@เช้าวันใหม่@บ้านพลผลาดล
เขมรัฐตื่นแต่เช้าและนัดแนะให้นายตู้มารับที่บ้าน
"อ้าวเฮียตู้สวัสดีค่ะ เตี่ยให้มารับเหรอคะ" วรรณดาเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นคนตัวสูงท้วมเดินเข้ามาในบ้านอย่างสงบเสงี่ยมและชะเง้อคอมองหาใครบางคน ซึ่งเธอคิดว่าไม่รู้จะชะเง้อทำไมเพราะตัวก็สูงอยู่แล้ว อีกอย่างสามีของเธอก็ไม่ได้นั่งรอที่บันได ฝ้าเพดานสักหน่อย
"ครับ นายให้มารับไปร้านขนมของคุณนิวครับ" ชายวัยกลางคนเอ่ยยิ้ม ๆ
"เค้าไม่ได้ถามก็ไม่ต้องตอบละเอียดขนาดนั้นก็ได้ครับคุณบำรุง แล้วนั่นทานอาหารเช้ามามั๊ยครับ"
"เรียบร้อยมาแล้วครับนาย ไปกันหรือยังครับ" บำรุงเอ่ยถามอย่างแสนซื่อ
"เดี๋ยวผมขอดื่มกาแฟกับกินซาลาเปานี่สักหน่อยได้มั๊ยครับ ซาลาเปาอร่อยมาก เอาสักก้อนมั๊ยล่ะ อ่ะ" เขมรัฐต่อรองพร้อมกับยื่นซาลาเปาให้คนสนิทรุ่นพี่แล้วทำท่าคะยั้นคะยอให้รีบกิน
"เฮียตู้ดื่มกาแฟสักแก้วมั๊ยคะ" วรรณดาเอ่ยถามพร้อมกับนำแก้วน้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบมาวางไว้ตรงหน้า
"กาแฟผมดื่มมาแล้วครับนายหญิง ขอบคุณครับ"
"ออ งั้นก็กินซาลาเปากับน้ำเปล่าไปเน๊าะ วันนี้เด็กน้อยของเฮียจะให้พาไปเที่ยวไหนล่ะคะ"
"หึหึ ร้านขนมน่ะครับ นายบอกว่าจะไปดูแลเสียหน่อย" บำรุงตอบอย่างตรงไปปตรงมา
"อ้าวก็ไหนว่าให้นายนิวเช่าต่อแล้วนี่คะ" คุณวรรณดาเอ่ยถามขึ้นอย่างนึกสงสัย
"เค้าไม่ทำแล้ว ผิดใจตั้งแต่นู่นแหละ เลยต้องทำเอง สงสารร้าน สงสารลูกค้า เคยกินก็มาถามหา ไหนจะขนมอีกใครจะทำ" เขมรัฐอธิบายเป็นฉาก ๆ
"อ้าวทำไม่เป็นงี้ล่ะ" วรรณดากล่าวเป็นเชิงตำหนิชายหนุ่ม
"ก็เราไปหลอกเค้าก่อน เค้ารู้ความจริงเค้าเลยงอน ปล่อยทิ้งปล่อยขว้างร้านเตี่ยเลย แถมบอกอีกว่าจะเรียกค่าเสียหายเท่าไรเป็นค่าผิดสัญญาก็ว่ามามีจ่ายอีกต่างหาก เด็ดมั๊ยล่ะ ว่าที่ลูกเขยแม่" เขมรัฐอธิบายให้ภรรยาฟังเพื่อไม่ให้เธอเข้าใจในตัวชายหนุ่มผิดไป
"อืม..สมน้ำหน้าแล้วหละ ทำเองไปซิ ลำบากเฮียตู้แกอีกตามเคยต้องคอยมารับมาส่งเด็กขายขนมเนี่ย ขายได้วันละเท่าไรกันเชียวแม่ขอถามหน่อย"
"ก็หักค่าใช้จ่ายต้นทุนทำขนมแล้วก็พอจ่ายค่าน้ำค่าไฟอยู่แม่" เขมรัฐตอบตามความสัตย์จริง
"เออ ไม่เข้าเนื้อก็ดีแล้ว ทำไปจะได้ไม่ว่าง ไม่ฟุ้งซ่านไม่ไปยุ่งกับลูกให้มากนัก ปล่อยให้เค้าใช้ชีวิตของเค้าไปเถอะ"
"จ้ะแม่ เตี่ยอิ่มแล้ว เตียไปร้านก่อนนะคะ/ไปครับคุณบำรุง ไปทำขนมกันดีกว่าเน๊าะ" เขมรัฐที่ได้ช่องรีบชวนคนสนิทล่าถอยออกไปอย่างละมุนละม่อมเพราะถ้าอยู่นานอาจจะถูกซักฟอกไปเรื่อย ๆ
หึหึ "ครับ" บำรุงหัวเราะขำเจ้านายและรับคำเจ้านายแล้วพากันออกไป
ด้านวรรณดาได้แต่ส่ายหัวไปมากับความดื้อเงียบ ๆ ของสามี ไม่ทะเลาะด้วย ไม่เถียงแต่ไปแบบนิ่ม ๆ น่ารัก ๆ
ตัดมาที่ณรรรดา
@ฟร้อนออฟฟิศ
"พี่วันพระจะลาออกแล้วเหรอคะ แล้วใครเป็นบัดดี้ให้ใบตองล่ะ ใบตองยังไม่เก่งเลย" สองสาวบัดดี้ที่คุยกันสัพเพเหระไปเรื่อยในระหว่างที่รอเวลาเลิกงานและดึกก็มารับช่วงแล้ว
"แหม..น้องใบตองเป็นคนเก่งอยู่แล้ว อีกอย่างเรายังมีพี่แพรอยู่นะ พี่แกทำงานรับจองเข้าเวลาออฟฟิศปกติ ถ้าสงสัยอะไรก็ถามแกได้"
"จริงด้วยใบตองลืมสนิทเลย" ณรรรดายิ้มอย่างมีความหวัง
"นี่ก็ใกล้จะห้าทุ่มแล้วจะได้เวลาออกกะแล้ว จะไปเที่ยวไหนต่อไหมหนอสาว ๆ"
"ไม่ไปอ่ะ หนูว่าจะกลับบ้านนอนเลย ไม่อยากออกไปไหนทั้งนั้น ไม่อยากให้คนอื่นมาดูถูกได้ว่าเป็นคุณหนูเอาแต่สำเริงสำราญไปวัน ๆ"
"พูดเหมือนน้อยใจอะไรใครหรือเปล่า" เพ็ญสุดาเอ่ยถามอย่างพอจะเดารูปการณ์ออก
"……." ณรรรดาเงียบแต่หลบตาคู่สนทนา
"พี่จะบอกอะไรให้ฟังสักอย่างนะคะ บางทีสิ่งที่เราเห็นอาจไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปนะพี่ผ่านมันมาแล้ว พี่กับพี่เกมกว่าจะมีวันนี้ ก็ผ่านอะไรมาเยอะ ต้องขอบคุณพี่เกมที่หนักแน่นคอยยื้อพี่ไว้ กุมมือพี่ไว้ไม่ยอมปล่อย" เพ็ญสุดาเล่าไปพลางสังเกตอากัปกิริยาของคนน้องไป
"พี่กำลังจะบอกอะไรใบตองหรือเปล่าคะ"
"คนเรานะใบตอง เราจะไม่เข้าใจความรู้สึกของคน ๆ นั้นหรอกถ้าเราไม่เคยอยู่ในสถานะนั้น พี่เองก็มีสถานะคล้าย ๆ กันกับพี่นิวนะ แต่ยังดีที่พี่มีตายายและน้องชายถึงจะไม่ร่ำรวยแต่ก็ไม่ลำบากอะไร แต่พี่นิวโดดเดี่ยว มีเพียงยาย ยายก็ส่งมาให้หลวงตาท่านอุปการะเลี้ยงดูตั้งแต่ยังเด็กเสียงั้น มันอ้างว้างนะคะ กว่าจะมาได้ขนาดนี้พี่แกต้องต่อสู้มากมายขนาดไหน พี่แกย่อมจะประมาณตัวเป็นธรรมดา"
"พี่วันพระคะ แต่ใบตองไม่ได้ฉาบฉวยกับพี่เค้านะคะ ใบตองรู้สึกมากกว่านั้น ยังจำได้ดีแววตาที่มุ่งมั่นตอนที่พี่เค้ากระโจนเข้าช่วยใบตองอย่างไม่คิดชีวิตจนตัวเค้าเองต้องป่วยหนักอย่างที่ผ่านมา" ณรรรดาพูดมันออกมาจากส่วนลึกของหัวใจ
"เราก็เลยตอบแทนพี่เค้าด้วยการมอบความรักให้ อย่างนั้นหรือเปล่า?" เพ็ญสุดาหยั่งถาม
"ไม่นะคะ ส่วนนึงหนูรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณที่พี่เค้าช่วยชีวิตหนู แต่หนูสามารถตอบแทนด้วยวิธีอื่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตไปผูกติดด้วยนี่คะ" ณรรรดาหักล้างด้วยเหตุผล
"เฮ๊อ..นั่นแหละ นั่นคือสิ่งที่ใบตองต้องเอาไปบอกกับพี่นิวเค้า พี่ว่าปัญหามันมีอยู่แค่ตรงนี้แหละ" เพ็ญสุดาบอกใบ้ให้
"ใบตองเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะพี่วันพระ หนูไม่แปลกใจเลยทำไมท่านประธานวีกรุ๊ปถึงได้รักพี่นักรักพี่หนา ทั้ง ๆ ที่ใคร ๆ ก็ลงความเห็นว่าพี่ติงต๊องกันทั้งนั้นแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย พี่วันพระคือที่ปรึกษาที่เฉียบมาก" ณรรรดาพูดออกมาอย่างใสซื่อแต่สะกิดใจคนฟังไปนิดนึง