บทนำ

1527 Words
บทนำ “พี่ท้องฟ้า ไม่เห็นต้องออกเรือเองเลยนี่คะ น้องไม่อยากให้ไปเลย”  น้ำเสียงเล็กๆเอ่ยออกมาอย่างออดอ้อนนั้นไม่ได้ทำให้ผู้เป็นพี่ชายใจอ่อนรับปากแต่อย่างใด ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ได้แต่นั่งอมยิ้มจ้องมองใบหน้าสวยหวานของสาวน้อยในชุดพยาบาลสีขาวสะอาดที่นั่งหน้าตางอง้ำใส่เขา “พี่ไปทำงานนะท้องน้ำ อีกอย่างออกเรือในครั้งนี้พี่ก็ถือว่าได้ท่องเที่ยวด้วย สนุกดีออก ที่สำคัญแขกผู้ใหญ่หลายท่านก็ให้เกียรติลงเรือของเราด้วย ไปแค่สามเดือนเอง” ชายหนุ่มบอกน้องสาวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนแต่สาวน้อยยังคงทำหน้าบึ้งมองเขาด้วยสายตาตัดพ้อน้อยใจ “ตั้งสามเดือน น้องเหงาแย่เลย”  หญิงสาวยังคงมีแง่งอนกับพี่ชาย พร้อมกับขยับเข้ากอดเอวพี่ชายเอาไว้ คนเป็นพี่ได้แต่มองน้องสาวอย่างเอ็นดู ตั้งแต่เล็กจนโตนารามักจะออดอ้อนเขาเสมอ “หึๆ ทำมาพูดดีด้วย ตัวเองอยู่บ้านตลอดที่ไหน เดี๋ยวก็เข้าเวร จนคุณแม่บ่นหาบ่อยๆ พี่ไม่อยู่ก็ดูแลคุณแม่บ้างท่านก็คงเหงามาก” “คุณแม่ไม่เหงาหรอกค่ะพี่ท้องฟ้า แด๊ดดี้น่ะไม่ยอมห่าง แถมยังมียายหนูแดงพูดแจ้วๆจนป่านนี้ลืมท้องน้ำแล้วก็ไม่รู้” หญิงสาวพูดไปตาแดงไป จนพี่ชายอดสงสารไม่ได้ เขาโอบกอดน้องสาวเอาไว้พร้อมกับเอ่ยปลอบโยน “คิดมากรู้ไหมเราน่ะ คุณแม่กับแด๊ดเห็นเราโตแล้วก็ปล่อยบ้าง แต่ท่านก็ยังรักเราเท่าเดิม ท้องน้ำทำงานแล้วโตเป็นผู้ใหญ่ต้องเข้มแข็งรู้ไหมครับ”  ชายหนุ่มปลอบโยนน้องสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ลูบศีรษะทุยสวยที่ยังคงเอนซบอกเขาเบาๆ  “ตกลงไม่ไปแล้วใช่ไหมคะ พี่ท้องฟ้า”  น้ำเสียงอู้อี้ตอบกลับมาจากอกกว้าง ทำให้สกายอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เอาล่ะสิยายน้องสาวของเขาดื้อขึ้นมาซะแล้ว ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมา “ไปสิ..พี่ต้องไปทำงานนี่ครับ” “ไม่เอาน้องไม่ให้ไป..” นาราดิ้นออกจากวงแขนของพี่ชายอย่างแสนงอน แต่ชายหนุ่มยังคงกอดน้องน้อยเอาไว้ไม่สนใจอาการแง่งอนของน้องสาวสุดที่รัก “ท้องน้ำ...ไม่เอา อย่าทำแบบนี้....นารา”  คราวนี้ท้ายประโยคเข้มขึ้น หญิงสาวหยุดดิ้นทันที เมื่อพี่ชายเรียกชื่อจริงของเธอซึ่งน้อยครั้งจะได้ยิน น้ำตาเจ้ากรรมไหลลงอาบแก้มใสราวกับทำนบพัง “พี่ท้องฟ้าใจร้ายจะทิ้งน้อง” หญิงสาวยังคงต่อว่าพี่ชายด้วยน้ำเสียงสะอื้น ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ แปลกคราวนี้นารางอแงกับเขาราวกับเด็กมีปัญหา ใช่ว่าเขาจะไม่เคยออกเรือเสียที่ไหน ตรงกันข้ามเขาเดินทางไปกับเรือสินค้าปีละไม่ต่ำกว่าสามครั้งและน้องสาวก็ไม่เคยมีอาการแบบนี้ “ท้องน้ำมีอะไรในใจหรือเปล่า ไหน..