บทที่ 1
ณ โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของจังหวัด โรงพยาบาลกิจวัฒนา โรงพยาบาลแห่งนี้ถึงจะเป็นโรงพยาบาลเอกชน แต่ก็ให้การรักษาประชาชนทั่วไปด้วยราคายุติธรรม ห้องพักของโรงพยาบาลมีหลายแบบให้เลือก เจ้าของโรงพยาบาลมีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ทุกคนให้การรักษาพยาบาลอย่างสุดความสามารถโดยไม่เลือกปฏิบัติกับคนไข้ ประชาชนในจังหวัดนี้ต่างก็มาใช้บริการโรงพยาบาลกิจวัฒนาอย่างล้นหลาม
แผนก ผู้ป่วยนอก (OPD) วันนี้ดูจะเป็นวันที่วุ่นวายเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นวันครบรอบตรวจสุขภาพของพนักงานขนส่งยางพารา ซึ่งหนึ่งปีจะมีสองครั้ง พนักงานต่างก็ทยอยกันเข้ามาเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยกันทำหน้าที่คนละไม้คนละมือ รวมถึงคุณหมอผู้ตรวจวินิจฉัยด้วย แต่ถึงจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ยังคงมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า พวกเขาทำงานอย่างมีความสุข
“คนต่อไป นางสาวสราลี วิ่งเร็ว เชิญห้องเบอร์สามค่ะ”
เสียงหวานใสของผู้ช่วยพยาบาลสาวคนสวยดังขึ้น เจ้าของชื่อก็เดินเข้าห้องตรวจไป
“น้องนาราจ๊ะเปิดห้องตรวจห้าได้เลย เดี๋ยวหมอวีก็ลงมาตรวจจ้ะ อ้อ น้องอยู่หน้าห้องหมอวีเลยนะจ๊ะ”
พี่หน่อยพยาบาลรุ่นพี่บอกกับเธอแล้วหันไปทำหน้าที่ต่อ นารารีบเดินไปเตรียมห้องตรวจจนเรียบร้อยจึงเดินออกมา ในจังหวะที่เธอถอยหลัง หญิงสาวก็ชนเข้ากับใครบางคนเสียเต็มแรง
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไร ขอประวัติคนไข้ด้วย”
“ค่ะ คุณหมอ”
นาราเดินก้มหน้าออกไปด้านนอกทันที อีตาหมอหน้าดุนี่เอง สงสัยจะจำเราไม่ได้ซินะ เฮ้อดีเหมือนกัน หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่เขาจำเธอไม่ได้ บอกตามตรงเธอยังรู้สึกโกรธเขาที่วันก่อนถูกเขาดุถึงแม้ว่าเขาจะทำตามหน้าที่ก็เถอะ นารากลับเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับบัตรประวัติคนไข้
“ประวัติคนไข้ค่ะคุณหมอ”
หญิงสาววางบัตรประวัติคนไข้ให้กับคุณหมอหนุ่มพร้อมกับขยับออกมายืนข้างๆ โต๊ะเพื่อรอให้คุณหมออ่านประวัติคนไข้ก่อนที่จะเรียกตรวจ
“ผมชื่อณัฐรวี เรียกผมหมอวี แล้วคุณชื่ออะไร”
ชายหนุ่มเอ่ยกับเธอเสียงเรียบ แล้วถามชื่อเธอพร้อมกับเงยขึ้นมามองหน้าเธอแว๊บหนึ่งก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านประวัติคนไข้ต่อ
“ดิฉันชื่อนาราค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงฉะฉาน
“โอเคคุณนารา เชิญคนไข้เข้ามาได้เลย ผมพร้อมแล้ว”
“ค่ะ คุณหมอ”
นารารับบัตรคนไข้แล้วเริ่มเรียกเข้าตรวจ ชายหนุ่มซักถามอาการคนไข้อย่างละเอียดก่อนจะจัดยาให้ตามที่วินิจฉัย โดยมีนาราเป็นผู้ช่วยในการตรวจอาการคนไข้ ทั้งคุณหมอและพยาบาลสาวทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น ณัฐรวี ยอมรับว่านาราทำงานได้คล่องแคล่วและแม่นยำในการหยิบจับเครื่องมือโดยไม่ต้องบอกเธอด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นว่าเธอผ่านการฝึกประสบการณ์มาเป็นอย่างดี เมื่อคนไข้เริ่มบางตาหมอหนุ่มก็สำรวจพยาบาลตรงหน้าด้วยสายตาเฉียบแหลม นาราคงจะมีเชื้อทางยุโรป ดวงตาเธอเป็นสีฟ้าออกไปทางสีน้ำเงิน จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูธรรมชาติ ใบหน้าสวยหวานไร้ร่องรอยของเครื่องสำอาง เป็นความงามตามธรรมชาติที่แท้จริง เขามัวแต่มองนาราเพลินจึงหลบไม่ทันเมื่อสาวเจ้าหันกลับมา
“มีอะไรคะคุณหมอ”
หญิงสาวถามพาซื่อ ชายหนุ่มได้แต่กระแอมเบาๆแก้เก้อ
“อะแฮม..เปล่าหรอก ว่าแต่มีคนไข้อีกเยอะไหม”
“ไม่มีเยอะแล้วค่ะ เหลืออีกสองคนรอรับยา คนอื่นกลับแล้วค่ะ ทำไมหรือคะ”
“ก็ไม่ทำไม ง่วง อยากนอน”
ชายหนุ่มลุกขึ้นบิดขี้เกียจแต่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินออกไปไหน ก็มีสาวสวยเปรี้ยวจี๊ดเดินโฉบเข้ามาหาเขาถึงห้องอย่างถือวิสาสะ ตามด้วยคุณหมอสาวคนสวยประจำโรงพยาบาล
“หมอวีขา คิดถึงจังเลยค่ะ นาน่ามารับแล้วค่ะ”
“วีคะ เพชรมารับกลับบ้านค่ะ”
นารามองสองสาวสลับไปมา แล้วสุดท้ายก็หันไปจ้องมองคุณหมอหนุ่มคนกลางที่ยืนทำหน้าเป็นทองไม่รู้ร้อน ทั้งๆที่สองสาวกำลังจะกระโจนเข้าหากันอยู่แล้ว
“นี่เธอ วันนี้หมอวีจะไปกับฉัน เพราะคุณพ่อฉันได้นัดกับวีเอาไว้แล้ว เธอคงจะรู้นะว่าพ่อฉันเป็นใคร”
“วีคะ”
คุณหมอสาวส่งสายตาเว้าวอนให้กับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมพยับตัวเข้าหาเขา จับแขนเขาไว้อย่างเป็นเจ้าของ ท่าทางของเพชรรัตน์ทำให้อิสนาหน้าตึงขึ้นทันที
“ปล่อยแขนหมอวีซะ ไม่รู้จักเจียมตัวเสียบ้างเลยว่าตัวเองเป็นแค่ลูกคนงานบนท่าเรือ ริอาจจะมาเป็นคู่แข่งฉัน”
พูดจบก็ผลักคุณหมอสาวกระเด็น นารารีบเข้าประคองเพชรรัตน์เอาไว้ คุณหมอสาวจ้องมองลูกสาวผู้ว่าอย่างชิงชัง
“คุณนั่นแหละ คุณอิสนาไม่เจียมฉันกับวีคบกันมานาน วี คุณเลือกมาซิว่าจะไปกับนังนี่หรือว่าเพชรที่เป็นเพื่อนคุณมานานนับสิบปี”
“หมอวี”
“ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมมีคนไข้รออยู่ ฝากขอโทษท่านผู้ว่าด้วยจริงๆนะครับ คุณนาน่า ไว้ว่างๆผมจะไปพบกับท่านแน่นอน วันนี้ผมมีผ่าตัดอีกสองชั่วโมง ขอตัวก่อนนะครับ ป่ะ นารา”
นาราทำหน้าเหวอ เมื่อชายหนุ่มพยักหน้าให้เธอเดินตาม หญิงสาวหันรีหันขวางไม่รู้จะทำยังไงดี จนกระทั่งชายหนุ่มหันมาสั่ง
“บอกให้ตามมาไง มาสิ ยืนบื้ออยู่ได้...นารา”
“เอ่อ...ค่ะ ค่ะ คุณหมอ”
นารารีบลนลานออกไปทันที สร้างความแปลกใจให้กับสองสาวเป็นอย่างยิ่ง
“พยาบาลคนนั้นเป็นใคร”
สองสาวพูดออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ก่อนจะสะบัดหน้าใส่กัน แล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับ อิสนากลับบ้านของเธอไป ส่วนคุณหมอสาวเธอเดินตรงเข้าไปถามถึงพยาบาลที่ชื่อนาราทันที
“พยาบาลลูกครึ่งนาราเป็นใครกัน มาทำงานตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมต้องได้อยู่หน้าห้องหมอวี”
“อ้อ น้องนารา เป็นพยาบาลใหม่ พึ่งย้ายมาได้สามวัน มาวันแรกก็ถูกหมอวีดุเสียจนร้องไห้กลับบ้าน มาวันนี้หมอวีลงมาตรวจไข้ก็เลยได้อยู่หน้าบ้านห้องหมอวี เพราะพวกพี่ไม่มีใครว่างเลย ปกติหมอวีก็ไม่ค่อยได้ลงมาซักเท่าไหร่ วันนี้คงเห็นว่าคนเยอะ ท่านก็ลงมาช่วย” พี่หน่อยหัวหน้าแผนกผู้ป่วยนอก (OPD) เป็นคนตอบคำถามของคุณหมอสาวคนสวยอย่างละเอียดเท่าที่จะบอกได้
“แล้วทำไมหมอวีเรียกให้ตามไปด้วยล่ะ”
เพชรรัตน์ยังคงคาใจ พึ่งจะมาทำงานไม่นานแต่ได้อยู่หน้าห้องหมอวียังไม่พอ หมอวียังเรียกให้ตามออกไปอีก หญิงสาวทำท่าจะเดินตามไปแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพี่หน่อยชี้ให้เธอดูว่านารากำลังจะกลับบ้าน
“หมอเพชรคะ โน่นค่ะ น้องนารากลับบ้านแล้วค่ะ”
เพชรรัตน์มองตามก็เห็นว่านาราขึ้นรถคันหรูที่ไม่ใช่ของณัฐรวีไป เธอจึงยิ้มออกมาด้วยความโล่งอก เข้าใจทันทีว่าที่ชายหนุ่มเรียกให้นาราตามไปเป็นเพราะอยากจะหลบอิสนานั่นเอง
“คุณหมอมีอะไรกับน้องนาราหรือเปล่าคะ พรุ่งนี้น้องเขามาพี่หน่อยจะบอกให้เองค่ะ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่หน่อย ขอตัวก่อนนะคะ”
คุณหมอสาวเดินตรงขึ้นไปยังห้องพักแพทย์ แล้วหยิบกระเป๋าออกมาตั้งใจจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านพัก พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นณัฐรวีควงสาวน้อยน่ารักลูกสาว ******อลานขึ้นรถไปด้วยท่าทางสนิทสนม
“วีนะวี ทำไมถึงได้ทำตัวแบบนี้นะ คุณควงใครต่อใครไปทั่ว แต่คุณไม่เคยสนใจฉันเลย....ทำไม”
คุณหมอสาวได้แต่คิดไปน้ำตาคลอเบ้า นานเป็นสิบปีทีเดียวที่เธอเฝ้ารอเขา ตั้งแต่วันแรกที่เธอได้พบกับเขาในรั้วมหาลัย เขาให้เกียรติเธอ ดูแลเธอเป็นอย่างดี ไม่มากไม่น้อยลงจากเดิม เขาสม่ำเสมอกับเธอ แต่เธอสินับวันยิ่งรักเขามากขึ้นๆ จนแทบทนไม่ไหวเมื่อเห็นเขาออกไปกับผู้หญิงคนอื่น แต่เธอก็ได้แต่เก็บงำความรู้สึกเอาไว้ หวังอยู่ลึกๆว่าซักวัน เขาจะหันมามองเธอ รู้สึกกับเธอเกินคำว่าเพื่อน ซักวัน...ไม่ว่านานแค่ไหนเธอก็จะรอ ตราบใดที่ชายหนุ่มยังไม่ได้แต่งงานเธอก็ยังคงมีความหวัง คุณหมอสาวถอนหายใจออกมาแรงๆก่อนจะกลับไปยังบ้านพักของเธอ