ณ บ้านอินทรา
" พ่อค่ะ แม่ค่ะ อาทิตย์หน้าน้ำอุ่นจะไปดูงานที่ภูเก็ตนะคะ "
น้ำอุ่นเดินมาบอกแววดาวและณรงค์กรที่นั่งดูทีวีกันอยู่
" ทำไม่ลูกไม่ส่งคนไปเองล่ะ จะทำเองทำไม "
มารดาเอ่ยขึ้น เพราะไม่อยากให้ลูกสาวต้องไปค้างต่างจังหวัดนานๆ
" คืออุ่นจะไปหายัยแพรด้วยค่ะแม่ แม่จำแพรไหมเพื่อนอุ่นได้มั้ย "
แพรไหม และน้ำอุ่น แล้วก็ขนมปัง เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม แพรไหมเป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนในกรุงเทพ พ่อแม่ของแพรไหมมีธุรกิจส่วนตัวและมีรีสอร์ทของตัวเอง ส่วนขนมปังพ่อแม่ของเธอเป็นคนภาคเหนือ แต่เธอเองชอบใช้ชีวิตในกรุงเทพเสียมากกว่า พอเรียนจบแล้วเธอก็เลยทำงานอยู่ในกรุงเทพ
" จำได้สิ ทำไมจะจำไม่ได้ แต่ยังไม่ซะแม่ก็ไม่อยากให้ลูกต้องไปนอนค้างที่ไหนนิ แม่เป็นห่วง "
" นี่คุณ ทำเหมือนกับว่าลูกยังเป็นเด็กอยู่ยังงั้นเลย น้ำอุ่นมันโตแล้ว อีกอย่างบริษัทของเราตอนนี้น้ำอุ่นก็เป็นคนดูแลแทบจะทุกอย่าง ปล่อยให้ลูกได้ไปพักผ่อนมั้งเถอะน่ะ "
รณงค์กรที่นั่งฟังผู้เผ็นภรรยาและลูกสาวอยู่นานเอ่ยขึ้นบ้าง
" ไปเถอะลูก ทางนี้เดี๋ยวพ่อให้ไอ้ตามมันดูแลงานช่วงที่ลูกไม่อยู่เอง "
" ขอบคุณนะคะพ่อ งั้นอุ่นขอตัวไปหาขนมปังหน่อยนะคะ "
พูดจบน้ำอุ่นก็เดินออกมาทันที
ณ คอนโดSK
" จริงหรอแก แต่ฉันคงไปไม่ได้อ่ะ ฉันพึ่งจะลางานเมื่อวันก่อนเอง ขืนลาอีกมีหวังโดนไล่ออก ได้กลับไปช่วยแม่ขายของที่บ้านแน่แหล่ะ "
เมื่อน้ำอุ่นบอกกับขนมปังว่าจะไปภูเก็ต เธอเองก็อดดีใจและเสียดายไปในเวลากัน เพราะเธอไม่ได้เป็นรองประธารเหมือนกับน้ำอุ่น ที่จะได้ไปไหนมาไหนโดยที่ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องโดนไล่ออกเหมือนกับเธอ เธอก็แค่ลูกของแม่ค้าขายข้าวแกง ที่ทะเยอทะยานสอบชิงทุนเพื่อให้ตัวเองได้มาอยู่ในกรุงเทพ คอนโดที่เธออยู่นั้น น้ำอุ่นก็เป็นคนให้เธอมาอยู่ฟรีๆ น้ำอุ่นช่วยเธอทุกอย่าง แต่ขนมปังก็ยังแอบคิดอิจฉาที่น้ำอุ่นทั้งรวย และเรียนเก่ง พอจบออกมาก็ไม่ต้องดิ้นรนหางานเหมือนกับเธอ
" เรื่องนั้นแกไม่ต้องเป็นห่วง ฉันคุยกับพี่มะเหมี่ยวแล้ว พี่แกอนุญาติแล้วด้วย "
พี่มะเหมี่ยวคือเจ้าของร้านอาหารที่ขนมปังทำงานอยู่นั่นเอง พี่มะเหมี่ยวเป็นหลานสาวของบิดาของน้ำอุ่น ที่ขนมปังได้เข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟก็เพราะน้ำอุ่นเป็นคนขอให้มะเหมี่ยวรับเธอเข้าทำนั่นเอง นี่แหล่ะคือสิ่งที่ทำให้ขนมปังคิดว่าน้ำอุ่นทำเหมือนกับเธอเป็นคนไร้ความสามารทั้งๆที่น้ำอุ่นนั้นหวังดีกับเธอ
" สรุปแกจะไปด้วยหรือเปล่า ถ้าไปแกก็เก็บของรอเลย เดี๋ยววันอาทิตย์ฉันจะมารับ เราจะขับรถไปเองน่ะ ขี้เกียจนั่งเครื่องไป "
" ได้จ้ะ ขอบคุณที่มาชวนน่ะน้ำอุ่น "
วันออกเดินทาง
" นี่จะไปอยู่ที่นู้นเลยหรือไงกันน้ำอุ่น ทำไมเก็บเสื้อผ้าไปเยอะขนาดนี้ "
มารดาของน้ำอุ่นเดินมาสำรวจสิ่งของที่แม่บ้านช่วยน้ำอุ่นขนลงมาจากห้อง
" แฮร่ๆ มันไม่มีอะไรมากหรอกค่ะแม่ ก็แค่พวกเสื้อผ้า แล้วก็พวกของที่ใช้ทำงานทั้งนั้น ที่เหลือของขนมปังทั้งนั้น "
" สวัสดีค้ะคุณแม่ "
ขนมปังยกมือไหว้แววดาวอย่างเคารพ ก่อนจะยิ้มให้ท่านไป
น้ำอุ่นเดินไปกอดมารดาอย่างออดอ้อน ก่อนจะกกจมูกลงบนแก้มมารดาเบาๆ
" แล้วคุณพ่อ อุ่นยังไม่เห็นท่านเลย "
" คุณพ่อออกไปแต่เช้าแล้วจ้ะ เห็นว่ามีนัดกับเพื่อน แล้วก็นี่ คุณพ่อฝากให้ลูกจ้ะ "
แววดาวยื่นเช็คให้น้ำอุ่น เมื่อน้ำอุ่นรับมาดูก็ต้องทำตาเบิกกว้าง
" โห้ ทำไมคุณพ่อให้เงินเยอะขนาดนี้ค่ะแม่ "
" เค้าคงกลัวลูกจะอดล่ะมั้ง รับไปเถอะ พ่อเค้าเต็มใจให้ "
" ไม่เอาหรอกค่ะ แค่เงินเดือนที่พ่อให้อุ่นก็จ่ายไม่หมดแล้ว นี่ยังจะให้มาตั้งสองแสน กะจะให้อุ่นอยู่ที่นู้นเลยหรอค่ะเนี้ย 555 "
น้ำอุ่นยื่นเช็คคืนมารดาไป แล้วเดินเข้าไปกอดอีกครั้งก่อนจะออกเดินทางกัน ตลอดเวลาที่ขับรถพี่แหม่มก็ช่วยน้ำอุ่นเปลี่ยนขับบ้าง พี่แหม่มคือเลขาขอน้ำอุ่นนั่นเอง ส่วนขนมปัง ไม่ได้สนใจอะไร ได้แต่นั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์จนน่ำอุ่นอดเป็นห่วงไม่ได้เลยถามออกไป
" เป็นอะไรหรือเปล่าปัง ฉันเห็นแกนั่งทำหน้าไม่ดีตั้งแต่ออกรถมาแล้ว "
" เปล่าหรอก ฉันแค่กลัวคนที่ร้านจะคิดว่าฉันขี้เกียจงานอ่ะ "
" เรื่องนี้นี่เอง อย่าคิดมากเลยแก ถ้าแกกลัว งั้นแกมาทำงานที่บริษัทฉันมั้ย จะได้ไม่ต้องคิดมากไง "
เมื่อได้ยินคำนั้น ขนมปังก็หันมามองหน้าน้ำอุ่นทันที
นี่เขาจะทำให้เธอดูแย่ในสายตาคนอื่นไปถึงไหน
ขนมปังได้แต่คิดในใจและปั้นหน้ายิ้มออกไป น้ำอุ่นนั่งอยู่เบาะหลัง เลยแอบมองแรงน้ำอุ่นอยู่บ่อยครั้ง จนพี่แหม่มซึ่งตอนนี้เป็นคนขับรถแอบเห็นหลายครั้ง
" คุณน้ำอุ่นค่ะ เราแว่ะหาอะไรทานก่อนมั้ยค่ะพี่ชักจะหิวแล้วเนี้ย "
" เอาสิ อุ่นก็หิวแล้วเหมือนกัน "
" เราจะทานอะไรดีค่ะ ร้านข้างหน้าดีไม่ค่ะ "
" แล้วแต่เลยค่ะพี่ แกหิวหรือยังปัง "
น้ำอุ่นหันไปถามขนมปัง เธอได้แต่พยักหน้าตอบกลับน้ำอุ่น ก่อนที่ทั้งสามจะเดินลงมาสั่งอาหารกัน
หลังจากทานอาหารกันเสร็จทุกคนก็พากันนั่งรถต่อจนมาถึงปั้มเพื่อจอดพักรถ พี่แหม่นลงไปเข้าห้องน้ำกับขนมปัง ส่วนน้ำอุ่นไปซื้อของเพื่อเอามาตุนเวลาขับรถ
" พี่แหม่มทำงานกับยัยอุ่นนานหรือยังค่ะ "
ขนมปังเอ่ยถามพี่แหม่ม
" พี่ทำงานที่นี่ก่อนที่คุณน้ำอุ่นจะเข้ามาอีกค่ะ พอคุณน้ำอุ่นเข้ามารับตำแหน่งรองประธาน พี่ก็ได้เลื่อนขั้นเป็นเลขาของคุณน้ำอุ่น มีอะไรหรือเปล่า "
" พี่คิดว่าน้ำอุ่นเป็นคนแบบไหนค่ะ "
พี่แหม่มมองหน้าขนมปัง และตอบกลับไป
" ก็น่ารักดีนะคะ ถึงเธอจะดูแข็งๆ แต่เธอก็เป็นกันเอง ไม่ถือตัวด้วย งั้นพี่ขอตัวนะคะ "
พูดจบพี่แหม่มก็เดินออกมาแล้วเดินไปสมทบกับน้ำอุ่นที่เซเว่น
ขนมปังเมื่อฟังที่พี่แหม่มพูดก็หวนคิดถึงสองปีที่แล้วที่พวกเขาเรียนจบ
" นี่ตอนนี้เราก็จบแล้วพวกแกจะทำงานอะไรหรือว่าพักผ่อนก่อนว่ะ "
แพรไหมพูดขึ้น ขณะที่ยืนรอรับประกาศนียบัตร
" ฉันคงต้องไปดูแลบริษัทแทนคุณพ่ออ่ะ ตอนแรกกะว่าจะพักผ่อนสักเดือนสองเดือนค่อยทำ แต่คุณพ่อท่านไม่ค่อยสบาย เลยต้องไปดูแลบริษัทแทนท่าน แล้วพวกแกอ่ะ"
" ฉันเองก็ต้องกลับไปดูแลรีสอร์ทอ่ะ แต่ฉันบอกทางบ้านว่าขอพักสองมองก่อน "
ขณะที่คุยกัน ขนมปังเองก็มีสีหน้าไม่สู้ดีเพราะเธอไม่รู้จะทำไงต่อ จะกลับไปลำปางก็ไม่รู้จะไปทำอะไร ทางบ้านของเธอก็แค่ทำข้าวแกงขายไปวันๆ
" แกล่ะขนมปัง จะกลับลำปางหรือทำงานที่นี่ "
น้ำอุ่นถามขนมปังด้วยแววตาห่วงใย
" คงต้องหางานที่นี่ทำอ่ะ กลับไปก็ไม่รู้จะทำอะไร"
" นี่ไง แกก็ไปสมัครเป็นเลขายัยอุ่นสิ ไหนๆอุ่นมันก็จะรับตำแหน่งรองประธานอยู่แล้ว "
แพรไหมออกความคิดเห็น ขนมปังทำหน้าตามีความหวัง หากแต่ความต้องดับลงเพราะน้ำอุ่น
" คือ พ่อของฉันแกหาไว้ให้แล้วว่ะ แต่ถ้าตำแหน่งอื่นมีน่ะแก ฝ่ายบัญชี ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ถ้าแกสนใจลองไปดูน่ะ ฉันจะจารณาเป็นพิเศษ "
น้ำอุ่นพูดจบแล้วเดินไปรับประกาศนียบัตรเพราะถึงคิวเธอพอดี
" ลองไปดูน่ะขนมปัง ยัยน้ำอุ่นมันหาตำแหน่งดีๆมาให้แกทั้งนั้น "
แพรไหมพูดแล้วเอามือตบบ่าขนมปังเบาๆ หากแต่ขนมปังกลับคิดไปอีกแบบ
" หึ ให้ฉันไปเป็นลูกน้องให้ยัยอุ่นจิกหัวใช้เนี่ยน่ะ ไม่ดีกว่าว่ะ "
พูดจบขนมปังก็เดินไปรับประกาศนียบัตรต่อ ทิ้งให้แพรไหมอึ้งกับคำพูดของขนมปัง