@ไร่ทรัพย์สักทอง
ดวงแก้วเจ้าของไร่ทรัพย์สักทอง เธอไม่มีญาติไม่มีพี่น้องมีแต่หลานสาวเพียงคนเดียวและเด็กชายที่อุปการะเลี้ยงดูตั้งแต่ยังเด็ก
จากเด็กชายที่ไม่มีใครเหลียวแล เธอฟูมฟักให้ความรักเปรียบเสมือนลูกคนหนึ่ง ส่งเรียนจนจบปริญญาตรี เขาไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติไม่ใช่ลูกก็เหมือนลูก
"รุจน์ นิรุจน์ลูก"
"ครับคุณแม่ ไปหาหมอไหมครับผมพาไป"
"ไม่...แม่ไม่ไป ถึงไปหาหมอยังไงแม่ก็ตายอยู่ดี แม่ขอนอนตายที่บ้านดีกว่า"
"อย่าพูดแบบนี้ คุณแม่ไม่ตายหรอกครับ ที่กรุงเทพฯมีหมอเก่งๆเยอะผมพาไปนะครับ"
ดวงแก้วในวัยหกสิบเก้าปีเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ป่วยด้วยอาการบาดเจ็บช่องท้องมานานหลายสิบปีรักษายังไงอาการก็ไม่หายขาด ทั้งหมอจีนหมอไทยหมอฝรั่งมีแต่จะทรุดกับทรุด เพราะอวัยวะภายในที่ถูกทำลายเสียหายและบอบช้ำมากเหลือเกิน
สาเหตุเกิดจากอะไรนั้นเธอบอกใครไม่ได้ ทุกวันนี้ได้แต่รักษาตามอาการและประคองไปวันๆ
ดวงแก้วเป็นสาวโสดไม่ได้แต่งงาน มีน้องสาวหนึ่งคนแต่ไม่ได้พบหน้ากันมาเกือบสิบปีแล้ว ครั้งสุดท้ายที่พบกรองแก้วผู้เป็นน้องสาวมาร่ำลาไปอยู่กับสามีฝรั่งที่เมืองนอก ทิ้งหลานสาวไว้ให้เธอเลี้ยงคือแก้วตา
จากนั้นเธอก็ไม่เคยพบกับน้องสาวอีกเลย ข่าวคราวก็ไม่เคยส่งมาหาเหมือนกับว่ากรองแก้วได้หายสาบสูญไปจากชีวิตเธอและแก้วตาอย่างสิ้นเชิง
ด้วยแรงที่ถดถอยดวงแก้วครุ่นคิดถึงหลานสาวเพียงคนเดียวและอนาคตของไร่มาหลายวัน จึงเขียนจดหมายขึ้นมาหนึ่งฉบับ
ดวงแก้วจับมือชายหนุ่มและยัดจดหมายใส่มือเขา สายตาของดวงแก้วฉายแววเศร้าสร้อย
"รุจน์ไปตามหนูแก้วมาหาแม่ได้ไหมทำเพื่อแม่ครั้งสุดท้ายก่อนตาย ไปหาหนูแก้วตามที่อยู่นี้นะและก็เบอร์โทรที่หนูแก้วให้ไว้ เมื่อวันก่อนแม่โทรคุยได้สองสามคำเห็นว่าใกล้จะกลับเมืองไทยแล้ว"
"ครับคุณแม่"
"ถ้าติดต่อหนูแก้วไม่ได้ลองโทรหาแพรวาเพื่อนหนูแก้วนะ เขาเพื่อนรักกันน่าจะติดต่อหนูแก้วได้"
นิรุจน์รับจดหมายจากหญิงชรามาถือไว้ บีบมือที่เหี่ยวย่นเพื่อให้คำสัญญา
"ได้ครับคุณแม่ ผมขอกลับไปเคลียร์งานที่บริษัท ลางานก่อนนะครับ"
"ตามใจรุจน์เถอะ แต่ต้องรีบไปนะเพราะหนูแก้วเขาเป็นแอร์ แม่ไม่รู้ว่าหนูแก้วเขามีเวลาพักกี่วัน"
"ได้ครับ ผมจะรีบไป"
ดวงแก้วยิ้มละไมกับสิ่งมีชีวิตที่เธอฟูมฟักตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ วันนี้เด็กชายคนนั้นกลายเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่สมชายชาตรี หล่อล่ำกำยำ ใบหน้าคมคายจมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหยักได้รูป
ดวงแก้วลูบผมสั้นของนิรุจน์อย่างรักใคร่ ไร่นี้นางยินดีให้เขาดูแลรวมถึงแก้วตาด้วย ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่นิรุจน์จะต้องทำหลังจากนางตามใจให้ไปทำงานในเมืองมาสองปี
"แม่มีเรื่องจะขอร้องให้รุจน์ทำซักหนึ่งเรื่องนะลูก"
"รุจน์อาจจะคิดว่าแม่ทวงบุญคุณ เห็นแก่ตัว แต่แม่มองไม่เห็นใครที่จะรักษาไร่นี้ได้นอกจากรุจน์"
นิรุจน์สบตากับดวงแก้วที่เขาเรียกว่าแม่จนติดปาก แม้ไม่รู้ว่าคุณแม่ดวงแก้วจะให้ทำอะไร เขาก็ยินดีทำให้ไม่มีข้อแม้
"รุจน์แต่งงานกับหนูแก้วได้ไหม ดูแลไร่ของเราดูแลไร่ให้แม่ รุจน์ทำได้ไหม"
มันเป็นคำถามที่หนักอึ้ง คำว่าแต่งงานยังไม่เคยมีในสมองเขาสักนิด นี่เขากำลังจะเป็นหลานเขยของคุณแม่ไปแล้วเหรอเนี่ย
"คุณแม่ว่าไงนะครับ...ผมต้องแต่งงานกับแก้วตาเหรอครับ"
"ใช่...หนูแก้วหลานแม่ อายุเท่ากันกับรุจน์น่าจะเข้ากันได้เคยเล่นด้วยกันตอนเด็กด้วยใช่ไหม หนูแก้วเขาบอกว่ายังไม่มีคนรักนะ"
นิรุจน์เป็นวิศวกรบริษัทญี่ปุ่น เรียนจบแล้วอยากยืนด้วยลำแข้งของตนเอง ซื้อรถยนต์ด้วยเงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงไม่คิดขอเงินจากดวงแก้วแม้สักบาท
นิรุจน์ทำงานอยู่ในตัวเมืองกาญจนบุรี เสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ถึงจะกลับไร่ซักที
ที่ผ่านมาแม่ดวงแก้วนั้นแข็งแรงมากเป็นผู้หญิงเก่งและแกร่ง มีหัวหน้าคนงานที่ไว้ใจได้คอยช่วยงานดังนั้นงานในไร่เขาจึงไม่ค่อยได้เข้าไปช่วยมากนัก
เพราะเขาคือคนนอก คนที่คุณแม่เก็บมาเลี้ยง
ร่างสูงนั่งอยู่ข้างเตียงของคุณแม่ดวงแก้วรอจนกว่าคุณแม่จะหลับ ถึงจะกลับห้องของตนเอง
"แต่งงานกับยัยแก้วตาอย่างนั้นเหรอ"
ภาพความทรงจำเมื่อตอนยังเด็กกลับคืนมา เด็กหญิงผมเปียที่สมบูรณ์ด้วยทุกสิ่งใช้ไม้ไล่ตีเขา แกล้งเขา กดขี่สารพัดกำลังจะกลายมาเป็นเมียเขาในอีกไม่นาน
ชายหนุ่มดึงผ้าห่มผืนบางห่มให้คุณแม่ดวงแก้วด้วยความรักและเทิดทูน
"ได้ครับคุณแม่ ผมจะทำให้คุณแม่ครับ"
นิรุจน์เห็นว่าดวงแก้วหลับแล้วจึงออกมาจากห้องนอนของดวงแก้ว แล้วเดินกลับห้องพักของตนเองห้องนอนที่เล็กที่สุดของบ้านนี้เพราะความเจียมตัว
ที่ห้องนอน นิรุจน์ยืนอยู่ที่ริมหน้าต่างมองออกไปตามแนวป่าที่ดวงแก้วปลูกไม้สักทองไว้ เนื้อที่กว่าพันไร่มันช่างกว้างใหญ่ไพศาลจนเขารู้สึกหนักอึ้งทั้งสองไหล่หนา คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความยุ่งเหยิง
"ไร่ทรัพย์สักทอง"
"เราจะแต่งงานมีเมียจริงๆเหรอวะ"
"แก้วตา"
เขาเคยได้ยินคุณแม่ดวงแก้วพูดว่าเธอเป็นแอร์โฮสเตสพักอยู่ที่กรุงเทพมหานคร มันไม่ยากที่จะไปแต่การหาตัวเธอนี่สิ คุณแม่ดวงแก้วจะรู้ไหมว่าการตามหาตัวยัยแก้วตามันยากแค่ไหน
ออนไรท์
♥️เค้าสองคนจะพบกันไหมน้อ
ตอนต่อไป เข้ากรุงตามหาแก้วตา
ขอคอมเม้นท์กำลังใจด้วยนะคะ