เลขาผู้น่ารัก

1428 Words
ณ Crown Farm “มารายงานตัวค่ะ” เสียงหวานใสของคนที่มายื่นหน้าโต๊ะทำงานดังขึ้น ทำให้พ่อเลี้ยงหัสดินทร์เงยหน้าขึ้นมอง “ที่นี้ไม่ใช่ออฟฟิศ ไปรายงานตัวทางโน้นก็แล้วกัน” เขาบอกเสียงเรียบก่อนจะก้มลงมองเอกสารในมืออีกครั้ง “แต่คนที่ออฟฟิศบอกให้มารายงานตัวกับพ่อเลี้ยงหัสดินทร์ที่นั่งตรงนี้ คุณคนนั้นค่ะ” หญิงสาวชี้ไปทางหน้าคอกวัว ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ “ไอ้มนนะ ไอ้มน” “นั่งสิ” “ขอบคุณค่ะ นี่เอกสารของดิฉันค่ะ” ชายหนุ่มรับแฟ้มเอกสารตรงหน้ามาดู “นางสาวพราวนภา สิทธิกุล อายุยี่สิบสามปี จบคณะบริหารธุรกิจ เอกการบัญชี เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ผมไม่ได้รับพนักงานบัญชีกลับไปเถอะ” เขาส่งเอกสารคืนพร้อมกับมองเธอนิ่ง “ไม่ผิดค่ะ คุณพายัพบอกให้ฉันมาเป็นผู้ช่วยของคุณ ฉันพูดความจริงนะคะ ไม่เชื่อคุณถามเขาสิ” ดวงตาใสซื่อที่มองมายังเขาทำเอาพ่อเลี้ยงหนุ่มถึงกับหัวเราะไม่ออก “งั้นหรือ ไอ้เหนือนะไอ้เหนือ จะถามกันสักคำก็ไม่มีนะ” ชายหนุ่มบ่นพึมพำขณะเปิดเอกสารของเธอดูอีกรอบ โดยไม่คิดที่จะโทรไปถามไถ่เพื่อนรัก มาอีหรอบนี้คงต้องมีอะไรบางอย่างเป็นแน่ “ทำอะไรเป็นบ้างคุณน่ะ” เขาถามแววตาดูแคลน “ฉัน...ฉัน...” หญิงสาวอึกอัก “ทำอีท่าไหน ไอ้เหนือถึงให้คุณมาทำงานในนี้ได้ล่ะ บอกผมหน่อยสิ” เขาจ้องเธอนิ่ง “ฉันเพิ่งเรียนจบ ยังไม่มีงานทำ แล้วฉันก็ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ คุณพายัพจึงชวนมาทำงานด้วย บอกว่าให้ฉันมาเป็นเลขาฯ พ่อเลี้ยงที่นี่” หญิงสาวตอบเสียงไม่ดังนัก “เด็กใจแตกหรือเปล่า เราน่ะ” ชายหนุ่มพิจารณาเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “เปล่านะคะพ่อเลี้ยง ฉันเป็นเด็กดีคุณพายัพเลยให้มาช่วยไงคะ” เธอรีบปฏิเสธกลัวเขาเข้าใจผิด “มาเป็นเลขาฉันนี่นะ เธอจะทำได้หรือไง หึๆ” “ฉัน...ฉัน...จะพยายามค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงที่เบาแสนเบาพลางเหลือบตามองไปยังคอกวัวด้วยความรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ “รู้จักกับนายเหนือได้ไง” ถามพร้อมกับหรี่ตามอง “คุณพายัพมาบรรยายในวิชาที่ฉันเรียนค่ะ” เธอเอ่ยพร้อมยิ้มหวานสองนิ้วเรียวไขว่กันไว้ด้านหลัง “มีชื่อเล่นไหม” เขาจ้องตาเธอนิ่ง “ชื่อพราวค่ะ” หญิงสาวตอบพลางหลบสายตาคมที่มองมาทำไมเธอถึงใจสั่นแบบนี้นะ” “โอเค แทนตัวเองว่าพราวกับฉันก็แล้วกัน น่ารักดี” “อะไรนะคะ” “เอ่อ...บอกว่าแทนตัวเองว่าพราวนั่นแหละง่ายดีไม่ต้องพูดมาก แล้วนี่จะมาทำงานเมื่อไร” “คุณพายัพบอกว่า ทำเลยค่ะ” “อ้อ...แล้วเสื้อผ้า ข้าวของ เครื่องใช้...” “เตรียมมาเรียบร้อยแล้วค่ะ” “ให้มันได้อย่างนี้สินะ โอเคๆ งั้นมานั่งนี่ ช่วยคัดแยกรายการฉีดวัคซีนวัวแต่ละคอกให้ที ดูเลขที่มุมบนขวาแล้วเก็บเข้าแฟ้มให้ถูกแฟ้มล่ะ” “ค่ะพ่อเลี้ยง” หญิงสาวขานรับเสียงใส พราวนภารีบนั่งลงบนโซฟากลางห้องแล้วทำการแยกรายการ หญิงสาวทำงานไปยิ้มไป บางทีก็หลุดขำออกมาเมื่อเห็นชื่อวัวแต่ละตัวของที่นี่ ใครหนอช่างตั้งชื่อเสียจริง “พ่อเลี้ยงคะ เชิญที่คอกสิบสี่หน่อยค่ะ เจ้ามะลิลุกเดินได้แล้ว” หญิงสาวใบหน้าสวยหวานโผล่หน้าเข้ามาส่งเสียงเรียกพ่อเลี้ยงหนุ่มพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “โอเคๆ คุณทำงานไปก่อนนะ” “ค่ะพ่อเลี้ยง” หญิงสาวนั่งทำงานจนกระทั่งเสร็จ จึงลุกขึ้นสำรวจรอบๆ ห้องทำงานของเขา ก่อนจะเดินออกไปสำรวจฝั่งตรงกันข้ามซึ่งเป็นส่วนของสำนักงาน “อ้าวน้อง มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” “เอ่อ หนูเป็นพนักงานใหม่ค่ะ” “อ้อ...ยินดีที่ได้รู้จัก พี่ชื่อหมอเก่งครับ เป็นหัวหน้าสัตวบาลที่นี่” “สวัสดีค่ะ ชื่อพราวค่ะ เป็นเลขาฯ พ่อเลี้ยงหัสดินทร์ค่ะ” หญิงสาวพนมมือไหว้ผู้สูงวัยอย่างนอบน้อม นอกจากหมอเก่งแล้วยังมีหมอยิ้ม หมอเอก หมอพิมพ์ หมออั๋น หมอสิตา ตามกันเข้ามาติดๆ ทุกคนต่างก็ยิ้มแย้มทักทายเธออย่างเป็นกันเอง ยกเว้นหมอพิมพ์และหมอสิตา ที่ถึงแม้จะทักทายแต่ดูก็รู้ว่าไม่จริงใจ “น้องจบสัตวบาลมาจากไหนคะ” หมอพิมพ์ถามขณะเก็บเอกสารเข้าแฟ้ม “พราวจบบริหารค่ะ ไม่ได้จบสัตวบาล” คำตอบของเธอทำให้สายตาหกคู่มองมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย “เขาจะมาช่วยดูเรื่องการจัดเก็บเอกสาร อืม...หรืออีกนัยหนึ่งก็จะมาเป็นเลขาฯ ของสำนักงาน มีอะไรให้น้องเขาช่วยก็บอกน้องเขาก็แล้วกัน ไอ้มน เอาโต๊ะเข้ามาเร็ว ช้าอยู่ได้” พ่อเลี้ยงหนุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับโต๊ะทำงานสำหรับเลขาของเขา “ครับๆ พ่อเลี้ยง ว่าแต่จะให้เอาวางตรงไหนดีครับ” “วางตรงนั้นก็แล้วกัน” ชายหนุ่มชี้ไปที่หน้าห้องทำงานของเขา “แล้วน้องเขาจะรู้เรื่องหรือคะพ่อเลี้ยง ดีไม่ดีทำเอกสารปนกันไปหมดล่ะยุ่งเลย” น้ำเสียงหวานใสเอ่ยขึ้นฟังเหมือนจะเอ็นดู แต่แอบส่อเสียดดูแคลนอย่างเห็นได้ชัดจากแววตาคู่สวย “หมอยิ้มครับ ช่วยเป็นพี่เลี้ยงทีนะครับ” พ่อเลี้ยงหนุ่มหันไปหาผู้ที่เขานับถือราวกับพี่สาวแล้วออกปากฝากฝังให้ช่วยดูแลเลขาคนใหม่ของเขา “ได้ค่ะพ่อเลี้ยง” “อ้อ มีอีกเรื่องหนึ่งครับหมอยิ้ม ผมให้คนเอาข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของคุณพราวไปเก็บไว้ที่บ้านพักของพี่นะครับ” “ดีจริง พี่จะได้มีเพื่อนคุย อยู่คนเดียวเหงานะ หนูพราวมาอยู่ด้วยก็ดีนะคะ” สาวใหญ่อมยิ้มอย่างถูกอกถูกใจ ตรงข้ามกับสองสาวพิมพ์และสิตาที่จ้องมองมาด้วยความริษยา “อันดับแรกที่เธอจะต้องทำก็คือเอกสารนี่ แยกตามหมายเลขของคอกวัว มันเป็นรายการของผลผลิตน้ำนมวัวแต่ละคอก ลองศึกษาแล้วก็ทำดู” ชายหนุ่มวางเอกสารปึกใหญ่ให้เธอ หญิงสาวนั่งลงโดยมีหมอยิ้มนั่งประกบคอยสอนงานให้ “ถ้าจะให้ดีคุณควรจะทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Crown Farm ของเราเสียก่อนนะคะ ถึงจะจัดเอกสารต่างๆ ได้ถูกอยู่ๆ ก็เริ่มงานเอกสารเลยคงจะยากหน่อย” “หมอยิ้มครับ ผมว่าให้คุณพราวได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริงดีกว่านะครับ ผมช่วยได้นะ” หมอเก่งหัวหน้าสัตวบาลเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เอ่อ...จะดีหรือคะ” พราวนภามีท่าทางกระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด เท่าที่เธอเดินผ่านคอกวัวเข้ามาถึงตัวสำนักงาน ถึงแม้มันจะไม่สกปรกมากแต่กลิ่นคาววัว กลิ่นมูลวัวก็โชยมาเตะจมูกชวนอาเจียนอยู่แล้ว “ผมเห็นด้วย ถ้าคุณคิดจะมาทำงานที่นี่ก็ควรศึกษาเรียนรู้ทุกอย่างของที่นี่ เพราะทุกก้าวย่างที่คุณเดินล้วนเป็นส่วนหนึ่งของฟาร์มเป็นชีวิตและหัวใจของ Crown Farm” น้ำเสียงราบเรียบแฝงด้วยอำนาจเอ่ยขึ้น ดั่งเป็นประกาศิตที่เธอต้องทำตาม หญิงสาวได้แต่พยักหน้าหงึกๆ ยอมจำนนแต่โดยดี “ค่ะพ่อเลี้ยง” “เริ่มพรุ่งนี้ดีกว่าไหมคะพ่อเลี้ยง จะเย็นแล้วด้วย” หมอยิ้มเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าใกล้เวลาเลิกงานแล้ว “อืม งั้นก็จัดเรียงเอกสารไว้ให้ถูกหมวดหมู่ เสร็จแล้วค่อยกลับไปพักผ่อนก็แล้วกัน” ชายหนุ่มยังคงสั่งเสียงเรียบ “พ่อเลี้ยงขา ไปทานข้าวด้วยกันนะคะ วันนี้พิมพ์จะทำแกงเขียวหวานที่พ่อเลี้ยงชอบให้ทานนะคะ นะ” สัตวบาลสาวหน้าสวยพูดจาอ่อนหวานเชิญพ่อเลี้ยงหนุ่ม ซึ่งเขาก็พยักหน้าตกลงแทบจะทันทีก่อนจะหันไปหาคนอื่นๆ “ได้ยินแล้วใช่ไหมว่าพิมพ์จะทำแกงเขียวหวานเลี้ยง สิตาครับรบกวนไปซื้อขนมจีนมาทีนะครับ วันนี้ทุกคนจะได้ชิมฝีมือหมอพิมพ์กัน” ในขณะที่เขาพูด ใบหน้าหล่อเหลายังคงซึ่งความเฉยชา พราวนภาแอบเบ้ปากเล็กน้อย รู้สึกหมั่นไส้พ่อเลี้ยงหนุ่มขึ้นมา คนอะไรขี้เก๊กชะมัดเลย “มองอะไร ทำงานของเธอไปสิ พราวนภา” “เอ่อ...ค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD