“อุ๊บ! แหวะ” ชายหนุ่มร่างสูงกำยำสมส่วนที่นอนแผ่อยู่บนเตียง หยัดกายขึ้นก่อนจะมีท่าทีกระอึกกระอักราวกับต้องการจะอาเจียน แต่กลับมีเพียงแค่เสียงออกมาเท่านั้น
“รู้ว่าคออ่อนแล้วยังจะกิน” น้ำเสียงเรียบนิ่งแฝงไปด้วยความเป็นห่วงเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่ายหัวน้อย ๆ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมกับผ้าผืนเล็กที่ชุบน้ำเปียกหมาด ๆ มือเรียวเล็กค่อย ๆ ใช้ผ้าซับลงบนใบหน้าหล่อของคนเมาเพื่อทำความสะอาด ไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงช่วงลำคอ ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นอ้วกที่เลอะติดอยู่ที่อกจึงปลดกระดุมเสื้อเขาออกแล้วหยิบผ้าอีกผืนมาเช็ดไปตามลำตัวที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่น “คงอ้วกมาจากห้องน้ำสินะ”
ดวงตาสีน้ำตาลอัลมอนด์ปรือขึ้นอย่างหยาดเยิ้ม เมื่อเรือนร่างสัมผัสเข้ากับความเย็น ก่อนมือขวาจะยกขึ้นมาคว้าจับเข้าที่ข้อมือเล็ก ที่ป้วนเปี้ยนอยู่ที่อก
“อ๊ะ!” ร่างเล็กถูกพลิกลงไปนอนในตำแหน่งเขา หญิงสาวกัดริมฝีปากสบตาคนที่นั่งคร่อมเธอด้วยแววตาทอประกายวูบไหวประดุจเปลวไฟกลางสายลม หัวคิ้วเรียวสวยผูกโบเป็นปมยุ่งเมื่อเห็นคนเมากำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเอง ยังไม่ทันได้เอ่ยถาม เขาก็จับข้อมือเธอขึง ตรึงไว้แนบชิดติดกับเตียง ปลายจมูกโด่งก้มลงซุกไซ้ไปตามซอกคอระหงที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ สาวสวยวัยยี่สิบปีกลาง ๆ เอียงคอรับสัมผัสอันวาบหวิว ดวงตากลมโตค่อย ๆ เคลิ้มปิด ปล่อยให้คนด้านบนสัมผัสทุกสัดส่วนตามที่เขาต้องการ
ยิ่งจุดอ่อนไหวถูกเล้าโลมมากเท่าไร จุดกลางกายก็ยิ่งแฉะชื้นมากขึ้นเท่านั้น มือหนาค่อย ๆ เลื่อนลงไปด้านล่างก่อนจะถกเดรสสั้นสีแดงสดขึ้นมากองไว้ตรงเอวเล็กไซซ์เอส จากนั้นนิ้วเรียวยาวก็เกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วสีดำไว้ด้านข้าง
“อะ อื้ออ!! เจ็บ” เมื่อรู้ตัวอีกทีแก่นกายใหญ่ก็กดแทรกเข้ามาที่ของสงวนของเธอแล้ว โดยที่ไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มเอาช่วงเวลาไหนไปปลดเปลื้องเบื้องล่างของเขาออก
“อ่าส์ ฟัค!” แท่งเอ็นอุ่นไซซ์หกสิบตอกอัดเข้ามาได้เพียงครึ่งลำก็ต้องหยุดชะงัก หญิงสาวเกร็งขมิบช่องทางอ่อนนุ่มด้วยความเจ็บปวด คนด้านบนกัดกรามแน่นก่อนจะถอนแก่นกายออกแล้วตอกเข้าสุดในคราวเดียว สะโพกกลมกระถดหนี แต่สะโพกสอบก็ยังคงขยับตาม ก่อนจะซอยเข้าออกในจังหวะเนิบนาบไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นเร็วระรัวร้อนแรงดั่งเปลวเพลิง
เจ้าของดวงตาสีน้ำข้าวกัดริมฝีปากล่างของคนที่ก้มลงมาบดจูบพร้อมกับเสียงครางอื้ออึงเจ็บปวดในลำคอ ชายหนุ่มผู้อยู่ในอาการมึนเมาไม่สนใจความทรมานของอีกคน เขายังคงสับสะโพกระรัวมัวมันไปกับความแน่นของช่องทางรักที่ไม่เคยมีชายใดได้สัมผัสมาก่อน
“ซี้ดดด~ โอ้วฟัค!!” ทั้งเสียงสูดปากและครางกระเส่าดังออกมาเมื่อช่องทางที่คับแน่นบีบรัดตัวตนของเขาเป็นจังหวะถี่ ๆ
ตับ ตับ ตับ!! ลำเขื่องร้ายยังคงบดตีขยี้บี้ร่องน้อยอย่างเร่งเร้าและรุนแรง
มือหนาสัมผัสเรือนร่างที่ขาวผ่องทุกสัดส่วนอย่างไม่นึกทะนุถนอม ริมฝีปากทั้งสองยังคงบดจูบกันอย่างเร่าร้อนพร้อมกับเสียงตอกอัดช่วงล่างที่ดังก้องสะท้อนอย่างหยาบโลน เพียงไม่นานแก่นกายใหญ่ก็ฝังมิดจนสุดลำ ก่อนจะแช่ค้างในร่องอุ่นพร้อมกับเกร็งกระตุกปลดปล่อยสายธารสีขาวขุ่น เข้าสู่ช่องทางสีหวานที่ตอดรัดตัวตนเขาตุบ ๆ ปลดปล่อยน้ำหวานบริสุทธิ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน เรียวลิ้นเล็กถูกดูดหนัก ๆ จนเจ็บแปลบแต่เป็นความเจ็บที่หวานล้ำที่เธอนั้นจะไม่มีวันลืม
ดวงตาหยาดเยิ้มเคลิ้มมองเธออย่างเสน่หาก่อนริมฝีปากชมพูอุ่นจะไล่ขบเม้มไปตามกรอบหน้า ลำคอ สลับขึ้นมาติ่งหูของคนที่สติหลุดลอยไปกับสัมผัสอันวาบหวามที่เพิ่งเคยได้ลิ้มลองเป็นครั้งแรก พร้อมกับท่อนเขื่องลำยาวที่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวขึ้นอีกครั้ง
“อื้ออ สะ แสบพอก่อน” ร้องท้วงบอกอีกคนให้หยุดพร้อมกับมือที่พยายามผลักหน้าท้องแกร่งแต่เขากลับไม่สนใจ สะโพกสอบยังคงโถมกระแทกอย่างดุดัน
ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จึงทำให้มาเฟียหนุ่มมีความต้องการทางเพศสูงกว่าปกติ ยิ่งได้กระแทกร่องแน่นรูฟิตไร้ซึ่งสิ่งปิดกั้นก็ยิ่งรู้สึกเมามันจนยากที่จะหยุด
สุดท้ายแล้วคืนนั้นทั้งคืนหนุ่มหล่อผู้เมามายจากสุราก็ปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นอุ่น ๆ ใส่ร่องแน่นของหญิงผู้แปลกหน้าไปสามน้ำก่อนจะล้มตัวลงนอนเข้าสู่ห้วงนิทราโดยไม่สนใจอีกคนข้าง ๆ ที่เพิ่งร่วมรักกันไป
เช้าวันต่อมา
Rrrrr Rrrr
“ฮัลโหล”
(“มึงอยู่ไหนไอ้ลุค”) เจ้าของเรือนผมสีควันบุหรี่เปิดเปลือกตาขึ้นแล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะตอบกลับคนในสาย
“ไม่รู้ว่ะ แค่นี้ก่อน” กดตัดสายเพื่อนสนิททิ้ง ก่อนจะโยนโทรศัพท์ไปด้านข้าง
เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาราวกับมันกำลังจะระเบิด ดวงตากลมสีอัลมอนด์กวาดมองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง ที่นี่น่าจะเป็นห้องพักของโรงแรมที่เขามาคุยธุรกิจกับเพื่อนสนิทและนักธุรกิจใหม่ที่กำลังจะร่วมงานด้วยกัน
“เลือด” หันไปเห็นเลือดจาง ๆ บนที่นอนด้านข้าง เมื่อคืนจำได้ว่าเพื่อนท้าให้กินเหล้า แล้วผมรู้สึกพะอืดพะอมจึงเดินไปเข้าห้องน้ำ หลังจากนั้นก็... จำได้ราง ๆ ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาพยุง แล้วต่อจากนั้น... ต่อจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้นวะ พยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก ผมสลัดศีรษะไล่ความคิดทั้งหมดทิ้ง ก่อนจะตัดสินใจลุกไปอาบน้ำเผื่ออาการปวดหัวจะบรรเทาลงแล้วพอจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง
“ฟัค!!” เมื่อหันซ้ายหันขวาสำรวจดูร่างกายในกระจกก็พบกับรอยเล็บที่จิกและข่วนลงบนแผ่นหลังและเอวเต็มไปหมด และนี่คือสิ่งที่ผมเกลียดมากที่สุดถ้าเมื่อคืนผมไม่ได้เมาเรื่องแบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด
เมื่อสมองนึกบางอย่างขึ้นมาได้ก็รีบสับเท้าออกมาด้านนอก ก่อนจะหยิบกางเกงที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมาสำรวจสิ่งของด้านใน “ชิท! กูเอาใครไปวะ” ลูบใบหน้าตัวเองแรง ๆ อย่างใช้ความคิด แต่พอนึกอะไรไม่ออกจึงเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง
เมื่อมาเฟียหนุ่มผู้สูงหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตร เข้าไปยืนใต้เรนชาวเวอร์ ดวงตาคมเข้มก็ปิดลง สองมือยกขึ้นเสยผมที่เปียกน้ำค้างเอาไว้พยายามนึกถึงใบหน้าของคนที่ตนมีอะไรด้วยอีกครั้ง แต่ก็เห็นแค่เพียงภาพราง ๆ ของเธอเท่านั้น “ช่างแม่ง คงไม่โง่ปล่อยให้ตัวเองท้องแบบไม่มีพ่อหรอก” เขาสลัดศีรษะไล่ภาพที่ช่างเลือนรางออกจากหัวก่อนจะรีบอาบน้ำเพื่อที่จะได้ออกไปจากที่นี่