ตอนที่7.เจ้าของไร่กับผู้จัดการไร่คนใหม่

1884 Words
ผ่านไปเพียงวันเดียวแก้วตากลายเป็นเจ้าของไร่ทรัพย์สักทองกว่าพันไร่มูลค่าหลายร้อยล้านบาท มีสามีชื่อนายนิรุจน์คนร่างยักษ์ กำลังยืนเงียบๆปล่อยใจปล่อยอารมณ์ไปกับสายลมและแสงแดดระหว่างต้นยางสองต้นที่เธอเคยผูกเปลนอนเมื่อตอนเด็ก "ปริ๊นๆ" เสียงแตรรถดังอยู่ใกล้ๆจนต้องหันไปมอง "ขึ้นรถ ผมจะพาไปดูไร่" แก้วตาเหลียวมองไปตามเสียงเรียกนั้น เธอเห็นผู้ชายท่าทางทรนงใบหน้าคมประจำที่คนขับนั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถกระบะตอนเดียวสภาพค่อนข้างเก่า "ฉันไม่ไปกับนายหรอก" ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นิ่วหน้า เขาลงจากรถปิดประตูเสียงดังปัง!แบบไม่กลัวประตูจะหลุดเดินอาดๆมาที่เธอ "อย่าเรื่องเยอะ ผมจะพาไปทัวร์ไร่" เมื่อแก้วตาไม่ยอมไปด้วยเขาจึงแกล้งทำท่าจะอุ้ม เธอก็รีบชิงวิ่งขึ้นรถไปเสียก่อน "ไอ้ยักษ์บ้า เรื่องอะไร" "ยังไงก็หนีไม่พ้นอยู่ดีจะหนีทำไมให้เหนื่อยไปแต่แรกก็จบแล้ว" แก้วตาได้ยินเพียงเสียง หึ หึ ชอบใจไล่หลังพยายามไม่สนใจคนที่ชอบใช้อำนาจข่มขู่ เมื่อเขาขึ้นรถเธอก็นั่งเอาตัวพิงไว้กับขอบประตูรถมองไปด้านหน้า "มะรืนนี้ผมจะไปลาออกจากบริษัท คุณคอยผมอยู่ที่บ้านดีๆนะ" ไปเถอะ สาธุ 99... "จะไปไหนก็เรื่องของนายไม่เห็นต้องบอกเลย" "ได้ไง เราเป็นสามีภรรยากันคุณลืมไปแล้วหรือไง ต่อไปนี้จะไปไหนทำอะไรก็ต้องบอกกันถึงจะถูก" ฟังแล้วเธออยากบ้าของจริง... มุมปากของนิรุจน์หยักขึ้นเหมือนรู้เท่าทันความคิดของแก้วตาทุกอย่าง "คุณไม่ต้องคิดว่าจะหาเรื่องหย่ากับผมซะให้ยาก เพราะยังไงผมก็ไม่ยอมหย่าง่ายๆหรอก คุณรู้ไหมว่าไร่ไม้สักมีมูลค่าเท่าไหร่ หย่าก็โง่แล้ว" แก้วตาเคียดแค้นคนรู้ทัน "แต่ฉันไม่ได้รักนาย" นิรุจน์เหยียบเบรคดังพรืดจนเธอเกือบเอาหน้าไปจูบที่คอนโซลรถอ้าปากจะด่า แต่เขายื่นมือคว้าปลายคางมนเอาไว้ มองไปที่ริมฝีปากบางน่าจูบที่ช่างพูดแต่เรื่องไม่ดีพูดจาไม่เข้าหูเอาซะเลย "อยู่ๆกันไปก็รักกันเองแหละโบราณท่านว่าไว้เคยได้ยินหรือเปล่า อีกหน่อยเราอาจจะมีลูกหัวปีท้ายปีก็ได้ใครจะไปรู้" เชื่อโบราณจะบานบุรี "ไม่มีทาง" "เดี๋ยวก็รู้ อีกหน่อยจะเรียกพี่รุจน์คะ พี่รุจน์ขา กอดแข้งกอดขาผมทุกเวลาเช้า กลางวัน เย็น" แหวะ!!! ไม่รู้ไอ้ยักษ์ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนแก้วตาแอบเบะปากไม่ให้เขาเห็น แต่นิรุจน์เห็นเต็มสองลูกกะตา สำหรับเขาแล้วเธอมันก็แค่ลูกคุณหนูเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ "อยู่ที่นี่ผมขอเตือนอย่างหนึ่งนะ ว่าอย่ามาทำเก่งกับผม" แก้วตาสะบัดหน้าเอามือปัดมือร้ายที่จับปลายคางของตนเองออก "ไอ้บ้า..." นิรุจน์ไม่สนใจว่าเธอจะคิดยังไง สายตาคมมองไปข้างหน้าอย่างมีจุดหมายแบกความหวังมากมายเต็มสองไหล่ ขับรถดูไร่อย่างช้าๆสายตามองไปที่ไร่อันอุดมสมบูรณ์ของไร่ทรัพย์สักทองที่เขาคุ้นเคยตั้งแต่เด็กจนโต รู้ทุกซอกทุกมุมเป็นอย่างดี งานในไร่มีอะไรบ้างเขาทำมาหมดแล้วแทบทุกอย่าง คิดถึงตรงนี้แล้วก็ปรายตามองไปที่คนข้างๆ คงมีแต่เธอ... แม่หลานสาวคนโปรดสุดรักสุดหวงมือห่างตีนห่างเดือนปีไม่เคยลงจากเรือนนอกจากไปโรงเรียน ก็เธอมันคุณหนูหลานสาวเจ้าของไร่... ส่วนเขาก็แค่เด็กกำพร้าที่แค่คุณแม่ดวงแก้วเมตตาให้อาหาร ให้การศึกษาเลี้ยงดูเขาในฐานะลูกอีกคนหนึ่ง ถึงเวลาที่เขาต้องทดแทนบุญคุณแล้ว นิรุจน์ขับรถผ่านคนงานที่ทำงานในไร่กันเป็นกลุ่มๆ มุ่งหน้าไปที่สำนักงานของไร่อันเป็นสถานที่ ที่คุณป้าดวงแก้วไว้ใช้ทำงาน จู่ๆใบหน้าของคนขับก็เข้มขึ้น "ผมจะพาคุณไปสำนักงานที่เราต้องมาทำงานด้วยกัน" แก้วตาไม่พูดอะไร ไร่นี้เธออยู่มาตั้งแต่เล็กจนโตเพียงแค่ไม่เคยได้เข้ามาถึงที่ทำงานของคุณป้าแค่นั้นเอง "เชิญ..." บ้านหลังเล็กทำจากไม้สักถูกใช้เป็นสำนักงานตั้งอยู่กลางไร่พอดิบพอดี เมื่อถึงที่หมายเขาจอดรถไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างสำนักงานและลงจากรถ "ถึงแล้ว" เขาพยักหน้าให้หญิงสาวรู้ว่าถึงแล้วให้ลงจากรถได้ เมื่อทั้งสองลงมาก็พบกับลุงหวัดผู้ดูแลเรือนของไร่ทรัพย์สักทองที่ได้รับมอบหมายให้ช่วยเป็นมือขวาคอยติดตามอยู่ไม่ห่าง ลุงหวัดที่นอกจากจะเป็นคนดูแลความสงบเรียบร้อยในเรือนแล้ว เมียเขาคือป้าจ้อยเป็นแม่ครัวเก่าแก่แต่งงานกับลุงหวัดแล้วขอสมัครมาเป็นแม่บ้านของที่นี่ นับตั้งแต่นั้นมาทั้งสองก็กลายเป็นคนของไร่ทรัพย์สักทองไปโดยปริยาย "อ้าว ลุงหวัดมาทำอะไรครับ" นิรุจน์ถาม "คุณดวงแก้วให้ตามมาครับ เผื่อมีอะไรให้ช่วย" นิรุจน์พยักหน้า จริงสิ ลุงหวัดเป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่คอยติดตามคุณป้าดวงแก้วมานาน คงจะรู้เรื่องของไร่นี้มากกว่าเขาเสียอีก "งั้นลุงตามผมกับคุณแก้วมา" เมื่อไปถึงสำนักงานกลับพบว่าบ้านได้ถูกเปิดใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต นิรุจน์มองไปที่ลุงหวัดเพื่อหาคำตอบแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร เขาจึงเดินขึ้นบ้านถือกระดาษติดมือมาหนึ่งใบเดินเข้าไปด้านใน นายสนหัวหน้าคนงานนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเจ้าของไร่จิบกาแฟยามบ่ายพร้อมกับดูโทรศัพท์มือถือท่องโลกโซเชียลอย่างสบายใจ เขาคงจะยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองนับจากนี้ เมื่อนิรุจน์ขึ้นบ้าน พอเห็นเขานั่งที่เก้าอี้ของแม่ดวงแก้วถึงกับลมออกหูด้วยความโกรธคนชอบทำตัวเสมอนาย "มันมีสิทธิ์อะไร?" นิรุจน์ยืนอยู่ตรงหน้าหัวหน้าคนงานทำให้นายสนถึงกับหน้าถอดสีเมื่อถูกพบเข้าด้วยความบังเอิญ "อ้อ...พี่สนนี่เอง นึกว่าใครมาเปิดสำนักงานของคุณแม่ดวงแก้ว" นิรุจน์มองด้วยสายตาตำหนิคนที่นั่งทำทีไม่ทุกข์ไม่ร้อน นายสนหัวหน้าคนงานในวัยสี่สิบปีเศษไม่แสดงความเคารพหรือยำเกรงต่อนิรุจน์สักเท่าไหร่เพราะชายหนุ่มตรงหน้าก็แค่คนอาศัยที่เจ้าของไร่เก็บมาเลี้ยงที่เขาเห็นตั้งแต่เด็ก หัวหน้าคนงานลุกจากเก้าอี้แบบเสียมิได้ "ก็มาอยู่ทุกวันลุงหวัดก็เห็น" "ใช่ไหมครับลุง" ลุงหวัดไม่ตอบได้แต่ยืนเงียบๆมองไปทางอื่น ขอให้เรื่องบนนี้เป็นธุระของคุณรุจน์ก็แล้วกัน แก้วตาที่ตามมาด้วยยืนเคียงข้างกับนิรุจน์ไม่ได้รับความเกรงใจจากหัวหน้าคนงานสักนิด เธอเห็นแค่แววตาเย้ยหยันและรอยยิ้มมุมปากที่ดูยังไงก็น่าเกลียดอยู่ดี นิรุจน์ยื่นกระดาษสีขาวให้นายสนแล้วทำสีหน้ายียวน แสดงให้เห็นว่าเขาก็กวนบาทาพอตัว "นี่ประกาศ พี่สนเอาไปแปะที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ด้วยล่ะ" หัวหน้าคนงานหยิบเอาไปอ่านเมื่ออ่านจบถึงกับต้องขมวดคิ้ว เงยหน้ามองแก้วตาที่ยืนอยู่เคียงข้างนิรุจน์ "คุณแก้วตา..." "ใช่ฉันเอง" หญิงสาวที่มีใบหน้าสะสวยรูปร่างอ้อนแอ้นอย่างคนกรุงแบบนี้น่ะหรือจะมาเป็นเจ้าของไร่ ให้มาเป็นคู่นอนให้เขากอดซะยังจะดีเสียกว่า นิรุจน์เกลียดสายตาแบบนี้ของเขา เอาตัวใหญ่ๆของเขาบังหญิงสาวเอาไว้ เมียข้าใครอย่าแตะถ้ามองมากเขาจะควักลูกกะตามันออกแล้วเหยียบให้แหลกคาเท้า "เอาล่ะ ผมจะสรุปให้ฟังสั้นๆนะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณแก้วตาหลานสาวเพียงคนเดียวของคุณแม่ดวงแก้วจะมาเป็นเจ้าของไร่คนใหม่ ส่วนผมเป็นผู้จัดการไร่มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการบริหารงานของไร่นี้ทุกประการ" "ส่วนสำนักงานนี้ต่อไปคนที่สามารถเข้ามาใช้งานได้มีเพียงผมกับคุณแก้วตาเท่านั้น" "คนอื่นไม่มีสิทธิ์ แม้แต่พี่สน" วันแรกเขาก็เปิดศึก... "ที่ทำงานของหัวหน้างานอยู่ด้านโน้นครับพี่สน" นิรุจน์ชี้มือไปที่ออฟฟิศตู้คอนเทนเนอร์ที่หัวหน้าคนงานต้องนั่งรวมกับเสมียนเท่านั้น พูดจบเขายื่นกุญแจบ้านชุดใหม่ให้กับลุงหวัดไปจัดการ "ลุงหวัดเอาไปเปลี่ยนครับ" นายสนที่รู้ตัวแล้วว่าโดนไล่เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้สีหน้าย่ำแย่ปรายตาไปที่หญิงสาวหน้าตาสะสวยท่าทางไม่มีพิษมีภัยอะไร ถ้าได้มาเป็นพวกเขาจะสบาย "สวัสดีครับคุณแก้วตา ผมพี่สนเป็นหัวหน้าคนงานครับ" "สวัสดีค่ะ" เมื่อหัวหน้าคนงานทำท่าจะจากไปพร้อมจดหมายในมือ นิรุจน์สำรวจไปที่ตู้เอกสารของที่นี่อย่างหัวเสียเพราะมันไม่เป็นระเบียบสักนิด แล้วไม่รู้ว่าเอกสารจะครบหรือเปล่า สายตาคมมองที่เขาอย่างถือโทษ "ผมขอแฟ้มเอกสารทั้งหมดของไร่เอามาให้ผมเดี๋ยวนี้ และก็พรุ่งนี้แปดโมงเช้าผมขอให้พี่สนแจ้งคนงานให้มารอต้อนรับเจ้าของไร่คนใหม่และรับนโยบายการทำงานพร้อมกัน" "ครับ" "อีกอย่างนะ... ช่วยหาคนงานผู้หญิงมาหนึ่งคนที่เคยทำความสะอาดเรือนนี้มาเก็บกวาดเอายาฆ่าเชื้อโรคมาด้วย" "ครับ" นายสนรับคำแต่รู้สึกเคียดแค้นมากที่ถูกไล่ออกจากที่นี่ แก้วตาคงไม่ทันเห็นสายตาของหัวหน้าคนงานเก่าแก่ที่สมบูรณ์พูนสุขมาหลายปีก่อนที่เขาจะปลีกตัวออกไป แต่นิรุจน์เห็นทุกอย่าง... เมื่อหัวหน้าคนงานไปแล้วหญิงสาวเดินสำรวจทั่วบ้านพบว่าบ้านหลังเล็กๆหลังนี้ยังมีห้องนอนเล็กเอาไว้สำหรับพักผ่อนพร้อมกับครัวแบบมินิอยู่ด้านหลัง ส่วนด้านหน้ามีโต๊ะทำงานหนึ่งตัวกับโซฟารับแขกอีกหนึ่งชุด นิรุจน์มองเวลาแล้วจับข้อมือหญิงสาวให้ลงบ้านพร้อมกันก่อนไปเขายังสั่งการกับลุงหวัดว่า "ลุงรอแม่บ้านเขามาทำความสะอาดก่อนนะ แล้วก็ถ้าพี่สนเอาแฟ้มมาให้ก็กองไว้บนโต๊ะก่อน ขากลับอย่าลืมเปลี่ยนกุญแจบ้านใหม่ด้วยนะครับ" "คุณรุจน์จะรีบไปไหนครับ" สายตาคมของนิรุจน์ปรายตาไปที่หญิงสาวที่เอาแต่บิดข้อมือเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของเขา ปากย่นไปถึงจมูก "ผมกับคุณแก้วตาต้องไปเตรียมตัวเข้าหอเดี๋ยวจะเสียฤกษ์" ออนไรท์ ♥️ คุณรุจน์ก็อยากแต่จะเข้าหออย่างเดียวเลย 👉 ตอนต่อไป จูบของยักษ์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD