bc

อาจารย์ขอรับ...ศิษย์ล่วงเกินแล้ว

book_age16+
123
FOLLOW
1K
READ
reincarnation/transmigration
time-travel
like
intro-logo
Blurb

เจียงอันเหอชอบนิยายแนวฝึกตนบำเพ็ญเซียนเอามาก ได้ยินว่ามีเกมหนึ่งที่ให้ความรู้สึกเหมือนจริงมาก แค่ใส่เฮดเซ็ตแล้วเข้าสู่เกมก็สามารถรับรู้ได้ถึงปราณที่ไหลเวียนในตัวผู้เล่น ดังนั้นเขาจึงซื้อเฮดเซ็ตของเกมนี้มาอย่างไม่ลังเล

หลังจากเข้าสู่เกม เขากลายร่างเป็นผู้เล่นเด็กน้อยหน้าใหม่และเริ่มเส้นทางปราบปีศาจอัพเลเวล ระหว่างที่ทำภารกิจตามเนื้อเรื่องในเกมและพื้นที่พิเศษ เขาก็ได้พบกับชายหนุ่มที่สวมอาภรณ์ขาวผู้มีรูปงามสุดๆ ที่มาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ต่อมาเมื่อเจียงอันเหอเข้าสำนัก ก็พบว่าชายผู้นั้นก็คือเฉินจื่อเยว่อาจารย์ในสำนักที่เขาเข้าร่วม นั่นก็หมายความว่า ชายผู้นี้ไม่ใช่ผู้เล่นจริงๆ แต่เป็น NPC ถึงจะเป็นแบบนี้ เขาก็ยังชอบอาจารย์ NPC ผู้นี้อยู่ดี

เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับอาจารย์ เจียงอันเหอเริ่มทำภารกิจ เมื่อเขาชนะการประลองในเกม จนได้กลายเป็นลูกศิษย์เพียงหนึ่งเดียวของเฉินจื่อเยว่ เขากลับถูกเกมบังคับให้ออกจากระบบ เมื่อเขากลับมาสู่โลกจริง ก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าท่านอาจารย์ของเขา เฉินจื่อเยว่ ได้ปรากฏตัวอยู่ในห้องนอนเขาด้วย ฉินจื่อเยว่ไม่เพียงกลายเป็นคนที่สัมผัสได้เท่านั้น แต่ยังพาเจียงอันเหอเหาะเข้าไปในเกมฝึกเซียนอีกด้วย นับแต่วันที่เจียงอันเหอกราบเฉินจื่อเยว่เป็นอาจารย์และได้เป็นลูกศิษย์เพียงหนึ่งเดียวของเขา เขาก็ได้เริ่มเส้นทางฝึกเซียนและเส้นทางแอบรักอาจารย์ของเขาอย่างเงียบๆ แล้ว

chap-preview
Free preview
Chapter 1
ศิษย์ล่วงเกินครั้งที่ 1 ในตอนที่เจียงอันเหอหอบกล่องพัสดุกลับมาถึงที่บ้านก็เป็นยามสายัณห์แล้ว พระอาทิตย์สีแสดสาดแสงที่ไม่ค่อยจะแสบตานักลอดผ่านเข้ามาทางช่องหน้าต่าง เขาเก็บเสื้อผ้าที่แขวนไว้บนราวตากผ้าด้านนอกหน้าต่างเข้ามา หลังจากจัดการเรื่องอาหารค่ำและอาบน้ำเสร็จสรรพ จึงหอบกล่องพัสดุเดินกลับเข้าไปในห้องนอน เขานั่งอยู่ที่ขอบเตียง ชูกรรไกรขึ้นมาอย่างแน่วแน่ ตัดเทปที่ติดอยู่บนกล่องออก แล้วค่อยๆ แกะกล่องที่อยู่ด้านใน ท่าทีจริงจังที่เขามีต่อกล่อง ทำให้คนรู้สึกราวกับว่าในกล่องใบนั้นบรรจุทองคำพันชั่งอันหามูลค่าไม่ได้ก็มิปาน เขาค่อยๆ บรรจงหยิบ “สมบัติ” ในกล่องออกมา มันคือวีอาร์เฮดเซ็ตที่มีทรงโค้งสวยงามไม่มีที่ติ ดูเรียบหรูและสะอาดตา จริงสิ แถมยังเป็นสีชมพูประกายอีกต่างหา ในขณะที่จ้องมองวีอาร์เฮดเซ็ตสีชมพูประกายด้วยน้ำตาคลอเบ้า เจียงอันเหอก็คิดถึงตอนซื้อที่ทางร้านพูดออกมาคำหนึ่งว่า “สีจะถูกปล่อยตามระบบสุ่ม” เขาแอบรู้สึกกระดากอาย แต่ว่าต่อให้ต้องเขินอายแค่ไหนก็แค่ใส่เล่นอยู่ในบ้านตัวเอง เจียงอันเหอบรรจงเช็ดถูวีอาร์เฮดเซ็ตที่ตัวเองเก็บเงินจากเงินเดือนสามเดือนซื้อมา พลางบ่นพึมพำ “พิงค์กี้จ๋า ต่อไปฉันจะดูแลเธออย่างดีเลยนะ!" ที่จริงเจียงอันเหอไม่ค่อยชอบเกมออนไลน์โฮโลแกรมสักเท่าไหร่ เขารู้สึกว่าเกมออนไลน์โฮโลแกรมเล่นได้ไม่สะใจเท่าเกมคีย์บอร์ดออนไลน์ แต่เขาก็ชอบอ่านนิยายแนวแฟนตาซีมากเป็นพิเศษ ดังนั้นพอได้ยินคำโฆษณาของวีอาร์เฮดเซ็ตรุ่นนี้จากบริษัทเกมออนไลน์โฮโลแกรมว่า “ได้ฟีลบำเพ็ญเซียนเต็มร้อย!” เขาจึงรีบตะบี้ตะบันเก็บเงินเพื่อซื้อชิปและวีอาร์เฮดเซ็ตชุดนี้มา ตามคำแนะนำของผู้ผลิต ในขณะที่ผู้เล่นกำลังบำเพ็ญเซียนขณะเล่นเกม ก็จะสัมผัสถึงพลังลมปราณที่แล่นไปทั่วร่างได้จริงๆ จะสัมผัสให้ถึงระดับความสมจริงสูงสุด แน่นอนว่าต้องเป็นในห้องเกมอยู่แล้ว แต่ตามรายรับของเจียงอันเหอ คิดว่าน่าจะต้องทำงานเก็บเงินอยู่หลายปีถึงจะซื้อห้องเกมได้ เขาก็เลยลดสเปคลงมานิดหน่อย มาซื้อวีอาร์เฮดเซ็ตแทน พอเสียบชิปเข้าไปในวีอาร์เฮดเซ็ต เจียงอันเหอจึงสวมวีอาร์เฮดเซ็ตขึ้นเตียง การออกแบบของวีอาร์เฮดเซ็ตตัวนี้ทำให้คนรู้สึกราวกับว่าหนุนอยู่บนหมอนก็ไม่ปาน เขาตั้งเวลาเตือนให้ออกจากเกมหลังจากนี้สามชั่วโมง เพราะพรุ่งนี้ยังต้องตื่นไปทำงาน วีอาร์เฮดเซ็ตไม่เหมือนห้องเกมที่จะฉีดสารอาหารเข้าเส้นแล้วเล่นตลอดคืนโดยไม่พักผ่อนก็ไม่รู้สึกอ่อนเพลียได้ บนหนังสือคู่มือเขียนว่าเวลาหนึ่งชั่วโมงจะเท่ากับโลกของเกมหนึ่งวัน เวลาสามชั่วโมงก็น่าจะทำให้เขาได้รู้จักสถานการณ์ของเกมมากเพียงพอ หลับตาลง เปิดเครื่องวีอาร์เฮดเซ็ต “ ติ๊ด...ขอต้อนรับเข้าสู่เกม [บำเพ็ญเซียนOL]!” เจียงอันเหอลืมตาขึ้นอีกครั้ง ตามเสียงหวานแหววของหญิงสาวที่ดังขึ้น ภาพที่อยู่ตรงหน้าแปรเปลี่ยนเป็นภาพทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ไพศาล ภูตแฟรี่น้อยตัวหนึ่งกระพือปีกโปร่งแสงบินวนไปมารอบตัวเขา เมื่อเห็นเขาลืมตาทั้งสองข้างขึ้น ภูตแฟรี่น้อยก็ต้อนรับเขาอีกครั้ง “สวัสดีค่ะ ฉันคือภูตบุปผาหมายเลข 375 ยินดีต้อนรับสู่โลกบำเพ็ญเซียน ที่นี่ทุกอย่างมีความเป็นไปได้หมดค่ะ ตามกฎกติกา คุณจะต้องใช้ชื่อสกุลจริงในการเข้าร่วมเกม คุณต้องการจะปรับอิมเมจตัวเองสักหน่อยไหมคะ” ในเกมนี้จะต้องใช้ชื่อสกุลจริงตามบัตรประชาชนที่ใช้ซื้อชิปนี้ จุดนี้ตอนที่ซื้อร้านค้าเองก็ย้ำนักย้ำหนาแล้ว ผู้เล่นจำนวนไม่น้อยถอดใจที่จะเล่นเกมออนไลน์โฮโลแกรมนี้เพียงเพราะเงื่อนไขนี้ แต่ว่า ในโลกใบนี้มีคนชื่อซ้ำกันเยอะมาก เจียงอันเหอไม่สนว่าจะต้องใช้ชื่อสกุลจริงหรือไม่ เมื่อเทียบกันแล้ว เขาสนใจปรับอิมเมจตัวเองมากกว่า “ต้องการปรับอิมเมจ” เขาเพิ่งพูดจบ ก็เห็นภูตแฟรี่น้อยประสานมือไปมา ปากขมุบขมิบพึมพำ น้ำค้างที่เกาะอยู่บนต้นหญ้าในตอนแรกบินพุ่งมาทั่วทุกสารทิศ เกาะตัวรวมกันกลายเป็นกระจกน้ำ ข้างกระจกน้ำปรากฏสัดส่วนที่ปรับเปลี่ยนได้ เช่น หน้าตาและส่วนสูง เจียงอันเหอวิเคราะห์ดูนิดหน่อย ขอบข่ายอัตราส่วนที่ปรับเปลี่ยนได้มีอยู่ราวๆ 10% ดังนั้นเขาจึงแอบเพิ่มส่วนสูงของตัวเองเป็น 185 เซนติเมตร จากนั้นก็ปรับในส่วนของหน้าตาตัวเองที่ยังรู้สึกไม่ค่อยถูกใจนิดหน่อย เขาสาละวนหน้ากระจกอยู่นาน จนกระทั่งภูตแฟรี่น้อยที่อยู่ข้างๆ หาวออกมา เจียงอันเหอจึงพยักหน้าให้กับหนุ่มหล่อในกระจกที่ดูคล้ายตัวเองอยู่เจ็ดแปดส่วน เขาใช้นิ้วมือเขี่ยภูตแฟรี่น้อยที่กำลังจะหลับ “ฉันปรับเสร็จแล้ว ใช้อิมเมจนี้ก็แล้วกัน!” “ห๊าวววววว” ภูตแฟรี่น้อยหาวหวอดๆ “ได้ค่ะ ท่านจะใช้อิมเมจนี้เข้าสู่โลกแห่งการบำเพ็ญเซียนใช่ไหมคะ นอกจากจะเกิดเหตุฉุกเฉิน เราจะไม่ให้ปรับเปลี่ยนอิมเมจใดๆ อีกนะคะ ขอให้ท่านยืนยันอีกครั้งค่ะ” หลังจากที่เจียงอันเหอกดยืนยันสามครั้ง ภูตแฟรี่น้อยจึงโบกมือน้อยๆ เป็นสัญญาณว่าให้เจียงอันเหอเดินเข้าไปในกระจก “ขอให้สนุกกับเกม และเป็นเซียนในเร็ววันนะคะ” หลังจากที่เห็นเจียงอันเหอเดินทะลุเข้าไปในกระจกแล้ว ภูตแฟรี่น้อยจึงโบกปัดให้น้ำในกระจกนั้นกระจาย กลอกตาขาวแล้วพูดกับตัวเองว่า “คนต่อไป คนต่อไป คราวหน้าจะไม่รับภารกิจนี้แล้ว น่าเบื่อจะตายชัก” รอจนเงาคนอีกร่างหนึ่งค่อยๆ เดินเข้ามาปรากฏตัว เธอจึงปรับน้ำเสียงตัวเองให้อ่อนหวานอีกครั้ง ศิษย์ล่วงเกินครั้งที่ 2 “ขอต้อนรับเข้าสู่เกม [บำเพ็ญเซียนOL]!” “หลอกลวงทั้งเพ!” เจียงอันเหอกำลังคำรามอย่างโกรธเคือง แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขา เพราะว่าไม่นานน้ำเสียงของเขาก็เริ่มโดนกลบโดยเสียงพูดที่คล้ายคลึงกัน “ทำไมฉันถึงได้ตัวเตี้ยลง!” “ปรับเปลี่ยนอิมเมจเมื่อกี้มันเรื่องอะไรกัน?!” “แล้วหน้าตาที่ปั้นออกมาสุดเท่เมื่อกี้อีก!”... เจียงอันเหอ ชายมือใหม่สมัครเล่น ตัวขนาดเด็กสี่ห้าขวบยืนอยู่ในกลุ่มที่ถูกขนาบข้างด้วยเด็กตัวสูงเสียดฟ้า เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี อยากร้องไห้ก็ร้องไม่ออก ในเวลานี้เอง คุณป้าคนหนึ่งถือตะกร้าจ่ายตลาดเดินเข้ามา “เฮ้อ เด็กพวกนี้เนี่ย ทำไมชอบมาสุมหัวกันอยู่ตรงนี้นะ รีบกลับบ้านไป ท้องฟ้าใกล้มืดแล้ว!” หลังจากที่ไล่เด็กๆ สิบกว่าคนที่สุมหัวกันอยู่ตรงนี้ไปแล้วก็บ่นกระปอดกระแปด “ทำไมถึงมาเล่นตรงนี้กันได้ทุกวี่ทุกวันนะ ไม่กลัวพ่อแม่จะเป็นห่วงกันบ้างหรือไง” ได้สิป้า งั้นป้าก็ช่วยบอกผมมาหน่อยว่าบ้านผมอยู่ที่ไหน อีกอย่าง คิดว่าเด็กที่ป้าเห็นในแต่ละวัน ไม่น่าจะใช่เด็กกลุ่มเดียวกัน... เจียงอันเหอเดินอืดอาด จึงถูกคุณป้าตีก้นเข้าทีหนึ่ง เกือบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เดิมทีคิดจะหาผู้เล่นตัวจ้อยเหมือนกันเพื่อมาสอบถามสถานการณ์สักหน่อย แต่พอพวกเด็กๆ สิบ กว่าคนวิ่งหายเข้าไปในหมู่บ้านแล้วก็ดูเหมือนจะหายเงียบไร้ร่องรอย เจียงอันเหอมองไปรอบๆ มีแต่ขาเต็มไปหมด! มีแต่ขาพวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านเต็มไปหมดเลย! อีกทั้งพอพวกเขาเห็นเด็กคนนี้มองซ้ายมองขวาจึงลองเข้าไปถามดูเผื่อต้องการความช่วยเหลือ เจียงอันเหอได้แต่กระมิดกระเมี้ยนไม่รับความหวังดีของพวกเขา แล้ววิ่งเข้าหายไปในที่ที่ค่อนข้างลับตาในป่า เป็นเพราะผู้ผลิตเกม [บำเพ็ญเซียน OL] ได้ปรับแต่งให้กระบวนการเล่นของผู้เล่นเกมแต่ละคนได้รับอุปกรณ์และเรื่องราวของเกมที่แตกต่างกัน แม้เป็นไปได้ว่าตอบจบของเกมอาจจะคล้ายๆ กัน แต่ผู้เล่นแต่ละคนกลับเจอเหตุการณ์ที่เป็นเหตุการณ์เฉพาะตัว นี่จึงทำให้ในกระดานสนทนาของเกมจึงมีแต่อะไรจำพวก “มีกระบวนดาบทั้งหมด 108 กระบวนท่า” “วันนี้เจอสาวคนหนึ่งน่ารักมาก ทำไมผู้ผลิตยังไม่เปิดระบบการบำเพ็ญเซียนแบบดูโอ!” “โลกแห่งการบำเพ็ญเซียนมีแผนภาพสวยๆ อยู่สิบภาพ พรรคพวกรีบเข้ามาดูกันโดยเร็ว”...แทบจะไม่มีใครบอกเลยว่าจากปุถุชนจะฝึกตนจนกลายเป็นผู้บำเพ็ญเซียนได้อย่างไร เป็นเพราะกลยุทธ์เหล่านี้ใช้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าอาจจะมีไกด์ไลน์แนะนำผู้เล่นใหม่ แต่ก็ใช่ว่าทำตามแล้วจะสำเร็จ ดังนั้นก่อนหน้านี้เจียงอันเหอจึงได้แต่รีบดูคู่มือการซื้อชิปที่ติดมากับเกม ตอนนี้เขากำลังนั่งยองๆ อยู่ใต้ต้นไทรต้นใหญ่ด้วยสีหน้ากล้ำกลืน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเป็นเด็กไปตลอด เจียงอันเหอจึงเปลี่ยนท่านั่ง ไปนั่งอยู่บนกิ่งของต้นไทรที่ยื่นออกมาแทน แล้วปรับระบบออกมายังโลกภายนอก เปิดคู่มือการเล่นเกมของผู้ผลิตออกมาอ่านละเอียดอีกครั้ง ตามระบบการติดตั้งเกมแล้ว หลังจากที่ผู้เล่นเข้าสู่เกม ขนาดตัวก็จะกลายเป็นเด็กสี่ห้าขวบ และรูปร่างก็จะค่อยๆ เปลี่ยน ตามประสบการณ์เล่นเกมที่ผู้เล่นสะสมไว้ แต่ถ้าหากว่าผู้เล่นโตจนถึงอายุสิบขวบแล้วยังไม่ได้สัมผัสเข้าสู่โลกบำเพ็ญเซียน ถ้าอย่างนั้นต้องขออภัย แสดงว่าผู้เล่นไม่มีวาสนาที่จะได้เป็นเซียนในชาตินี้ แนะนำให้ลงทะเบียนเล่นใหม่ ส่วนพวกที่เริ่มบำเพ็ญ “อายุ” ยิ่งน้อย ความสำเร็จในอนาคตก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น มักจะแสดงให้เห็นได้จากความเร็วของการบำเพ็ญ ศิลปะการโจมตี ความช่ำชองในพลังลมปราณที่จะสูงกว่าคนอื่นๆ ขั้นหนึ่ง ผู้เล่นจะเดินตระเวนในหมู่บ้านของผู้เล่นใหม่ หรือพื้นที่ป่าเขาโดยรอบได้ และอาศัยการช่วยงานผู้อาวุโสในหมู่บ้านเป็นการสั่งสมประสบการณ์ได้ด้วย ในขณะเดียวกันก็จะได้รับอัตราความปลอดภัยสูงขึ้น เจียงอันเหออ่านประโยคสุดท้ายในคู่มือผู้เล่นใหม่อยู่เงียบๆ “ขอเตือนเพิ่มอีกหน่อย หากโดนปิศาจจู่โจมในขณะสำรวจป่าหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ความเจ็บปวดจะเป็น 10% หลังจากที่เข้าสู่สำนักแล้ว ความเจ็บปวดจะเพิ่มเป็น 50% ระดับความเจ็บปวดจะปรับเปลี่ยนไม่ได้ ขอให้ผู้เล่นทุกท่านระมัดระวังตัว อย่าได้รับบาดเจ็บ” ตอนนี้ในใจกำลังคิดว่าถ้าจะถอนตัวออกจากเกมตอนนี้ น่าจะยังทันมั้ง! แต่ว่าเจียงอันเหอในฐานะที่เป็นเกมเมอร์ RPG มือฉมังมาหลายปี การเข้าไปสำรวจและสัมผัสโลกบำเพ็ญเซียนสำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องที่สบายมาก ก็แค่เดินไปรอบๆ พลิกไปหามาก็แค่นั้น ง่ายมากเลย ง่ายสิ ง่าย นะ ง่ายกับผีเถอะ! ใช้เวลาทั้งคืนอาศัยแสงจันทร์ยังหาอะไรไม่คืบหน้าสักอย่าง! เกมนี้ยากชะมัด! ฟ้าสว่างแล้ว มือซ้ายของเจียงอันเหอถือขนมถังหูลู่อยู่ไม้หนึ่ง มือขวาถือหมั่นโถวร้อนๆ ที่เพิ่งออกจากเตามาใหม่ๆ ใจหนึ่งก็รู้สึกซาบซึ้งกับมิตรภาพของชาวบ้านจนแทบร้องไห้ อีกใจก็ทรมานกับความคิดอันไร้เดียงสาของตัวเองเสียเหลือเกิน “นี่ เจ้าหนูเอ๊ย อย่าไปทางนั้นอีกเลย ผู้ใหญ่ที่บ้านเจ้าล่ะ? ด้านหลังภูเขาน่ะมีปิศาจกินคนอยู่นะ!” เจียงอันเหอผู้โดนเกมทรมานจนแทบทนไม่ไหวไม่ได้สังเกตว่าตัวเองกำลังเดินไปทางป่าไม้หลังภูเขา พลันโดนคนตัดไม้คนหนึ่งขวางทางไว้ “อย่าไปทางนั้นอีกเลย ปิศาจในนั้นน่ะไม่ใช่แค่กินคนนะ แถมยังดูดจิตวิญญาณอีกด้วย!” คนตัดไม้ดึงเจียงอันเหอไว้พลางบ่นพึมพำ “ก่อนหน้าก็เคยมีเจ้าหนูสองสามคนเดินเข้าไป แม้ว่าจะมีชีวิตรอดออกมา แต่ก็เป็นบ้าเสียสติพูดจาไม่รู้เรื่อง พูดว่าอะไรนะ “ในที่สุดก็หาจนพบ” “ข้าจะกลายเป็นเซียนแล้ว” น่ากลัวเสียจริง!” เจียงอันเหอ ... ลำบากทุกท่านแล้ว ผู้อาวุโส “ทราบแล้วท่านลุง ข้าแค่ไปดูเฉยๆ ไม่ได้จะเข้าไปหรอก” เจียงอันเหอตอบรับคนตัดไม้อย่างว่าง่าย ราวว่าตัวเองเพิ่งจะอายุสี่ขวบอย่างไรอย่างนั้น “คุณลุง ข้ากลับบ้านก่อนนะ!” เห็นเขาเดินไปทางตรงกันข้ามกับทางด้านหลังภูเขา คนตัดไม้จึงได้แบกขวานขึ้นอีกครั้งแล้วเดินเข้าภูเขาไป หลังจากที่แอบอยู่ในกระท่อมหลังเล็กๆ รอดูจนคนตัดไม้หายลับไปแล้ว เจียงอันเหอจึงกลับไปยังทางเข้าป่าอีกครั้ง กัดฟันกรอด เดินเข้าไปอีกครั้งดีกว่า ศิษย์ล่วงเกินครั้งที่ 3 ลมพัดใบไม้เสียงดังซ่า เสียงนกร้องจิ๊บๆ ดังลอดมาเป็นครั้งคราว แรกเริ่ม เจียงอันเหอยังรู้สึกเส้นประสาทตึงเขม็ง มองไปรอบตัวไม่หยุด แต่พอนานไปใจเขาก็เริ่มสงบนิ่งลงจากบรรยากาศอันผ่อนคลายโดยรอบ แล้วก้มหน้าก้มตาหาเบาะแสต่อไป ปรากฏว่าไม่ได้ต่างไปจากที่คิด เจียงอันเหอยังคงไม่พบอะไรสักอย่าง! เขานั่งพิงต้นไม้หายใจหอบ นั่งคิดอย่างสิ้นหวังว่าพลังการเคลื่อนไหวในเกมของวันนี้ทั้งวันก็ใกล้จะเทียบเท่าพลังการเคลื่อนไหวในโลกแห่งความจริงทั้งสัปดาห์อยู่แล้ว ดีที่โลกแห่งความเป็นจริงผ่านไปแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น ร่างกายยังไม่ได้รู้สึกอ่อนล้าจนถึงขีดสุด แต่เหนื่อยใจน่ะเรื่องจริง ในเวลานี้เองมีเสียง “สวบสาบ” ดังออกมาจากทางพุ่มไม้ เจียงอันเหอลุกพรวดอย่างตื่นตัว เห็นแต่กระต่ายน้อยสีขาวเทาตัวหนึ่งสะบัดตัวแล้วมุดออกมาจากกิ่งไม้ มันมองไปรอบๆ แล้ววิ่งมาทางเจียงอันเหอ เขาเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง ย้อนคิดถึงคำพูดของคนตัดไม้ ในหัวคิดถึงแต่ภาพกระต่ายน้อยวิ่งมาหยุดที่ตรงหน้าตนเองแล้วอ้าปากใหญ่ยักษ์กลืนกินตนเองลงไป แม้ว่าเขาเองก็รู้สึกถึงอันตรายเหล่านี้อยู่ลางๆ แต่ขาน้อยๆ ของเจียงอันเหอกลับแข็งทื่อจนก้าวไม่ออก เจียงอันเหอได้แต่มองกระต่ายค่อยๆ เข้ามาใกล้ตัวเองตาปริบๆ จากนั้น ก็กระโดดข้ามตัวเจียงอันเหอแล้ววิ่งทะยานไปตามทิศเดิมไม่หยุด ??? เจียงอันเหอหันขวับกลับไปมองกระต่ายน้อยที่หายลับตาตนเองไปอย่างเคว้งคว้าง ยังไม่ทันได้ตั้งตัวกลับมา ก็ได้ยินเสียงนกร้องกังวานเจื้อยแจ้วดังมาจากทางที่กระต่ายเพิ่งวิ่งจากมา นกยักษ์ตัวหนึ่งบินร่อนลงมาจากท้องฟ้า ทะยานตรงมา นกยักษ์ตัวนี้ รูปร่างเหมือนไก่ แต่มีสามหัว หกขา สามปีก ยามมันกระพือปีก ลมที่พัดออกมาก็โค่นต้นไม้ล้มได้หลายต้นเลยทีเดียว ขาน้อยๆ ที่แข็งทื่อในตอนแรกราวกับถูกฉีดยากระตุ้นพลัง เจียงอันเหอหมุนตัวกลับไปแล้วออกวิ่ง แต่เขางตอนนี้สูงเพียงแค่เมตรเดียว ความเร็วในการวิ่งสู้กระต่ายน้อยไม่ได้ ต่อให้มีต้นไม้เตี้ยๆ คอยบดบังวิสัยทัศน์การบินของนกยักษ์ก็เถอะ แต่เจียงอันเหอก็ยังคงถูกก้อนหินหรือไม่ก็ไม้เลื้อยพันขาอยู่ดี สุดท้ายเขาก็โดนกรงเล็บของนกยักษ์ตะครุบเข้าแล้วพาบินขึ้นฟ้า ในหัวเจียงอันเหอที่โดนจับว่างเปล่า แม้แต่ดิ้นกระเสือกกระสนก็ยังลืม จนกระทั่งโดนกิ่งไม้บาดหน้าจึงได้สติคืน เขารีบขดตัวเข้าหากัน แล้วปกป้องส่วนหัวเต็มกำลัง เขาค่อยๆ ได้สติกลับมา นึกถึงลักษณะของนกยักษ์ สามหัว หกขา สามปีก นี่คือวิหคซ่างฟู่ใน “คัมภีร์ขุนเขามหาสมุทร” นี่นา! แต่ว่า “คัมภีร์ขุนเขามหาสมุทร” พูดไว้แค่ว่าถ้าได้กินเนื้อของวิหคซ่างฟู่จะทำให้ไม่ง่วงเหงาหาวนอน แต่ไม่ได้บอกเอาไว้ว่าควรจะรับมือกับมันอย่างไร พวกคนโบราณนี่จริงๆ เล้ยย ให้ตำราอาหารมาแต่ดันไม่บอกว่าจะจับวัตถุดิบมายังไง! วิหคซ่างฟู่พาเจียงอันเหอบินวนรอบป่าอยู่ครู่หนึ่ง และคอยดักจับสัตว์เล็กสัตว์น้อยเป็นพักๆ เจียงอันเหอก็ยังไม่ได้เห็นปิศาจพิสดารอื่นๆ คิดว่าวิหคซ่างฟู่ตัวนี้น่าจะเป็นราชาวิหคที่อยู่หลังภูเขานั่นแหละ ส่วนตนเองก็คงจะเป็นเด็กชายที่กำลังจะถูกจับไปกิน...

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

คนจะรวยผัวไม่ต้องช่วยก็ได้

read
1K
bc

ม่านหมอกหัวใจ

read
1K
bc

พ่อเพื่อน Y

read
4.3K
bc

เฮียครับผมรับไม่ไหว (Yaoi)

read
9.4K
bc

เพื่อนพ่อขอจัดหนัก (Yaoi)

read
4.0K
bc

พี่เขยเถื่อนสวาท (Yaoi)

read
3.4K
bc

รักครับ ยอมรับ

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook