไม่ทำให้งานช้า” เธอตอบเรียบ ๆ
“ใช่…ไม่ช้า แต่ใจเร็วขึ้นนิด” 💓
ประโยคนั้นทำให้แก้มเธออุ่นทันที เธอเลือกยิ้มบาง ๆ แล้วหันไปมองฝนแทน “กลับกันเถอะ เดี๋ยวปิดไฟหมดจะมืด”
“ไป” เขาพยักหน้า
พวกเขาเดินฝ่าฝนโปรยไปด้วยกันจนถึงหน้าอาคารจอดรถ จุดที่ต้องแยกทางกัน 🚏 เธอจะขึ้นรถเมล์รอบดึกกลับร้าน ส่วนเขาจะขี่บิ๊กไบค์กลับคอนโด
ช่วงรอรถ เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าสำรองออกมา แบบเดียวกับที่เคยให้เขา แต่เป็นอีกผืน แล้วยื่นให้เงียบ ๆ
“อีกแล้ว?” เขายิ้มมุมปาก 🙂
“คืนนี้ฝนเยอะ กลับถึงห้องคงอยากเช็ดหมวกแก๊ป” เธอตอบเรียบ ๆ
“งั้นรับไว้” เขารับผ้าอย่างระวัง เก็บลงกระเป๋าเสื้อยีนส์เหมือนครั้งแรก “ขอบคุณ”
“ยินดี” เธอว่า
รถเมล์กำลังเลี้ยวเข้ามา ไฟหน้ารถบาดฝนเป็นเส้นตรง สายธารหันไปมอง วายุยกมือแตะปีกหมวกเป็นสัญญาณล่ำลาเหมือนเดิม เธอยกมือเล็ก ๆ ตอบกลับ แล้วก้าวขึ้นรถเมล์ 🚍
วายุยืนมองจนรถเคลื่อนออกไป ก่อนเดินไปที่บิ๊กไบค์ เช็ดเบาะให้แน่ใจว่าไม่มีน้ำเกิน แล้วสตาร์ตเครื่องเสียงต่ำ ๆ เขาไม่เร่ง ขับช้า ๆ ปล่อยให้ฝนแตะเสื้อจนเย็นทั่วแต่ไม่หนาว แปลกดี…ทั้งที่เป็นคืนเดดไลน์ แต่กลับสงบเหมือนคืนวันอาทิตย์ 🌙
ถึงห้อง เขาถอดหมวก หยิบผ้าออกมาเช็ดรอยน้ำ แล้วปรับแม่เหล็กคำ STAY OK ให้เข้าที่ โดยปล่อยให้ตัว “Y” เอียงนิด ๆ เหมือนเดิม เขานั่งบนพรม เปิดโน้ตในโทรศัพท์ พิมพ์ตารางวันพรุ่งนี้
•08:30 ร้านหนังสือ – กาแฟ/ชา ☕
•09:30 ห้องซ้อม – ตั้งโปรเจกเตอร์
•10:00 ซ้อมใหญ่
•13:30 เช็กสคริปต์รอบสุดท้าย
•15:00 พรีจริง
เขามองตารางแล้วเผลอยิ้มง่าย ๆ รู้ว่าอะไรก็อาจเปลี่ยน แต่แผนชัด ๆ แบบนี้ทำให้ใจนิ่ง และคนที่สอนให้เขารู้จักคำว่า “นิ่ง” ก็อยู่ในรายการนั้นด้วย
ก่อนปิดไฟ เขาเห็นผ้าเช็ดหน้าสองผืน…ผืนเก่าบนหัวเตียง และผืนใหม่ในกระเป๋าเสื้อ เขาหยิบผืนใหม่ออกมาวางทับบนผืนเก่า เหมือนวางความหมายซ้อนกันเบา ๆ 🤍 แล้วหลับตา ปล่อยลมหายใจช้าลงโดยไม่ต้องฝืน
🔆 เช้าใหม่ฟ้ายังหม่น
แต่เบากว่าคืนก่อน 🌥️ วายุแวะร้านตามสัญญา ซื้อชาดำเย็นให้สายธาร ☕ กาแฟดำเย็นให้ภาคิน และขนมปังสำหรับตัวเอง เขาวางแก้วบนเคาน์เตอร์ แม่ของสายธารยิ้ม “ขอบใจนะลูก” เขายกมือไหว้ตอบสั้น ๆ “ยินดีครับป้า” แล้วรีบไปมหาวิทยาลัย
เก้าโมงครึ่ง โต๊ะซ้อมพร้อม สายธารเปิดไฟล์สคริปต์เวอร์ชัน “final_final_really” 😂 วายุตั้งโปรเจกเตอร์ไล่แสงให้ตรงผนัง ภาคินหยิบมือถือขึ้นจับเวลา “สาม…สอง…หนึ่ง—เริ่ม”
รอบใหญ่ไหลลื่นกว่าที่คิด ไม่มีสะดุด ไม่มีมือสั่น เสียงทั้งคู่เข้าจังหวะเหมือนซ้อมวงดนตรีมานาน 🎶 “ความซ้ำที่ไม่เจ็บ” เชื่อมเข้ากราฟแบบไม่ยัดเยียด ภาคินในฐานะผู้ฟังจำลองยังแอบทึ่งเอง
พักสิบห้านาที สายธารนั่งลง หอบเบา ๆ วายุพิงผนัง ดื่มน้ำ ปล่อยแขนสบาย ๆ สบตากันโดยไม่พูดคำว่า “ตื่นเต้น” หรือ “กลัว” แต่สายตาบอกตรงกัน เราอยู่ข้างกันนะ 🤍
ภาคินแซวเบา ๆ “ใจเย็น ๆ พ่อแม่โปรเจกต์” ทั้งคู่หัวเราะพร้อมกัน หายใจลึก แล้วลุกขึ้นพร้อมกันเมื่อถึงเวลา
🔆 บ่ายต้น ๆ
หน้าห้องประชุมคนเริ่มทยอยมา เสียงรองเท้า เสียงประตู เสียงกระซิบ กลายเป็นเพลงพื้นหลังของเวทีเล็ก ๆ ที่จะตัดสินค่ำคืนหลายสัปดาห์ 💡 สายธารรัดผมใหม่ให้แน่น วายุลองรีโมทสไลด์อีกครั้ง เขาหันไปถามเธอ
“พร้อมไหม”
“พร้อม” เธอตอบสั้น ๆ แต่ในใจยาวกว่านั้น—พร้อม เพราะไม่ได้ยืนคนเดียว 🙂
ภาคินชูนิ้วโป้ง “ลุย!”
ทั้งคู่ก้าวขึ้นเวที ไฟขาวนวลตกพอดี ไม่มีเงาบังกราฟ วายุเปิดด้วยเสียงมั่นคงกว่าทุกครั้ง สายธารต่อด้วยเสียงนิ่งและชัด ทุกจังหวะเงียบถูกใช้พอดีเหมือน “ช่องว่างที่มีค่า” ⏳
ถึงสไลด์สุดท้าย วายุพูดประโยคที่พวกเขารักที่สุด
“เราเชื่อว่าความไว้ใจไม่ใช่คำสัญญาใหญ่ ๆ แต่เป็นการซ้ำที่ไม่เจ็บในเรื่องเล็ก ๆ และการยอมรับว่าคนตรงหน้าเป็นคนจริง ๆ”
สายธารยิ้มบาง ๆ เหมือนยิ้มให้ทั้งคำของเขาและของเธอ
เสียงปรบมือดังขึ้น 👏 ไม่ดังลั่น แต่ยาวและอุ่นพอให้ใจสบาย ทั้งคู่โค้งเล็ก ๆ มองหน้ากันสั้น ๆ ก็พอจะรู้—เราทำสำเร็จแล้ว
หลังลงเวที ภาคินพุ่งเข้ามากอดวายุแบบมวยปล้ำ “สุดยอดดด!” 😂 แล้วหันไปชนไหล่สายธาร “แม่ทีมเก่งที่สุด!” เธอหัวเราะ ตอบกลับด้วยคำคุ้น “ทีมเราต่างหาก”
อาจารย์เข้ามาชื่นชม บอกข้อปรับเล็ก ๆ สำหรับรายงานฉบับส่งพรุ่งนี้ ทั้งคู่ตั้งใจฟัง จดไว้ แล้วผ่อนลมหายใจพร้อมกันอีกครั้งเมื่อทุกอย่างคลาย 🌿
🌒 ช่วงเย็น
ฟ้าเริ่มเปิด 🌤️ ฝนหยุดสนิท ลมหลังฝนพัดเย็นจนไม่ต้องพึ่งแอร์ วายุเดินไปส่งสายธารที่หน้าตึกเหมือนทุกครั้ง แต่คราวนี้ก้าวช้ากว่าปกติ เพราะไม่มีอะไรเร่ง นอกจากความเงียบที่สบายใจ
“ขอบคุณนะ” สายธารเอ่ยก่อน “สำหรับทั้งหมดเลย”
“กูก็ต้องขอบคุณเหมือนกัน” วายุตอบ เสียงเรียบแต่ตาอุ่น “โดยเฉพาะ…ตอนที่เธอไม่ต้องพูดอะไร”
เธอยิ้ม พยักหน้า “คืนนี้นอนยาวได้แล้วนะ”
“อือ นอนยาว” เขาพยักหน้า แล้วพูดเบา ๆ “ถ้ามีฝัน ก็น่าจะเป็นฝันดี” 🌙
เธอเหลือบมอง ไม่ตอบ แต่มุมปากยกขึ้นนิดเดียว พอดีกับลมเย็นที่พัดผ่าน เหมือนจักรวาลตั้งเวลาให้ภาพปิดของวันคือรอยยิ้มเล็ก ๆ สองรอย ที่ไม่ต้องอธิบายอะไรเยอะ 🙂
สำหรับวายุ ระหว่างเดินกลับที่จอดรถ หัวใจยังเต้นเร็วหน่อย ๆ แค่คิดถึงจังหวะ “เฉียด” ตอนส่งปากกา แต่ความรู้สึกหลังจากนั้นไม่ใช่เก้อ ไม่ใช่กลัว มันกลับนิ่ง…แต่มีไฟอุ่น ๆ อยู่ใต้ผิว เหมือนแรงดึงดูดเริ่มทำงานของมันเงียบ ๆ ไม่เร่ง ไม่ดัน และไม่ทำให้ใครพัง
🌒 คืนนี้
ไม่มีคำใหญ่ ไม่มีสารภาพ ไม่มีอะไรเกินกว่า “เก็บ” และ “โอเค” ✅
แต่ในความเงียบที่ไม่อึดอัดนั้น มีเสียงหัวใจสองดวงที่เริ่มเข้าจังหวะเดียวกันมากขึ้นทีละนิด
!…แบบที่เลี่ยงไม่ได้แล้วจริง ๆ 🤍
◟✦✩‧₊˚ ˗ˏˋ ♡ ˎˊ˗ ⟡ ⑅◡̈