Chapter 3

2028 Words
พอดีที่กลุ่มเด็กที่เขาเบียดตัวเข้ามาอยากจะเล่นพ่อแม่ลูก เจียงอันเหอจึงเกิดไอเดีย “อย่างนั้นข้าจะเป็นคนที่ฉลาดที่สุดและรู้เรื่องมากที่สุดในหมู่บ้านแห่งนี้” เด็กผู้หญิงที่ถักผมเปียมองเขาทีหนึ่ง “เจ้าอยากเป็นผู้ใหญ่บ้านหรือ งั้นเจ้าต้องไปหาผมสีขาวมาแปะหน้าแล้วล่ะ จะได้เหมือนกับผู้ใหญ่บ้านอย่างไรเล่า!” เจียงอันเหอได้ฟังจึงมองไปรอบๆ เขายังไม่เห็นผู้เฒ่าที่มีเคราขาวเลยสักคน จึงแสร้งถามขึ้นอย่างอยากรู้ “อย่างนั้นตอนนี้ผู้ใหญ่บ้านอยู่ที่ไหนเล่า ข้าอยากไปดูสักหน่อยว่าเคราของเขาเป็นเช่นไร แบบนี้จะได้เป็นผู้ใหญ่บ้านที่ดีได้!” เด็กผู้หญิงเกาหัว คิดเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น “ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน บางคราผู้ใหญ่บ้านก็มักจะนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไทร เจ้าลองไปดูที่ตรงนั้นเถิด” เจียงอันเหอกล่าวขอบคุณแล้วปล่อยให้พวกเด็กๆ เล่นกันไปก่อน ไม่ต้องรอเขา “ข้ายังต้องไปหาผมสีขาว จึงต้องใช้เวลาอีกนาน ไว้เล่นกันคราวหน้าเถิด!” หลังจากที่โบกมืออำลากับพวกเขา เจียงอันเหอจึงวิ่งไปที่ปากทางหมู่บ้าน มีผู้เล่นที่ดูกล้ำกลืนสองสามคนมองตามเงาหลังที่วิ่งไปอย่างมีความสุขของเจียงอันเหออย่างขมขื่น ช่างน่าอิจฉาเสียเหลือเกิน แต่เหตุการณ์เกมของคนอื่นตัวเองจะไปแย่งมาเล่นก็ไม่ได้ เล่นเป็นเด็กสอบถามข้อมูลไปแบบเดิมน่ะดีแล้ว เจียงอันเหอหาต้นไทรจนเจอ มีชายชราคนหนึ่งนั่งพิงเก้าอี้เถาวัลย์อยู่ใต้ต้นไม้จริงๆ เขาหลับตาพลางโบกพัดให้ตนเองอย่างสบายอารมณ์ ชายชราไม่ได้ลืมตามองมายังทิศทางที่เจียงอันเหออยู่ แต่ราวกับรู้ว่ามีคนเข้าใกล้ จึงเอ่ยปากพูด “หนูน้อย มาหาตาแก่อย่างข้ามีธุระอันใด” เจียงอันเหอประหลาดใจ แต่พอได้ยินการพูดเปิดทางตามมาตรฐานผู้ใหญ่บ้าน ก็มั่นใจว่าจะต้องเป็น NPC ที่สำคัญแน่ เขาวิ่งไปข้างเก้าอี้เถาวัลย์ หยิบ “ตำราหงส์ธารา” ออกมาจากอกเสื้อ ถามขึ้น “ท่านปู่ผู้ใหญ่บ้านขอรับ ท่านรู้เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้หรือไม่ขอรับ" ผู้ใหญ่บ้านค่อยๆ ลุกขึ้น รับหนังสือไป อาศัยแสงจันทร์หรี่ตาลงพลิกดูอย่างตั้งใจ “อืม...นี่เป็นตำราที่ค่อนข้างมีอายุแล้วน่ะ ‘ตำราหงส์ธารา’ ราวกับเคยได้ยินจากที่ไหน” ผู้ใหญ่บ้านมุ่นคิ้วครุ่นคิดพลางลูบเครายาวสีขาวของตนเองเป็นครั้งคราว เจียงอันเหอมองดูเขาอยู่ด้านข้างอย่างตื่นเต้น หวังว่าจะได้เบาะแสอะไรบ้าง “เฮ้อ มนุษย์พอชราลงก็ไร้ซึ่งประโยชน์อันใด!” ผู้ใหญ่บ้านส่ายหน้า ราวกับนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหน “แบบนี้แล้วกัน