ฉันท์ทัตเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนเมื่อสังเกตว่าอารมณ์สาวนั้นระอุขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงเติมความเร่าร้อนด้วยการขบเม้มทับทิมสีหวานหนักหน่วงขึ้น สะโพกสอบเบียดบดชิดไปกับต้นขาอวบ ทำให้รู้ว่าเขาพร้อมอย่างถึงที่สุดที่จะสอนให้หล่อนได้เรียนรู้ในขั้นตอนต่อไปแล้ว…
หัวใจดวงน้อยเต้นโลดไปกับสัมผัสถนัดถนี่นั้น บางอย่างที่แข็งขึงกำลังดุนดันเลยขึ้นมายังหน้าขา เพียงพริบตาสิ่งที่คิดก็ถูกตอกย้ำด้วยร่างใหญ่ที่ขยับกายคร่อม…
หญิงสาวตระหนกเมื่อสบตาคมกริบวาววาม หล่อนนอนตัวลีบยกมือขึ้นแนบอกทั้งที่รู้ว่ามันไม่เคยช่วยหล่อนได้แต่หญิงสาวก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่ดีไปกว่านี้ พลันชายหนุ่มก็เลื่อนตัวลง แล้วก้มลงจุมพิตริมฝีปากกับหน้าท้องเนียนสวย ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนนุ่มบริเวณนั้นขยับเกร็งด้วยแรงหายใจหอบถี่ของหญิงสาว…
คนไร้ประสบการณ์โดยสิ้นเชิงกำลังหวาดกลัวเมื่อเขาเลื่อนใบหน้าต่ำลงไปอีก ทั้งกลัวและตื่นเต้นกับสิ่งที่เขากระทำ มือที่แนบอกเอาไว้นั้นประสานแน่นขึ้น ดวงหน้าหวานเห่อร้อนพลิกไปมากับที่นอนกว้าง…
ชายหนุ่มเหลือบตามองคนตัวนุ่มที่กระสับกระส่ายแล้วยิ้มนิดๆ ก่อนจะก้มลงไล้ริมฝีปากไปตามต้นขาอวบ เว้นส่วนสงวนอย่างจงใจให้หล่อนระทึกไปอีก ทอดเวลาแห่งความรัญจวนให้ยาวนานขึ้น…
มิ่งขวัญน้ำตาซึม เม้มปากแน่นเมื่อรับรู้อยู่เต็มอกว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตสาว สิ่งสำคัญในตอนนี้คือลำตัวของเขาเคลื่อนลงไปอยู่ระหว่างซอกขาเรียวงามแล้ว มือใหญ่ของเขาช้อนต้นขาข้างหนึ่งแล้วบังคับให้มันตั้งชันจนรู้สึกถึงความโล่งแจ้ง จนคล้ายกับว่ามีสายลมเย็นผ่านวาบไปเมื่อครู่ แล้วต้องสะดุ้งเยือกเมื่อถูกจุมพิตแรงๆ ใต้ท้องขาข้างนั้น ก่อนจะเลื่อนเข้าใกล้จุดบอบบางที่ทำให้หญิงสาวหายใจระรัว…
ทว่าก่อนสิ่งหวงแหนจะถูกรุกราน มือเล็กที่ประสานแน่นก็เอื้อมลงมาปิดป้องส่วนนั้นเอาไว้อย่างรวดเร็ว บอกชัดว่าหล่อนยังคงหวงแหนตัวเองมากแค่ไหน และไม่พร้อมที่จะให้เขาล่วงล้ำ ยังไม่พร้อมจะรับตัวเขาเอาไว้ ทำให้คนที่กำลังเลื่อนใบหน้าเข้าหาต้องเหลือบตาขึ้นมองเจ้าของมือน้อยด้วยแววตาหม่นมัวที่เกิดจากความรัญจวน แววตาบอกอารมณ์ทำให้เจ้าของนัยน์ตาวอนขอต้องหลบตาหนี จึงไม่ทันเห็นว่าเขายิ้มนิดๆ เปลี่ยนใจเลื่อนขึ้นทาบทับหล่อนเอาไว้ทั้งตัว เพียงแต่ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักลงไปทั้งหมดเพราะใช้ศอกทั้งสองยันไว้ข้างไหล่ของหญิงสาว แต่การกระทำเช่นนั้นกลับทำให้อะไรๆ ของเขาเบียดไปกับหลังมือนุ่มของหล่อนอย่างจงใจ คล้ายกลั่นแกล้ง…
“คะ... คุณทัต” หญิงสาวอยากร้องไห้ เสียงสั่นพลิ้วเมื่อสบตาเขา
“เป็นอะไร” เขาถาม แต่นัยน์ตาพราว จ้องนิ่งมาที่หล่อน หลุบตาลงมองแก้มแดงเห่อของมิ่งขวัญอย่างพอใจ
“ฉันคือฉัน…เอ่อ” หญิงสาวอึกอัก สบตาคมกริบเหมือนขอความเห็นใจ แต่สิ่งที่เขาตอบกลับมาคือ
“คุณเป็นของผม เพราะฉะนั้น อย่า… ยืดเวลา” เขาบอกพร้อมกับบดริมฝีปากลงปิดปากเล็กเสีย ดูดคลึงแผ่วเบาในคราแรก ก่อนย้ำน้ำหนักในคราวต่อมา บังคับให้หญิงสาวเปิดริมฝีปากรับปลายลิ้นของตนอย่างง่ายดาย แล้วซอนไซ้ตักตวงความหวาน รวบรัดดูดดุนปลายลิ้นเรียวเล็ก และควานมือไปทั่วเนื้อตัวเนียนละเอียดนุ่มละมุน ก่อนดึงเอามือทั้งสองข้างที่ยังปกปิดส่วนสาวขึ้นมา จับมันคล้องกอดไปกับต้นคอของเขา หญิงสาวทำตามอย่างพร่าเบลอ จนเขาถอนจูบจึงได้สบตาคมกริบอีกครั้ง เขายิ้มก่อนเลื่อนใบหน้าลงช้าๆ จนหญิงสาวสะดุ้งเมื่อลำคอระหงถูกขบเม้มเบาๆ พร้อมกับปลายลิ้นที่ฉกไล้ ก่อนไปหยุดซบกับทรวงอกอวบ เพียงเสี้ยววินาทียอดทับทิมก็ถูกครอบครองไว้ภายใต้อุ้งปาก หญิงสาวร้องครวญคราง เผลอตัวเผลอใจหยัดยกทรวงอกรับสัมผัสรัญจวน ชายหนุ่มเหลือบตามองเมื่อร่างบางสั่นสะท้าน ใบหน้างามแดงก่ำ สะบัดส่ายไปมาบนหมอนใบโต เขาเลื่อนมือจากแนวลำตัวอ่อนนุ่มไปยังสะโพกที่ผายออกน้อยๆ แล้วสอดท่อนแขนเข้าไปใต้ท้องขาอ่อน ยกมันขึ้นจนหญิงสาวต้องเบิกตามองเขาอย่างตื่นตระหนก เมื่อปลีน่องและฝ่าเท้าทาบไปกับแผ่นหลังตึงแน่นของเขา พลันหญิงสาวก็ต้องหลับตาลงและขบเม้มริมฝีปากอย่างข่มกลั้นความรู้สึกที่โหมซัด…
ฉันท์ทัตขยับกายเล็กน้อย ก่อนเลื่อนมือข้างที่ยืดท่อนขาอวบเอาไว้ลงมายังพุ่มกุหลาบงาม เขาค่อยๆ เคลื่อนไหวปลายนิ้วลูบไล้ไปรอบๆ ยังไม่จู่โจมในทันที รอจนกว่าหล่อนจะพร้อมมากยิ่งขึ้นเขาจึงเคลื่อนปลายนิ้วสอดลึกลงไปในความซับซ้อนของกายสาว
อารมณ์หวามสะดุดลงเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเลื้อยผ่านเข้าไปภายในหล่อนอย่างเชื่องช้า แต่เพียงครู่ความตระหนกก็ถูกเปลี่ยนเป็นความซ่านสยิวเมื่อสิ่งที่เข้าไปคั่งค้างในกายเริ่มขยับ…
“อื้อ…” หญิงสาวเผลอครางกระเส่า ใจเต้นแรงเมื่อความหฤหรรษ์เข้าครอบงำจิตใจ มือจิกลึกลงไปบนแผ่นหลังกว้าง ยิ่งเขาเคลื่อนกายต่ำหญิงสาวยิ่งสั่นสะท้านเป็นห้วงๆ ก่อนกรีดร้องด้วยน้ำเสียงหวานแหลมเมื่อจุดอ่อนและซับซ้อนที่สุดในร่างกายถูกโจมตีด้วยชิวหา และเวลาต่อมาก็ถูกสิ่งแปลกปลอมที่มีขนาดใหญ่โตกว่าเคลื่อนไหวและพยายามดุนดันเข้ามาในกายของหล่อน
“อย่า! อื้อไม่ โอ๊ย! เจ็บค่ะ… ฉันเจ็บ” น้ำเสียงที่ร้องบอกแผ่วลง ขณะที่เลื่อนมือลงมาผลักอกหนา น้ำตาไหลด้วยความเจ็บแทบขาดใจในขณะที่ผู้รุกรานนิ่งไปครู่ ก่อนจะโน้มใบหน้าลงหาแล้วจูบไซ้ไปทั่วดวงหน้าหวาน จูบซับน้ำตาที่หลั่งไหลแผ่วเบาจนหญิงสาวต้องหยุดร้องไห้ อ่อนไหวไปกับสัมผัสอ่อนโยนนั้น จากนั้นดวงตาสองคู่สบกันนิ่งในยามที่ทุกอย่างสงบเงียบ ทว่าเพียงไม่นานสิ่งที่ชายหนุ่มยัดเยียดก็ค่อยๆ ผลักดันหยั่งลึกสู่กายสาวอีกครั้ง หญิงสาวเม้มปากแน่น เจ็บแปลบเหมือนร่างถูกฉีกทึ้ง มือและขาสั่นระริก ในขณะที่ชายหนุ่มจับตามองหล่อนทุกอิริยาบถ เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้หล่อนเจ็บปวดมากไปกว่านี้ แต่เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้มากนัก และรับรู้อย่างเต็มอกว่าหล่อนต้องเจ็บเพราะความคับแน่นที่โอบกระชับเขาเอาไว้นั้นกำลังฟ้องออกมาอย่างชัดเจน…
เขาเพียรจูบปลอบหล่อน จุมพิตที่ริมฝีปากเบาๆ ลูบไล้และละลายความเจ็บปวดด้วยสัมผัสหวาม จนเมื่อหล่อนครอบครองเขาได้หมด และหญิงสาวก็ค่อยๆ คลายกระแสเสียงแห่งความเจ็บลง ชายหนุ่มจึงค่อยๆ ขยับกายทีละนิด เขาเห็นหล่อนนิ่วหน้ายามที่เขาเคลื่อนกายออกห่าง และหรี่ตาลงพลางเม้มปากเข้าหากันเมื่อเขาดันกายกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งอย่างช้าๆ
“คุณทัต…” เสียงสั่นพร่าร้องเรียกเขา