เช้าวันต่อมา กานพลูรีบอาบน้ำแต่งตัวก่อนที่จะขี่มอเตอร์ไซค์คันโปรดของเธอไปยัง Crown Farm วันแรกของการทำงาน เธอจะต้องไปให้ตรงเวลา
“โอ้โห นังหนูมาเช้าจริง มาก่อนใครๆ เลย” ลุงยามเฝ้าหน้าโรงงานเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม
“หนูเพิ่งทำงานวันแรกจ๊ะลุง ต้องมาเช้าหน่อย โรงอาหารอยู่ไหนจ๊ะลุง ยังไม่ได้กินอะไรเลย หิวจังเลยค่ะ”
“ทางโน้น ไปสิ ทานอะไรรองท้องสักหน่อยจะได้ไม่เป็นลมเป็นแล้งไป”
“ขอบคุณค่ะลุง”
“นั่งด้วยคนนะกานพลู” ขณะที่กานพลูกำลังรับประทานอาหารอยู่นั้น เสียงหวานใสก็ดังขึ้นข้างๆ
“อ้าวหนูพราว มาเช้าเหมือนกันนะเนี่ย”
“ฉันพักอยู่ในนี้แหละจ๊ะ อีกอย่างต้องรีบไปให้ถึงคอกวัวก่อนพ่อเลี้ยง ไม่งั้นโดนดุตาย” หญิงสาวย่นจมูกใส่เพื่อนใหม่อย่างน่ารัก
“พ่อเลี้ยงของเธอดุมากไหม หนูพราว”
“ดุมากๆ กานพลูโชคดีแล้วนะที่ได้อยู่กับคุณเหนือ เพราะคุณเหนือใจดีที่สุด” หญิงสาวชะโงกหน้ามากระซิบราวกับกลัวว่าเขาจะได้ยิน
“ใจดีตายละ อีตาหนวดนั่น” สองสาวนั่งคุยกันอีกพักใหญ่ก่อนจะแยกย้ายไปทำงาน
กานพลูเดินตามป้ายบอกทางไปยังแผนกออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงอาหารนัก แต่อยู่คนละฟากกับสำนักงาน ชั้นบนสุดเป็นส่วนของผู้บริหารและห้องประชุม ส่วนชั้นสองเป็นงานธุรการ บุคคล การเงิน และการตลาด ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนได้อย่างลงตัว
“สวัสดีค่ะพี่ๆ ทุกคน หนูมาทำงานเป็นวันแรกค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยคนนะคะ” หญิงสาวพนมมือไหว้เหล่าผู้อาวุโสในแผนกจนครบทุกคน พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้
“ยินดีต้อนรับพนักงานน้องใหม่จ๊ะ พี่ชื่อจุ๊บแจง นั่นลุงน้อย แล้วก็หวานเย็น เราอยู่กันแบบพี่น้องนะจ๊ะทำตัวตามสบายเลย”
“หนูชื่อกานพลู เรียกสั้นๆ ว่าไอ้พลูค่ะ”
“มานั่งตรงนี้ก่อนกานพลูมา” ลุงน้อยกวักมือเรียก หญิงสาวเดินเข้าไปนั่งอย่างว่าง่าย
“มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ”
“มีจ๊ะ พ่อเลี้ยงฝากงานไว้ให้นี่จ๊ะ” จุ๊บแจงยื่นแฟ้มเอกสารให้ หญิงสาวไหว้ขอบคุณและรับมาเปิดดู
“พ่อเลี้ยงให้กานพลูออกแบบแพ็กเกจใหม่สำหรับนมอัดเม็ดรสสตรอเบอร์รี่ ให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ทั้งแบบบรรจุซองและแบบกระปุก” ลุงน้อยอธิบายเพิ่มเติม กานพลูพยักหน้ารับ
“มีอะไรให้หวานช่วยก็บอกนะจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะทุกคนที่เมตตากานพลู”
“ศึกษาข้อมูลในแฟ้มนี้ให้ละเอียด มีอะไรไม่เข้าใจ ติดขัดตรงไหนก็ถามลุงได้”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินไปนั่งยังโต๊ะว่างข้างหวานเย็นก่อนที่ทุกคนจะก้มหน้าก้มตาทำงานของตน
“มาแล้วหรือพนักงานใหม่” เสียงเย้ยหยันของผู้มาเยือนเรียกให้สายตาทุกคู่มองตรงไปยังทิศทางเดียวกัน
“ผู้จัดการมาถึงที่นี่มีอะไรหรือเปล่า” ลุงน้อยเอ่ยถามผู้จัดการสาวด้วยความแปลกใจปกติเจ้าหล่อนไม่ลงมาจากตึกถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
“มาดูพนักงานใหม่ค่ะลุงน้อย กานพลูเธอคงได้รับมอบหมายหน้าที่เรียบร้อยแล้วสินะ เธอมีเวลาแค่เดือนเดียวเท่านั้นสำหรับออกแบบแพ็กเกจสองชิ้น อ่อฉันก็ขอคอนเซ็ปต์ศุกร์นี้นะ เพราะต้องเข้าที่ประชุม”
“ได้ค่ะผู้จัดการ ดิฉันจะพยายามอย่างเต็มความสามารถค่ะ” น้ำเสียงที่มั่นคงไม่มีแววตื่นกลัวสร้างความไม่พอใจให้ผู้จัดการสาว เธอต้องการให้ยายเด็กใหม่แสดงท่าทางเกรงอกเกรงใจ อ้อนวอนขอร้องให้เธอช่วยเหลือ แต่กลับตรงกันข้าม
“พวกเราจะช่วยดูแม่หนูคนนี้อีกทีครับผู้จัดการไม่ต้องเป็นห่วง”
“ค่ะ อย่างไรก็ฝากดูแลด้วยนะคะ ขอตัว” ทันทีที่ลับร่างของผู้จัดการสาวทั้งสามคนต่างก็ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายกับการวางอำนาจพร่ำเพรื่อของจันทร์ฉาย
“ทำงานเถอะ อย่าไปถือสาเลย ผู้จัดการก็เป็นแบบนี้แหละ”
“ค่ะลุง เอ่อ ลุงคะหนูขอดูแบบผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ไหมคะ แล้วทาง Crown Farm ต้องการสื่ออะไรให้ลูกค้าบ้าง ต้องขอข้อมูลจากไหนคะ”
“ข้อมูลอยู่ที่นี่บางส่วนเท่านั้น ที่เหลือก็จะอยู่กับพ่อเลี้ยงและคุณจันทร์ฉาย เพราะฝ่ายการตลาดจะออกสำรวจลูกค้าบ่อยๆ จะทราบดีว่าลูกค้ามีความชอบเป็นอย่างไร
“งั้นหนูขอดูข้อมูลจากลุงก่อนนะคะ”
“ได้สิ” การทำงานวันแรกในช่วงเช้าผ่านพ้นไปด้วยดี หญิงสาวค่อยๆ ศึกษาเอกสารต่างๆ ของ Crown Farm โดยมีลุงน้อยและเพื่อนร่วมงานช่วยอธิบายและตอบข้อซักถามของเธอ
“เอาเข้าไปวางด้านในเลยสมชาย”
“ครับคุณรจนา”
แฟ้มเอกสารมากมายที่นายสมชายหอบมาเต็มอ้อมแขนสร้างความแปลกใจให้แก่คนในแผนกออกแบบผลิตภัณฑ์จนอ้าปากค้างมองตาปริบๆ ไปตามๆ กัน อีกทั้งยังมีโต๊ะทำงานและตู้สำหรับจัดเก็บเอกสารตามกันมาติดๆ
“รบกวนทุกคนออกไปด้านนอกก่อนนะคะ” คุณรจนาเลขาส่วนตัวของพ่อเลี้ยงพายัพเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแม้จะงงงวยแต่ทุกคนก็รีบทำตาม
“เกิดอะไรขึ้นนะลุง ทำไมคุณรจนาถึงลงมาที่นี่ ดูซิเอาคนมาจัดห้องเราใหม่ด้วย” จุ๊บแจงกระซิบพอได้ยินกันสองคน
“ถามข้าแล้วข้าจะไปถามใครวะ อยู่เฉยๆ รอดูว่าคุณรจนาเธอจะว่าอะไรต่อ” ลุงน้อยกระซิบตอบ
“หรือว่าแผนกเรามันรก สกปรกจนคุณรจนาเธอทนไม่ไหวจึงลงมาจัดห้องให้เรา” หวานเย็นยังคงสันนิษฐานต่อ
“แต่หนูก็เห็นว่าสะอาดดีนี่นาพี่หวานเย็น พี่จุ๊บแจง” กานพลูออกความเห็นบ้าง
ทั้งสี่หันมองหน้ากันแล้วถอนหายใจ ก่อนจะนั่งรอคนงานช่วยกันจัดห้องโดยมีคุณรจนาคอยสั่งการ ผนังกระจกกั้นห้องถูกช่างถอดออกทำให้พื้นที่กว้างขวางมากขึ้น โต๊ะทำงานถูกจัดวางใหม่พร้อมตู้เอกสาร แถมยังมีมุมเครื่องดื่มพร้อมเค้าน์เตอร์กั้นให้อย่างเป็นสัดส่วน เกือบสองชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าห้องทำงานของแผนกออกแบบผลิตภัณฑ์จะเสร็จ
“โอ้โห...ห้องทำงานของพวกเราหรือเนี่ย” จุ๊บแจงอุทานพร้อมกับทำตาโต ซึ่งอาการนี้เป็นกันทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งลุงน้อย
“เอากระจกกั้นนี้ออกแล้วแผนกเรากว้างขึ้นเยอะเลยเนาะ” น้ำหวานยิ้มกว้างอย่างชอบอกชอบใจ
“เอ่อ...คุณรจนาเกิดอะไรขึ้นถึงลงมาจัดห้องให้พวกลุง มันเอ่อ...สกปรกมากเลยหรือ” ลุงน้อยเอ่ยถามพลางทำหน้าแหย
“เปล่าหรอกค่ะลุงน้อย พอดีพ่อเลี้ยงท่านเห็นว่ามีพนักงานใหม่เพิ่มเลยให้เอาโต๊ะพร้อมกับตู้เอกสารมาลงให้ ท่านสั่งให้จัดห้องนี้ใหม่ค่ะ ต้องขอโทษจริงๆ ที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เพราะเป็นคำสั่งด่วน เดี๋ยวท่านจะลงมาดูด้วยตัวเองค่ะ”
“อ้อ อย่างนั้นรึ ความจริงห้องเก่าเราก็พออยู่ได้นะ เราอยู่กันแค่ สี่คนเองไม่น่าต้องลำบากเลย” ลุงน้อยเอ่ยอย่างเกรงใจ เดิมห้องของแผนกออกแบบก็พอจะกว้างอยู่สำหรับสามสี่คน ตอนนี้ยิ่งกว้างเข้าไปใหญ่
“ก็ดีเหมือนกันนะลุง ดูสิห้องเราน่าอยู่ขึ้นเป็นกอง ขอบคุณค่ะคุณรจนา” หวานเย็นเอ่ยยิ้มแย้มแจ่มใส
“สวัสดีค่ะคุณรจนา” กานพลูยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“สวัสดีจ๊ะ นี่คงเป็นพนักงานใหม่สินะ ตั้งใจทำงานนะจ๊ะ มีอะไรสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็บอกพี่ได้ หนูขอตัวก่อนนะคะคุณลุง” คุณรจนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะขอตัวกลับ
“อย่างนี้ก็ดีนะสินังหนู ข้อมูลที่เอ็งอยากได้ทั้งหมดเลยนะเนี่ยพ่อเลี้ยงนี้สุดยอดส่งข้อมูลมาให้เหมือนนกรู้” ลุงน้อยเดินไปเปิดเอกสารในแฟ้มหลังโต๊ะทำงานของกานพลูดู
“จริงหรือคะ งั้นก็แสดงว่ากานพลูไม่ต้องไปขอที่คุณจันทร์ฉายแล้วสินะคะ” หญิงสาวยิ้มด้วยความดีใจ
“เอาล่ะ เอาล่ะ เสียเวลากันมาเป็นชั่วโมงแล้ว ทำงานต่อกันเถอะ จุ๊บแจงไปเอาตัวอย่างกล่องนมโรงเรียนกับลุงหน่อย เผื่อจะแก้ไขตรงไหนได้บ้าง”
“จ๊ะลุง เดี๋ยวจะซื้อขนมมาฝากนะจ๊ะกานพลู”
“ขอบคุณค่ะพี่จุ๊บแจง”
ในขณะที่หวานเย็นและกานพลูกำลังตั้งอกตั้งใจทำงานอยู่นั้นประตูห้องทำงานก็เปิดออก เรียกสายตาทั้งสองคู่มองตรงไปยังจุดเดียวกัน
“พ่อเลี้ยง...” หวานเย็นอุทานด้วยความตกใจ ร้อยวันพันปีพ่อเลี้ยงพายัพไม่เคยย่างกรายมายังแผนกออกแบบผลิตภัณฑ์ อย่าว่าแต่ที่แผนกเลย ที่ฟาร์มก็ไม่มาเป็นปี ปล่อยให้พ่อเลี้ยงหัสดินทร์ดูแลคนเดียวและให้คุณรจนาทำงานแทน เห็นว่าสั่งการทางโทรศัพท์ หรือไม่คุณรจนาก็ต้องเดินทางไปพบท่านถึงกรุงเทพฯ
“อืม ค่อยดูดีหน่อยนะห้องทำงาน ตามสบายเถอะหวานเย็น” พ่อเลี้ยงหันมาบอกหวานเย็นด้วยรอยยิ้ม ทำเอาหวานเย็นเป็นปลื้มที่พ่อเลี้ยงรู้จักชื่อของเธอด้วย
“พ่อเลี้ยงจะรับกาแฟ หรือน้ำส้ม หรือน้ำเปล่าคะ” หวานเย็นถามด้วยความประหม่า ก็จะไม่ให้เธอรู้สึกแบบนี้ได้อย่างไร พ่อเลี้ยงหัสดินทร์ที่ว่าหล่อมากแล้ว มาเจอพ่อเลี้ยงพายัพตัวเป็นๆ หล่อเหลากว่าพระเอกหนังไทยบางคน เสียอีกติดก็ตรงหนวดเครานี่แหละ แต่ก็หล่อเข้มไม่เหมือนพ่อเลี้ยงหัสดินทร์ รายนั้นหล่อใสสะอาดสะอ้านไปทั้งเนื้อทั้งตัว
“ขอน้ำส้มกับน้ำเปล่าก็แล้วกัน”
“ค่ะพ่อเลี้ยง” หวานเย็นเดินเลี่ยงออกไปยังมุมห้อง ซึ่งเป็นส่วนของเครื่องดื่ม มีเคาน์เตอร์กั้นเอาไว้เป็นสัดเป็นส่วนนึกของคุณคุณรจนาที่ทำให้ห้องทำงานของแผนกน่าอยู่ขึ้น
“จะไม่ทักทายกันสักคำเชียวรึ” พ่อเลี้ยงหนุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับลากเก้าอี้มานั่งหน้าโต๊ะทำงานของกานพลูแล้วนั่งจ้องหน้าเธอตาพราวระยับ
“สวัสดีค่ะพ่อเลี้ยง” หญิงสาวลุกขึ้นพนมมือไหว้เขาอย่างเป็นทางการ
“โห เป็นทางการเชียว” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ เลยได้รับค้อนคมๆ วงเบ้อเริ่มจากพนักงานสาวคนใหม่
“ฮึ”