📚 ⟡ ⑅◡̈ 𓇥 ✩‧₊˚
บ่ายวันอาทิตย์ 🌤️
ห้องสมุดกลางชั้นสองเงียบสงบ แสงส้มอ่อน ๆ ส่องผ่านหน้าต่างยาว 🌇 เงาใบไม้จากต้นก้ามปูด้านนอกไหวตามลม 🌿 สายธารมาถึงก่อนเวลา วางกระเป๋าผ้าลง เปิดโน้ตบุ๊ก 💻 แล้วเช็กเอกสารรอบสุดท้ายสำหรับรายงานเล่มใหญ่ 📑 งานที่อาจารย์เรียกว่า “การบ้านกึ่งวิจัย” ที่จะปิดเทอมนี้ให้สมบูรณ์
บนขอบจอ มีโพสต์อิทสีเหลืองเรียงเหมือนขั้นบันได 🟨
– “รวบสรุปบท 2”
– “ตรวจเชิงอรรถ”
– “อัปโหลดไฟล์ภาพความละเอียดสูง”
ทุกใบเป็นลายมือของเธอ ✍️ เรียบง่าย ชัดเจน เหมือนราวจับให้ก้าวทีละขั้น 🪜
ไม่นาน วายุก็เดินเข้ามา 🚶♂️ กลิ่นแดดติดปลายผม เสื้อยืดสีเข้มกับแจ็กเก็ตยีนส์พาดบนไหล่ซ้าย 🧢 หมวกแก๊ป ST ห้อยกับกระเป๋ายังเป็นลายเซ็นเหมือนเดิม เขาวางขวดน้ำสองขวดบนโต๊ะ 💧หนึ่งของเขา อีกขวดเลื่อนให้เธอ เสียง “กึก” เบา ๆ ดังคุ้นเคย
“เริ่มด้วยเช็กลิสต์ไหม” วายุถามเสียงนุ่ม ๆ
“เริ่มเลย” สายธารยิ้มบาง 🙂 “วันนี้เก็บงานท้าย ๆ ให้เนี๊ยบ ไม่ต้องคิดสูตรใหม่”
“ดี ถนอมสมองก่อนสอบ” เขานั่งลง เว้นระยะพอดีเหมือนเส้นบรรทัด 📏 “ส่วนกราฟฉันปรับคมหมดแล้ว เหลือแค่อธิบายใต้ภาพ”
“โอเค เดี๋ยวฉันช่วยตรวจคำ” เธอเปิดเอกสารรวม 📑 “บทนำเล็ก ๆ เรื่อง ‘ทำไมเราถึงเชื่อว่าความสัมพันธ์ออกแบบได้’ ฉันแก้คำซ้ำไปนิด ตอนนี้ลื่นขึ้นแล้ว”
วายุพยักหน้า แล้วหยิบหูฟังมาเกี่ยวไว้ข้างหนึ่ง 🎧 อีกข้างปล่อยว่างเหมือนเผื่อไว้สำหรับเสียงของเธอ “โอเค ทำเป็นบล็อก ๆ”
เสียงคีย์บอร์ดเริ่มดัง คลิก–คลิก–ตึก–ตึก ⌨️ จังหวะสม่ำเสมอเหมือนเครื่องจักร วัยรุ่นสองคนก้มหน้ากับเอกสารคนละชุด 📑 แต่เหมือนกำลังต่อจิ๊กซอว์ภาพเดียวกัน 🧩 ทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้น สายตาก็เจอกันโดยไม่ตั้งใจ 👀
ผ่านไปยี่สิบนาที ⏰ สายธารยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้วผ่อนลมหายใจช้า ๆ 💧 “วายุ”
“หืม”
“เรื่องเรียนต่อ เธอคิดยังไง” เธอถามในจังหวะพักสายตา “หลังจบปีสี่แล้ว อยากต่อโทไหม”
วายุเลิกคิ้วนิดหน่อย 🤔 เหมือนสมองเปลี่ยนจากโครงงานมาเป็นเส้นทางข้างหน้า “ยังไม่เคยตอบใครแบบจริงจังนะ” เขากดนิ้วกับขอบโต๊ะ “แต่ถ้าให้พูดตรง ๆ…ฉันอยากทำงานก่อน”
“เพราะอะไรล่ะ”
“อยากจับเครื่องจริง” เขาหัวเราะในคอเบา ๆ 😅 “ชอบเวลามือเลอะแล้วสมองโล่งขึ้น” เขาขยับนิ้วเหมือนบิดน็อตในอากาศ 🔩 “ถ้ารู้ทางชัด ๆ ค่อยต่อโท อาจเป็นด้านระบบควบคุม หรือวัสดุที่ทนสภาพเปลี่ยนแรง ๆ ได้”
สายธารพยักหน้า 🙂 “เหมือนเลือกลงสนามก่อน แล้วค่อยกลับไปอ่านตำราอีกที”
“ใช่ ลงสนามก่อนจะรู้ว่าหน้าไหนควรอ่านซ้ำ หน้าไหนฉีกทิ้งได้” วายุยิ้มมุมปาก 😏 “แล้วเธอล่ะ อักษรฯ คิดจะไปต่อยังไง”
“ถ้าตามแผนของฉันนะ อยากต่อโทภาษาศาสตร์ประยุกต์ หรือไม่ก็ศึกษาวรรณกรรมร่วมสมัย 📚 แต่ยังไม่รีบตัดสินใจ ขอลองทำงานร้านที่บ้านไปด้วยก่อน”
“งานร้านนี่จริงจังกว่าที่คนคิดนะ” วายุเอียงหัว 🤔 “เธอเหมือนผู้จัดการโครงการหนังสือเลย”
“ก็คล้าย ๆ” สายธารหัวเราะ 😂 “ต้องเลือกเล่ม จัดวาง ตอบลูกค้า คุมสต็อก บางวันก็นอนดึกเพราะมีงานอ่านบทกวี”
“แล้วก็ต้องคุมอุณหภูมิหัวใจตัวเองด้วย” เขาพูดเสริมเบา ๆ 💓
สายธารชะงักนิดหนึ่ง แต่ยิ้มตอบกลับ 🙂 “ใช่…อันนั้นยากสุด”
บรรยากาศบนโต๊ะค่อย ๆ เปลี่ยนจาก “โต๊ะทำงาน” เป็นเหมือน “โต๊ะครัวที่คุยกันได้” 🍳 โดยไม่มีใครบอก ทั้งคู่กลับไปพิมพ์ต่อเหมือนไม่มีอะไร แต่คำถามเล็ก ๆ ก็เริ่มเปิดบทสนทนาขึ้นมาเรื่อย ๆ
“ถ้าสมมุติเลือกเมืองหนึ่งไปอยู่ได้หนึ่งปี ไม่ต้องคิดเรื่องเงิน เธอจะเลือกที่ไหน” วายุถามตอนกดเซฟไฟล์ 💾
สายธารคิดแป๊บเดียว “เกียวโตหน้าฝน” เธอตอบทันทีจนตัวเองแปลกใจ 🌧️ “อยากฟังเสียงฝนจากศาลาไม้ อยากนั่งอ่านหนังสือใต้ระเบียงยาว ๆ กลิ่นไม้ชื้น…น่าจะดี” 📖
“อืม เกียวโตหน้าฝน” เขาทวนเบา ๆ เหมือนซ้อมดนตรี 🎶 “แล้วถ้าเป็นฉัน…น่าจะเลือกไทเปช่วงต้นใบไม้ผลิ 🌱 เมืองชื้นอุ่น ๆ ร้านชาซอยเล็ก ๆ 🍵 ผสมกับร้านซ่อมมอไซค์ริมถนน 🛵 สองโหมดในที่เดียว”
“สองโหมดในคนเดียว” เธอเผลอพูดออกมาเบา ๆ 😳 ก่อนจะยิ้มแก้เขิน “หมายถึง…มันเข้ากับนายดี” 🙂
วายุไม่แซว แค่ยิ้ม 🙂 “แล้วถ้าพูดถึงความฝัน ไม่ต้องใหญ่ แต่ชัด ๆ เธอมีไหม”
สายธารเลื่อนเมาส์ช้าลง 🖱️ “อยากทำร้านหนังสือให้เป็นที่พักของเสียงอ่าน…ที่ไม่ต้องดัง 📚 ให้คนแวะมานั่ง แล้วใจเบาลงนิดหนึ่ง พอจะนอนหลับได้ดีขึ้นในคืนนั้น แค่นั้นก็พอ”
วายุฟังเงียบ ๆ เหมือนกลัวทำคำหล่นจากมือ 🤲 “ฉันชอบคำว่า ‘เสียงอ่านที่ไม่ต้องดัง’” เขาวางปากกาลง ✍️ “ส่วนฉัน…อยากทำเวิร์กช็อปให้เด็กมัธยมได้จับเครื่องมือจริง 🔧 ไม่ใช่แค่วาดรูปในสมุด อยากให้พวกมันรู้ว่าตัวเองข้องกับแรง เสียง กลิ่นน้ำมันยังไง โดยไม่ต้องรอถึงมหาลัย”
“นั่นก็เป็นที่พักอีกแบบหนึ่งนะ” เธอยิ้ม 🙂 “ที่ให้เด็กวุ่น ๆ ได้หายใจ โดยมีเสียงเครื่องจักรเป็นเมโทรนอม” ⚙️🎶
“ชอบคำนี้” เขาพยักหน้า “มีเครื่องจักรเป็นเมโทรนอม” 🛠️
มือทั้งคู่กลับไปพิมพ์งาน ⌨️ แต่บทสนทนาก็ยังเดินคู่ไปกับบรรทัด เหมือนไหลไปเรื่อย ๆ ไม่เร็ว ไม่ช้า 🌊
สาย ๆ มินตราแวะมาทัก 😊 เธอยื่นชานมให้สายธาร 🧋 ยื่นน้ำเปล่าให้วายุ 💧 “อย่าลืมกินด้วย” แล้วมองโต๊ะก่อนหัวเราะ “โหมดบ้านนี้มันอบอุ่นดีเนอะ”
“บ้านไหน” วายุถาม 🤨
“บ้าน ‘ทำงานแล้วคุยเรื่องอนาคต’ ไง” มินตราทำเสียงล้อ 😆 “ฉันไปก่อน เดี๋ยวเข้าคาบพิเศษสาย” แล้วเดินออกไป ทิ้งกลิ่นน้ำหอมสดชื่นไว้แวบหนึ่ง 🍃
บ่ายคล้อย 🌤️ งาน “การบ้านกึ่งวิจัย” ใกล้เสร็จสมบูรณ์ สายธารสไลด์หน้าจอขึ้นลง 📑 ตรวจการจัดย่อหน้า วายุเลื่อนดูคำอธิบายใต้กราฟ 📊 เปลี่ยนจากคำว่า “ผลกระทบ” เป็น “สิ่งที่ตามมา” ให้ฟังง่ายขึ้น
“ถามอีกเรื่องได้ไหม” วายุเปลี่ยนท่าจับปากกา ✍️ “ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร”
“ลองถามก่อน” สายธารเงยหน้าขึ้น 🙂
“เธอเคยคิดไหมว่าความไว้ใจ…สร้างจากอะไร” เขาถามพลางมองขอบจอ ไม่ตรงตา
สายธารเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบช้า ๆ 💭 “จากความซ้ำที่ไม่เจ็บ ซ้ำแบบเดิมที่ดี เช่น บอกว่าจะมาแล้วมากันจริง ๆ โทรมาแล้วฟังจริง ๆ ทำแล้วรับผิดชอบกับผลของมัน ไม่ต้องว้าว แต่ไม่หายไปตอนปัญหาเกิด”
วายุยิ้มมุมปากเล็กน้อย 🙂 “ความซ้ำที่ไม่เจ็บ…โอเค จำไว้ใช้” แล้วพึมพำ “ตอนเด็ก ๆ กูรู้จักแต่ ‘ความซ้ำที่เจ็บ’ เยอะไปหน่อย โตมาก็เลยต้องหัดภาษาความไว้ใจใหม่”
“แต่ตอนนี้นายพูดได้ชัดแล้วนะ” เธอบอกจริงใจ ❤️
“ก็เพราะมีครูดี” เขายักคิ้วนิดหนึ่ง 😉 แล้วรีบก้มหน้า พยายามไม่ให้หลุดกวนเกินโควตา
ความเงียบที่ตามมาไม่ได้อึดอัด 🎶 มันเหมือนช่วงเว้นวรรคในเพลงที่ทำให้โน้ตถัดไปชัดขึ้น สายธารยกน้ำขึ้นดื่ม 💧 ส่วนวายุก็พลิกหน้าสมุด ฉีกขอบกระดาษที่คดงอออก ✂️ ทั้งสองเหมือนเครื่องจักรที่เข้าจังหวะเดียวกันโดยไม่ต้องส่งสัญญาณ
“แล้วความฝัน…” สายธารถามต่อในธีมเดิม “ถ้าฝันใหญ่หน่อย แบบมองตัวเองอีกห้าปี เธอเห็นภาพอะไร” 🌱
วายุมองออกนอกหน้าต่าง 🌤️ เห็นใบไม้สั่นกับแสงที่ไหลบนพื้น “ฉันเห็นตัวเองตื่นเช้าในห้องที่มีหน้าต่างจริง เปิดลมเข้าได้ 🌬️ ไม่ใช่ช่องแสงปลอม ๆ เห็นโต๊ะยาวที่มีรอยขีดเขียนเต็มไปหมด ✍️ เห็นกีตาร์พิงมุมห้อง ที่ถูกเล่นจริงไม่ใช่แค่ตั้งโชว์ 🎸 และเห็นข้อความในโทรศัพท์ที่ไม่ทำให้หัวใจหล่นทุกครั้งเวลาแจ้งเตือน 📱…เพราะคนในนั้นไว้ใจกัน”
คำสุดท้ายตกลงบนโต๊ะเงียบ ๆ แต่มีน้ำหนักกว่าตัวอักษร 🪶 สายธารไม่ได้ถามว่า “คนในนั้นคือใคร” เธอแค่เก็บภาพนั้นไว้ในใจ เหมือนคนหยิบบุ๊กมาร์กคั่นหน้า 📖 โดยไม่เขียนชื่อบท
“แล้วเธอ อีกห้าปีล่ะ” เขาถามกลับ
“ร้านหนังสือที่โตขึ้นนิดหน่อย 📚 มีชั้นไม้ที่พ่อทำเอง ฉันลงแวกซ์เอง มีเวทีเล็ก ๆ สำหรับเสียงอ่านยามค่ำ 🎤 มีโต๊ะเขียนหนังสือที่หันหาหน้าต่าง รับแสงพอดี ไม่แยงตา 🌞 มีป้ายกระดาษเขียนด้วยลายมือว่า ‘วันนี้เราอยู่’ แขวนไว้หน้าประตู 🚪” เธอยิ้มบาง 🙂 “และมีโพสต์อิทเล็ก ๆ ติดตู้เย็นว่า ‘STAY OK’” 📝
วายุชะงักไปนิด ก่อนหัวเราะเบา ๆ 😊 เสียงหัวเราะแบบไม่กวนใคร “อันสุดท้าย…ฉันรู้จักดี”
“ฉันก็เห็นมันบ่อยอยู่เหมือนกัน” สายธารตอบเรียบ ๆ แต่ในหัวดันย้อนภาพห้อง 1207 แม่เหล็กตัวอักษรที่เอียงนิด ๆ บนกรอบรูปแตก 🧲🖼️
บ่ายแก่ แสงเริ่มเอน 🌤️ เงาใบไม้ยาวขึ้นบนพื้น 🌿 ห้องสมุดมีคนน้อยลง พนักงานเวรเย็นเดินผ่านพร้อมไม้ถูพื้น 🧹 เสียงผ้าชื้นลากไปทำให้โต๊ะมุมนี้เหมือนเกาะเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ 🌊
“พักห้านาที” สายธารประกาศตามกฎของเธอ “ยืดไหล่ ดื่มน้ำ” 💧
วายุทำตามทันที ไม่ต้องบอกซ้ำ 🙆♂️ เขายืดแขน หมุนข้อมือสองรอบ แล้วเอนหลังกับพนักเก้าอี้ มองเพดานแป๊บหนึ่ง ก่อนหันกลับมา “ถามอะไรได้อีกไหม คราวนี้เรื่องเรียนต่อแบบไกล ๆ”
“ว่าเลย”
“ถ้าวันหนึ่งเธอได้ทุนไปเมืองที่ฝัน แล้วร้านที่บ้านล่ะ”
“เราวางระบบไว้แล้ว” เธอตอบเร็วเหมือนคิดไว้ก่อน 📚 “พ่อทำงานไม้ แม่ดูชงชา ฉันจัดหนังสือกับกิจกรรม ถ้าฉันไปจริง จะทำคู่มือละเอียดตั้งแต่สั่งหนังสือจนถึงเปิด–ปิดไฟ แล้วตั้งวิดีโอคอลอ่านบทกวีกลับมาที่ร้านเดือนละครั้ง” 💻✨
“ทำเหมือนคุมสองบ้าน สองโปรเจกต์เลย” วายุยิ้ม 🙂 “ฟังดูเหมือนเธอ จัดการทุกอย่างเป็นระบบจนความคิดถึงยังอยู่ในแผน”
สายธารหัวเราะ 😂 “ไม่งั้นเครื่องรวนแน่ ฉันกลัวเครื่องรวนที่สุดแล้ว”
วายุพยักหน้าเบา ๆ 👌 สายตาคมแต่มีความอ่อนอยู่ข้างใต้ “ฉันก็กลัวเครื่องรวนเหมือนกัน…ทั้งเรื่องงาน ทั้งเรื่องคน”
คำว่า “คน” ทำให้สายธารรู้สึกเหมือนห้องลดอุณหภูมิลงครึ่งองศา ❄️ เธอเปลี่ยนจากถือแก้วน้ำมาเป็นปากกา ✍️ เพื่อให้มือมีอะไรทำ “แล้วถ้าเครื่องรวน เธอทำยังไง”
วายุคิดแป๊บหนึ่ง “หยุดเครื่องก่อน เหมือนตอนกูยกมือปิดปากตัวเองเวลาคำจะไหลเกิน 🤐 แล้วค่อยเปลี่ยนอะไหล่ทีละชิ้น ไม่ใช่โยนทั้งเครื่องทิ้ง”
“ดีมาก” เธอยิ้มบาง ๆ “วิธีที่โตแล้ว” 🌱
เขาหันมามองเธอแวบหนึ่ง ก่อนเผลอพูดออกมาเอง “ฉันไม่เคยคุยได้นานแบบนี้กับใคร” 🫢
เสียงรอบข้างเหมือนถูกหรี่ลงทันที 🔇 สายธารสะดุ้งเล็ก ๆ ในใจ ❤️ หัวใจเต้นแรงกว่าปกติหนึ่งจังหวะ ริมฝีปากคลายวาวเหมือนมีไฟเล็ก ๆ วางไว้ใต้ผิว 🔥
วายุเองก็รู้ว่าเพิ่งทำเหมือนแก้วใสหล่นกลางโต๊ะ 🫗 เขาหัวเราะเก้อ ๆ เอามือเกาหลังคอ 😅 “เอ่อ…หมายถึง ปกติถ้าคุยนาน ฉันจะกลายเป็นกวนจนอีกฝ่ายเบื่อ แต่กับเธอ…มันเหมือนเครื่องขัดเงาคำ ทำให้คำที่ฉันพูดไม่หนาเกิน”
“เข้าใจ” สายธารวางปากกาลง ✍️ รู้สึกถึงแรงสั่นบาง ๆ ในอกที่ไม่ใช่ความตื่นเต้นเล่น ๆ เธอตั้งสติแล้วถามกลับ “แล้วกับคนอื่น ทำไมคุยนานไม่ได้”
“เพราะฉันชอบใส่มุกหนีความจริง” เขาพูดตรง ๆ 🗨️ “หรือไม่ก็ชนให้ดังแล้วจบที่ทะเลาะ แต่กับเธอ…เธอไม่วิ่งตามคำที่ฉันโยนหลบ เธอยื่นบันไดให้ลงจากที่สูง แล้วปล่อยให้ฉันเลือกเองว่าจะลงหรือยัง” 🪜
คำอธิบายนั้นทำให้คอของสายธารอุ่นขึ้นช้า ๆ ☕ เหมือนชาอ่อนที่เพิ่งชง เธอไม่อยากทำให้มันกลายเป็นฉากใหญ่ จึงหันกลับไปที่โน้ตบุ๊ก คลิกไล่เช็กลิสต์ต่อ 💻 “เราใกล้เสร็จแล้วนะ เหลืออัปโหลดรูปความละเอียดสูง กับตรวจเชิงอรรถ”
“รับคำสั่งหัวหน้า” วายุถอนหายใจเบา ๆ 😌 เหมือนเพิ่งยอมรับว่าตัวเองเผลอพูดความจริงเกินกว่าที่ตั้งใจ แต่ก็ไม่คิดจะถอนคำพูด
ทั้งคู่กลับไปทำงานด้วยความเงียบที่อุ่นกว่าเดิม 🤫 ความเงียบนี้ไม่ใช่กำแพง แต่เหมือนผ้าห่มบาง ๆ ที่คลุมโต๊ะไว้ ให้เสียงคีย์บอร์ดดังชัดขึ้น ⌨️ ให้เสียงน้ำในขวดเบาลง 💧 และให้หัวใจเต้นโดยไม่ต้องซ่อน ❤️
สายธารตรวจเชิงอรรถทีละเลข 🔎 ตาไล่ตามตัวพิมพ์เล็กจนเริ่มสัมผัสได้ถึงความสมบูรณ์ที่ใกล้เสร็จ เธอกดอัปโหลดไฟล์ภาพขึ้นคลาวด์ทีละชุด ☁️✔️ สถานะ “Completed” สีเขียวขึ้นเรียงเหมือนไฟถนนที่ติดทีละดวงในคืนมืด 🌃
วายุเช็กคำอธิบายใต้กราฟสุดท้าย 📊 ใส่คำในโทนง่าย ๆ ตามที่เรียนจากเธอ ก่อนกดเซฟสองครั้งตามนิสัยใหม่ 💾 “เรียบร้อย” เขาบอกเบา ๆ “กดส่งเลยไหม”
สายธารหันจอให้เขาดูหน้าอีเมลที่พิมพ์ไว้แล้ว 📩 “กดพร้อมกัน” เธอยิ้มบาง 🙂
“หนึ่ง…สอง…สาม” ทั้งคู่คลิก “ส่ง” พร้อมกัน ✨ เสียง “ติ๊ง” เล็ก ๆ ดังจากโน้ตบุ๊ก เหมือนเลขาน้อยที่บอกว่าข้อความออกเดินทางแล้ว
ทั้งสองเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนปล่อยลมหายใจยาวเกือบพร้อมกัน 😮💨 วายุก้มหน้าหัวเราะ เอาหลังมือปิดปากตามนิสัย 😅 “ผ่านอีกด่าน”
“ผ่าน” เธอตอบสั้น ๆ แต่สายตาอ่อนโยนกว่าเสียง 🌷
พนักงานเวรเย็นเดินมาบอกว่าอีกสิบห้านาทีห้องสมุดจะปิด ⏰ ทั้งคู่เก็บของอย่างคล่อง วายุพันสายชาร์จให้เรียบร้อย 🔌 สายธารปิดฝาปากกาคลิกเดียว ✍️ เธอหยิบโพสต์อิทที่เหลือมาติดรวมกันเป็นคำว่า “DONE” แล้วหัวเราะกับความเชยของตัวเอง 🟨✅
ออกมาที่ระเบียงข้างตึก 🌬️ ลมเย็นพัดผ่านราวเหล็ก ฟ้าเปลี่ยนเป็นสีม่วงคราม 🌌 ดาวเล็ก ๆ เริ่มปรากฏ เมืองด้านล่างค่อย ๆ เปิดไฟเหมือนมีคนโรยเกลือลงหม้อซุปทีละนิด 🍲💡
“เดี๋ยวไปส่งถึงหน้าตึก” วายุพูดเรียบ ๆ
“ได้” เธอตอบง่าย ๆ 🙂
ระหว่างเดินลงบันได 👣 เสียงรองเท้าแตะขั้นดัง “ตึก ตึก” สม่ำเสมอ เหมือนจังหวะที่เปิดทางให้บทสนทนาไหลต่อได้
“เมื่อกี้ที่ฉันพูด…เรื่องไม่เคยคุยนานกับใคร” วายุเอ่ยเบา ๆ เหมือนอยากทบทวน 🗨️ “ไม่ได้ตั้งใจให้เธอลำบากใจนะ”
“ไม่ลำบาก” สายธารส่ายหน้า 🙂 “แค่…ได้ยินแล้วใจมันเงียบลง”
“แปลว่าอะไร”
“แปลว่าเราคงคุยกันต่อได้อีกนาน…ในฐานะเพื่อนร่วมงานที่ดีมาก” 👫 เธอจงใจเติมท้าย เพราะยังอยากให้มีชื่อเรียกที่ปลอดภัย
วายุรับฟัง ไม่เถียง แค่พยักหน้า “โอเค เพื่อนร่วมงานที่คุยได้นาน”
ถึงหน้าตึก 🌃 ลมค่ำพัดผมเธอปลิวเบา ๆ 🍃 เขายืนห่างพอดี เว้นระยะที่เธอเคยขีดไว้ในใจ โดยไม่ต้องบอกซ้ำ
“พรุ่งนี้เธอว่างตอนเย็นไหม” เขาถาม “ค่ายมวยเลิกช้าขึ้นฉันน่าจะผ่านร้าน” 🥊
“ว่าง” เธอตอบเร็วกว่าที่เหตุผลทันคิด “แวะได้”
“งั้น…เจอกันพรุ่งนี้” เขายกมือแตะปีกหมวกแก๊ปในกระเป๋า 🧢 เหมือนเคาะประตูสองที “ขอบคุณสำหรับวันนี้”
“เหมือนกัน” เธอตอบยิ้มบาง ๆ 🙂
เขาถอยหนึ่งก้าว ก่อนหันหลังเดินออกไป 🚶♂️ เงาหลังผอมสูงทอดยาวบนพื้นคอนกรีต ไหล่ซ้ายที่เคยตึงเหมือนปล่อยสบายขึ้น แม้เขาเองจะยังไม่รู้ตัว สายธารมองตามจนร่างนั้นเลี้ยวหายไปตรงมุมตึก
เธอยืนอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง 🌌 หายใจตามจังหวะลมที่พัดผ่านกำแพง เธอยกมือแตะแก้มตัวเองเบา ๆ 🫶 ไม่ได้ร้อนแรงเหมือนวันก่อน แต่ยังอุ่นพอดี…เหมือนชาแก้วที่กำลังดื่มได้ ☕
ขากลับ 🏪 สายธารแวะร้านสะดวกซื้อ ซื้อขนมปังสองชิ้นให้พ่อแม่ 🍞 กลับมาถึงร้านพอดีกับที่พ่อกำลังปิดไฟครึ่งหนึ่ง แม่เก็บเครื่องชงชา 🍵 เธอช่วยจัดชั้นหนังสือเร็ว ๆ ก่อนขึ้นห้อง
โต๊ะไม้เล็ก ๆ รออยู่ตรงหน้าต่าง 🪟 โคมไฟสีอบอุ่นถูกเปิดอีกครั้ง 💡 สมุดบันทึกเล่มเก่าถูกวางลงตรงกลาง 📓 เธอนั่งลง หยิบปากกา แต่คราวนี้ไม่ได้เริ่มด้วย “สรุปงาน” เธอเริ่มด้วย “บทสนทนา”
✍️
“วันนี้ การบ้านกลายเป็นบทสนทนา
เราคุยเรื่องเรียนต่อ เมืองที่อยากไป ร้านที่อยากมี ห้องที่มีหน้าต่างจริง
เราพูดถึงความซ้ำที่ไม่เจ็บ ถึงเมโทรนอมของเครื่องจักร ถึงโพสต์อิท STAY OK
เขาพูดว่า ‘ไม่เคยคุยได้นานแบบนี้กับใคร’
ฉันเงยหน้ามอง แล้วใจฉันเงียบก่อนจะเผลอยิ้มออกมา”
เธอวางปากกา ลูบหน้ากระดาษเบา ๆ 🤲 เหมือนคนลูบเส้นด้ายที่ถักแน่นขึ้นอีกหนึ่งห่วง จากนั้นหยิบโทรศัพท์ 📱 ส่งสติกเกอร์ “DONE” ไปในแชตรูปกล้วยหอมยิ้มถือธงจิ๋ว 🍌 ที่วายุมักใช้
ไม่กี่วินาทีต่อมา สติ๊กเกอร์เดียวกันก็เด้งกลับมา ✅ ตามด้วยข้อความสั้น ๆ
Vayu: คุยดีจังวันนี้
Saitharn: อือ คุยดี
Vayu: ฝันดีนะหัวหน้า
Saitharn: ฝันดี 🌙
เธอปิดหน้าจอ วางโทรศัพท์คว่ำไว้ข้างสมุด 📓 หรี่ไฟลงครึ่งหนึ่ง เมืองด้านนอกสงบอย่างแปลก 🌌 เธอเอียงหน้าไปรับลมที่ลอดม่านเข้ามา 🍃 เสียงรถไกล ๆ บนถนนใหญ่ดังเป็นจังหวะเหมือนคลื่น 🌊 กลายเป็นเมโทรนอมให้เธอหายใจ
ไม่ใช่คำสัญญา ไม่ใช่ประกาศ ไม่ใช่คำว่ารักหรือยึดมั่น 💬 แค่บทสนทนาที่ค่อย ๆ เดินไปข้างหน้าช้า ๆ นาน ๆ ไม่รีบ ไม่หนี และไม่หายใจแรงเกินไป
สายธารปิดสมุด ก่อนปิดเธอเผลอวาดรอยยิ้มเล็ก ๆ ไว้ใต้บรรทัดสุดท้าย 🙂 แล้วลุกขึ้นปิดโคมไฟ เหลือเพียงแสงจาง ๆ จากหน้าต่าง 🌙 ก่อนทิ้งตัวลงบนเตียง
คืนนี้หัวใจไม่ได้สั่นแรงเหมือนคืนก่อน 💓 แต่มันสั่นเบา ๆ เป็นจังหวะคงเส้นคงวา เหมือนมีใครปรับรอบเดินเบาให้นิ่งขึ้น ในความมืด เธอเผลอยิ้มอีกครั้งยิ้มที่ออกมาเองโดยไม่ต้องตั้งใจ 🌷
และกับ “การบ้านที่กลายเป็นบทสนทนา” …บางทีนี่อาจเป็น “การบ้านของหัวใจ” ที่เธออยากทำต่อในวันพรุ่งนี้เหมือนกัน 💌
ꕀ .* ✴︎ • ·̭ •̥ ☃︎ ✿ 𖠚ᐝ