บอกพี่ซิ”             “..................” “พี่จะรีบกลับก่อนกำหนด อย่างน้อยก็จะอยู่ส่งแขกผู้ใหญ่ขึ้นฝั่งที่สิงคโปร์เสียก่อน โอเคไหมครับ” สกายใช้คำพูดที่อ่อนโยนกับน้องสาวสุดที่รัก นาราเองก็พยักหน้ากับอกพี่ชาย แล้วกอดเขาแน่นไม่ยอมปล่อยเขาง่ายๆ  ชายหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจที่วันนี้น้องสาวมีท่าทางแสนงอนแล้วเอาแต่ใจตัวเองเป็นพิเศษ “วันนี้ที่โรงพยาบาลมีอะไรหรือเปล่าจ๊ะท้องน้ำ” “.................” “ว่าไง..หืม...บอกพี่ซิ...” “ไม่มีซักหน่อย...” “ไม่จริงหรอกปกติท้องน้ำไม่เคยงอแง...เป็นเด็กๆ แบบนี้นี่นา” “ท้องน้ำไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ....เค้าโตแล้วเรียนจบทำงานแล้วด้วย” น้องสาวทำหน้างอง้ำส่งค้อนให้พี่ชายวงใหญ่ พร้อมกับขยับตัวออกจากอกอุ่นของพี่ชาย นั่งตัวตรงเชิดหน้าเป็นคุณหนูนาราคนเดิม สกายอดที่จะขำกับท่าทางของน้องสาวไม่ได้ เฮ้อเนี้ยนะบอกว่าโตแล้ว เด็กชัดๆ ชายหนุ่มคิดในใจ “หึๆ....โอเค..โอเค..โตก็โตไหนลองเล่ามาซิว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงพยาบาล” “ก็...มีนิดหนึ่งค่ะ ท้องน้ำถูกดุ อีตาหมอบ้าอำนาจ มาถึงก็ดุท้องน้ำเสียงดัง ทั้งๆที่ท้องน้ำไม่ผิดเสียหน่อย คนอะไรปากจัด เจ้ายศเจ้าอย่างที่สุด เห็นเราเป็นที่รองรับอารมณ์ น่ารังเกียจที่สุดเลยคอยดูนะท้องน้ำจะไม่ญาติดีด้วย จะไม่คุยด้วย จะไม่ชายตาแล จะไม่ไปไหนด้วยเด็ดขาด แล้วก็จะไม่ไปอยู่หน้าห้องตรวจให้ด้วย ไม่อยากเห็นหน้า คนไม่มีเหตุผล ขี้เก๊กสุดๆ บราๆ......” นาราปลดปล่อยสิ่งที่ทำให้จิตใจของเธอขุ่นมัวออกมาจนหมดสิ้นแล้วก็พลอยโล่งอก รู้สึกดีขึ้นมาก ผู้เป็นพี่ชายก็ถึงบางอ้อ ที่แท้น้องสาวเขาก็มีเรื่องจุกจิกที่โรงพยาบาลนี่เอง กลับมาเลยงอแงแสนงอน เจ้าน้ำตาเรียกร้องเอากับเขา นารามักจะเป็นแบบนี้เสมอเวลามีปัญหาอะไรมักจะปิดไม่ค่อยมิด จะมีอาการไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าเธออยู่ในภาวะอารมณ์ไม่ปกติ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแสนงอน ร้องไห้ โดยเฉพาะอย่างหลังนี่จะบ่อยมากเวลาน้อยใจหรือไม่พอใจอะไร แต่เธอจะเป็นเฉพาะกับคนในครอบครัวเท่านั้นแต่กับคนอื่นเธอก็จะนิ่ง บางครั้งก็จะวีนเหมือนกันถ้าหมดความอดทน “ท้องน้ำถูกดุเรื่องอะไรล่ะจ๊ะ” “เรื่องยาของคนไข้ค่ะ...ทั้งๆที่ท้องน้ำไม่ผิดซักหน่อย”  หญิงสาวยังคงมีท่าทางโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่พี่ชายยังคงใจเย็นพูดคุยกับน้องสาวราวกับเป็นเรื่องทั่วๆไป ไม่เครียดอะไร “แล้วทำไมท้องน้ำไม่อธิบายให้เขาฟังล่ะหืม อย่างนี้เขาก็เข้าใจผิดสิ” “เขาฟังเสียที่ไหนคะ ดุท้องน้ำแล้วก็เดินเข้าห้องผ่าตัดเลยค่ะ ทำตัวราวกับว่าใหญ่มาจากไหน ชิ” หญิงสาวคิดถึงน้ำเสียง ใบหน้าท่าทางของหมอหนุ่มคนนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีก “คนเราทำงานร่วมกันเยอะๆ ยิ่งเกี่ยวกับความเป็นความตายของคนด้วยแล้วละก็ ต้องระวังให้มาก หมอคนนั้นคงไม่อยากให้อะไรผิดพลาด แสดงว่าเขาเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบ ดูแลใส่ใจคนไข้ดีมาก หมออย่างนี้หายากนะท้องน้ำ”  คำพูดของพี่ชายทำให้เธอได้คิด จริงสินะ ถ้าหมอหนุ่มคนที่เดินเข้ามาใหม่ไม่สังเกตเห็นว่ายาในตะกร้ากับโรคของคนไข้ไม่ตรงกันละก็ ป่านนี้ไม่รู้ว่าคนไข้จะเป็นยังไง แต่เขาก็ไม่น่าจะมาดุเธอนี่นา เพราะก็เธอก็พึ่งจะเข้าเวรพร้อมกับเขา ที่สำคัญเธอพึ่งมาทำงานโรงพยาบาลนี้เป็นวันแรกหลังจากที่ย้ายมาจากกรุงเทพฯ วันแรกเธอก็โดนดุซะแล้วคนเขาอุตส่าห์ตั้งใจทำงานเต็มที่คิดแล้วมันน่าโมโหนัก “แต่เขาไม่มีเหตุผลนี่คะ” หญิงสาวยังคงไม่ยอมอยู่ดี “ลองคิดดูซิว่า ณ เวลานั้นระหว่างความเป็นความตาย จะมาถามหาเหตุผลทันหรือเปล่า ท้องน้ำเรียนพยาบาลมาก็รู้อยู่แล้วว่าชีวิตคนสำคัญมากกว่าสิ่งใด ถ้าช้าแค่เสี้ยววินาทีก็อาจจะทำให้เขาเสียชีวิตได้”  พี่ชายพูดถูกทุกอย่าง แต่ก็นั่นแหล่ะนารายังคงมีอาการตั้งแง่ เรื่องของเรื่องเธอไม่ชอบใจที่ถูกคุณหมอคนนั้นดุนั่นเอง แถมยังดุต่อหน้าคนไข้แล้วก็พยาบาลคนอื่นให้เธอได้อายอีก “พี่ท้องน้ำเข้าข้างเขา ไม่คุยด้วยแล้ว ไปตึกใหญ่หาคุณแม่ดีกว่า จะไปเดินเรือสามเดือนก็ตามใจเลย” “อ้าว...แล้วกัน”  น้องสาวคนสวยพูดเสร็จแล้วก็เดินหนีเขาขึ้นตึกใหญ่ทันทีอย่างแสนงอน ชายหนุ่มโคลงศีรษะไปมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับท่าทางของน้องสาวสุดที่รัก นี่คงงอนเขาจนลืมไปแล้วกระมังว่าก่อนหน้านี้ร้องไห้ขี้มูกโป่งไม่ยอมให้เขาออกเรือ “เฮ้อ..ท้องน้ำนะท้องน้ำ เมื่อไหร่จะโตเสียทีนะเรา...”  ชายหนุ่มพูดอย่างไม่จริงจังนักติดจะเอ็นดูเสียมากกว่า  ที่น้องสาวเขาเป็นแบบนี้จะโทษใครได้ก็เป็นเพราะเขาและแด๊ดดี้นั่นแหละที่ทำให้น้องสาวเขาเสียคน เอาแต่ใจ แสนงอนอย่างนี้ ทั้งสกายและบิดาต่างก็ตามอกตามใจนาราสุดๆจนบางครั้งมารดาถึงกับบ่นยาว แต่สองพ่อลูกกลับบอกว่าน้องยังเล็กอยู่ ผลพวงจึงตามติดตัวน้องสาวคนสวยของเขามาจนถึงปัจจุบัน “ชักอยากจะเห็นหน้าหมอคนที่ท้องน้ำพูดถึงแล้วสิ....อะไรจะดุขนาดนั้น”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD