ใหญ่ตระการจัดการทุกอย่างที่พูดไม่มีตกหล่น
ร่างสูงใหญ่โอบเอวเกวลินทร์ก้าวเข้าในบ้านที่มีคนรับใช้นับสิบ ข้าวของในบ้านตกแต่งด้วยสีทองสลับขาวแม้แต่ม่าน เขาไขว่ห้างและนั่งลงเพียงไม่ถึงหนึ่งนาที สิงหราชก็เดินเข้ามาพร้อมกับวาดจันทร์และแดนสิงห์
หนึ่งคนสีหน้ามีความสุขราวกับตกเหยื่อตัวใหญ่ได้
หนึ่งคนมีสีหน้าหวาดกลัวตลอดเวลา แม้จะพยายามเก็บอาการ แต่นอกจากเค้าโครงหน้าก็ไม่มีอะไรเหมือนลูกสาวเลย
และอีกหนึ่งคนที่แม้ใบหน้าจะนิ่งเฉย ประดับด้วยรอยยิ้ม แต่แววตากลับอยากฆ่าเขาและภรรยาของเขาให้ตาย
ใหญ่ตระการยิ้มกริ่มจิบชาอย่างอารมณ์ดี
“เรื่องไม่จัดงานแต่ง ผมก็พอจะเข้าใจว่าคุณใหญ่คงไม่อยากยุ่งยาก แต่ไม่ให้หนูเกลลูกสาวผมกลับบ้านคงต้องติงหน่อยนะครับ” สิงหราชเปิดบทสนทนาหลังจากเด็กรับใช้ในบ้านวางถ้วยชาสำหรับเจ้าของบ้านลงเรียบร้อย เขายิ้มใจดีให้กับลูกสาวไม่สนใจว่าเธอกำลังหยิบขนมเข้าปาก ในเมื่อขายออกไปแล้วจะเป็นยังไงนั่นไม่ใช่ธุระของเขาอีกต่อไป
“ใครให้ลูกสาวคุณถูกใจผมล่ะ”
เกวลินทร์หน้าขึ้นสี ไม่คิดว่าเขาจะพูดห่าม ๆ ต่อหน้าคนอื่นแบบนี้
ปึก!
แดนสิงห์กระแทกถ้วยชาอย่างไม่ชอบใจ
ของของเขา...ถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตา
ลมหายใจของแดนสิงห์หนักหน่วงขึ้น จนแม้แต่สิงหราชก็สังเกตเห็น แม้เขาจะรู้อยู่แล้วแต่ตอนนี้แดนสิงห์เหมือนระเบิดเวลาที่กำลังจะทำลายทุกอย่าง เพียงรู้ว่าเกวลินทร์ตกเป็นของใหญ่ตระการไปแล้ว
“น้องภรรยามีอะไรไม่ชอบใจเหรอ ฉันไม่ทำให้พี่สาวนายไม่มีความสุขหรอก”
“อย่างน้อยก็ให้พี่เขากลับมาบ้านบ้างเถอะครับ”
“พอดีฉันไม่อยากห่างเมียน่ะสิ คุณพ่อตากับคุณแม่ยายไม่มีอะไรอยากจะพูดเหรอครับ” ใหญ่ตระการแบมือรับเอกสารจดทะเบียนของตัวเองและเกวลินทร์จากภูผาวางบนโต๊ะ เขาแสร้งพูดสุภาพแต่น้ำเสียงไม่ไว้หน้าสิงหราชเลย
เหมือนบอกว่าถ้าจะเรียกร้องอะไรก็ว่ามา
“เขตเหนือถ้าคุณยินดีแบ่งให้ผมช่วยดูแล ผมก็ไม่มีอะไรจะขัดขวางคุณกับหนูเกลหรอกครับ”
“ได้สิ” สิงหราชยิ้มกว้างนัยน์ตาของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความโลภ
คุ้มค่าจริง ๆ ลูกสาวที่เขาเลี้ยงมา
เกวลินทร์ยิ้มขมขื่นในใจแต่สงบปากสงบคำให้มากที่สุด เหมือนทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าสิงหราช
“แต่จะให้ทั้งเขตคงต้องดูก่อนว่าลูกสาวคุณมีค่ามากพอขนาดนั้นรึเปล่า...”
“อะไรกันครับ” สิงหราชตวัดตาขึ้นอย่างไม่พอใจ ผิดกับเกวลินทร์ที่รู้สึกว่ามันมีค่าไปสำหรับตัวเธอด้วยซ้ำ
เธอแทบไม่ใส่ใจกับคำพูดร้ายกาจของเขาเลย แม้มันจะกระตุ้นสองพ่อลูกให้รู้สึกโกรธก็ตาม ถึงแม้ใหญ่ตระการไม่ยอมเสียอะไรเลยแลกกับพาเธอไปอยู่ในความคุ้มครอง เกวลินทร์ก็เต็มใจอยู่ดี
“อย่าเพิ่งโกรธสิ ถ้าเป็นแค่เขตนี้ผมจัดการให้ได้เลย ลองคิดดูแล้วกัน” นิ้วหยาบกร้านของมาเฟียหนุ่มจิ้มลงบนโต๊ะที่ว่างเปล่าเหนือที่รองแก้ว เท่านั้นสิงหราชก็รู้แล้วว่าเกวลินทร์มีค่าเท่าไหร่
“มะ...ไม่ครับ ตกลงตามนี้เลย”
แดนสิงห์กัดฟันกรอด เงินแค่ไม่เท่าไหร่ทำให้พ่อเขากลายเป็นหมาที่เห็นขนมที่หล่นพื้นของใหญ่ตระการเป็นของมีค่า ยกเกวลินทร์ให้อย่างง่ายดายและเซ็นชื่อในเอกสารที่ไม่อ่านให้ดีด้วยซ้ำ
“งั้นผมคงต้องกลับแล้ว”
“ไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันเหรอครับ วันนี้ฉันอุตส่าห์ให้แม่บ้านเตรียมอาหารที่หนูเกลจะชอบไว้ ชวนคุณใหญ่นอนที่นี่ด้วยกันสิ”
“ไม่ดีกว่า ผมคงต้องกลับไปกินกับภรรยาที่บ้าน”
“ฮ่า ๆ อย่างนั้นสินะครับ”
“ถ้าคุณใหญ่ว่าแบบนั้นเกลก็ไม่อยากขัดค่ะ รักษาตัวด้วยนะคะคุณพ่อ รักษาตัวด้วยนะคะแม่”
“จ้ะ แม่ให้คนเก็บของให้แล้วนะ ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกแม่นะ”
“ค่ะ”
“แล้วคุณแม่ไม่มีอะไรจะขอเหรอครับ” ลูกเขยมองหน้าแม่ยาย เธอที่นั่งเงียบและหลบสายตาเขาในตอนนี้กลับเงยหน้ามอง ก่อนจะเอ่ยอย่างหนักแน่น
“ฝากคุณใหญ่ดูแลเกลด้วยนะคะ”
ใหญ่ตระการพยักหน้า เขาโอบเอวเกวลินทร์ให้เดินไปพร้อมกับสิงหราช ที่ดูจะพอใจกับค่าตอบแทนของการขายลูกสาวไม่น้อย
วาดจันทร์ยิ้มเมื่อเห็นใหญ่ตระการที่ถึงจะดูน่ากลัวแต่คงฝากลูกสาวเธอไว้ได้ เธอมองแผ่นหลังลูกสาวโดยไม่ทันเห็นสายตาดำมืดของลูกเลี้ยงที่เดินตรงเข้ามาตรงหน้าเธอ เขาคว้าลำคอของแม่เลี้ยงกระแทกเข้ากับผนังกำแพง ทั้งที่แขกเพิ่งเดินออกจากห้องไปไม่กี่ก้าว ก่อนจะออกแรงบีบด้วยความโกรธทั้งหมดที่มี
“คะ...คุณแดน!”
“ถ้าไม่มีปัญญาจะปกป้องก็ควรจะพยายามบ้างสิ กล้าดียังไงมายกของของฉันให้หมาตัวอื่น”
“แคก ๆ ๆ คะ...แดน...เฮือกกกก”
“เกลหนีไปแล้ว ถ้าเธอตายเกลจะกลับมางานศพรึเปล่า ตอบสิ! ฉันถามว่าของของฉันจะกลับมารึเปล่า” ใบหน้าเลื่อนลอยราวคนเสียสติมองวาดจันทร์ทั้งดวงตาแดงก่ำ
“กรี๊ดดดด...เอ่อ...”
“เฮือกกก แคก ๆ”
น้ำตาของวาดจันทร์ไหลพรากเมื่อถูกปล่อยลำคอออก เพราะเสียงกรีดร้องของเด็กรับใช้ที่พรวดพราดเข้ามาตามวาดจันทร์ตามคำสั่งของสิงหราช
วินาทีนั้นเธอถึงรู้เหตุผลที่ทำให้เกวลินทร์ต้องหนีออกจากบ้านหลังนี้
ไม่ใช่เพราะสิงหราชที่บังคับเธอ
แต่เป็นเพราะแดนสิงห์ที่อยากครอบครองลูกสาวของเธอ