Chapter 2

2049 Words
หลังจากที่อดใจหายแทนตัวเองไม่ได้ เจียงอันเหอจึงตั้งสติคิดหาวิธีต่างๆ นานาที่จะหนีรอดออกจากปากนกให้ได้ จนกระทั่งขาทั้งหกล่าสัตว์มาจนเต็มทุกกรงเล็บแล้ว วิหคซ่างฟู่จึงได้เปล่งเสียงร้องออกมาอย่างพึงพอใจ แล้วบินกลับรัง รังของวิหคซ่างฟู่สร้างอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งด้านหลังภูเขา หลังจากที่มันบินเข้าถ้ำก็โยนอาหารที่ล่ามาลงกับพื้น หัวทั้งสามเอียงไปเอียงมามองอยู่ครู่หนึ่งเตรียมจะกิน เจียงอันเหอเครียดจนเหงื่อเย็นไหลท่วม แม้จะบอกว่าระดับความเจ็บปวดเพียง 10% แต่พอคิดว่าอีกประเดี๋ยวจะต้องถูกชำแหละแหวกท้องออกมา เขาก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัวแล้ว เขาคะเนสภาพแวดล้อมในถ้ำ ไม่กล้าเคลื่อนไหวมากเกินไปนัก จากนั้นจึงค้นพบรูเล็กๆ ตรงผนังหินที่เห็นแสงลอดเข้ามาได้รำไร เจียงอันเหอดีใจ ในใจคำนวณขนาดของรูนั้นเงียบๆ เมื่อคิดว่าตัวเองลอดเข้าไปได้ ก็อาศัยจังหวะที่วิหคซ่างฟู่ยังไม่ได้มองมาทางตนเอง ค่อยๆ เขยิบเข้าไปใกล้ผนังหินนั้น จนกระทั่งเขาใกล้จนเกือบจะถึงรู วิหคซ่างฟู่ก็ตัดสินใจเลือกอาหารเลิศรสมื้อนี้ได้แล้ว หัวทั้งสามหันขวับลงไปที่พื้น จิกสัตว์เล็กสัตว์น้อยขึ้นมา และหนึ่งในหัวนั้นกำลังหันมาทางเจียงอันเหอ เจียงอันเหอตกใจจนรีบมุดเข้าไปในรู วิหคซ่างฟู่จึงได้รู้ตัวว่าเหยื่ออันโอชะของตนกำลังคิดหนี จึงคำรามเสียงประหลาดออกมาแล้วพุ่งไปที่ผนังหินนั้น หัวหนึ่งของมันกำลังจะมุดเข้ารู ส่วนอีกหัวก็เบียดแทรกเข้ามาอย่างผิดเวลาไปหน่อย ปรากฏว่าหัวทั้งสองจึงติดอยู่คารูถ้ำ ด้านหลังยังมีอีกหัวหนึ่งที่อยากจะแทรกเข้ามาด้วย หัวของวิหคซ่างฟู่คาอยู่ตรงผนังหิน ขาทั้งหกตะกุยอยู่บนพื้นไม่หยุด ปีกกระพือให้วุ่นวายไปหมด สัตว์เล็กสัตว์น้อยตัวอื่นที่ยังพอมีสติพอเห็นดังนั้นต่างก็ชักขาวิ่งจ้ำอ้าวหนีไป ได้ชีวิตน้อยๆ กลับคืนมา หลังจากที่เจียงอันเหอคลานออกมาจากรูถ้ำ เขาไม่หันกลับไปมองแม้แต่น้อย อึดใจเดียวก็วิ่งจ้ำอ้าวไปไกลแสนไกลถึงจะหยุดลง เขานั่งพักพิงต้นไม้ใหญ่หายใจกระหืดหอบ ดวงตาทั้งสองคอยสอดส่องหาที่หลบภัยไม่หยุดยั้ง บังเอิญไปเห็นรูต้นไม้ที่มีขนาดพอเหมาะพอเจาะเข้าพอดี จึงรีบคลานเข้าไปหลบ ผ่านไปพักหนึ่ง ด้านนอกมีเสียงคำรามก้องกับเสียงกระพือปีกของวิหคซ่างฟู่อย่างที่คิด เจียงอันเหอขยับตัวอย่างหวาดหวั่น หากแต่ไม่กล้าให้มีเสียงเล็ดลอดออกไปแม้แต่น้อย วิหคซ่างฟู่บินไปบินมาอยู่หลายรอบก็หาเหยื่อเจ้าเล่ห์นั่นไม่เจอสักที จึงได้แต่จับสัตว์อื่นไปเป็นเหยื่อตามที่จะหาได้ แล้วพาเสียงร้องโหยหวนของมันจากไป หลังจากที่ไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวประหลาดอยู่เป็นเวลานาน เจียงอันเหอจึงได้ผ่อนมือทั้งสองที่อุดปากอุดจมูกเอาไว้ แล้วนอนแผ่หราด้วยสีหน้าตกใจอยู่ตรงนั้นเอง นี่มันเกมที่ไหนกัน ดูหัวใจเต้นสิ! ศิษย์ล่วงเกินครั้งที่ 4 เวลานี้ใกล้พลบค่ำเข้าไปทุกที เจียงอันเหอนอนราบมองดูแสงสีส้มที่ทอทาบพื้นอย่างเหม่อลอย สักพักกว่าจะควบคุมตัวเองไม่ให้ไปนึกถึงภาพอันน่าสะพรึงกลัวจากการที่ถูกวิหคซ่างฟู่ไล่ล่าได้ เขาดึงสติ พยุงตัวขึ้นเตรียมออกจากรูต้นไม้ ตอนที่นิ้วมือของเขากวาดลงกับพื้น กลับรู้สึกเหมือนโดนอะไรเข้า เจียงอันเหอมองดูดินเหนียวที่ปกคลุมอยู่บนนั้นอย่างใคร่รู้ เป็นคัมภีร์โบราณเล่มหนึ่งที่โผล่ออกมา เจียงอันเหอหยิบคัมภีร์เล่มนั้นขึ้น คลานออกมาจากรูต้นไม้ ปัดเศษฝุ่นบนนั้นออก อาศัยแสงอาทิตย์รำไรเพ่งมองชื่อหนังสือบนหน้าปก “ตำราธาราหงส์” เขาพลิกดูเล็กน้อย สีกระดาษด้านในออกเหลืองนิดหน่อย ดูเหมือนจะเป็นบันทึกอะไรสักอย่าง ทั้งหน้ามีแต่ตัวอักษรคำว่า ผสาน หนึ่ง บน นิ้ว งาน ธรรมดา อักษรหกตัวนี้ แล้วก็สัญลักษณ์อื่นๆ ที่ดูไม่ค่อยเข้าใจ เขายังไม่ทันดูจนจบเล่มโดยละเอียด เห็นแต่เครื่องหมายอัศเจรีย์ตัวเบ้อเร่อค่อยๆ กระโดดออกมาจากหน้ากระดาษ เจียงอันเหอ “...” เขาปัดหนังสือที่อยู่บนมือ เห็นว่าเครื่องหมายอัศเจรีย์ก็ขยับตามด้วย เขาจึงได้ยื่นมือออกไปสัมผัสเครื่องหมายอัศเจรีย์ ได้ยินแต่เสียง “ติ๊งต่อง” บทสนทนาของระบบปรากฏขึ้นมาตรงหน้า [ขอแสดงความยินดี ท่านค้นพบของวิเศษจากสถานการณ์เกม X1 ท่านจะรับภารกิจต่อหรือไม่] เจียงอันเหอกดคำว่า “ใช่”ลงไปอย่างแน่วแน่ บทสนทนาจึงแจ้งเตือนกลับมาอีกว่าเขาควรจะกลับไปที่หมู่บ้านเพื่อหาเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับคัมภีร์เล่มนี้ หลังจากที่เขากดปิดบทสนทนา ในใจคิดขึ้นอีกว่าหาเบาะแสอีกแล้ว สู้กลับไปให้วิหคซ่างฟู่กินให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีกว่า เจียงอันเหอรู้สึกเซ็งอยู่พักใหญ่ ขณะที่กำลังคิดจะแนบ “ตำราธาราหงส์” เข้ากับตัว ก็เห็นว่ามือของตนเองนั้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เขาหันกลับไปเทียบกับรูต้นไม้ ตอนนี้เขามุดกลับเข้าไปไม่ได้แล้วล่ะ ดูท่าพอได้อุปกรณ์ภารกิจมาแล้วก็จะได้ประสบการณ์มาระดับหนึ่ง ร่างกายก็เลยสูงขึ้น เจียงอันเหอย้อนคิด ถ้าก่อนหน้าตัวเองได้เลื่อนขั้นตอนอยู่ในหมู่บ้าน เขาคงมุดเข้าไปในรูต้นไม้นี้ไม่ได้แน่ๆ และก็จะไม่ได้อุปกรณ์สำคัญชิ้นนี้มาด้วย หรือถ้าจะว่ากันไปอีกขั้น อาจจะมุดรูถ้ำออกจากรังวิหคซ่างฟู่ออกมาไม่ได้แล้วฝังร่างอยู่ในท้องนกแล้วด้วยซ้ำ คิดถึงเรื่องพวกนี้ เจียงอันเหอถึงได้รู้สึกถึงความชุ่มชื่นหัวใจบนความตระหนกตกใจจนวิญญาณแทบจะออกจากร่างในวันนี้ ถ้าจะมาอีกรอบก็... บ้าน่า ใครอยากได้อีกรอบกัน! เจียงอันเหอฮึดฮัดยัดหนังสือเข้าไปในอกเสื้อ พอกำลังจะคิดว่าตัวเองจะหาทางกลับไปอย่างไร กรอบบทสนทนาก็เด้งขึ้นมาอีกรอบ “บริการอย่างใกล้ชิดสำหรับผู้เล่นมือใหม่ หลังจากที่ผู้เล่นได้ของวิเศษจากสถาการณ์เกม ก็จะได้รับโอกาสกลับไปยังหมู่บ้านได้อย่างรวดเร็ว ต้องการใช้โอกาสนี้หรือไม่” หลังจากที่กด “ใช่” ด้วยมือที่สั่นไหว เจียงอันเหอก็รู้สึกตาลายเหมือนกับโดนไม้ตะบองฟาดเข้าไปทีหนึ่งแล้วก็ได้ลูกกวาดไม้หนึ่งเป็นของรางวัล รออยู่ประมาณสองสามวินาที เจียงอันเหอไม่ได้ถูกระบบ “เหวี่ยง” กลับไปที่หมู่บ้านอย่างที่คิดไว้ เขามองซ้ายมองขวา กำลังงงว่าเมื่อกี้ตัวเองได้กด “ไม่” ลงไปหรือเปล่า ก็มีเสียงเคลื่อนไหวแปลกๆ ดังลอดออกมาจากป่าลึก สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยสองสามตัววิ่งออกมาจากทิศทางนั้น เจียงอันเหอมองดูพวกมันวิ่งผ่านแล้วหายลับไป รู้สึกรำไรว่าภาพเหตุการณ์นี้ดูคลับคล้ายคลับคลา เป็นไปอย่างที่คิด นกยักษ์ที่คุ้นตาบินโฉบต้นไม้ไป แล้วปรากฏขึ้นตรงหน้าเจียงอันเหออีกครั้ง เจียงอันเหอกำลังคิดจะวิ่ง กลับพบว่าวิหคซ่างฟู่นี้ไม่เหมือนกับตอนก่อนหน้า รอบตัวมันมีรังสีสีเขียวฟุ้งออกมาเบาบาง และก็ไม่ได้จู่โจมเข้ามาตอนที่เห็นเจียงอันเหอ หากแต่สยบลงตรงพื้นที่ว่างด้านหน้า หัวทั้งสามมองซ้ายแลขวา สะบัดขาบ้าง กระพือปีกบ้าง ราวกับว่ากำลังรอคำสั่งของเจียงอันเหอก็ไม่ปาน แม้ว่าเจียงอันเหอยังคงมีความรู้สึกหวาดหวั่นต่อวิหคซ่างฟู่ แต่ตามเส้นทางเกมก่อนหน้าก็น่าจะพอเดาระบบออกว่านี่เป็นเครื่องมือที่จะส่งเขากลับหมู่บ้าน ก็คงจะเป็นวิหคซ่างฟู่ตัวนี้แหละ เจียงอันเหอสูดลมหายใจเข้าลึก เดินขึ้นหน้าสองก้าว “เอ่อ...คือ...กรุณา...กรุณาพาข้ากลับไปที่หมู่...หมู่บ้านหน่อย” พอวิหคซ่างฟู่ได้ฟังจึงหันหัวทั้งสามมา ในตอนที่เขาพูดคำสุดท้ายออกมา วิหคซ่างฟู่จึงร้องกังวานก้อง หัวตรงกลางคาบเสื้อของเจียงอันเหอขึ้นมา สะบัดหัวโยนเขาขึ้นไปขี่บนหลัง และไม่ทันรอให้ได้เขานั่งอย่างมั่นคง ก็กระพือปีกขึ้น บินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ทิศทางที่วิหคซ่างฟู่บินไป เห็นดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้าได้พอดี กลีบเมฆถูกย้อมไปด้วยแสงสีทองอมส้ม แต่งแต้มบนผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ ภาพตรงหน้าช่างงดงามเกินบรรยาย แต่เจียงอันเหอกลับไม่มีอารมณ์สุนทรีย์ที่จะชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามตรงหน้า เขาตกใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา วิหคซ่างฟู่บินไปจนถึงปากทางออกด้านหลังภูเขา สะบัดเจียงอันเหอลงจากหลัง แล้วบินไปโดยที่ไม่เหลียวหลังมามอง เจียงอันเหอถูกโยนลงมาจนมึนไปหมด ดีที่มีเปลือกไม้รองรับอยู่หลายชั้น เขามองเงาร่างของวิหคซ่างฟู่ที่บินไปไกลลับตา เห็นรังสีสีเขียวเลือนรางค่อยๆจางหายไป คิดว่าวิหคซ่างฟู่ตัวเมื่อกี้น่าจะโดนระบบจับมาเป็น NPC ชั่วคราว เจียงอันเหอปัดใบไม้ตามตัวออก เขาเดินเข้าหมู่บ้านพลางคิด ขออย่าได้พบเจอนกปิศาจประเภทนี้อีกเลย! ศิษย์ล่วงเกินครั้งที่ 5 ยามวิกาลใกล้มาเยือน ชาวบ้านกำลังยุติงานจากที่ทำมาทั้งวัน หลังจากที่กินข้าวแล้วต่างก็ทยอยกันออกจากบ้านมาที่ลานกว้างใจกลางหมู่บ้าน ต่างก็คุยเล่นกับคนที่คุ้นเคยถึงเรื่องราวน้อยใหญ่ที่เกิดขึ้นประจำวัน หญิงชาวบ้านที่พาลูกมาด้วยบางคนคุยเพลิน จนไม่ได้สนใจลูกตัวเองเท่าไหร่นัก ได้แต่กำชับลูกว่าให้เล่นอยู่ข้างๆ ผู้ใหญ่ก็เท่านั้น อย่าวิ่งหายไปไหน พวกเด็กๆ หาเพื่อนเล่นตอนกลางวันกันจนเจอ ต่างก็เล่นเกมที่เล่นค้างไว้กันเมื่อตอนกลางวันต่อ พวกเขาคุยกันสนุกสุดเหวี่ยง เล่นกันสนุกสนาน และไม่ได้สังเกตว่าในบรรดาเด็กเหล่านั้นมีเด็กที่มองซ้ายมองขวาอยู่ด้วย ท่าทีที่เล่นกับเพื่อนจึงดูแข็งไปหน่อย ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างยิ่ง ตอนที่เจียงอันเหอกลับไปถึงหมู่บ้านก็เป็นเวลาที่ชาวบ้านกำลังกินข้าวกันพอดี มีหลายบ้านที่เห็นเด็กอย่างเขาเดินโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่บนถนน จึงกวักมือเรียกเขาเข้ามากินข้าวในบ้านด้วยกัน แต่เจียงอันเหอก็กล่าวขอบคุณปฏิเสธไปทีละคน ในขณะเดียวกันเขาก็ถามชาวบ้านเหล่านี้ว่าเคยได้ยิน “ตำราธาราหงส์” หรือไม่ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่เป็นประโยชน์ เมื่อเห็นทุกคนต่างกำลังกินข้าว เขาเองก็ไม่อยากจะรบกวนอีกต่อไป จึงหาที่สักที่หนึ่งนั่งวิเคราะห์หนังสือเล่มนี้ตามอัธยาศัย จนกระทั่งชาวบ้านต่างทยอยออกมาทำกิจกรรมร้องรำทำเพลงหลังอาหาร เจียงอันเหอจึงแทรกเข้าไปเล่นในกลุ่มเด็ก เขาอยากจะลองดูว่าจะได้เบาะแสอะไรบ้างหรือไม่ เดิมทีเจียงอันเหออยากจะคุยกับพวกผู้ใหญ่ แต่พวกเขาต่างก็มัวแต่สนทนา ไม่มีใครสนใจเด็กเลยสักคน บางคนยังชี้นิ้วให้เขาไปเล่นที่กลุ่มเด็กตอนที่เขาเดินเข้ามาด้วยซ้ำ หลังจากลองมาสองสามครั้ง เจียงอันเหอจึงได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินไปคุยเล่นกับเด็กแทน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD