ตอนเช้าเสวี่ยหลี่น่าขับรถมาทำงานตามปกติ จากบ้านของเธอไปบริษัทชุนหวนใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงและถนนเส้นนี้เป็นเส้นที่เธอต้องขับผ่านประจำ เพราะเป็นเส้นทางที่ใกล้และสะดวกที่สุด ระหว่างทางมีโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งตั้งอยู่ รถมักจะติดที่นี่เล็กน้อยเนื่องจากมีผู้ปกครองมาส่งนักเรียนที่โรงเรียนทุกเช้า
จู่ ๆ ก็เกิดเหตุบางอย่าง มีความชุลมุนวุ่นวายระหว่างรถติดอยู่ที่หน้าโรงเรียน รถไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่วิ่งหนีตายกระจัดกระจายออกมา เพราะมีคนร้ายคนหนึ่งถือปืนเข้าไปยิงกราดในบริเวณโรงเรียนมิหนำซ้ำยังไม่หยุด เขาเดินตามมายิงคนที่วิ่งหนีออกมาข้างนอกอีกด้วย
ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก คนที่พาลูกมาส่งก็รีบจูงมือลูกวิ่งหนีให้ไกลที่จากพื้นที่นี้ให้มากที่สุด รถที่ติดอยู่ข้างหน้าขยับไม่ได้เลยทำให้เสวี่ยหลี่น่ากับรถอีกหลายคันติดแหงกอยู่ตรงนี้
ขณะนั้นมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมาแอบที่ข้างรถของเธอ หญิงสาวเห็นคนร้ายกำลังเดินมาทางนี้จึงพยายามช่วยให้เขาแอบขึ้นมาหลบในรถ แต่ว่าในตอนที่เธอหันไปบอกกับเด็กหนุ่มให้ขึ้นรถมานั้นคนร้ายก็เดินมาอยู่ที่หน้ารถของเธอแล้ว และดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจมากที่เสวี่ยหลี่น่ากำลังช่วยเหลือเด็กหนุ่ม พอเธอหันกลับมาก็พบกับสายตาดุดันเข้าพอดี มันกราดยิงเข้าไปในรถทันที เธอถูกห่ากระสุนหลายนัดเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ!
อีกด้านหนึ่งชายชราผมขาวก็รู้สึกเจ็บที่หน้าอกอย่างรุนแรง เขาล้มลงและจากไปเช่นกัน...
...
หลังจากที่สติดับวูบไปในความมืดมิด จู่ ๆ ความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาทำให้เสวี่ยหลี่น่าต้องหายใจเฮือกใหญ่และพยายามตื่นขึ้นมาทันที เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าที่นี่คือห้องที่เธอเคยฝันถึงเมื่อหลายวันก่อน แต่ยังไม่ทันได้กวาดสายตามองอย่างละเอียดฉับพลันความทรงจำต่าง ๆ ก็พรั่งพรูเข้ามาในหัวจนเสวี่ยหลี่น่าต้องหลับตาลงเพื่อทำความเข้าใจกับความทรงจำเหล่านั้น
เธอตายแล้ว ก็ถูกยิงพรุนขนาดนั้นคงไม่มีทางรอด และตอนนี้จิตวิญญาณเข้ามาอยู่ในร่างของหญิงสาวที่มีนามว่า ‘เหวินเจียวเมิ่ง’ เป็นบุตรสาวของภรรยาเอกจวนโหวเจ้ากรมโยธามีฐานะสูงส่ง
คุณหนูที่ได้รับการประคบประหงมมาอย่างดี อุปนิสัยอ่อนโยน เป็นคนดีมาก สงบเสงี่ยมเรียบร้อย เจียมเนื้อเจียมตัวแต่ว่าก็มีข้อเสียอยู่อย่างก็คือนางมิใช่คนที่แข็งแกร่งและสู้คน อาจเป็นเพราะว่าที่ผ่านมาหากเกิดเรื่องบิดาจะออกหน้าให้ตลอด เรียกได้ว่าต่อให้เป็นผู้ใดก็ไม่สามารถมาทำร้ายนางได้ เหตุนี้จึงทำให้นางกลายเป็นไข่ในหิน เป็นหญิงสาวที่อ่อนแอ
เจ้าของร่างเดิมมีสัญญาหมั้นหมายกับบุตรชายของสหายของบิดา พออายุถึงช่วงแต่งงานก็แต่งเข้ามาในจวนของสามี สามีมีนามว่า ‘ฉินเป่ยซวน’
เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของผู้ช่วยเจ้ากรมการคลังคนปัจจุบัน ชายหนุ่มเป็นขุนนางอารักษ์ค่อนข้างมีหน้ามีตาแต่กลับไม่ค่อยเอาการเอางานสักเท่าไหร่ อีกทั้งยังเป็นลูกแหง่ที่เชื่อฟังมารดามากเกินไป ไม่ว่ามารดาจะพูดหรือบอกอะไรเขาก็จะทำตามโดยไม่คิดโต้แย้ง แม้ว่าเหตุผลของมารดาจะไม่ถูกต้องก็ตาม
เหวินเจียวเมิ่งเจ้าของร่างนี้แต่งเข้ามาก็ต้องทำตัวหัวอ่อนเชื่อฟังแม่สามี แม่สามีบอกให้ทำอะไรก็ต้องทำสร้างความอึดอัดใจให้นางยิ่งนัก แต่ด้วยนิสัยอ่อนแอของนางแล้วจึงไม่ได้ขัดขืนหรือโต้แย้งเลยแม้แต่น้อย นางแต่งเข้าจวนมาสามปี มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ‘ฉินอวี้เฉิน’ ตอนนี้อายุได้สองขวบกว่าแล้ว
หลังคลอดเหวินเจียวเมิ่งมีภาวะไม่อยากหลับนอนกับสามี ทำให้เขามีความต้องการจึงไปคว้าเอาหลานสาวมารดาที่มาพักอยู่ในจวนนามว่า ‘ฟางหรงหรง’ มาบำเรอ
แม่สามีเองก็รู้เห็นและให้ลูกชายตบแต่งนางมาเป็นภรรยารอง ฟางหรงหรงแต่เดิมแล้วมารดาของสามีหวังจะให้เป็นภรรยาเอกของบุตรชาย ทว่ามีสัญญาหมั้นหมายและบิดาอีกฝ่ายยังเป็นขุนนางใหญ่ นางจึงให้หลานสาวมาอยู่ข้างกายหวังให้ลูกชายถูกใจต้องใจจะได้แต่งเป็นภรรยารองมาตั้งนานแล้ว ติดตรงที่ยังเกรงใจบ้านสะใภ้อยู่ เพราะนางคลอดหลานชายให้ตระกูล
คราวนี้เป็นบุตรชายของนางที่เป็นคนเริ่ม จึงไม่มีใครมาว่าได้ นางสอนมารยาและความสามารถเรื่องบนเตียงให้หลานสาวไม่น้อยจึงมัดใจบุตรชายได้อยู่หมัด ทำให้ฉินเป่ยซวนไม่สนใจเหวินเจียวเมิ่งอีก หากว่าเหวินเจียวเมิ่งไม่อยากนอนกับเขาก็ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้เขามีฟางหรงหรงแล้ว
เมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนี้เหวินเจียวเมิ่งก็ทุกข์ใจมาก นางไม่อยากใช้สามีร่วมกับใคร คุณหนูจวนโหวผู้สูงศักดิ์เมื่อแต่งงานกลับมีชีวิตที่ทุกข์ทรมาณเช่นนี้ มีสามีสามีก็ไม่รัก แม่สามีกลับยกหางภรรยารองของลูกชายที่มาจากหลานสาวตัวเองมากกว่าภรรยาเอก อีกทั้งยังปฏิบัติต่อนางอย่างไม่ให้เกียรติ
บิดาของสามีถึงแม้จะเป็นสหายของบิดาตัวเองก็จริง แต่เขากลับไม่เคยดูดำดูดีลูกสะใภ้อย่างนางเลย คงถือเป็นเรื่องหลังเรือน
เหวินเจียวเมิ่งเป็นทุกข์เสียจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในที่สุดแล้วก็ตรอมใจจากไปโดยไม่มีใครรู้ ลูกชายวัยสองขวบกว่าของนางเห็นแม่ร้องไห้แล้วหลับไปก็ปวดใจยิ่งนัก แต่เขาหารู้ไม่ว่าแม่ของเขาเสียชีวิตและจากเขาไปแล้ว
ฉินอวี้เฉินนั่งเฝ้ามารดาอยู่ภายในห้อง เพราะคิดว่าอีกไม่นานนางก็คงจะตื่น แต่ว่าเขาเฝ้ารอแล้วรอเล่าผ่านไปหลายชั่วยามนางก็ไม่ยอมตื่นขึ้นมาเสียที จะปลุกก็ไม่กล้าเพราะไม่อยากรบกวนมารดาที่เพิ่งร้องไห้จนหลับไป เขาจึงทำได้ดีที่สุดแค่นั่งเฝ้าอยู่ตรงนั้นพร้อมสำรับอาหารที่เย็นชืดแล้ว
เมื่อได้เห็นภาพความทรงจำทั้งหมด เสวี่ยหลี่น่าก็โมโหสามีของเจ้าของร่างเดิมมาก นอกจากเขาจะเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา เอาแต่ฟังการชี้นำจากมารดา ไม่มีความกล้าหาญและจุดยืนเป็นของตัวเองแล้วยังหลงมารยาหญิงของภรรยารองเสียจนเจ้าของร่างต้องเสียใจถึงเพียงนี้ ช่างเป็นบุรุษที่ไร้ประโยชน์สิ้นดี ถ้าเป็นโลกที่นางจากมาแล้วล่ะก็ ฉินเป่ยซวนคนนี้คงไม่พ้นเร่ร่อนอยู่ข้างถนนเป็นแน่หากแม่ของเขาตายจากไปแล้ว
แต่ว่าภาพที่ปรากฏในหัวยังไม่จบเพียงเท่านั้น เสวี่ยหลี่น่ายังได้มองเห็นชีวิตในภายภาคหน้าของฉินอวี้เฉินบุตรชายของเจ้าของร่างเดิม ผลจากการยุยงของภรรยารองทำให้คนในจวนไม่สนใจคุณชายน้อยคนนี้เลย
ปู่ของเขาไม่ค่อยได้กลับจวน คิดว่าเขาคงหลงเลี้ยงอนุไว้ด้านนอก จึงไม่รู้ความเป็นไปของหลานขาย ส่วนผู้เป็นย่านั้นก็ถูกฟางหรงหรงยุยงจนเกลียดหลานชายคนนี้ขึ้นมา ถึงแม้ว่าฉินอวี้เฉินจะเป็นหลานชายคนโตผู้ที่ควรจะต้องสืบทอดทุกอย่างของตระกูลฉิน แต่ผู้เป็นย่ากลับไม่สนับสนุน นางกลับสนับสนุนบุตรชายของฟางหรงหรงแทน
ดังนั้นเด็กน้อยจึงถูกเลี้ยงอย่างทิ้งขว้าง ไม่ได้อยู่ดีกินดี ไม่ได้เรียนหนังสือ จนท้ายที่สุดแล้วเขาก็ถูกไล่ออกจากจวนไปเพราะถูกใส่ร้าย ทั้งจวนปกปิดเรื่องฉาวโฉ่ภายใน ตากับยายของเขาจึงไม่รู้เรื่องนี้ พอออกจากจวนไม่มีความรู้ไม่มีงานทำก็ไปเป็นอันธพาลใช้ชีวิตอย่างขอทานเลว ๆ คนหนึ่งและถูกทางการทุบตีจนตายในที่สุด
พอรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ แล้ว เสวี่ยหลี่น่าก็ลืมตาขึ้นมาแล้วลุกขึ้นนั่ง ตั้งสติได้แล้วก็ตรวจดูร่างกายของตนเองปรากฏว่าเป็นไปดังคาด นางตายแล้วกลับมาเกิดในร่างของเหวินเจียวเมิ่งจริง ๆ สายตาเหลือบไปเห็นบุตรชายนั่งอยู่ที่เก้าอี้กำลังมองมาที่นางอย่างดีใจ เขาน้ำตาไหลแล้ววิ่งเข้ามากอดนางไว้แน่น
"ท่านแม่ตื่นแล้ว ข้าเป็นห่วงแทบแย่" ฉินอวี้เฉินพูดพร้อมสะอึกสะอื้นน่าสงสาร
เสวี่ยหลี่น่าไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี โลกเดิมนางก็แค่เด็กสาวอายุยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น ไม่มีประสบการณ์เลี้ยงเด็ก มีแต่ประสบการณ์เล่นกับคุณปู่เท่านั้น พลันนึกขึ้นได้ว่าที่นางตายจากมาแบบนี้ คุณปู่จะเป็นอย่างไรบ้าง แม้จะเสียใจ แต่ก็คงกลับไปไม่ได้แล้ว สิ่งที่คิดได้ในตอนนี้คือนางต้องทำตัวเป็นเหวินเจียวเมิ่งไปก่อน นางก็เลยโอบกอดลูกชายตัวน้อยเช่นกัน "แม่ไม่ได้เป็นอะไร เพียงแค่หลับไปเฉย ๆ"
ระหว่างที่กอดลูกชายนางก็รู้สึกได้ว่าร่างกายมีความรู้สึกแปลก ๆ เสวี่ยหลี่น่ามีความรู้เรื่องเวชศาสตร์ยาโบราณเพราะคุณปู่เปิดร้านยาสมุนไพร เธอโตมากับปู่จึงรู้ว่าร่างกายนี้ไม่ได้ตรอมใจตาย แต่ว่าถูกวางยาพิษต่างหาก!