ตอนที่ 5 หย่าขาด ตัดความสัมพัน และอิสระนอกจวน

902 Words
"หรงหรง… เจ้าไม่เข้าใจ เจียวเมิ่งก็คือเจียวเมิ่ง เจ้าก็คือเจ้า ไม่สามารถมีผู้ใดแทนกันได้" ฉินเป่ยซวนกล่าวอย่างจนใจ จะให้เขาพูดสิ่งที่คิดออกมา เขาเองก็รู้ว่าทั้งมารดาและฟางหรงหรงคงไม่พอใจ เพราะนั่นเท่ากับการดูถูกบ้านเดิมของมารดาด้วย เมื่อตกลงกันไม่ได้ ลูกชายไม่ยอมหย่า ฟางไฉ่เย่วจึงได้ตัดสินใจเด็ดขาดเรียกเหวินเจียวเมิ่งมาหย่าเอง หากแม่สามีเป็นฝ่ายบังคับถึงอย่างไรนางก็ต้องหย่าเแน่ ไม่อย่างนั้นนางจะทำให้ลูกสะใภ้อยู่ในจวนอย่างทุกข์ทรมานเลย ว่าแล้วก็สั่งสาวใช้ให้ไปตามเหวินเจียวเมิ่งมาพบทันที ... "ที่ข้าเรียกเจ้ามาคุยวันนี้ เพราะต้องการให้เจ้าหย่ากับเป่ยซวนเสีย" ฟางไฉ่เย่วแม่สามีพูดโดยไม่อ้อมค้อม เหวินเจียวเมิ่งได้ยินก็โวยวายขึ้นมา "ข้าไม่หย่า ท่านแม่เองก็รู้ว่าผู้หญิงที่ถูกหย่าถือเป็นตราบาปทำให้โดนดูถูกและไม่มีผู้ใดมาสู่ขอ หากกลับจวนโหวก็จะเป็นที่ครหานินทาของชาวบ้าน หากว่าแยกออกไปอยู่คนเดียวก็จะมีชีวิตลำบากแสนสาหัส อีกอย่างข้าไม่สามารถทิ้งบุตรชายข้าให้อยู่ที่นี่อย่างโดดเดี่ยวได้ พวกท่านไม่ได้สนใจรักใคร่เขาเลยแม้แต่น้อย ข้าไม่หย่าเจ้าค่ะ" หากยอมหย่าง่าย ๆ นางคงไม่ได้อะไรแม้แต่น้อย ดีไม่ดี ไม่สามารถพาลูกชายออกไปด้วยได้ นางไม่มีทางยอมเด็ดขาด "เจ้าจะเอาอย่างไรก็ว่ามา ขอเพียงแต่เจ้ายอมหย่า จะเอาลูกชายไปอยู่ด้วยก็ได้ ขอแค่ให้พวกเจ้าไปจากจวนนี้เสีย ข้าต้องการเท่านี้" แม่สามีกล่าวตัดรำคาญ นางรู้อยู่แล้วว่าลูกสะใภ้คงไม่ยอมหย่าง่าย ๆ จึงตั้งเงื่อนไขขึ้นมา เมื่อแม่สามีพูดเช่นนี้ย่อมเข้าทางเหวินเจียวเมิ่งพอดิบพอดี นางแสร้งทำสีหน้าเศร้าแล้วบีบน้ำตา "หากท่านพ่อท่านแม่และท่านพี่ไม่ต้องการข้าแล้ว ข้าอยู่ที่นี่ต่อไปเกรงว่าจะมีแต่ความเสียใจ หากท่านแม่ยอมข้าสักหน่อย บางทีข้าอาจพอทำใจหย่าได้เจ้าค่ะ" "เจ้ามีข้อแม้อะไรก็ว่ามา" ฟางไฉ่เย่วไม่คิดว่าจะง่ายดายเช่นนี้ แม้จะดีใจแต่ก็ยังแสร้งถามออกไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย "ประการแรกข้าจะขอพาลูกชายไปด้วย พวกท่านเองก็ไม่สนใจเขาอยู่แล้ว ประการที่สองข้าต้องการสินเดิมของข้าคืนทั้งหมด ประการที่สามข้ายังต้องการเงินอีกจำนวนหนึ่งเพื่อที่จะเป็นค่าเลี้ยงดู อย่างน้อยอวี้เฉินก็เป็นหลานของท่าน หากว่าท่านแม่ให้ ข้าก็ยอมหย่าเจ้าค่ะ" เหวินเจียวเมิ่งดีใจจนอยากจะกระโดดทว่าก็ยังต้องแสร้งเสียใจและพูดเงื่อนไขออกมา หากให้ออกไปตัวเปล่าใครจะยอมล่ะ ฟางไฉ่เย่วนั่งนิ่งพิจารณาข้อแม้ของลูกสะใภ้อยู่พักใหญ่ ฟางหรงหรงเองก็ไม่กล้าคะยั้นคะยออะไร นางกลัวว่าพูดอะไรผิดไปเหวินเจียวเมิ่งจะไม่ยอมหย่า ในที่สุดเมื่อคิดดีแล้วแม่สามีก็ตอบตกลง "ได้ ข้าจะให้สินเดิมเจ้าคืนทั้งหมดกับเงินก้อนหนึ่ง หลังจากนี้เจ้ากับลูกชายของเจ้าก็ออกไปจากจวนนี้เสีย ทำหนังสือหย่าแล้วก็ทำหนังสือตัดขาดด้วยเลย เจ้าอย่าหวังจะพาลูกกลับมาเรียกร้องอะไรอีก!" เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม่สามีก็ให้คนเอาเงินกับสินเดิมของเหวินเจียวเมิ่งมาคืนให้ เหวินเจียวเมิ่งกับฉินอวี้เฉินพากันเก็บของใส่ห่อผ้าเตรียมตัวจะออกจากจวน แต่ยังไม่ได้ก้าวขาออกจากเรือน ฟางหรงหรงและสาวใช้สองสามคนก็เข้ามาขวางทางไว้ "จะมาขวางข้าทำไม ข้าจะไปแล้วเจ้ายังต้องการอะไรอีก" เหวินเจียวเมิ่งมองหน้าฟางหรงหรงอย่างเอาเรื่อง ในเมื่อนางยอมหย่าให้แล้วเหตุใดคนพวกนี้ถึงไม่พอใจสักที "เจ้ากับลูกไปได้ แต่ต้องทิ้งสมบัติทั้งหมดไว้ที่นี่" ฟางหรงหรงกล่าวขึ้นมาอย่างไร้ยางอาย นางแอบพาสาวใช้มาดักรอเพราะเสียดายสิ่งของเงินทองที่แม่สามีให้สองแม่ลูกจึงอยากเก็บทุกอย่างไว้เอง "สมบัติของข้าเจ้ามีสิทธิ์อะไรกัน หลีกไปเดี๋ยวนี้ หากว่าเจ้ายังกล้าขวางทางข้า ระวังเรื่องที่เจ้าวางยาพิษข้าคนจะได้รู้กันทั่วเมืองหลวงแน่!" เหวินเจียวเมิ่งข่มขู่อีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัว สายตาของนางจริงจังมากจนฟางหรงหรงรู้สึกกลัวมาก ยิ่งอีกฝ่ายพูดเรื่องยาพิษก็ยิ่งกังวล จำเป็นต้องถอยกลับไปเปิดทางให้สองแม่ลูกออกจากจวนไปแต่โดยดี เหวินเจียวเมิ่งกับลูกชายออกมาได้ก็เดินจูงมือกันอย่างมีความสุข นางดีใจที่สามารถพาบุตรชายออกมามีชีวิตใหม่ ด้วยจิตวิญญาณจากอีกโลกนางไม่เชื่อว่าจะอยู่ไม่ได้ ฉินอวี้เฉินเองก็ดีใจเช่นกันที่จะได้มีชีวิตอิสระไม่ถูกผู้อื่นรังแกอีกแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD