### **ตอนที่ 19: จุดจบแห่งกำแพง**
ความเข้าใจที่ส่งผ่านแววตาและสัมผัสแผ่วเบาบนมือในคืนนั้น ทำให้ทั้งภากรและอรินต่างตระหนักว่าความเหงาได้นำพาพวกเขามาไกลเกินกว่าคำว่าแม่ลูกไปแล้ว อรินยังคงนั่งนิ่งบนเก้าอี้ ดวงตาแดงก่ำจากหยาดน้ำตาที่คลออยู่ ผมรับรู้ได้ถึงความเปราะบางที่แผ่ออกมาจากตัวแม่เลี้ยงคนนี้
ผมตัดสินใจรวบรวมความกล้า เอื้อมมือไปโอบกอดอรินอย่างช้าๆ ร่างกายของเธอสะท้านเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ลูบไล้แผ่นหลังของเธออย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบประโลม กลิ่นหอมจางๆ จากตัวเธอผสมกับกลิ่นไอความเศร้า ทำให้ใจผมปวดหนึบ ผมแนบใบหน้าลงกับเรือนผมของเธอ สูดกลิ่นความหอมนั้นเข้าเต็มปอด
"แม่ครับ...ไม่เป็นไรนะครับ...ผมจะอยู่ตรงนี้เสมอ ผมจะดูแลแม่เอง" เสียงของผมแหบพร่าด้วยอารมณ์ที่ท่วมท้น หัวใจของผมเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง เมื่อรับรู้ถึงความอ่อนนุ่มของร่างกายแม่ที่กำลังสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขน อรินซบหน้าลงกับไหล่ของผม ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาจกลั้นได้ เสียงสะอื้นไห้ของเธอช่างบาดลึกถึงกลางใจผม
ผมกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีกครั้ง ปล่อยให้เธอระบายความเศร้าออกมาจนหมดสิ้น ผมรู้ดีว่านี่คือความเศร้าจากการสูญเสียพ่อ แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงความเศร้าอีกแบบหนึ่งที่ปะปนอยู่...ความเศร้าจากความรู้สึกที่กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างเราสองคน
เมื่อเสียงสะอื้นของอรินเริ่มแผ่วลง ผมค่อยๆ คลายอ้อมกอดออกช้าๆ แล้วประคองอรินไปนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่น แสงสลัวๆ จากโคมไฟส่องกระทบใบหน้าของเธอที่เปื้อนคราบน้ำตา ดวงตาคู่สวยบวมช้ำ แต่ก็ยังคงฉายแววความเปราะบางที่ชวนให้ปกป้อง ผมใช้ปลายนิ้วเกลี่ยหยาดน้ำตาออกจากแก้มของเธออย่างแผ่วเบา **ในความเงียบงันที่อบอวลไปด้วยความเศร้า...ความรัก...ความใคร่...ก็ค่อยๆ ก่อเกิด และถูกผลักดันให้ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง**
**ความตึงเครียดในห้องนั่งเล่นคืนฝนตกพุ่งสูงถึงขีดสุด** เมื่อผมโน้มตัวลงไปหาอริน **ริมฝีปากของผมสัมผัสกับริมฝีปากอิ่มของเธอ** ทั้งคู่ต่างโหยหาการสัมผัสนี้อย่างสุดหัวใจ ** บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความปรารถนาที่คุกรุ่น ผม...
**ร่างของอรินพลันแข็งทื่อค้างไปในทันที!** ดวงตาของเธอเบิกกว้างสุดขีด ความร้อนผ่าวบนใบหน้าจางหายไปในพริบตา แทนที่ด้วยความเย็นยะเยือกที่แล่นเข้าสู่กลางใจ **ความเสียวซ่าน** ที่เคยเอ่อล้นเมื่อครู่พลันเปลี่ยนเป็น **ความตกตะลึงระคนหวาดกลัว** **ความปรารถนา** ที่เคยพุ่งพล่าน กลายเป็น **ความรู้สึกผิดบาปอันหนักอึ้ง** ภาพของสามีผู้ล่วงลับผุดขึ้นมาในห้วงสำนึก คำว่า "แม่" ดังก้องอยู่ในหัวใจของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างรุนแรงจนตัวชาวาบ
**อรินผละตัวผลักผมออกไปอย่างรุนแรง** ใบหน้าของเธอซีดเผือด แต่ดวงตาคู่สวยกลับเต็มไปด้วยแววตาที่เจ็บปวดและขัดแย้ง เธอมองผมด้วยสายตาที่ทั้งอ้อนวอนและตำหนิ
**"ภากร...ลูก...เราทำแบบนี้ไม่ได้นะ..."** เสียงของอรินแหบพร่าและสั่นเครือเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เธอกัดริมฝีปากแน่น **"แม่...แม่ทำไม่ได้จริงๆ ลูก...มันผิด...มันผิดมากนะ"** น้ำตาหยดร่วงหล่นจากดวงตาของเธออีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นน้ำตาของความเจ็บปวดจากความขัดแย้งในใจ **"ขอบใจนะภากร...ขอบใจลูกที่เป็นห่วงและคอยปลอบใจแม่เสมอมา...แต่แม่...แม่ทำไม่ได้จริงๆ...แม่ขอโทษ..."** เธอกล่าวพร้อมกับร้องไห้หนักขึ้น เสียงสะอื้นดังก้องในความเงียบ
แม่ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะ **วิ่งขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง** ทิ้งให้ผมยืนนิ่งค้างอยู่ตรงนั้น **เสียงร้องไห้ของเธอแว่วลงมาจากชั้นบน** ดังชัดเจนทุกถ้อยคำ ราวกับความเจ็บปวดนั้นยังคงดังก้องอยู่ในอากาศ
ผมยืนอยู่เพียงลำพัง ท่ามกลางความเงียบงันที่กลับมาปกคลุมอีกครั้งกับหัวใจที่บอบช้ำและจิตวิญญาณที่กำลังต่อสู้กับ **ความปรารถนาต้องห้ามที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์** และความจริงที่ว่า กำแพงของคำว่า "แม่" นั้น...ยังคงสูงเกินกว่าที่ผมจะก้าวข้ามไปได้
----------
ค่ำคืนนั้นยาวนานราวกับไม่มีจุดสิ้นสุดสำหรับภากร เสียงสะอื้นของอรินที่แว่วลงมาจากชั้นบนยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของเขา ราวกับความเจ็บปวดนั้นยังคงดังก้องอยู่ในอากาศ เขายืนอยู่เพียงลำพังในห้องนั่งเล่นที่มืดสลัว แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟดูจะยิ่งขับเน้นความโดดเดี่ยวของเขาให้ชัดเจนขึ้น แผ่นหลังของอรินที่วิ่งจากไป สายตาที่เปี่ยมด้วยความเจ็บปวดและขัดแย้งยังคงติดตา ไม่ต่างจากรสสัมผัสจากริมฝีปากนุ่มที่ยังคงตรึงอยู่ที่ปลายประสาทรับรส
ภากรก้าวไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดิมที่อรินเพิ่งจากไป เขากดฝ่ามือลงบนริมฝีปากของตัวเอง ราวกับจะกักเก็บสัมผัสนั้นไว้ไม่ให้เลือนหายไปไหน หัวใจของเขาบอบช้ำ แต่ในความบอบช้ำนั้นกลับมีความปรารถนาที่ปะทุขึ้นมาอย่างสมบูรณ์เต็มเปี่ยม มันไม่ใช่แค่ความรักแบบลูกที่รักแม่อีกต่อไปแล้ว แต่มันคือความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบงันและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงจุดที่มันไม่อาจเก็บซ่อนได้อีกต่อไป
เขาเงยหน้ามองขึ้นไปยังชั้นสอง...ห้องนอนของอริน มันอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว แต่กลับรู้สึกเหมือนไกลแสนไกล กำแพงที่ชื่อว่า "แม่" นั้น มันช่างสูงใหญ่และแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาจะก้าวข้ามไปได้จริงๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในบ้านอีกครั้ง บรรยากาศดูจะกลับมาเป็นปกติราวกับเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อรินลงมาที่ห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าตามปกติ สีหน้าของเธอสงบลงแล้ว แต่ดวงตาคู่สวยยังคงฉายแววความอ่อนล้าเล็กน้อย เธอไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนเลยแม้แต่คำเดียว ราวกับพยายามที่จะลืมมันไปให้หมดสิ้น
ภากรก็เช่นกัน เขาพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขานั่งลงที่โต๊ะอาหาร มองอรินที่ขยับตัวไปมาในครัว กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นคละเคล้ากับกลิ่นหอมสะอาดของเธอ เขาพยายามเก็บงำความรู้สึกทั้งหมดไว้ภายใต้สีหน้าเรียบเฉย
"
ความรักที่ก่อตัวขึ้นอย่างผิดบาป ความปรารถนาที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ มันยังคงมีชีวิตอยู่ในใจของเขา แต่มันถูกกักขังไว้หลังกำแพงที่สูงใหญ่ของคำว่า "แม่"
อรินยังคงเป็นอริน...แม่ผู้ใจดีที่ดูแลเขามาตลอดชีวิต แต่สำหรับภากรแล้ว...เธอไม่ใช่แค่แม่อีกต่อไป
และเขาก็รู้ดีว่า...กำแพงนี้...มันจะไม่มีวันพังทลายลงได้เลย...อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนนี้...
จุดจบแห่งกำแพงนั้นไม่ใช่การพังทลายลงมา...แต่คือการที่ทั้งสองต่างก็ตระหนักว่ากำแพงนั้นยังคงตั้งตระหง่านอยู่...และพวกเขาจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน...พร้อมกับความปรารถนาที่ถูกเก็บซ่อนไว้อย่างเจ็บปวดตลอดไป