bc

พยัคฆ์ร้ายพ่ายรัก-The Killing Fields

book_age12+
402
FOLLOW
1.2K
READ
HE
arranged marriage
brave
bxg
serious
campus
enimies to lovers
war
musclebear
polygamy
like
intro-logo
Blurb

ศึกรบที่ว่าแย่ ยังแพ้ศึกรักที่เขาต้องเผชิญ สถานการณ์อันร้อนระอุของชายแดนใต้ ยังน้อยกว่าไฟรักที่แผดเผาใจ

++++

ร้อยเอกทัตเทพ เทพประสิทธิ์กุล

นายทหารหนุ่มอนาคตไกล ซึ่งเคยปฏิญาณตนเอาไว้ว่า

ชาตินี้จะไม่ยอมมอบหัวใจให้กับสตรีคนไหน

ทั้งชีวิตเขาขออุทิศให้ผืนแผ่นดินที่เหยียบย่ำอยู่

ชายหนุ่มถึงกับเดิมพันกับเพื่อนรักเอาไว้ว่า

ถ้าเขายอมมอบหัวใจให้สตรีคนไหน

เมื่อนั้นเขาจะยอมกราบเท้าเพื่อน!!!

ครูรัญชน์ ดำรงกิจพิทักษ์

ครูสาวผู้ยึดถืออุดมการณ์

เธอลงทุนหนีการแต่งงานกับผู้กองหนุ่มรูปหล่อ

ไปสอนหนังสืออยู่ชายแดนใต้

แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อผู้กองที่เธอพยายามวิ่งหนี

กลับขอย้ายตัวเองเพื่อหนีการแต่งงานไปที่นั่นเช่นกัน

ความสัมพันธ์ของเขาและเธอ กลายเป็นชนวนเหตุของการแก้แค้น

ผู้กองทัตเทพ ตกเป็นเป้าหมายของบุคคลในที่มืด

รัญชน์ ตกเป็นเครื่องมือของการเอาคืน

ระหว่างทางที่ก้าวเดินไป ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

รัญชน์จะทำเช่นไร เมื่อตำแหน่งว่าที่ภรรยาหลวงอย่างเธอ

จู่ๆ ก็มีคนทำทุกอย่างเพื่อที่จะแย่งชิงไป

"ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น ผมก็จะให้

แต่คุณจะได้แค่ "ตัว" ของผมเท่านั้น

เพราะหัวใจของผม ได้มอบให้ผู้หญิงคนหนึ่งไปจนหมดสิ้นแล้ว

และชาตินี้ ผมจะไม่มีวันหยุดรักเธอ

จำเอาไว้นะ "ปารียา!!!"

chap-preview
Free preview
Chapter 1 หนีรัก
Chapter 1 หนีรัก เสียงนกขับขานเพื่อรับเช้าวันใหม่ดังแว่วเข้ามาในโสตประสาทของคนที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาพอดี เจ้าของร่างสูงใหญ่ยันกายลุกขึ้นโดยอัตโนมัติด้วยความเคยชินกับการตื่นแต่เช้าที่ทำจนเป็นปรกติวิสัย เขาบิดกายเพื่อขับไล่ความมึนงงอยู่ชั่วครู่ ก่อนลุกไปเข้าห้องน้ำจัดการกับธุระส่วนตัวจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นจึงมุ่งหน้าออกจากบ้านเพื่อออกกำลังกายในตอนเช้าตรู่ที่ปฏิบัติจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ร่างสูงใหญ่วิ่งเหยาะๆ ไปตามถนนเส้นเล็กๆ ที่โอบล้อมรีสอร์ท อย่างเช่นทุกวัน บรรยากาศยามเช้าแสนสดชื่นเนื่องจากอุดมไปด้วยไม้ดอกหลากหลายชนิดที่ปลูกแซมอยู่อย่างกลมกลืน ทัตเทพฝากร่างพักเหนื่อยบนม้านั่งที่ทำจากไม้สักนำมาทอนให้เป็นท่อน แม่น้ำสายเล็กๆ ที่ไหลผ่านด้านหลังรีสอร์ทเป็นมุมโปรดที่ผู้กองหนุ่มชอบมานั่งพักผ่อนหย่อนใจเวลากลับมาเยี่ยมบ้าน ซึ่งครอบครัวของเขาเปิดรีสอร์ทแห่งนี้มานานหลายสิบปีแล้ว ทุกวันนี้อยู่ในความดูแลของทิพย์ธาราซึ่งเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา ร่างสูงลุกขึ้นก่อนบิดกายสองสามทีเมื่อดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือแล้วจวนจะได้เวลาอาหารเช้าเต็มที ด้วยความเกรงใจคนที่อาจกำลังนั่งรอเพื่อรับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน ชายหนุ่มจึงรีบเร่งฝีเท้าเพื่อกลับเข้าสู่บ้านทรงไทยประยุกต์หลังใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ เกือบสองกิโลเมตรทันที “วิ่งเบื่อแล้วเหรอจ๊ะ” เสียงเนตรทิพย์ผู้เป็นมารดาเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม เมื่อเห็นร่างสูงก้าวเข้ามายังชั้นล่างของตัวบ้าน แล้วเดินตรงมายังมุมรับประทานอาหารของครอบครัว “ผมกลัวว่าจะมีใครบางคนแถวนี้รอจนท้องร้องเสียก่อนน่ะสิครับ” คนพูดเดินเข้ามาโอบกอดมารดาจากทางด้านหลัง แล้วฝังจมูกคมสันลงบนพวงแก้มนุ่มนิ่มของมารดาอย่างเอาใจ “แก้มสาวๆคนไหนก็ไม่เหมือนกับคนนี้…จริงมั้ยครับ คุณพ่อ” “ให้มันจริงเถอะจ้ะ พอมีเมียขี้คร้านจะลืมแม่” “ผู้กองมัวแต่หอมแม่ วันก่อนที่ผู้พันกับหนูลูกพลัมเขาพาเด็กแฝดมาเยี่ยม แม่ของเราก็บ่นว่าอยากอุ้มหลานขึ้นมาทันทีทันใด” คนเป็นพ่อเอ่ยขึ้นมาบ้างพลางยกกาแฟหอมกรุ่นเคล้าไอควันขึ้นจิบ เข้ากับบรรยากาศแสนสบายยามเช้าได้ดี “เห็นทีคุณแม่คงต้องรอเก้อแล้วล่ะครับ เรื่องอุ้มหลานผมว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของยายทิพย์คนเดียวก็พอ” รอยยิ้มบนใบหน้าคนพูดค่อยๆ จางหาย นัยน์ตาคู่คมสบเข้ากับสายตาของมารดาแวบหนึ่ง ก่อนก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารบนโต๊ะโดยไม่สนใจสีหน้าของทรงพลและเนตรทิพย์ ที่กำลังนั่งมองหน้ากันด้วยเข้าใจในความรู้สึกของกันและกัน “เอ่อ…ผู้กอง…ผู้กองคงไม่ว่าอะไรแม่ใช่ไหม…ถ้าแม่จะบอกว่า...เอ่อ…” ทัตเทพหยุดสนใจกับอาหารตรงหน้าชั่วครู่ มองหน้ามารดาด้วยเขาพอจะรู้แล้วว่าคือเรื่องอะไร “เอ่อ…แม่แค่หวังดี อยากให้มีคนคอยดูแลผู้กอง แม่ก็เลยไป…ไป…เอ่อ…” เนตรทิพย์ยังคงกระอึกกระอักไม่กล้าพูด ด้วยรู้ในอิทธิฤทธิ์กันดี จนอีกฝ่ายสวนพรวดกลับมา “คุณแม่ก็เอาแต่อ้ำอึ้ง มันเรื่องคอขาดบาดตายขนาดนั้นเลยเหรอครับ” “คุณ…คุณบอกกับลูกไปสิ” จู่ๆ ก็มาโบ้ยให้กัน เจ้าตัวคิดพลางแกล้งนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ทำไม่รู้ไม่ชี้อยู่ตรงหัวโต๊ะ “ผมรู้แล้ว ไม่ต้องพูดอะไรแล้วครับ ถ้าคุณแม่ไม่เลิกล้มความ คิดที่จะหาเมียให้ผม ผมขอเตือนไว้ก่อนเลยนะว่าผมจะขอย้ายกลับไปประจำอยู่ภาคใต้ ใครอยากตามไปก็เชิญ!” ผู้กองทัตเทพตัดบทเมื่อแน่ใจว่าทั้งสองหมายถึงเรื่องอะไร เขาหมดความสนใจกับอาหารบนโต๊ะจึงรวบช้อนก่อนยกแก้วน้ำขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด “แต่พ่อกับแม่ไปทาบทามหนูรัญชน์กับคุณแม่ของเธอเอาไว้แล้ว แม่อยากให้เห็นแก่ท่านนายพลเพื่อนของคุณพ่อที่เสียไป ถึงอย่างไรสองครอบครัวเราก็รู้จักกันมานานนะจ๊ะ” เนตรทิพย์โพล่งออกมาจนแทบลืมหายใจ หล่อนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่ได้ปลดปล่อยสิ่งที่อึดอัดเมื่อสักครู่ออกไป “ว่าไงนะครับ!” “ตามนั้นจ้ะ ไปขอให้แล้ว” “คุณหนูรัญชน์อะไรนั่นหาผัวไม่ได้แล้วหรือไง ถึงได้มาวุ่นวายกับชีวิตผม” “พรวด! แค่กๆ” เสียงสำลักมาจากคนเป็นพ่อ คนเป็นแม่ถึงกับยกมือทาบอกด้วยความตกใจ “ผู้กอง! พูดอะไรออกมา”  “คุณแม่เตรียมไปบอกทางโน้นได้เลย บอกว่าว่าที่เจ้าบ่าวถูกย้ายด่วนไปประจำอยู่ภาคใต้ ให้คุณหนูรัญชน์ไปหาผัวใหม่ได้เลย” ผู้กองอารมณ์ร้อนพูดทิ้งท้ายก่อนจะลุกพรวดจากเก้าอี้แล้วเดินขึ้นเรือนไทยไปด้วยความหงุดหงิดใจ ทิ้งให้มารดานั่งตกตะลึงอยู่ชั่วครู่เพราะรู้ในนิสัยมุทะลุนั้นดี “ผมบอกคุณแล้วว่าให้ปรึกษาลูกก่อน แล้วเป็นยังไงล่ะจะเอาหน้าที่ไหนไปบอกทางโน้น” ทรงพลส่ายหัวเหมือนแมวป่วย หนังสือพิมพ์ในมือถูกพับเก็บวางไว้บนโต๊ะด้วยหมดอารมณ์ที่จะอ่านต่อ เพราะรู้ถึงสัญญาณเตือนว่าลูกชายของตนจะต้องไปยื่นหนังสือขอย้ายไปประจำการที่ภาคใต้ตามที่ได้ขู่เอาไว้แน่นอน เขากลุ้มใจไม่น้อยเมื่อชื่อของผู้กองทัตเทพ เทพประสิทธิ์กุล คือบุคคลอันตรายหมายเลขหนึ่งที่ผู้ก่อการร้ายตั้งค่าหัวเอาไว้สูงลิบลิ่ว ครั้งนี้มันเหมือนกับการเดินย้อนเข้าไปเป็นเป้าให้พวกนั้นได้มีโอกาสปลิดชีพลูกชายตนง่ายดายยิ่งขึ้น +++++ “รัญชน์…ทำไมหนูต้องลงทุนทำถึงเพียงนี้ อย่าไปเลยนะ ที่นั่นมันอันตรายใครๆ ก็รู้” แพรวพรรณพยายามเกลี้ยกล่อมลูกสาวให้ล้มเลิกความคิดที่จะย้ายไปเป็นครูสอนหนังสือในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งลูกสาวของตน รัญชน์ ดำรงกิจพิทักษ์ เลือกเส้นทางเดินเป็นแม่พิมพ์ของชาติด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า ความมุ่งหวังของเธอคือการได้เห็นเด็กด้อยโอกาสทั้งหลายได้รับการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เทียบเท่ากับเด็กทั่วไป เธอจึงเลือกที่จะไปเป็นครูยังพื้นที่ห่างไกล พื้นที่สีแดงที่มีแต่คนอยากย้ายหนีกันทุกวี่ทุกวัน “หนูตัดสินใจไปแล้ว ทางผู้ใหญ่ก็เซ็นต์อนุมัติแล้วด้วย คงถอยไม่ได้หรอกค่ะคุณแม่” เจ้าของใบหน้ารูปไข่หันหน้ากลับมาทางมารดา นัยน์ตาสีน้ำผึ้งบัดนี้ฉายแววมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม ปลายจมูกเชิดรั้นนิดๆ บ่งบอกถึงนิสัยดื้อรั้นที่มีอยู่ในตัวได้เป็นอย่างดี “แต่ที่นั่นมันอันตรายมากนะลูก ทำไมหนูต้องเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงขนาดนั้นด้วย…เอาเป็นว่าแม่ไปบอกทางโน้นก็ได้ว่าจะล้มเลิกการแต่งงานครั้งนี้ ขอแค่หนูเปลี่ยนใจไม่ไปสอนหนังสือที่นั่นแล้ว” คนเป็นแม่เดินเข้ามาเกาะแขนลูกสาวเอาไว้ พร้อมมองดวงหน้าหวานสายตาวิงวอน “ช้าไปแล้วค่ะคุณแม่ เพราะหนูเคยบอกคุณแม่ไปนานแล้วว่า คู่ชีวิตของหนู…หนูขอเป็นคนเลือกเอง แต่คุณแม่ก็ยังบีบบังคับจะให้หนูแต่งงานกับผู้กองปากมอมนั่นอยู่ได้” “ว้าย! ทำไมไปเรียกเขาแบบนั้น” “ก็จริงมั้ยล่ะคะ หาเมียไม่ได้หรือยังไงกัน ถึงต้องให้แม่มา บังคับบีบคอลูกสาวชาวบ้านไปทำเมีย” “รัญชน์ ไปว่าผู้กองทำไม แม่ผิดเองที่คิดเองเออเอง ผู้กองไม่รู้เรื่อง” “คุณแม่ก็รู้ แต่ก็ยังจะให้หนูแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก ชีวิตไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะคะ” มาถึงตอนนี้แพรวพรรณถึงกับนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก ด้วยหล่อนเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าการแต่งงานของลูกสาวครั้งนี้ มันก็คือการคลุมถุงชนดีๆ นี่เอง

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.9K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.2K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
32.3K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
5.6K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.9K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook