ตอนที่ 3 อิจฉา

1483 Words
เขาคว้าคนตัวบางเข้าสู่อ้อมกอด มือใหญ่สอดล็อกท้ายทอยเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนีแล้วโน้มลงไปบดจูบเร่าร้อนอย่างต้องการลงโทษ คนตัวบางลืมตัวปล่อยมือออกจากหน้าอก ทุบตีดิ้นรนเอาตัวรอด ชุดที่ยังไม่ทันได้รูดซิปหล่นลงมากองแทบเท้า เขาจึงสวมกอดเธอแน่นขึ้นเพื่อบดบังเรือนร่างงดงามเปลือยเปล่าที่มีเพียงกางเกงซับในขาสั้นกันโป๊เท่านั้น “อื้อ อื้อ” ลิ้นสากสอดเข้าไปกวาดต้อนความหวานในโพรงปากอุ่น มันเกี่ยวพันไล้เลียจนเธอร้องครางประท้วงในลำคอ แต่กลับค่อย ๆ ยื่นลิ้นเล็กออกมาให้เขาดูดดึงอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ปัณณธีครางฮือในลำคอด้วยความชอบใจ ความดุดันป่าเถื่อนแปลเปลี่ยนเป็นความนุ่มนวล ริมฝีปากร้อนรุ่มบดเบียดเคล้าคลึงความนุ่มนิ่มสีสดในจังหวะเนิบนาบฉ่ำหวานจนคนตัวบางหลับตาพริ้ม ขยับปาดจูบเขากลับไปอย่างล่องลอย ปากร้อนละออกมาช้า ๆ มันสัมผัสแผ่วเบาราวกับแสนเสียดาย ก่อนจะจูบเธออีกครั้งเนิ่นนานหลายนาทีจนร่างบางแทบหลอมละลายลงกองบนพื้น เขาละริมฝีปากออกมามองสบตาปรือปรอย นิ้วหัวแม่มือบดคลึงริมฝีปากบวมเจ่ออย่างหลงใหล ลูกกระเดือกใหญ่ขยับขึ้นลงแรง ๆ จากการกลืนน้ำลายดับความร้อนรุ่มในจิตใจ “ไง โดนหมาในปากฉันกัด ดีไหม” “อะ ไอ้บ้า” เสียงหวานสั่นเทาทั้งที่เธอตั้งใจตวาดเสียงดัง มือใหญ่ร้อนผ่าวลูบไล้บีบขยำแผ่นหลังบอบบางขาวผ่องจนขนอ่อนในกายสาวลุกซู่ไปทั่วร่าง “ปากร้าย” “ไม่เท่าคุณหรอก” “อืม ยอมรับ” “เอามือออกไปจากหลังฉันนะ แล้วก็ปล่อยฉันได้แล้ว จะมายืนกอดอยู่ทำไม ไอ้คนฉวยโอกาส” “ถ้าฉันขยับตัวออกมาอีกแค่ก้าวเดียว ฉันเห็นนมเธอเลยนะ” ดวงตากลมเบิกกว้าง อ้าปากค้างด้วยความตกใจ จริงสิ ตอนนี้ชุดของเธอมันลงไปกองอยู่แทบเท้าแล้ว และหน้าอกของเธอเปลือยเปล่ามีเพียงซิลิโคนปิดจุกเท่านั้น “อะ ไอ้บ้า อย่าขยับนะ” “อ้าว แล้วจะให้ฉันทำยังไงกันแน่ เดี๋ยวบอกให้ถอย เดี๋ยวบอกไม่ต้อง” “หลับตาสิ จะมองทำไมล่ะ เป็นโรคจิตหรือไง” “ก็คงไม่เท่าเธอหรอก ไม่รู้ที่ชุดหลุดนี่เพราะตั้งใจอ่อยฉันหรือเปล่า” “แหวะ อย่าคิดว่ามีสาว ๆ ชอบคุณเยอะแล้วฉันจะเป็นหนึ่งในนั้นนะ ต่อให้เหลือคุณเป็นผู้ชายคนเดียวในโลก ฉันใช้ดิลโด้ดีกว่า” “ดูถูกจัง มาลองกันไหมล่ะ ว่าระหว่างดิลโด้อันโปรดของเธอกับท่อนของฉัน อันไหนมันทำให้เธอเสร็จก่อนกัน” “ทุเรศ โรคจิต หื่น วิตถาร หลับตาสิ มองอยู่ได้” เขาแค่นยิ้มขำ ถอดเสื้อสูทคลุมด้านหน้าของร่างกายบอบบางเอาไว้ ก่อนจะก้มลงหยิบชุดเดรสขึ้นมาสวมให้ภายใต้เสื้อสูทตัวนั้น แล้วเอื้อมมือไปรูดซิปที่อยู่ด้านหลังให้เธออย่างคล่องแคล่วราวกับการใส่เสื้อผ้าให้ผู้หญิงเป็นเรื่องคุ้นเคย “ขะ ขอบคุณ ทีหลังไม่ต้อง” มือเล็กผลักอกแกร่งจนเขากระเด็นถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ก่อนจะโยนเสื้อสูทคืนให้แล้วเดินหนีออกจากห้องแต่งตัวเจ้าปัญหาในทันที ขืนให้ยืนมองหน้าหล่อ ๆ ของเขานานกว่านี้มีหวังได้วางมวย คนอะไร หน้ามึน ปล้ำจูบคนอื่นหน้าด้าน ๆ อย่างไม่รู้สึกผิด แบบนี้เองสินะ เขาถึงมีข่าวว่าทำผู้หญิงท้อง ไม่น่าเชื่อว่าเด็กเกเรปากร้าย จะโตมาแล้วทั้งหื่นทั้งโรคจิตได้ขนาดนี้ ปัณณธีเดินตามออกมาจากห้องแต่งตัว อมยิ้มชอบใจแล้วยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นปาดลิปสติกที่ติดอยู่บนริมฝีปากของตน ก่อนจะออกจากห้องนี้ด้วยอารมณ์ที่ต่างออกไป ทันทีที่อยู่เพียงลำพัง ปลายฟ้าจึงออกมาจากที่ซ่อน มือเล็กกำโทรศัพท์ในมือแน่น ดวงตาแดงก่ำวาวโรจน์ นึกเจ็บใจที่กำลังจะโดนเขาเขี่ยทิ้งเหมือนผู้หญิงคนอื่น ตอนแรกที่เธอได้รับเลือกให้เล่นละครเรื่องนี้ที่มีเขาเป็นผู้กำกับการแสดง เธอดีใจมากเพราะคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขามีส่วนช่วยให้เธอได้งาน และมั่นใจว่าความใกล้ชิดจะทำให้เขาไม่สามารถเขี่ยเธอทิ้งได้ง่าย ๆ จึงไม่ได้เตรียมใจมาก่อนว่าสาวสวยอย่างตนก็ไม่ได้มีความพิเศษต่างจากคนอื่น สะใภ้ตระกูลอธิพัฒน์โภคิน ใครก็อยากเป็น ถ้าหากว่าเธอสามารถจับเขาได้อยู่หมัด จะกลายเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกและไม่จำเป็นต้องรับงานแสดงให้ลำบากอีก น่าเจ็บใจที่นางแบบคนนั้นดันท้องเพื่อจับเขาเสียก่อน ยังไม่ทันที่เขาจะเคลียร์ตัวเองได้ ก็ดันแอบลักลอบกินกับนางเอกน้องใหม่เสียแล้ว จากบทสนทนาที่เธอได้ยินก็พอจะเดาได้ว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก และท่าทางจะไม่ค่อยถูกกันเท่าไรนัก แต่น่าแปลกที่ปัณณธีกลับตอแยจับผู้หญิงคนนั้นปล้ำจูบทั้งที่คนอย่างเขาไม่ได้อดอยากปากแห้งจนต้องบังคับคนที่ไม่สมยอม “พี่ปัณณ์คิดจะเขี่ยฟ้าทิ้งเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก” นางร้ายดาวรุ่งกัดกรามกำมือแน่น รู้สึกริษยาชิดจันทร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะความสวยและไฮโซของเจ้าหล่อนทำให้ผู้ใหญ่ในช่องเกรงใจจนมอบบทนางเอกให้อย่างง่ายดาย ต่างจากเธอที่ชวดบทนางเอกทั้งที่พยายามทำทุกอย่าง แม้กระทั่งยอมนอนกับผู้บริหารบางคน แต่แล้วความทุ่มเทของเธอกลับสูญเปล่าเมื่อชิดจันทร์เข้าวงการ ภาพลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้นสวยงามสมกับใบหน้าและชาติตระกูลของชิดจันทร์ เธอจะเป็นคนทำลายมันเอง ผู้กำกับการแสดงหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้ประจำตัว ดวงตาคมกริบมองตรงไปยังนางเอกสาวที่กำลังต่อบทกับพระเอกชื่อดังโดยมีผู้ช่วยผู้กำกับและทีมงานยืนรายล้อม ใบหน้าสวยส่งยิ้มให้กับทีมงาน ทั้งยังพูดจาเป็นกันเองกับทุกคน โดยเฉพาะพระเอกหนุ่มที่เอาแต่ลอบมองใบหน้างามแทบตลอดเวลา มุมปากหยักยกยิ้มหยัน ส่ายหน้าสมเพชความโง่ของพระเอกหนุ่มและความสำส่อนของนางเอกสาวที่เอาแต่โปรยยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ “หึ นี่เหรอ เด็กดีของแม่ ขี้อ่อยสุด ๆ กว่าจะถ่ายจบคงกวาดดาราทั้งเรื่อง” “รวมทั้งผู้กำกับด้วยหรือเปล่าคะ” ปลายฟ้าทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างกัน ยกแขนขึ้นกอดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างแง่งอน ตั้งใจให้เขาง้อ แต่เปล่าเลย นอกจากเขาจะไม่ง้อเธอแล้ว เขายังเลิกคิ้วมองหน้าเธอด้วยสายตาว่างเปล่า ราวกับเรื่องราวร้อนแรงระหว่างเธอกับเขาไม่เคยเกิดขึ้น “ฟ้า พูดอะไร” “ล้อเล่นหรอกค่ะ เห็นพี่ปัณณ์มองน้องลูกจันแล้วบ่นอะไรงึมงำ หึงหรือเปล่าคะ เด็กใหม่เหรอ” “ไร้สาระ พี่แค่มองว่านักแสดงพร้อมแค่ไหนแล้ว จะได้เริ่มถ่าย ลูกจันมีเวลาให้เราไม่มากเลยต้องเร่งหน่อย” “น่าอิจฉาน้องลูกจันนะคะ ทั้งสวยทั้งไฮโซ ไม่ต้องทำอะไรก็ได้เป็นนางเอก เรื่องนี้ก็ไม่ต้องแคสด้วย มีเทียบเชิญไปถึงหน้าบ้านเลย” “เด็กนั่นมีอะไรน่าอิจฉาขนาดนั้นเสียเมื่อไหร่ สมัยนี้คนชอบเห่อดาราใหม่โปรไฟล์ดี ถ้าแสดงไม่ได้เรื่องก็ดังได้อีกไม่นานหรอก” “พี่ปัณณ์คิดแบบนั้นเหรอคะ” “อืม” “แต่น้องสวยมากเลยนะ ไม่ชอบหรือคะ” “ถามแบบนี้หมายความว่ายังไง” คนหล่อกดหัวคิ้วเข้าหากัน มองนางร้ายสาวสวยสุดร้อนแรงที่เขาเคยควบขี่ด้วยสายตาไม่พอใจ นอกจากจะไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่คำถามนั้นมันดันจี้ใจดำอีกต่างหาก “ก็พี่ปัณณ์ชอบคนสวยนี่ แล้วหลังจากวันนั้นพี่ปัณณ์ก็ไม่เห็นโทรหาฟ้าเลย ฟ้าก็คิดว่าพี่มีคนใหม่แล้ว ยิ่งเห็นพี่มองน้องลูกจันตาไม่กะพริบ ฟ้ายิ่งคิด” “ไร้สาระ จะให้พี่โทรหาใคร แค่เรื่องข่าวพี่ก็เครียดจะแย่ ไม่มีอารมณ์เอาใครหรอก อย่ามาถามอะไรงี่เง่า พี่อึดอัด” “พี่ปัณณ์...” ยังไม่ทันที่เธอจะตัดพ้ออะไรออกมา ผู้ช่วยผู้กำกับก็เดินกลับมานั่งด้านข้างของเขา “เรียบร้อยแล้วครับพี่ปัณณ์ นักแสดงพร้อมแล้ว เราถ่ายกันเลยไหม” “อืม เริ่มเลย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD