11

1025 Words
“ไม่ใช่ผีหรอกหนู พี่มั่นใจว่าเป็นคนแน่นอน” เขาจับมือที่เกาะแขนเขาไว้ เรื่องความกลัวผีของเธอเขาก็พอจะรู้จากน้องสาวมาบ้าง เธอคงจะกลัวมากสินะ “นอกจากแฟนแล้วก็ไม่มีใครอยู่ในบ้านจริง ๆ นะคะ ถ้างั้น..เอ่อ..” เธอควรจะพูดยังไงดีว่าให้เขาขึ้นไปดูในห้องนอนกับเธอหน่อย ที่ฟังดูไม่น่าเกลียดหรือเหมือนให้ท่าเขา “เอางี้นะ เดี๋ยวพี่ขึ้นไปดูให้ แฟนรออยู่ที่นี่ก่อนนะ พี่จะออกไปที่รถหน่อย” “แฟนไปด้วยค่ะ” หญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้วเดินกอดแขนเขาไปด้วย “ยัยตังเม” เขาแกล้งกระเซ้าให้เธอผ่อนคลาย แม้จะอยู่ในช่วงวิกฤติ แต่เขาก็ชอบที่ถูกกระทำแบบนี้ หึ ๆ ๆ ชายหนุ่มมุดเข้าไปในรถแล้วเปิดลิ้นชักด้านหน้า หยิบของบางอย่างออกมายัดใส่กระเป๋าเสื้อสูทที่พาดไว้กับหัวเบาะ แล้วนำมันออกมาสวมก่อนเดินกลับเข้าไปในบ้าน จูงมือหญิงสาวแล้วเดินเข้าบ้าน เดินพ้นบันไดขึ้นมาก็หยุดเดิน เมื่อถูกกระตุกมือ “ห้องแฟนค่ะ” เธอชี้ไปที่ประตูแล้วพูดไม่มีเสียงกับเขา ชายหนุ่มจึงเดินไปที่หน้าประตู หยิบบางอย่างที่อยู่ในเสื้อมาถือไว้ “รอพี่อยู่ตรงนี้นะ” เขากระซิบบอกเธอ “ไม่เอาแฟนจะไปด้วย แฟนกลัว” เธอหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นปืนในมือเขา แยกไม่ออกว่ากลัวผีหรือกลัวปืนมากกว่ากัน “ไม่ต้องกลัวนะคนเก่ง” เขาดึงเธอเข้ามากอดอย่างปลอบโยนก่อนผละออก การกระทำของเขาสร้างความอบอุ่นในหัวใจให้กับเธอไม่น้อย เธอรู้สึกมั่นใจ ปลอดภัยเมื่อมีเขาอยู่ด้วย เชื่อใจว่าเขาจะปกป้องเธอได้ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้กระทั่งกับคนที่กำลังคบหาดูใจกันอย่างหิรัญเธอก็ยังไม่รู้สึกสบายใจเท่านี้ “ค่ะ” แล้วจึงเดินไปซ่อนตัวตรงบริเวณที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด เห็นเธอหาที่ซ่อนได้แล้วยุทิตย์จึงกระชับปืนเตรียมพร้อม หมุนลูกบิดอย่างเบามือ เปิดประตูเข้าไปพร้อมกับส่องปืนไปทั่วห้อง นึกถึงตอนที่เห็นเงานั้นว่าอยู่ทางด้านไหน แล้วจึงเดินไปตามทางนั้นก่อนเป็นอันดับแรก ไม่นานเขาก็เห็นเจ้าของเงาปรากฏอยู่ในสายตาและกระบอกปืนของเขา ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่พยายามซ่อนตัวตรงซอกตู้เสื้อผ้า ติดกับมุมห้องใกล้บานหน้าต่าง ดูก็รู้ว่าไม่ได้มีเจตนาดีแน่ ๆ ถ้าหญิงสาวเดินเข้ามาแล้วไม่สังเกตให้ดี รับรองว่าไม่มีทางเห็นไอ้ชั่วนี้แน่นอน “แกเป็นใคร” เขาเล็งปืนไปที่เป้าหมายแล้วถามเสียงเย็น สีหน้าแน่วแน่ “ออกมาเดี๋ยวนี้!” เขาขู่พร้อมเตรียมที่จะยิงถ้าหากอีกฝ่ายตุกติก “อย่า ๆ ฉันยอมแล้ว อย่าทำอะไรฉันนะ” สุชาติรีบออกจากที่ซ่อน เหงื่อกาฬไหลท่วมตัวด้วยความหวาดกลัว “แกเป็นใคร!” ถามนัยน์ตาแข็งกร้าวไม่มีวอกแวก “ฉัน ฉันเป็นพ่อของหนูแฟนเขา” สุชาติโป้ปดเพื่อเอาตัวรอด เช็ดเหงื่อที่ไหลเข้าตา “โกหก! เป็นพ่อทำไมต้องทำลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้” เขาขยับเข้าไปใกล้แล้วเอาปืนจ่อหัวมันด้วยความโมโห เพราะเขารู้ดีว่าพ่อของธิมาดาตายไปนานแล้ว ส่วนมันก็น่าจะเป็นพ่อเลี้ยงใจคดของเธอ “อย่า ๆ ๆ” สุชาติตะโกนดังลั่น ปากคอสั่นอย่างกลัวตาย “ฉันแค่อยากจะแกล้งหนูแฟนเขาเล่นเท่านั้น อย่ายิงฉันเลยนะ” เขายกมือไหว้ท่วมหัว ร้องขอชีวิตอย่างลนลาน “อย่าค่ะพี่เป้!” เสียงที่ตะโกนห้ามที่ดังมาจากหน้าประตู ทำให้ชายหนุ่มที่เล็งปืนอยู่ค่อย ๆ ปลดไกปืน แต่ก็ยังเล็งใส่อีกฝ่ายเอาไว้ เขามองหญิงสาวที่เดินมาหาแล้วเกาะแขนเขาไว้อย่างหวาดกลัว มองผู้ชายอีกคนด้วยสายตารังเกียจ “หนูแฟนรู้จักผู้ชายคนนี้ไหม” เขาถามเสียงอ่อนโยน ผิดกันราวคนละคนกับตอนที่คุยกับชายชั่ว เธอเงียบไปนาน ในใจนึกอยากให้เขาสั่งสอนชายชั่วคนนี้ให้หนัก ๆ แต่เธอก็กลัวว่าเขาจะเล่นงานมันด้วยลูกปืนจนตาย “รู้จักค่ะ เขาเป็นสามีใหม่ของแม่แฟนเอง” ผลัวะ! แล้วเธอก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อด้ามปืนในมือของเขา กระแทกใส่ขมับของสุชาติอย่างแรงจนเลือดไหลออกมาเป็นทาง “นี่คือรางวัลชมเชย สำหรับสิ่งที่แกคิดจะทำกับหนูแฟน ถ้ามีครั้งต่อไปแกไม่รอดแน่ แกได้ตายคามือฉันแน่” เขาจ่อปากกระบอกปืนไปที่กลางหน้าผากของพ่อเลี้ยงใจทราม สายตาเต็มไปด้วยความอาฆาต “พอเถอะค่ะพี่เป้ แฟนไม่ได้เป็นอะไร” เธอดึงแขนของเขาให้ถอยห่างออกมา เพราะกลัวว่าเขาจะทำร้ายพ่อเลี้ยงชั่วจนทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อน “ส่วนแก ถ้ายังอยากอยู่ในบ้านนี้ต่อก็อย่าสร้างปัญหาอีก ช่วยสำนึกในความดีของแม่ฉันด้วย ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว!” เธอชี้ไปที่ประตูห้อง ใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ทั้งกลัวทั้งตกใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาให้อีกฝ่ายเห็น สุชาติใช้มือกุมบาดแผลที่เลือดไหลไม่หยุด รีบเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าคนที่ทำร้ายตัวเอง ช่างเป็นผู้ชายที่น่ากลัวเหลือเกิน เขาเข็ดไปจนตาย จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับลูกเลี้ยงคนนี้อีกเด็ดขาด ทำไมแฟนเธอถึงโหดขนาดนี้นะ คนที่เห็นคราวก่อนคงไม่ใช่แฟนของเธอหรอก แต่คนนี้ใช่แน่นอน เพราะสายตาคู่นั้นมองเธออย่างห่วงใย แต่พอมองเขาก็มองอย่างอาฆาตแค้น ตาแทบลุกเป็นไฟ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD