ยามที่สายตาของสองพ่อลูกสบกัน…ไร้แม้เศษเสี้ยวของความอบอุ่นมีเพียงความห่างเหินอันเย็นเยียบ ราวกับคนแปลกหน้าที่บังเอิญมีสายเลือดเดียวกันไม่ใช่ครอบครัวไม่เคยเป็น
หลานเยว่ ผู้เคยถูกปฏิบัติประหนึ่งสิ่งไร้ค่า ย่อมไม่อาจมองชายตรงหน้าด้วยความเคารพหรือแม้แต่เยื่อใยชายผู้นี้… ผู้ที่เรียกตนเองว่า พ่อแต่ไม่เคยเอ่ยชื่อของเธอ ไม่เคยยื่นมือ ไม่เคยมอบอะไรนอกจาก ความเฉยชา
ด้านแม่ทัพหลานซือเหยียน...เขาไม่ได้กลับมาเพราะสำนึกผิดเขาไม่ได้ต้องการคำให้อภัยเขาต้องการเพียง เด็กชายที่เปล่งประกายพรสวรรค์หลานชายผู้เป็นแสงสุดท้ายในสายเลือดสิ่งเดียวที่อาจกู้หน้าตระกูลที่กำลังจะไร้ทายาทผู้เหมาะสม
“ได้…” เสียงของแม่ทัพหลานเอ่ยขึ้นต่ำ เคร่งเครียด“ข้ายินดีจะทำทุกอย่างให้เจ้า สมดังปรารถนาตราบเท่าที่เจ้าไม่สั่งให้ข้าคว้าดวงจันทร์หรือดวงดาวบนฟ้ามาให้ ไม่มีสิ่งใดที่ข้าจะทำให้เจ้าไม่ได้” คำพูดนั้นอัดแน่นไปด้วยแรงเค้น และความไม่เต็มใจแต่สุดท้าย เขาก็ยอมจำนน…อย่างไร้ทางเลือก
หลานเยว่จ้องมองสีหน้าเครียดขึงของเขาด้วยแววตาพึงใจในดวงตานั้น…นางเห็นความพ่ายแพ้ ที่ค้างคาในใจเขามาทั้งชีวิตและนั่น…คือรางวัลเล็กน้อยของนาง
“ท่านอาจยังไม่รู้…” เสียงของนางแผ่วเบา แต่เฉียบคมราวเข็มเย็บแผล“ว่ามีคนคิดจะปลิดชีพหลานชายฟ้าประทานของท่าน”
รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนริมฝีปากไม่ใช่เพราะเรื่องที่พูดออกมา แต่นางยิ้มให้กับความจริงอันเย้ยหยันว่า…หากไม่มีพรสวรรค์จรัสแสงเด็กคนนั้น…ก็ไม่มีวันได้แม้แต่เศษเสี้ยวของความรักจากผู้ชายตรงหน้าแม่ทัพหลานซือเหยียนเบิกตากว้างลมหายใจสะดุด ดวงหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดใครมันกล้า…หมายเอาชีวิตของสายเลือดแท้ของตระกูลหลาน!?
“มันเป็นใคร?” เสียงของเขาแข็งกระด้าง โทสะเดือดปุดปุดในอกหลานเยว่ยังคงสงบนิ่งแววตาของนางเยือกเย็น แต่พึงพอใจราวกับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของเขา คือภาพที่นางรอชมมาแสนนาน
“ซ่งเจี้ยนหง” ชื่อนั้นหลุดจากปากนางอย่างแผ่วเบา ทว่าเหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางอก
“บุรุษที่ท่านเคยเอ็นดูยิ่งนักถึงขั้นผลักไสข้าไปเป็นของขวัญ บรรเทาหนาวให้มัน”
คำพูดนั้น กรีดซ้ำลงตรงบาดแผลเดิมที่ยังไม่เคยสมาน“ตอนนี้มันกำลังจะแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางใหญ่และเด็กชายคนหนึ่งที่เกิดจากข้า…ย่อมเป็น รอยด่าง”
“มันสั่งให้ข้าฆ่าจิ่วอวิ๋นหากข้าไม่ลงมือ มันจะจัดการเอง”
แม่ทัพหลานซือเหยียนนิ่งไป อกกระเพื่อมจากความคุกรุ่นชื่อของซ่งเจี้ยนหง…มิใช่ชื่อที่เขาเกรงกลัวแต่เป็นชื่อที่ครั้งหนึ่งเขาเคยภาคภูมิใจจากเด็กหนุ่มไร้ชื่อ ที่เขาอุ้มชูด้วยมือ กลายเป็นแม่ทัพหนุ่มผู้เปี่ยมฝีมือบิดาของมัน คือแม่ทัพใหญ่ และสหายร่วมศึกของเขาครอบครัวของมัน…มีอิทธิพลไม่แพ้ตระกูลหลานและซ่งเจี้ยนหง…ก็คือดาวรุ่งที่แม้แต่องค์ฮ่องเต้ยังเอ่ยชมหากคิดทำลายมันลง เท่ากับตั้งศึกกับทั้งตระกูลซ่งและนั่นอาจหมายถึงการลากตระกูลหลานเข้าสู่การเมืองอันสกปรก
“ช่างน่าผิดหวังเสียจริง” เสียงของหลานเยว่เบา แต่บาดลึก
“เพียงได้ยินชื่อของมัน…ท่านก็ถึงกับลังเลแล้วหรือ? ความรักที่ท่านพร่ำว่ามีให้หลานชาย คงมีแค่ในวาจาเพราะเมื่อถึงเวลาต้องเลือก…ท่านก็เลือกผู้อื่น ที่ไม่ใช่เลือดเนื้อของตนเอง”
ดวงตาของแม่ทัพหลานแดงฉานเส้นเลือดปูดขึ้นขมับด้วยโทสะ
“ใครบอกว่าข้ากลัวมัน!?” เขาตวาดก้อง “ข้าแค่…ไม่เคยคิดว่ามันจะกล้าถึงเพียงนี้!”
แววลังเลในสายตาของเขา มลายหายไปแทนที่ด้วยประกายเด็ดเดี่ยวของผู้บัญชาทัพมาแล้วนับไม่ถ้วนเขาเคยมอบดาบให้ซ่งเจี้ยนหงด้วยมือตนเองและวันนี้…เขาจะเป็นคนถอนมันกลับคืนด้วยมือตัวเองเช่นกัน
“ข้าต้องการให้มัน…ตกนรกทั้งเป็น” เสียงของหลานเยว่ดังกังวาน
“ข้าไม่ชอบการแก้แค้นแบบเด็กน้อย ข้าอยากให้มันสิ้นทุกอย่างที่เคยหวงแหน สูญเสียทุกสิ่งที่ภาคภูมิใจให้มันอยากตาย…แต่ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะตายได้”
และผู้ที่จะพามันลงนรกอย่างช้า ๆ คือ มือของท่าน แม่ทัพหลานซือเหยียนผู้ที่มันเคารพและศรัทธาผู้ที่มันไม่เคยคาดคิด…จะเป็นเหยื่อล่อให้มันตกจากฟ้าเขาสบตาหญิงสาวเบื้องหน้าผู้ที่เขาเคยทอดทิ้งและบัดนี้…กลายเป็นผู้กำหนดเส้นทางส่วนเขา…เป็นเพียงหมากตัวหนึ่ง ที่เธอจะใช้เพื่อทำลายสิ่งที่เขาเคยสร้าง
“ได้...”เสียงต่ำของแม่ทัพหลานซือเหยียนแผ่วเบาในตอนแรกแต่ภายในห้วงวินาทีนั้น น้ำเสียงกลับค่อย ๆ กลายเป็นคำรามดุดัน แข็งกร้าว และเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ที่สุมอยู่จนแทบระเบิดออกมา
“หากเจ้าอยากเห็นความโหดเหี้ยมไร้หัวใจ ของข้า...ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็น!”
ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววอำมหิต คล้ายสัตว์นักล่าที่เพิ่งได้รับอนุญาตให้ฉีกเหยื่อออกเป็นชิ้น ๆ ในใจลึก ๆ ของหลานซือเหยียน...เขาเองก็รู้ดี ว่าไม่อยากแตกหักกับตระกูลซ่งเพราะตระกูลนั้นเปรียบเสมือนเสาหลักอีกต้นของราชสำนักที่ทั้งมีรากฐานมั่นคง และมีพันธสัญญาแน่นแฟ้นกับตระกูลหลานมาเนิ่นนานทว่าความลังเลนั้น กลับไม่มีที่ยืนเมื่อถูกวางไว้ข้าง... สายเลือดของตน
ไม่มีทางใดที่เขาจะเลือกคนอื่นหากปลายดาบกำลังจะฟาดฟันหลานชายไม่ว่าใครหน้าไหนเขาจะตัดแขนหักขามันเสียด้วยมือของเขาเอง
“ข้าจะไม่ปล่อยให้มันได้ตายดี” หลานซือเหยียนกัดฟันแน่น เสียงที่เปล่งออกมาเยียบเย็นยิ่งกว่าเหล็กแช่หิมะ“ข้าจะทำให้มันเจ็บ...ทรมาน...ค่อย ๆ ตกนรกทั้งเป็น” เขาไม่ได้คิดเพียงแค่ กำจัดแต่หมายถึง การล้มซ่งเจี้ยนหงอย่างหมดรูปทำลายชื่อเสียง ลบเกียรติยศและพรากทุกสิ่งที่อีกฝ่ายหวงแหน จนกระทั่งมันไม่เหลือแม้แต่เงาให้ใครจดจำสายลมเย็นพัดผ่านศาลาริมน้ำพัดอาภรณ์แม่ทัพให้โบกสะบัดราวกับธงศึกในยามรบและในสายตาของหลานเยว่ชายผู้นี้ผู้เคยเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนางบัดนี้ ได้กลายเป็นดาบ ในมือของนางอย่างสมบูรณ์แล้ว