เรื่องนี้เขาก็รู้ว่าเขาผิดเพราะเขาเองที่บังคับให้เจตต้องแต่งงานแทนเขา เพราะอะไรน่ะเหรอเพราะเขาไม่อินกับคำว่าครอบครัวยังไงล่ะ เขาไม่อยากจะแต่งงานเพราะว่าเขายังหยุดตัวเองไม่ได้เลย เขาไม่อยากทำให้ผู้หญิงต้องมาเสียใจเพราะความไม่รู้จักพอและการรักสนุกของเขา.. เขาจึงพลักภาระนี้ให้น้องชายไป การที่เขาต้องเติบโตมากับแม่เลี้ยงเดี่ยวเพราะถูกสามีนอกใจไปมีเมียน้อยและคนเป็นสามีก็เลือกเมียน้อยมากกว่าภรรยาที่เคยร่วมทุกข์ร่วมยากมาด้วยกันนั้นมันเลยทำให้เขาคิดว่าเขาเองก็คงจะเป็นผู้ชายที่สันดารเหมือนพ่อ.. เขาจึงเลือกที่จะไม่แต่งงานเพราะเขาไม่อยากทำให้ผู้หญิงเสียใจ การที่เขาแรดไปทั่วแบบผู้ชายโสดมันดีจะตาย… แต่ก็นะมันก็มีบางเป็นบางช่วงที่ความคิดของเขามันคิดว่าเขาอิจฉาพวกเพื่อนของเขาน่ะที่มันมีเมียมีลูกเป็นของตัวเองกันหมดแล้ว.. แต่พอกลับมาคิดในความเป็นจริงตามแบบฉบับของเขาแล้ว.. เป็นแบบนี้แหละดีที่สุด…
ก๊อกๆๆ
“นายครับ.. ผมได้ที่อยู่ข้อมูลบางส่วนมาแล้วนะครับ…”
“ มึงทำงานช้า มึงบอกว่าขอเวลา2-3วัน แต่นี่มัน3วันครึ่งไปแล้ว.. มึงนี่ห่วยแตกว่ะไอ้ยุ…” มันบอกเขาว่าขอเวลาสองถึงสามวันแต่นี่มันเลยมาครึ่งวันจะเข้าเป็นวันที่สี่แล้วด้วย.. ทำงานไ่ม่ได้เรื่องแบบนี้หักเงินเดือนน่าจะดี…
“ แหม.. ถ้ารีบขนาดนั้นไม่ทำเองล่ะครับเจ้านาย.. ที่มาช้าน่ะเพราะเธอคนนี้สับขาหลอกเรานน่ะสิครับ.. ผมคิดว่าทุกอย่างที่เธอทำเธอวางแผนมาเป็นอย่างดี.. การที่ผมใช้เวลาสามวันครึ่งเนี่ยเป็นเพราะเธอน่าจะรู้ว่าทางเราน่าจะให้คนออกตามหาเธอ… ” ขยันเร่งขยันบ่นแต่ไม่ยอมทำเอง…
“ ทำไมมึงถึงคิดว่าผู้หญิงคนนี้รู้ตัวและวางแผนมาก่อนแล้ว…” นั่นสิเขาเองก็อยากจะฟังในสิ่งที่ไอ้ยุมันคิด เพราะเขาเองก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะวางแผนมาล่วงหน้าแล้วเพราะจังหวัดอื่นก็ต้องการครูอยู่เหมือนกันนะแล้วทำไมเจ้าตัวถึงต้องเจาะจงมาที่กรุงเทพฯ เขาไม่ได้จะดูถูกนะแต่เขาแค่สงสัยเฉยๆ
“ เท่าที่ผมกับคนอื่นๆสังเกตุดูนะครับ.. ในช่วงวันแรกผมได้ลงไปที่ตลาดที่คุณเจตเจอผู้หญิงคนนั้นผมไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณแถวๆนั้นมา และผมก็ได้มาบางส่วน ในวันที่ผู้หญิงคนนั้นเจอคุณเจตครั้งแรกเธอเองก็ดูตกใจอยู่เหมือนกันดูจากท่าทางลุกลี้ลุกลนของเธอที่พยายามเดินหนีคุณเจตให้เร็วที่สุดแล้วมันก็น่าสงสัยนะครับ และไหนเธอคนนั้นยังรีบเดินกลับไปหาผู้หญิงอีกคนที่ซื้อของอยู่น่าตลาดด้วยแล้ว ผมคิดว่าคนนั้นน่าจะเป็นแม่ของเธอ และเธอก็พูดอะไรสักอย่างแล้วทั้งสามคนก็พากันออกไปครับโดยนั่งรถประจำทางไป.. เมื่อผมเช็คดูเส้นทางของรถประจำทางผมก็เลยแบ่งกันเป็นสองทีม ทีมนึงเฝ้าที่ตลาดส่วนอีกทีมก็ขับรถเช็คตามเส้นทางของรถประจำทางและมาเจอกว่าเธอน่าจะมาอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง.. ผมเลยเฝ้าเอาไว้น่ะครับแล้วก็เป็นอย่างที่คิด.. วันสองวันแรกจะเป็นแม่มากกว่าที่ออกมาซื้อของพร้อมกับหลาน ส่วนเธอคนนั้นจะอยู่แต่ที่โรงเรียนและบ้านพักครู และวันที่สามเธอก็ออกมาตลาดกับแม่และลูกมันเลยทำให้ผมคิดว่าเธอน่าจะต้องการเช็คดูว่ามีคนตามหาเธอรึเปล่า.. และคนอื่นก็คิดเหมือนผมเช่นกัน…”
“ อืม.. มันน่าสงสัยอยู่ะนะเพราะดูเหมือนว่าเจ้าตัวต้องการที่จะดูให้แน่ใจว่ามีคนตามหาเจ้าหล่อนรึเปล่า… แต่ว่ามึงรู้รึเปล่าว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของไอ้เจตมัน?”
“ อ้าว.. ผมจะไปรู้เหรอครับ ผมไม่ใช่เขา.. ตรวจสิครับ.. ถ้าถามผมจากที่ใช้สายตาดูคร่าวๆ… ผมไม่รู้หรอกเพราะเด็กยังตัวเล็กอยู่เลย..” ถามเหมือนเขาเป็นคนที่ตรัสรู้ชอบได้ด้วยตนเอง และสามารถอ่านจิตใจคนได้..
“ มึงกวนตีน? กูแค่อยากจะรู้เฉยๆไหมว่าเด็กคนนั้นมีเค้าโครงหน้าที่เหมือนไอ้เจตรึเปล่า… กวนตีนะมึง..” แม่งทำไมมันกวนตีนแบบนี้นะ มันคงจะอยู่กับเขานานเกินไปจนไม่รู้จักคำว่าเจ้านายลูกน้องไปแล้วมั้งเนี่ย…
“ ตรวจสิครับจะได้รู้ไปเลย.. ก็อย่างที่ผมบอก.. เพราะเด็กยังตัวเล็กมันยังดูไม่ออกหรอกว่าเหมือนใครจะว่าเหมือนแม่ก็ใช่ จะเหมือนคนอื่นก็ใช่โอ้ย… ผมไม่รู้หรอก ว่าแต่งานน่ะครับ.. ได้ทำบ้างไหม? ไม่ใช่วันๆเอาเวลาไปหลีแต่สาวนะ… งานการไม่รู้จักทำชอบพลักภาระมาให้ผมกับคุณเจตตลอด…” น่าเบื่อ.. ใช้งานยิ่งกว่าแรงงานทาสโรงงานนรกอีก…
“ อ๋อพูดถึงเรื่องงาน.. กองอยู่บนโต๊ะมึงไปจัดการหน่อยก็แล้วกัน มันมีเอกสารที่ต้องใช้ด่วนด้วยแบบว่ารีบน่ะ.. ” หมั่นไส้ไอ้เวรนี่ฉิบหาย.. มันกับไอ้เจตนี่เข้ากันเป็นปรี่เป็นขลุ่ยเลย.. ขยันแซะ.. ไม่รู้ว่าชาติก่อนมันเป็นคนขายขนมเบื้องหรือว่าเป็นช่างสีหรือว่าทำไร่ทำสวนกัน.. แซะเก่ง (แซะคือ เครื่องมือแบนๆเช่นตะหลิวหรือเสียมที่เอาไว้แทงเบาๆโดยรอบแล้วก็ทำการช้อนขึ้นมาให้หลุดล่อนจากที่เดิม)
“ ถ้ารีบขนาดนั้นทำไมไม่ทำเองล่ะครับ.. คนอื่นเขาไม่มีงานอย่างอื่นที่จะต้องทำเลยว่างั้น?…” พูดจบพายุก็รีบก้าวขาออกจากห้องไปทันทีถ้าอยู่คงจะไม่พ้นรองเท้าบิน…
“ มึง.. ไอ้ห่าเอ้ย.. ไปเลยไปทำงาน…” ไอ้เวรนี่… ถ้ามันจะปากดีพ่วงมาด้วยน่ะเขาสาบานเลยว่าเขาจไม่รับมันเข้าทำงาน.. แต่ไม่เอาดีกว่าไม่สาบานดีกว่าเดี๋ยวตายฟรี…
เมื่อลูกน้องตัวดีออกไปจากห้องทำงานของเขาเขาก็รีบเสียบแพลชไดร์ฟดูทันที.. ทุกการเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนั้นดูยังไงก็น่าสงสัย.. แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เข้าใจก็คือทำไมเจ้าตัวถึงกับอย่างกับต้องการหลบหน้าของไอ้เจต.. หรือว่าเด็กคนนั้นจะไม่ใช่ลูกของไอ้เจต… เรื่องนี้มันชักจะสนุกขึ้นมาแล้วสิ.. มันมีอะไรหลายๆอย่างให้เขาต้องตามสืบสินะ…
“ ฉันคงจะต้องหาเวลาว่างไปคุยกับเธอสักหน่อย.. แต่ขอเคลียร์งานกับเคลียร์คิวสาวๆก่อนก็แล้วกัน.. ฉันเองก็อยากจะรู้นะว่าเธอจะแถว่ายังไง… ”
เขาเองก็ต้องการจะรู้ความจริงของผู้หญิงคนนั้นเหมือนกันว่าทำไมเจ้าตัวถึงเลือกที่จะมาเป็นครูที่นี่ และเหตุผลที่เจ้าตัวทำเป็นไม่รู้จักกับไ้อ้เจต.. เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตกลงแล้วผู้หญิงคนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่… แล้วเด็กคนนั้น.. ใช่ลูกของไอ้เจตรึเปล่า… แล้วถ้าใช่.. ทำไมถึงพึ่งมาเรียกร้องตอนนี้.. โอ้ยปวดหัวๆ เอาเป็นว่าเขาจะต้องรีบหาเวลาว่างไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นให้ได้..