Nitan talk
" แค่เป็นเดือนมหาวิทยาลัยคิดว่าตัวเองสูงส่งนักรึไง เป็นลูกชายรัฐมนตรีแล้วยังไง คิดว่าจะทำอะไรกับคนอื่นก็ได้เหรอ ฉันจะบอกให้นะว่าฉันไม่ก้มหัวให้ใครทั้งนั้น และฉันก็เกลียดคนอย่างนายที่สุด!! ฮึ้ย! โมโห!! "
ตุบ!
ฉันโยนเสื้อคลุมแบรนด์ดังลงในกะละมังซักผ้า ใช้ด้านสันแปรงทุบอย่างไม่เบามือเพื่อระบายความโกรธแค้น
" จะมาโทษฉันไม่ได้นะ เพราะเจ้านายของแกมันนิสัยไม่ดีต่างหากแกถึงต้องมารับเคราะห์กรรมแทนแบบนี้ " ฉันยกแขนเสื้อขึ้นมาพร้อมกับยกมือชี้หน้าด่า อารมณ์โมโหทำเอาฉันพาลไปทั่วแม้กระทั่งข้าวของเครื่องใช้ก็ไม่เว้น
" เฮอะ! อุตส่าห์คิดว่าเป็นคนดี ที่ไหนได้ไม่ต่างกับคนอื่นเลยสักนิด "
ริมฝีปากบางเบะออกเหมือนนางร้ายในละครหลังข่าว ตามด้วยการกรอกตาขึ้นมองบนด้วยความหมั่นไส้ทั้งเจ้าของและเสื้อผ้าชุดนี้
' เรย์มอนด์ ฐานัส ' ฉันไม่มีวันญาติดีกับนายแน่!!
" เป็นอะไรของเธอ "
ตาเถร! ลืมไปเลยว่าฉันยังมีรูมเมทอยู่ในห้อง
เสียงเนือยของ ' ส้มส้ม ' พูดขึ้นมา หญิงสาวดันแว่นอันหนาเตอะให้กระชับกับใบหน้า พร้อมกับจ้องมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ
แล้วเมื่อกี้ฉันดันทำหน้าตาประหลาดใส่เสื้อผ้าอีกต่างหาก ยัยนี่จะคิดว่าฉันเป็นคนบ้าหรือเปล่าเนี่ย
" เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร "
" ไม่ได้เป็นอะไรก็ดีฉันคงไม่ว่างพาเธอไปโรงพยาบาลตอนนี้หรอกนะ ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรก็เรียกคนจากข้างนอกแล้วกัน "
พูดจบก็เดินออกไปทันที โดยไม่สนความเป็นความตายของฉันเลยด้วยซ้ำ นั่นก็ไม่แปลกหรอก ในเมื่อฉันกับส้มส้มเป็นคู่แข่งกันมาตั้งแต่สมัยที่ลงแข่งระดับประเทศด้วยกัน ยัยนั่นไม่ชอบฉันจะมาสนใจชีวิตฉันได้ยังไง
แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ ในเมื่อเป็นคนที่ไม่ชอบทำไมถึงมาเป็นรูเมทกันได้ ก็เพราะยัยนั่นก็ไม่มีคนเอาเหมือนกันไงล่ะ
ส้มส้ม สมิตา เป็นนักศึกษาจากคณะวิศวะเคมี ฐานะทางบ้านระดับปานกลาง เป็นเด็กทุนเหมือนกับฉัน แต่ต่างกันตรงที่ผู้หญิงคนนี้ไม่ว่าจะแข่งระดับประเทศสักกี่ครั้งเธอก็ไม่เคยผ่านเข้ารอบ นั่นเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงคนนี้ไม่ชอบหน้าฉันอย่างรุนแรง
นอกจากชอบการแข่งขันทุกรูปแบบแล้วยัยนั่นยังชอบประจบและเข้าหาคนมีเงิน ก่อนหน้านี้เพิ่งได้ข่าวว่าเธออยากเข้าร่วมแก๊งนางฟ้าของมหาวิทยาลัยซึ่งปกติมีแต่ระดับดาวมหาวิทยาลัยหรือดาวคณะเท่านั้นที่จะอยู่ได้ ยัยส้มส้มหน้าตาเฉิ่มไม่ได้ต่างกับฉันเท่าไหร่คิดว่าคนพวกนั้นจะยอมให้เข้าไปอยู่ด้วยรึไง ฝันกลางวันชัดๆ🙄
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความพยายามของยัยส้มส้มหมดลงไปได้ ผู้หญิงคนนี้ยังคงมีความมั่นหน้าที่จะเข้าหาลูกคุณหนูคุณนายอีกหลายคน ถึงขั้นจะขอไปเป็นรูมเมทด้วยแต่ก็ถูกปฏิเสธและไล่ออกมา
นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงที่ไม่มีคนต้องการทั้งสองคนกลายเป็นรูมเมทกันอย่างทุกวันนี้
" ฉันจะออกไปข้างนอก หวังว่าตอนกลับมาคงไม่เห็นเธอนอนตายอยู่แถวนี้หรอกนะ "
คงจะออกไปหาคุณหนูพวกนั้นให้โขกสับเล่นอีกละสิ ไม่เข็ดไม่จำเลยจริงๆ
" ไม่ต้องห่วงหรอก เธอคงไม่ได้สมหวังเร็วๆนี้แน่ "
" ชิ๊! "
ตึง!!
บ้าบอ! ปิดดังขนาดนี้ทำไมไม่กระชากประตูหลุดติดมือไปด้วยเลยล่ะ!
ฉันอยากจะบ้าตายรายวัน ตอนเที่ยงก็ทะเลาะกับไอ้ผู้ชายบ้าที่ไหนไม่รู้ กลับมาก็ยังจะทะเลาะกับยัยประสาทนี่อีก พระเจ้าขาไม่คิดจะให้หนูอยู่อย่างสงบสุขสักวันเลยเหรอคะ
ฉันคร่ำครวญอยู่ในใจไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องรีบทำความสะอาดเสื้อผ้าเจ้าปัญหาตากเอาไว้นอกระเบียง จากนั้นเดินทางไปหอสมุดเพื่อยืมหนังสือก่อนที่จะปิด เพราะเป็นนักศึกษาทุนดังนั้นผลการเรียนของฉันจะตกต่ำไม่ได้ กลับมาที่ห้องอีกทีก็ช่วงค่ำของวันแล้ว
หันไปมองเตียงข้างๆก็ยังไม่เห็นรูมเมทกลับมานอนที่หอ เป็นอันว่าคืนนี้ฉันคงได้หลับสบายเพราะได้นอนคนเดียวในรอบหลายวันที่ผ่านมา
เช้าวันต่อมา
แสงอาทิตย์ส่องผ่านม่านโปร่ง ลอดเข้ามากระทบกับใบหน้าของฉันอย่างจัง ฉันเหลือบสายตาขึ้นมองนาฬิกาบนหัวเตียงก็พบว่าเป็นเวลาที่เหมาะแก่การออกกำลังกาย
ร่างเล็กลุกขึ้นยืนด้วยความกระฉับกระเฉงเดินฉับๆเข้าไปในห้องน้ำ หยิบเสื้อยืดตัวจิ๋วและกางเกงขาสั้นออกมาสวมใส่ รวบผมสีอ่อนไว้เป็นหางม้า เปลี่ยนแว่นตาที่เคยใส่ประจำเป็นคอนแทคเลนส์กลมโตสีธรรมชาติ จากนั้นเปิดน้ำล้างหน้าล้างตาเล็กน้อยพอให้ร่างกายสดชื่น ก่อนจะออกเดินทางเพื่อไปวิ่งตรงสนามที่คุ้นเคย
ฉันเคยมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นจึงรู้ว่าเวลานี้ฉันสามารถทำอะไรก็ได้เพราะไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย
เรือนร่างอวบอิ่มวิ่งไปตามถนนที่ทอดยาววนไปบรรจบกัน หน้าอกกระเพื่อมขึ้นตามจังหวะการหายใจ สักพักจึงค่อยๆหยุดลง
ฉันยกขวดน้ำขึ้นจรดริมฝีปาก ดวงตากลมโตสอดส่องไปเรื่อยๆมองดูบรรยากาศสงบเงียบที่ปราศจากผู้คน แต่แล้วหูที่มีความไวระดับสุนัขสายพันธุ์ล่าเหยื่อก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินมาทางด้านหลัง ฉันนิ่งพร้อมกับตั้งใจฟัง ก่อนที่น้ำเสียงนุ่มทุ้มของเขาจะเอ่ยขึ้นมา
" ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เจอสาวสวยอยู่ที่นี่ด้วย เพิ่งเคยมาครั้งแรกเหรอครับ ไม่เคยเห็นหน้าคุณมาก่อนเลย " น้ำเสียงสุภาพ อ่อนโยน ติดเจ้าชู้นิดๆ เดาว่าใบหน้าของเขาก็คงจะหล่อเหลาไม่แพ้กัน
" ฉันมาวิ่งที่นี่เป็นประจำอยู่แล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเห็นคุณนะคะ "
" อ๋อ วันนี้ผมเลื่อนเวลามาให้เร็วขึ้นนะครับไม่นึกเลยว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูก " ทั้งเทคนิคและการพูดจาฉันเดาได้เลยว่าคนนี้ต้องเป็นคาสโนว่าตัวพ่อแน่ ถ้าอย่างนั้นขอดูหน่อยสิว่าจะหน้าตาดีแค่ไหน
!!!
" นาย! "
" หืมมม เรารู้จักกันเหรอครับคนสวย "
ยิ่งกว่ารู้จักซะอีก ก็นี่มันไอ้บ้า ' เรย์มอนด์ 'ไม่ใช่เหรอ!!
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะจำฉันไม่ได้
เรย์มอนด์คลี่ยิ้มหล่อเหลาก่อนจะเสยผมสีเข้มของเขาขึ้นประหนึ่งนายแบบโฆษณายาสระผมยี่ห้อดัง ตามมาด้วยการโฆษณายาสีฟันเพราะเขายิ้มปากแทบจะฉีกถึงใบหู โชว์ฟันขาวที่เรียงตัวอย่างสวยงาม
" ปะ เปล่า ไม่รู้จักค่ะ "
ในเมื่อจำไม่ได้ฉันก็ควรจะตามน้ำไปดีกว่า ไม่อย่างนั้นถ้าหมอนี่รู้ว่าฉันคือยัยเฉิ่มคนเมื่อวานขึ้นมา คงได้อ้าปากงับหัวอีกแน่
" ว่าแต่ผมไม่เคยเห็นหน้าคุณเลยนะครับ เรียนอยู่คณะอะไรเอ่ย "
" เออ บริหารค่ะ ฉันเรียนบริหาร "
ขี้จุ๊เบเบ๋~
" แล้วชื่ออะไรเหรอครับ "
" ชื่อ...ชื่อ...ชื่ออลิซค่ะ "
ขี้จุ๊ตาลาลา~
โกหกไหลเป็นน้ำขนาดนี้ใครเชื่อก็โง่ล่ะ
" ชื่อก็เพราะ หน้าตาก็ดี แถมรูปร่างยัง...อื้อหือ ดี อีกนะครับเนี้ย "
ฮ่าฮ่าฮ่า คนโง่หน้าตาเป็นแบบนี้นี่เอง>_<😆
" ค่ะ ขอบคุณค่ะ "
ไอ้ชีกอเอ้ย!!
เห็นผู้หญิงสวยหุ่นดีเป็นไม่ได้ ทีกับฉันเมื่อวานนะแทบจะกระโดดกัดหัวให้ตาย
ผู้ชายแบบนี้ฉันไม่มีวันตกหลุมรักเขาเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่เอามาเป็นสามีแน่!!