เจ้าช่วยข้าเด็ดดอกพระจันทร์ครึ่งซีกที่หลังภูเขามาให้ข้าหน่อย ยามได้กินเข้าไป สมองข้าจะแจ่มใสยิ่งนัก คลับคล้ายคลับคลาว่ามันเติบโตอยู่ในถ้ำของรังสัตว์ประหลาดอะไรสักอย่าง” ไม่รู้ว่าเขาชักกระบี่ไม้เล่มหนึ่งกับแหวนวงหนึ่งมาจากไหน ยื่นให้เจียงอันเหอ “ตาแก่อย่างข้าก็ไม่มีอะไรที่ให้เจ้าได้มากนัก กระบี่ไม้เล่มนี้กับแหวนสรรพสิ่งก็ให้เจ้าแล้วกัน หวังว่าเจ้าคงจะเด็ดสมุนไพรกลับมาให้ข้าได้” เจียงอันเหอรับกระบี่ไม้กับแหวนมาอย่างงงงวย ทดลองดูครั้งหนึ่ง ปรากฏว่าสอดกระบี่ไม้เข้าไปในแหวนได้จริงๆ ด้วย แหวนสรรพสิ่งคงจะเป็นกระเป๋าในเกมล่ะมัง ศิษย์ล่วงเกินครั้งที่ 6 ตอนนี้ระบบก็ส่งเสียงแจ้งเตือนอีกครั้งหนึ่ง [ภารกิจ (เด็ดสมุนไพร) ท่านปู่ผู้ใหญ่บ้านความจำไม่ดี ต้องการให้ท่านไปที่ดันเจี้ยนถ้ำด้านหลังภูเขา สามารถเข้าดันเจี้ยนได้จากจุดรับส่งด้านตะวันออกของหมู่บ้าน หลังจากที่ท่านปราบสัตว์ประหลาดในถ้ำได้แล้ว จะได้รับสมุนไพรดอกพระจันทร์ครึ่งซีก ขอเตือนด้วยความหวังดี ดันเจี้ยนนี้ต้องตั้งกลุ่มขึ้นมาอย่างน้อยสามคนจึงจะผ่าน กรุณาอย่าฉายเดี่ยว] ยังไม่ทันได้ฉายเดี่ยว เจียงอันเหอก็เริ่มคิดแล้วว่าจะไปหาอีกสองคนมาจากไหน เฮ้อ ลองไปดูที่ประตูดันเจี้ยนก่อนดีกว่า เผื่อที่ประตูดันเจี้ยนจะยังมีเจ้าเด็กน้อยตะโกนว่า “ตี้เข้าดันเจี้ยนสองขาดหนึ่ง แปดขวบขึ้นไป ทัก” เนื่องจากตอนนี้เป็นตอนกลางคืนแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงไปที่ลานกลางหมู่บ้านกัน ดังนั้นตลอดทางที่เจียงอันเหอเดินมาจึงมีแสงไฟลอดออกมาจากห้องสองแห่ง ส่วนที่อื่นๆ นั้นเงียบสงบ “ศิษย์พี่! ข้าอยากออฟไลน์!” “ไม่ได้หรอก ศิษย์น้อง ระยะเวลาออนไลน์ของเจ้าในสัปดาห์นี้ยังไม่นานพอ” “แต่ว่าข้าอยากฝึกบำเพ็ญในโลกความจริงนี่นา" “เฮ้อ อดทนสักหน่อยเถอะนะ อย่างไรเสียกฎระเบียบที่เหล่าผู้อาวุโสตั้งขึ้นมาพวกเราก็ต้องรักษา ศิษย์พี่ก็เป็นเพื่อนเจ้าอยู่นี่อย่างไรเล่า” “ศิษย์พี่...” เจียงอันเหอ ??? จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงสนทนามาจากหลังคาบ้าน ทำไมถึงรู้สึกแปลกได้ขนาดนี้นะ “ศิษย์พี่ ด้านล่างมีคนแอบฟังพวกเราอยู่!” สิ้นเสียง เงาคนสองเงาก็กระโดดลงมาจากหลังคาบ้าน มาอยู่ตรงหน้าของเจียงอันเหอ สองคนนี้ คนหนึ่งเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบกว่า ส่วนอีกคนเป็นชายหนุ่มอายุราวยี่สิบ คนที่อายุน้อยกว่าดูโกรธขึ้งเล็กน้อย ชี้ไปที่เจียงอันเหอแล้วพูด “เจ้ามาแอบฟังพวกเราสนทนากันได้อย่างไร” เจียงอันเหอทำหน้าไม่รู้เรื่อง “...ข้าเปล่า ไม่ใช่นะ ข้าแค่ผ่านมาทางนี้เท่านั้น!” “จริงหรือ” เด็กหนุ่มมองเขาอย่างสงสัย หนุ่มที่อยู่ข้างๆ ยิ้มให้ ลูบหัวเขา “เอาละ เสี่ยวซาน อย่าโวยวายไป สหายท่านนี้ ดึกดื่นป่านนี้ เหตุใดจึงมาเดินอยู่แถวนี้” พวกนายก็กำลังซุบซิบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ เจียงอันเหอกลอกตา “ ข้าตั้งใจจะไปดันเจี้ยนหลังภูเขาที่อยู่ด้านตะวันออกของหมู่บ้าน แต่จะว่าไป สหายผู้คุมเกมคนนั้นของเจ้าออกจะเข้มงวดไปหน่อยนะ...” สองคนฟังแล้วต่างทำหน้างุนงง ชายหนุ่มพูดขึ้นอย่างกระอักกระอ่วน “เอ่อ ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ...ถ้าเจ้าอยากไปดันเจี้ยน มิสู้พวกเราไปด้วยกัน เสี่ยวซานจะได้เห็นด้วยว่าสัตว์ประหลาดหน้าตาเป็นอย่างไร” “อย่างนั้นก็ดีเลย ข้ากำลังกลุ้มที่ไม่มีเพื่อนร่วมเดินทางพอดี” เจียงอันเหอเข้าไปรวมกลุ่มกับพวกเขาอย่างสนุก อย่าเพิ่งพูดถึงเด็กหนุ่มเลย ชายหนุ่มเองก็คงจะฉกาจไม่หยอก น่าจะเป็นผู้เล่นที่ฝากตัวเข้าสำนักเซียนแล้ว ทั้งสามออกเดินไปยังประตูสำรอง เดินพลางคุยพลาง ชายหนุ่มมีชื่อว่ามู่ชิง ฝากตัวเข้าสู่สำนักเฉียนหยวนจงเป็นที่เรียบร้อย ฟังจากที่เขาบรรยาย เฉียนหยวนจงเป็นสำนักที่ใหญ่อันดับหนึ่งของโลกบำเพ็ญเซียน แต่ตอนนี้เขาเป็นเพียงศิษย์นอกสำนัก ส่วนเด็กหนุ่มชื่อชางไป๋ซาน เป็นศิษย์น้องของมู่ชิง ที่พวกเขามาปรากฏตัวที่หมู่บ้านมือใหม่ก็เพราะอยากจะให้ชางไป๋ซานทำความคุ้นเคยกับมนตร์คาถา เจียงอันเหอฟังเขาบรรยายถึงเรื่องราวต่างๆ นานาที่เกิดขึ้นในสำนักเฉียนหยวนจง กับทัศนียภาพความงามของบรรพตเซียนที่สำนักเฉียนหยวนจง ก็บังเกิดความรู้สึกขึ้นในใจ ต่อไปเขาก็อยากฝากตัวกับสำนักเซียนที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ชางไป๋ซานเห็นสีหน้าของเจียงอันเหอก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ กำลังจะออกวาจากระทบกระเทียบ ศิษย์พี่ก็ห้ามไว้เสียก่อน จึงได้แต่เบ้ปาก ไม่สนใจ ในตอนที่ทั้งสามคนมาถึงดันเจี้ยนด้านหลังภูเขา เจียงอันเหอจึงเห็นว่าที่นี่ไม่มีคนเลยแม้แต่คนเดียว ไม่เหลือภาพคนจำนวนมากดุจทะเลคนตามที่เขาคิดไว้แต่แรก มู่ชิงราวกับอ่านความสงสัยบนใบหน้าเขาออก จึงอธิบายให้เขาฟังว่า “เกมนี้มีดันเจี้ยนน้อยมาก นอกจากดันเจี้ยนรวมขนาดใหญ่ ก็มีแค่ดันเจี้ยนตามเนื้อเรื่องตัวละครแล้ว ซ้ำดันเจี้ยนเนื้อเรื่องยังมีคนใช้ได้แค่นิดเดียว คนที่เข้าไปได้มีแต่ตัวละครตามที่เนื้อเรื่องกำหนด” เจียงอันเหอพยักหน้าเข้าใจ ทั้งสามคนจึงเดินไปยังจุดวาร์ป ราวกับเพียงพริบตา ภาพที่อยู่ตรงหน้าเจียงอันเหอก็กลายเป็นป่าเขามืดครึ้ม ด้านในมีถ้ำที่มืดสนิทอยู่ถ้ำหนึ่ง มู่ชิงเห็นว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีแสงสว่าง จึงร่ายคาถาสองสามคำที่เจียงอันเหอฟังไม่ออกออกมา จากนั้นในมือของเขาก็มีเปลวไฟดวงหนึ่งปรากฏขึ้น ส่องสว่างไปไกลสักสิบเมตรได้ มู่ชิงกำชับทั้งสองคน “พวกเจ้าเดินตามหลังข้าแล้วกัน อย่าเถลไถลล่ะ” ไม่รู้ว่าเขาชักกระบี่เล่มหนึ่งออกมาจากไหน จากนั้นจึงพาพวกเขาทั้งสองเดินเข้าไปในถ้ำ เจียงอันเหอยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้คุ้นหูคุ้นตานัก แต่เป็นเพราะมองไม่เห็นในถ้ำทั้งหมด เขาจึงยืนยันไม่ได้ จนกระทั่งทั้งสามเดินเข้ามาในส่วนลึกของถ้ำ จึงเห็นบอสดันเจี้ยน เจียงอันเหอถึงได้นึกออกว่าความคุ้นเคยนี้มาจากไหน บอสที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา มีสามหัว หกขา สามปีก ก็คือวิหคซ่างฟู่นั่นเอง ศิษย์ล่วงเกินครั้งที่ 7 เขาเจอวิหคซ่างฟู่เป็นครั้งที่สามแล้ว เจียงอันเหอจึงไม่ได้หวาดกลัวขนาดนั้นแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเคยโดนวิหคซ่างฟู่พาบินโฉบไปโฉบมาในตอนกลางวัน ตอนนี้เขาเดินตามหลังมู่ชิง รู้ดีว่าปลอดภัยและได้รับการคุ้มครองแน่นอน ตอนนี้จึงเริ่มคิดวิเคราะห์หาความแตกต่างของหัววิหคซ่างฟู่ทั้งสาม ส่วนอีกสองคนหน้าตาดูผ่อนคลาย หลังจากที่มู่ชิงเห็นเงาของวิหคซ่างฟู่อย่างชัดเจนแล้ว จึงเก็บกระบี่ของตนเข้า หันไปกำชับศิษย์น้องว่า “เสี่ยวซาน วิหคซ่างฟู่ตัวนี้รับมือได้ง่ายมาก ครานี้เจ้าขึ้นไปเองแล้วกัน ศิษย์พี่จะดูอยู่ด้านหลังให้” ชางไป๋ซานได้ยินเข้าแม้ว่าจะมีสีหน้าไม่เต็มใจ แต่ก็ยังขึ้นหน้าเผชิญกับวิหคซ่างฟู่ที่ตั้งท่าพร้อมรบ เจียงอันเหอมองอึ้งอยู่ด้านข้าง “ช้าก่อน เขาจะตีบอสคนเดียวหรือ” เด็กหนุ่มคนนี้ดูเรี่ยวแรงมัดไก่ยังไม่มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่เขายืนประจันหน้ากับวิหคซ่างฟู่ที่ตัวโตกว่าไม่รู้กี่เท่า ยิ่งทำให้คนดูอกสั่นขวัญแขวน “ไม่เป็นไรหรอก เสี่ยวซานเก่งกาจมากนะ” มู่ชิงไว้ใจเขามาก หากกลับกลัวว่าเจียงอันเหอจะเป็นฝ่ายเกิดเรื่อง “เจ้ากระเถิบเข้ามาด้านหลังข้าอีกนิด ระวังอย่าให้ได้รับบาดเจ็บ” เจียงอันเหอเขยิบเข้าไปด้านหลังอีกเล็กน้อย เวลานี้ชางไป๋ซานก็ได้สู้ชนะไปแล้วหนึ่งยก ระหว่างคนหนึ่งคนกับนกหนึ่งตัว ลูกศรดอกหนึ่งพุ่งเข้าไปปักกลางหัวของวิหคซ่างฟู่หัวหนึ่ง วิหคซ่างฟู่เองก็ตอบสนองไวมาก หลังจากที่หลบการโจมตีของเขาได้ ก็ใช้หัวทั้งสามล้อมไว้ อ้าปากกว้างพุ่งเข้าโจมตีชางไป๋ซาน เจียงอันเหอเห็นสถานการณ์ กำลังจะร้องตะโกนว่า “แย่แล้ว” ก็เห็นชางไป๋ซานตวัดขากลางอากาศตามหลักสรีรศาสตร์ ตวัดขาเตะเข้าที่หัวหัวหนึ่ง หัวนั้นเจ็บปวดจนหดเข้าไป ชางไป๋ซางจึงถอยออกมาจากวงล้อมหัววิหคซ่างฟู่จากกลางอากาศ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD