มาดวลกันอีกครั้งมะ

1706 Words
ณ ร้านเหล้าตอง “ไอ้พลู ไอ้พลูเร็วๆ ลูกค้ามาเต็มร้านแล้ว” เสียงมารดาตะโกนเข้ามาจากหน้าบ้านทำเอาสาวน้อยต้องเร่งมือในการเปลี่ยนชุด “เดี๋ยวสิแม่ เปลี่ยนผ้าก่อน” ไอ้พลู หรือ กานพลู อินชายะ เด็กสาวที่ทุกคนในหมู่บ้านต่างยกให้เป็นลูกกตัญญูของนางส้มลิ้ม เพราะนอกจากเรียนเก่งแล้ว กานพลูยังขยันขันแข็ง ทำงานช่วยเหลือครอบครัวทุกอย่าง และตอนนี้เธอก็เรียนจบแล้ว “มาแล้วๆ เสิร์ฟโต๊ะไหนแม่” “โต๊ะโน้นน่ะ เห็นไหม” “เออ นั่นแหละ” หญิงสาวนำคอหมูย่างไปหั่นก่อนจะนำใส่จานตามด้วยผักสด แล้วเดินไปเสิร์ฟ “ได้แล้วจ๊ะลุง เอาอะไรอีกไหม” หญิงสาวเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้มสดใส “เอา” “อะไร อาหารหรือว่าเหล้า” “เอาคนขายเหล้าได้ไหม” คำตอบที่ได้รับจากลูกค้าหน้าดุส่งผลให้ดวงตากลมโตตวัดมองอย่างเอาเรื่องแต่ปากก็ยังยิ้ม “ไม่รู้สิลุง ที่อื่นนะ แต่ที่นี่คงไม่ได้หรอก ทำมาหากินสุจริต ไม่ขายตัว” หญิงสาวตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติทั้งๆ ที่โกรธแทบจะหยิบอะไรฟาดหัวคนตรงหน้า แต่ก็ต้องท่องไว้ในใจว่าลูกค้าคือพระเจ้า “มาดวลกันสักหน่อยไหม หลังร้านก็ได้” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น “เอ๋” หญิงสาวทำหน้างง พลางคิดว่าทำไมเหตุการณ์มันคุ้นๆ หว่า “ดวลเหล้ากันไหม” คราวนี้ตาคมดุจ้องมองเธอนิ่งทำเอาหญิงสาวรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง “ได้ ไม่มีปัญหา ถ้าชนะจะได้อะไร” แต่แหม! โดนท้าทายขนาดนี้ คอสุราอย่างเธอหรือจะยอมแพ้ “แล้วจะบอกหลังจากที่เธอแพ้แล้ว” เขาพูดเสียงเรียบ หญิงสาวเบ้ปากก่อนจะสะบัดหน้ากระแทกเท้าเข้าไปในร้าน “ไอ่พลูวันนี้ดวลกะพี่ไหมน้อง” เสียงหนุ่มโต๊ะสามตะโกนท้าทาย “คิวไม่ได้เต็มจ่ะเฮียสิงห์ ไว้พรุ่งนี้น้า” หญิงสาวตะโกนตอบขณะมือก็คอยตักน้ำแข็งใส่แก้วให้ลูกค้า “ว้าเสียดายแย่วันนี้ถ้าเฮียแพ้เฮียจะสอยไข่มดแดงมาเซ่นเอ็งเลย ฮ่าๆ” หน๋อยอีเฮียสิงห์เอาของชอบมาล่อเดียวปัด กะจะอ้าปากตอบตกลงแล้วเชียวถ้าไม่ติดสายตาคมดุที่มองมาเสียก่อน คนอะไรตาดุจริ๊ง “วันพรุ่งนี้นะเฮีย ตอนเช้าเฮียไปสอยไว้ก่อนเลย เย็นมาใส่ถุงมาด้วย รับรองเฮียแพ้แน่นอน” ไอ้จะให้ปฏิเสธของชอบเสียทีเดียวก็ใช่ที่ก็คนมันอยากกินนี่นา “ถ้าวันนี้ไม่ พรุ่งนี้ก็ไม่ เฮียจะเข้าเมืองเอาไปให้น้องสาลี่แทน อ๊ะๆ อย่ามาๆ ไอ่พลูแกคิวเต็มเองนะเฟ้ย มาไอ่แดงดื่มๆ” หมดความสนใจในบันดลเฮียสิงห์หันไปดื่มกับเพื่อนพ้องไม่สนใจใบหน้าหงอยเหงาของไอ่พลูอีกเลย 23.00 น. “ลุง ว่าไงพร้อมยัง” สาวน้อยเดินออกมากระแทกตัวลงนั่งตรงข้ามกับเขาอย่างไม่สบอารมณ์ ใบหน้าสวยงอง้ำขัดใจเป็นเพราะเขาเลยเธอจึงอดกินไข่มดแดงของโปรด “ไปเรียกแม่มาเป็นพยานหน่อยสิ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแววตาสงบนิ่ง “ทำไมต้องเรียกแม่มาด้วย” “ไปเถอะน่า อย่าเรื่องมากนักเลยไปสิ” ทำไมตาเขาดุอย่างนั้นหญิงสาวพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้น “ก็ได้ๆ” หญิงสาวเดินเข้าไปหลังร้านก่อนจะกลับมาอีกครั้งโดยมีนางส้มลิ้มตามออกมาด้วย “เรา หมายถึง ผมกับลูกสาวคุณจะดวลกัน เหล้าขวดนี้ใครหมดก่อนชนะ ถ้าคุณชนะจะขออะไรจากผมก็ได้สามข้อ ถ้าคุณแพ้จะต้องทำตามข้อตกลงสามข้อเช่นกัน ว่าไง ตกลงไหม” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นแม้จะไม่คุกคามแต่มันแฝงไปด้วยความจริงจังจนนางส้มลิ้มรู้สึกหายใจหายคอไม่สะดวกชักไม่อยากให้ลูกสาวของนางดวลกับชายคนนี้แล้วสิ แม้ว่าการดวลเหล้าของกานพลูจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งแต่ทุกครั้งของเดิมพันจะเป็นจำนวนเงินและเป็นการดวลกันเล่นๆ ของคนในหมู่บ้านที่มักจะเอ็นดูกานพลู จะว่าไปก็หาเรื่องให้ทิปลูกสาวเธอ เป็นค่าขนมเสียมากกว่าไม่เหมือนครั้งนี้ ยังไม่ทันที่นางจะปฏิเสธกานพลูก็เอ่ยเสียก่อน “ตกลง” เสียงเล็กๆ ตอบกลับอย่างไม่ลังเล แต่นางส้มลิ้มมีสีหน้าไม่พอใจ “ไม่เอาไอ้พลู เกิดมันขอนอนกับลูกจะทำไง แม่ไม่ยอมนะ” นางกระซิบลูกสาวพอได้ยินกันสองคน “หนูไม่แพ้หรอกแม่ก็รู้” หญิงสาวกระซิบตอบมารดา “เริ่มเลยลุง” “คุณนับสิ” ชายหนุ่มหันไปบอกส้มลิ้มให้นับ “หนึ่ง สอง สาม” สิ้นเสียง ขวดน้ำสีอำพันก็ไหลลงคอราวกับน้ำเปล่าและในที่สุด “เธอแพ้แล้วสาวน้อย” ชายหนุ่มยิ้มภายใต้หนวดเครารกรุงรัง “เอ่อ...” หญิงสาวหน้าซีดลงถนัดตา แต่ก็ยังคงเชิดหน้าขึ้นสูงแสดงออกว่าเธอไม่กลัวเขา แต่หัวใจดวงน้อยกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ โดยเฉพาะนางส้มลิ้มแทบจะหัวใจวาย รอฟังสิ่งที่หนุ่มหน้าหนวดจะขอจากลูกสาวเธอ “ลุงจะขออะไรก็ว่ามาสิ” หญิงสาวพูดเสียงดัง “นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ห้ามเธอดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ห้ามดวลเหล้ากับใครอีก จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากฉัน” “สบายมาก ทำได้อยู่แล้ว ฉันไม่ได้ติดมันสักหน่อย” หญิงสาวยิ้มกว้างอวดฟันขาวซี่เล็กๆ เต็มปากสวย นางส้มลิ้มพลอยยิ้มออกไปด้วย “เอาโทรศัพท์เธอมา ฉันจะบันทึกเบอร์ไว้ให้ ถ้ามีเหตุให้เธอจะต้องดื่ม โทรถามฉันก่อนถ้าเธอผิดข้อตกลง อย่าหาว่าฉันใจดำก็แล้วกัน” ชายหนุ่มยื่นโทรศัพท์ของเธอคืนหลังจากบันทึกเบอร์เขาให้เธอ “แล้วอีกสองข้อละ” สาวน้อยถามตาแป๋วอย่างรอคอย “ยังคิดไม่ออก ถ้าคิดออกแล้วจะบอก” พูดจบก็เดินออกไปจากร้านทันที “อะไรของเขาน่ะแม่” “นั่นสิ...มาแล้วก็ไป เหมือนกับตอนนั้น เอ๊ะ” นางส้มลิ้มรีบวิ่งตามออกไปแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว “มีอะไรหรือแม่” “ไม่มีอะไร ไปนอนเถอะ” นางส้มลิ้มดันหลังกานพลูให้เข้าบ้านก่อนที่นางจะนั่งลงใบหน้าที่ยังมีเค้าความงามครุ่นคิด ก่อนที่นางจะเดินไปหยิบสมุดบัญชีในลิ้นชักออกมาแล้วเปิดออก จำนวนเงินคงเหลือในบัญชีหกหลักที่ได้มาจากใครบางคนที่แพ้การดวลเหล้ากับกานพลูเมื่อห้าปีก่อน แม้นางจะเอาไปใช้จ่ายกับการเรียนของการพลูรวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในบ้านยามขัดสน แต่ก็ยังเหลืออยู่มาก ห้าปีมานี้ทุกเดือนเงินยังคงถูกโอนเข้าบัญชีนางเดือนละ ห้าพัน บาทและเมื่อถึงเวลาจ่ายค่าเทอมก็จะมีเงินก้อนโอนเข้ามาเพียงพอกับค่าเทอมที่ต้องจ่ายบางเทอมก็มากกว่าเป็นหมื่น เป็นอย่างนี้มาตลอดห้าปี “หรือจะเป็นเขา” นางค่อนข้างมั่นใจว่าชายผู้นั้นกับคนที่พึ่งก้าวออกจากร้านนางเป็นคน คนเดียวกัน แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วแต่บุคลิกท่าทางของคนผู้นั้นนางยังคงจำติดตา “หวังว่าคงจะมาดีนะ พี่พลพี่ต้องคุ้มครองลูกของเราให้อยู่รอดปลอดภัยนะพี่” นางพึมพำบอกกับวิญญาณสามีที่ล่วงลับไปแล้ว ทางด้านกานพลูหญิงสาวถือโทรศัพท์เครื่องเล็กของเธอมานั่งบนเตียง ก่อนจะกดโทรออกตามเบอร์ที่ใครบางคนเพิ่งบันทึกไว้ให้ อยากรู้เหมือนกันว่าจะใช่เบอร์ลุงหนวดจริงๆ หรือเปล่า “ดูซิบันทึกทั้งทีก็ไม่มีชื่อ ใส่แค่จุดสามจุด อีตาหนวดขี้เก็ก” เธอทำการเปลี่ยนชื่อทันทีก่อนจะกดโทรออกเพื่อเช็คว่าใช่เบอร์เขาจริงๆ ไหม หญิงสาวรอสัญญาณอยู่นานแต่ไม่มีใครรับสาย “ซิ อีลุงหนวดบ้า ให้เบอร์ใครมาไม่รู้ ทำมาเป็นสั่งๆ ว้าย...” หญิงสาวสะดุ้งตกใจเมื่อโทรศัพท์ในมือทั้งสั่นและส่งเสียงดัง เธอกดรับทันที พร้อมกับกรอกเสียงหวานใส่ลงไป “สวัสดีค่ะ” “ใคร” ดูซิอีตาลุงหนวด ขนาดไม่เห็นหน้ายังดุอีก “แล้วลุงคิดว่าเป็นใครล่ะ” หญิงสาวส่งน้ำเสียงกวนๆ ไปให้ แล้วเธอก็ต้องกรี๊ดออกมาเมื่อคนปลายสายกดวางเสียงดื้อๆ “อร๊าย...กล้าวางสายใส่ไอ้พลูหรืออีตาหนวด” หญิงสาวกดโทรออกอีกครั้งคราวนี้ไม่ต้องรอสัญญาณให้เสียเวลาพอมีคนกดรับสายปั๊บ เธอก็ตะโกนใส่ทันที “นี่ลุงจำไม่ได้หรือไงว่าให้เบอร์ใครบ้าง แล้วถือดีอย่างไรมาวางสายใส่ ถ้าไม่เต็มใจให้เบอร์ แล้วให้ทำไมฮะ” “มีอะไร” หญิงสาวอึ้งไปเลย เมื่อน้ำเสียงที่ตอบกลับมามันช่างไร้ความรู้สึกสิ้นดี “ไม่มีแล้วโทรมาไม่ได้หรือไง” “หึๆ สำหรับคนพิเศษโทรมาได้เสมอนะ” เสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาตามสาย “ชิ” “จริงๆ นี่เบอร์กานพลูใช่ไหม ผมจะเมมไว้” “ไม่ใช่มั้ง” หญิงสาวกวนประสาทกลับไปทันที “งั้นหรือ” แต่น้ำเสียงของเขาราบเรียบฟังดูเหมือนจะโกรธ “ไม่ใช่จะเอามาโทรได้หรือไงคะลุง ไม่คุยละง่วง ฝันดีนะคะลุงหนวด” ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกกลัวอีตาลุงหนวดคนนี้นักนะ เพียงแค่เสียงเขาเปลี่ยนไปเธอก็รู้สึกถึงภาวะอารมณ์ของเขาเสียแล้ว “หึๆ ฝันดีครับคนดี” “แหวะ เลี่ยน” หญิงสาววางสาย ทำหน้าปูเลี่ยนใส่ก่อนจะล้มตัวลงนอนเข้าสู่ห้วงนิทรา ปล่อยให้คนปลายสายนั่งมองโทรศัพท์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่อย่างนั้น “ยายขี้เมาเอ้ย..”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD