EP.02-01 ความต่างที่เหมือนเดิม

2404 Words
EP.02-01 ความต่างที่เหมือนเดิม SOH Talk’s ผมว่าแล้วว่าลางสังหรณ์ของผมมันไม่เคยพลาด รู้สึกว่าจะต้องมีเรื่องอะไรให้ปวดหัวเข้ามากวนใจผมสักอย่าง พอรู้สึกแบบนี้ไม่ทันข้ามวันผมก็ต้องเจอกับอดีตคนคุ้นเคยมาเยือนถึงที่อย่างไม่คาดฝัน ยอมรับว่าผมตกใจมาก ชีวิตนี้ผมบอกตัวเองเสมอว่าสิงห์ไม่ใช่คนที่ผมควรจะเจอ ผมสาบานกับตัวเองไว้ตั้งแต่สามปีก่อนแล้วว่าจะไม่พาตัวเองเข้าใกล้เขาอีกเด็ดขาด การที่ผมกลับมาใช้ชีวิตแบบนี้ผมสบายใจและมีความสุขดี ไม่ต้องคอยเดินตามใครเพื่อหาความสุขให้ตัวเองอย่างแต่ก่อนอีกแล้ว ผมน่ะเกือบลืมเขาไปจากใจ ความสุขเรียบง่ายในชีวิตกำลังบรรเทาบาดแผลในใจผมให้หายดีได้ไม่นาน เพิ่งจะตัดใจจากเขาได้อย่างจริงจังเมื่อหนึ่งปีก่อนนี้เอง แล้วจู่ ๆ สิงห์ก็กลับมาหาผมเพื่อขอซื้อที่ผืนนี้เพื่อจะสร้างสนามกอล์ฟ ผมไม่มีทางขายแน่นอนในเมื่อกิจการใหม่ที่เขาคิดผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะมันจะทำให้ชาวบ้านตาดำ ๆ ทั้งตำบลไม่มีที่ทำกิน ชีวิตผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเลย ครอบครัวผมทิ้งทรัพย์สมบัติไว้มากมายจนชาตินี้ผมก็ใช้ไม่หมดแล้ว เงินที่สิงห์เสนอมาผมไม่ต้องการ อ้อ แล้วผมจำได้นะว่าสองปีก่อนพ่อของเขาก็เข้ามาหาผมเพื่อเจรจาซื้อขาย ทีแรกส่งคนมาคุยก่อน ผมปฏิเสธกลับไปทั้งสามครั้งเขาจึงต้องมาคุยด้วยตนเอง ตอนนั้นยอมรับว่าผมตัดสินใจเพราะเรื่องส่วนตัว ผมไม่อยากเกี่ยวข้องกับบ้านของสิงห์ ไม่อยากรับเงินมา ไม่อยากขายให้เพราะยังโกรธสิงห์อยู่จึงปฏิเสธไปทุกครั้ง ครั้งสุดท้ายที่พ่อเขามาที่นี่ เขาพูดทิ้งท้ายไว้ว่า... ‘ถ้าเป็นฉัน นายคงไม่ยอมขายให้ แต่ถ้าเป็นลูกชายฉันมาขอซื้อ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่านายจะยอมขายไหม หึ’ ตอนนั้นผมตกใจมากจนเก็บอาการไม่อยู่ ทั้งน้ำเสียงและสายตาที่พ่อของสิงห์มองผมมันมีความเย้ยหยันอยู่ทุกขณะ เหมือนเขากำลังบอกว่าเขารู้เรื่องราวของผมกับลูกชายเขา เขารู้ว่าผมใจอ่อนกับสิงห์มาตลอด ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวของผมเลยนะ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อเขารู้อะไรแค่ไหนบ้าง หลังจากนั้นผมก็เริ่มคิดจะบูรณะไร่สวนที่นี่อย่างจริงจัง อยากปลูกอะไรที่มันได้ผลผลิต อย่างน้อยวันหนึ่งถ้ามีใครมาติดต่อขอซื้อผมจะได้มีข้ออ้างว่าที่นี่มันทำเงินให้ผมได้ ผมไม่ขายหรอก แต่รู้อะไรไหมครับ ว่าที่ดินของผมที่ผมไม่เคยมาดูดำดูดีเลยกลับมีคนลักลอบเข้ามาอาศัยอยู่นับสิบครอบครัว พวกเขาจับจองที่ทำกินกันเอง แอบสร้างเพิงไว้หลับนอนในสวนด้วย ผมตกใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจึงเรียกทุกคนมาคุยเพื่อหาทางออก ตอนนั้นผมขอให้พวกเขาออกไปก่อน ผมจะกำจัดพวกวัชพืชแล้วจะเอาผลไม้มาลงปลูกใหม่ จะทำให้มันดีขึ้น พวกเขาคุกเข่าลงตรงหน้าผมเลย ยกมือไหว้ผมอ้อนวอนขอที่จะอยู่ เขาบอกว่าเขาแอบอยู่ที่นี่มาห้าปีแล้ว เขามีรายได้หลักจุนเจือครอบครัวมาจากการเก็บผลไม้ในสวนขาย พวกเขาบอกว่าเขาจะช่วยผมทำทุกอย่าง อยากปลูกอะไรบอกเขา เขาทำให้ฟรี ขอแค่อย่าไล่ออกไปเพราะเขาเองก็ไม่มีที่ไปเหมือนกัน แบบนี้มันไม่ถูกต้อง ผมเลยนอนคิดไปหลายตลบว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะเป็นทางออกที่ถูกต้องและเหมาะสม แล้วผลมันก็ออกมาอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ผมให้เช่าพื้นที่ทำไร่ทำสวน ใครจะมาเช่าก็ได้ เรามีเอกสารสัญญาเช่ากันชัดเจน ผมจะเก็บค่าเช่าตอนที่มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตเท่านั้น โดยจ่ายค่าเช่าให้ผม 20% ของรายรับเป็นค่าเช่าที่เพาะปลูก แล้วผมก็ไม่อนุญาตให้ใครมาสร้างบ้านอยู่ในสวนถาวรด้วย เพราะถ้าผมยอมให้อยู่หนึ่งครัวเรือน ไม่นานจะมีอีกหลายครัวเรือนตามมา ลองนึกภาพดูว่าถ้าที่นี่กลายเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก มีคนอาศัยอยู่ตลอดเวลาผมจะหาความสงบได้จากที่ไหน ผมดูแลคนมากมายขนาดนั้นไม่ไหวแน่ ๆ ผมจึงอนุญาตให้เข้ามานอนเฝ้าสวนได้เป็นครั้งคราวเท่านั้น ส่วนบ้านพักอาศัยส่วนตัวควรอยู่นอกพื้นที่ไร่สวน ผมจัดหาบ้านเช่าให้พวกเขาครบทุกคน ใครไม่มีเงินตั้งตัวผมเปิดกู้แบบไม่คิดดอกให้ด้วย ทำสัญญากู้ยืมแบบผ่อนชำระเป็นงวด ความช่วยเหลือของผมครั้งนั้นมันกลายเป็นบุญคุณเสียอย่างนั้น ผมไม่ได้คิดว่าพวกเขาต้องมาตอบแทนอะไรผมเลยนะ ผมอยากช่วยเฉย ๆ แล้วผมต้องการบูรณะที่นี่ให้มันน่าอยู่ ผมปล่อยพื้นที่รกร้างมานานเกินไปแล้ว จากวันนั้นถึงวันนี้ก็น่าจะสองปีกว่าเห็นจะได้ ทุกอย่างเติบโตขึ้น พื้นที่สามร้อยไร่ถูกเช่าที่ทำกินไปทั้งหมดหนึ่งร้อยไร่ อีกสองร้อยไร่ผมก็ปลูกผัก ปลูกสตอรว์เบอร์รี่ องุ่น ชาเขียว หรืออะไรที่มันไม่ใช่ต้นใหญ่และดูแลไม่ยาก รายได้ส่วนนี้ไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะ ผมมีผักส่งออกไปยังตลาดต่าง ๆ ภายในตัวจังหวัดทุกวัน รายได้ต่อเดือนผมหลักล้านเกือบทุกเดือน นี่คือคำตอบว่าทำไมผมถึงเมินเงินห้าพันล้านจากเขา เพราะผมไม่ได้ลำบากอะไรเลยครับ อีกอย่างนี่แค่มรดกที่เดียวที่พ่อแม่ผมทิ้งไว้ให้ ผมยังมีที่ดินอีกมากในหลายภูมิภาคที่ผมยังไม่ได้ไปดูแล ถ้าผมทำทุกที่ให้มีรายได้ เงินห้าพันล้านชาตินี้ผมก็หาเองได้ครับ ไม่ง้อนายทุนหน้าเลือดอย่างเขาหรอก แต่ผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยากได้เงินมากมายขนาดนั้น ลำพังเงินที่ผมมีมันก็เหลือกินเหลือใช้อยู่แล้ว ผมน่ะคิดว่าการจากไปของพ่อเขาจะหายไปพร้อมกับโครงการสนามกอล์ฟบ้านี่ ที่ไหนได้ วันนี้ลูกชายคุณพ่อโผล่มาสร้างความปวดหัวให้ผมจริง ๆ ด้วย “สิงห์ไปพักข้างในเถอะ นั่งรถเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” ผมรอจังหวะที่เขาคุยโทรศัพท์เสร็จจึงเอ่ยออกไป เขาเหลือบมองเข้าไปด้านในของบ้านพักเล็กน้อยก่อนเบือนหน้าหนี “ไม่เหนื่อย นั่งฮ. มาลงในเมืองแล้วนั่งรถต่อมา” “รังเกียจเหรอที่บ้านทั้งแคบทั้งโทรม” “อืม” “งั้นกลับไปเถอะ ที่นี่ไม่มีที่สะอาดสะอ้านไว้ต้อนรับสิงห์หรอก” ผมรู้จักสิงห์ดีพอ ๆ กับที่ผมรู้จักตัวเองเลย เขาเป็นคนเจ้าระเบียบ ใช้ชีวิตตึงเครียดทุกขณะจนไม่มีเวลาได้ผ่อนคลาย ทุกอย่างเบื้องหน้าของเขาต้องเพอร์เฟกต์ไร้ที่ติ การที่เขายอมนั่งพื้นกินข้าวบนชามสังกะสีเมื่อกี้เขาก็ลดตัวลงมากแล้ว ผมรู้ดี แต่เขาคงไม่รู้ตัวเองว่าเขาเป็นคนเสแสร้งไม่เก่งเอาเสียเลย สิงห์น่ะ เป็นคนที่มุ่งมั่นกับผลประโยชน์ ถ้าไม่มีเรื่องเจรจาการซื้อที่ดินเข้ามา ชาตินี้ผมก็จะไม่มีวันเห็นผู้ชายคนนี้ลดตัวลงหรอก เห็นไหมล่ะ พอผมไม่ยินยอมเขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองชนะ ผมรู้ว่าสิงห์ต้องคิดข้อเสียของที่นี่มากกว่าข้อดีที่ผมเห็นจนได้ แต่กว่าจะถึงวันนั้นให้เขาอยู่ที่นี่ให้พ้นเจ็ดวันเถอะ หึ “โซ่นอนไหน?” จู่ ๆ เขาก็ถามผมขณะที่ผมกำลังมัดผมขึ้นสูง “แล้วแต่วัน บางวันก็นอนนี่ บางวันก็นอนบ้าน แปลกจัง สิงห์สนใจเรื่องคนอื่นนอกจากตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่?” “ทำไม? แปลกตรงไหน?” “ฮ่า ๆ แปลกสิ โซ่รู้จักสิงห์มาสิบปีนะ สิงห์ไม่เคยถามโซ่เลยว่าบ้านอยู่ไหน มาโรงเรียนยังไง เราไม่มีแม้กระทั่งเบอร์ติดต่อกันด้วยซ้ำ สิงห์ไม่เคยขอ ไม่เคยสนใจ อ่อ ตอนนี้โซ่มีผลประโยชน์ใช่ไหมสิงห์ถึงดูสนใจขึ้นมา ฮ่า ๆ นั่นสินะ” ผมพูดจบก็รีบหันหลังเดินหนีเขาออกมา รู้สึกแย่ชะมัดที่พอได้นึกถึงเรื่องเก่าปากผมมันพูดเรื่องอดีตไม่หยุด ในใจผมตอนนี้อาการมันไม่ดีเท่าไหร่เลย เหมือนแผลที่ผมรักษามันให้หายมันเริ่มปริออกมาอีกครั้ง อุตส่าห์จัดการตัวเองในอดีตได้แล้วเชียว อุตส่าห์อยู่ได้โดยไม่คอยตามสิงห์แล้ว พอวันนี้แค่เขามายืนอยู่ตรงหน้าชั่วโมงเดียวก็สามารถทำลายความเข้มแข็งของผมได้แล้วเหรอ? เก่งจังเลยนะ แต่ช่างเถอะ ผมไม่มีทางสารภาพรักกับสิงห์เป็นครั้งที่สี่แน่ ไม่มีวัน ต่อให้หัวใจผมจะสั่นไหวกับเขาแค่ไหน ความล้มเหลวสามครั้งที่ผ่านมามันจะเตือนใจผมได้เองว่าให้เลิกโง่ ช่วยอดทนหน่อยนะตัวเรา เขาอยู่นี่ได้ไม่กี่วันหรอก... 14.50 น. ขณะที่ผมนั่งกอดเข่าอยู่บนนั่งร้าน มองคนงานกำลังพรวนดินเพื่อปลูกพืชผักสวนครัวแปลงใหม่ ผมก็เห็นคนแปลกหน้าซ้อนมอเตอร์ไซค์ลูกคนงานในไร่มาจอดอยู่ตรงหน้าผม “คุณคนนี้เปิ้นบอกมีธุระกับอ้าย” (คุณคนนี้เขาบอกมีธุระกับพี่) ผมพยักหน้ารับ พลางหย่อนขาลงจากนั่งร้านไปใส่รองเท้าบูทและยืนขึ้น “สวัสดีครับคุณโซ่ ผมเฟย เลขาฯ คุณสิงห์นะครับ พอดีว่า...” พอได้มองคุณคนนี้ใกล้ ๆ ผมกลับคุ้นหน้ามากราวกับว่าเคยเจอกันมากก่อน ไม่สิ เคยเจอกันแล้วแน่ ๆ “เราเคยเจอกันใช่ไหมครับ?” “อ่า ใช่ครับ ผมเคยมากับคุณพ่อของคุณสิงห์” “ไม่ลดละความพยายามกันเลยนะครับพวกคุณเนี่ย แล้วมาหาผมที่นี่มีอะไรครับ?” “ผมจะมาขออนุญาตนำรถบ้านกับรถห้องน้ำเข้ามาครับ พอดีคุณสิงห์จะนอนที่นี่แต่ไม่มีที่นอน เลยต้องอำนวยความสะดวกให้เขา ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป ผมขอจอดรถไว้ตรงที่ว่างข้างบ้านพักคุณโซ่ได้ไหมครับ?” “เขาให้คุณมาขอผมเหรอครับ สิงห์เนี่ยนะ?” “เอ่อ...เปล่าครับ ผมกลัวมีปัญหาเลยรีบมาขอคุณก่อน” “แล้วเขาว่าไงล่ะครับ” “เขาบอกว่าไม่ต้องมาขอคุณก็ได้ คุณไม่เคยขัดใจเขาอยู่แล้ว ยังไงคุณก็อนุญาต แต่ผม...ไม่สบายใจครับเลยมาบอกก่อน” ผมกัดริมฝีปากล่างของตัวเองแน่น ภาพในอดีตหวนกลับเข้ามาฉายวนจนผมตัวสั่น ใช่ ผมยอมสิงห์มาตลอด ตามใจเขา ดูแลเขา ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกหัวอ่อนยอมคนอื่นไปทั่ว ทั้งชีวิตผมยอมแค่เขาคนเดียว ก็ขอบคุณที่ยังอุตส่าห์จำได้ว่าผมเคยให้ใจเขามากแค่ไหน ผมยอมขนาดนั้นยังไม่เคยได้หัวใจเขากลับมาเลย ตอนนี้ผมกับสิงห์เราไม่ได้เจอกันในสถานะเดิมอีกแล้ว ผมไม่มีสิ่งที่ผมหวังจากเขา ไม่ได้ต้องการหัวใจเขาอีกต่อไป ฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องยอมเขาอีก “โทษทีนะครับ ผมไม่อนุญาต ฝากบอกสิงห์ด้วยว่าอยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไป ยังไงผมก็ไม่ขายหรอก แล้วถ้ายังดึงดันจะเอารถพวกนั้นเข้ามาในที่ของผม ผมจะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต” “คุณโซ่ ใจเย็น ๆ ก่อนครับ ผมสัญญาว่าจะพยายามคุยกับคุณสิงห์ให้เขาไปพักที่โรงแรมในเมืองให้ได้ แต่วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดี ผมก็ไม่กล้าขัดใจ คุณโซ่ช่วยอนุญาตให้เอารถเข้ามาให้เขาพักสักคืนก็ยังดี คุณสิงห์ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนครับ ผมอยากให้เขาได้พักสักหน่อย” “เขาไม่นอนเอง ความผิดผมหรือไง” “เขาตื่นเต้นที่จะได้มาเจอคุณน่ะครับ” “ยังไงนะ” “บอดี้การ์ดแจ้งว่า เมื่อคืนเขาถือรูปคุณเดินวนไปวนมาอยู่ในครัวแทบทั้งคืน ผมไม่รู้เรื่องราวของพวกคุณมากนักนะครับ แต่คิดว่าพวกคุณคงรู้จักกันมาก่อน ยังไงเห็นแก่มิตรภาพดี ๆ ช่วยอนุญาตให้คุณสิงห์...” “ชงโกโก้ร้อนให้เขาสักแก้ว นวดขมับให้เขาเบา ๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น เขาแค่เหนื่อย” ผมสติแทบหลุดลอยหลังจากได้ยินว่าสิงห์ดูรูปผมทั้งคืน ไม่อยากฟังต่อแล้ว ผมกลัวตัวเองจะรู้อะไรมากเกินไป กลัวมันจะกลับไปเหมือนสิบปีก่อน ผมจึงตอบวิธีดูแลสิงห์ตอนเหนื่อยอย่างคล่องปากก่อนจะเดินหนีไปทางอื่น ไม่ชอบตัวเองตอนนี้เลยครับ ผมไม่เป็นตัวเองเลย แล้วผมก็ไม่อยากกลับไปเป็นไอ้โง่คนเดิมของเขาเหมือนเมื่อก่อนด้วย ทำยังไงดี ผมไม่น่าท้าทายให้เขาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ ลืมไปหรือเปล่าว่าเขาน่ะชอบความท้าทายที่สุดในโลก แต่ในความโชคร้ายก็คงมีความโชคดีอยู่บ้าง สิงห์น่ะไม่ใช่คนที่จะอดทนกับอะไรได้นาน โดยเฉพาะกับคนที่ไม่มีผลประโยชน์กับเขา เขาจะไม่เสียเวลาแม้แต่ปรายตามอง ค่อยยังชั่วที่ผมเป็นพวกไร้ประโยชน์สำหรับเขาไปแล้วในตอนนี้ ก็แค่ยืนยันว่าจะไม่ขายที่ต่อไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเขาก็ถอดใจไปเองแหละ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD