bc

ร้อยหัวใจ ใยเสน่หา

book_age18+
790
FOLLOW
5.0K
READ
HE
heir/heiress
bxb
brilliant
detective
campus
like
intro-logo
Blurb

“ดัดจริตใครบอกให้เรียกคุณ ขึ้นมาเร็วๆเหยียบที่พักเท้าแล้วนั่งซ้อนหลังพี่” ชายหนุ่มพูดเสียงขุ่นด้วยความไม่พอใจยัยเด็กนี่ดเรียกเขาว่าคุณทั้งที่เรียกพี่ทัพพ์มาตลอดแค่ไม่ได้เจอกันไม่เท่าไหร่กลับดัดจริตเรียกคุณมันน่ามั้ยล่ะ

“นี่..” ใบพลูกำลังจะอ้าปากพูดแต่ทวิภาคชี้หน้าเธอบอกให้ซ้อนท้ายเขา

“ขึ้นมาเดี๋ยวนี้” เสียงห้าวพูดดังขึ้นกว่าเดิม

“ก็ได้ อยากให้ซ้อนใบพลูจัดให้” ร่างเพรียวเหยียบที่พักเท้าแล้วยกขาขึ้นข้ามบังโคลนหลังนั่งลงบนบังโคลนแข็งๆ

“ก็แค่นั้นแหละ” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มแล้วบิดคันเร่งก่อนจะออกตัวกระชาก

“บรืนนๆๆ บรื้นนน..”

“ว้ายยย!!.....” อัยยาร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเกือบหงายหลังยังดีที่เธอคว้าเอวสอบไว้ได้แรงกระชากทำให้เธอโถมตัวลงเอาหน้าอกกระแทกเข้าแผ่นหลังหนั่นแน่นเต็มแรงสะโพกงอนหลุดจากบังโคลนรถลงไปเบียดเอวสอบ

“คุณทัพพ์..”

"เอี้ยดดด..”

“ว้ายยย!!....”

อัยยาร้องออกมาอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มเบรกรถเสียงดังจนล้อเสียดสีกับถนนคอนกรีตหน้าผากกระแทกหลังเขาจนทำให้คนงานที่ทำงานอยู่แถวนั้นมอง

“เมื่อกี้เรียกพี่ว่าอะไรนะ” ทัพพ์ถามเจ้าของก้อนเนื้อนุ่มที่กระแทกแผ่นหลังเขาถึงสองครั้งไหนจะเนื้อนุ่มนิ่มบดเบียดเอวสอบเขาไว้แน่นอีกล่ะพระเจ้า ยัยใบพลูทำให้ร่างกายของเขามันมีชีวิตได้ด้วยสิ

“เอ่อ.. พี่ทัพพ์..”

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1
ลานตะวันรีสอร์ท ตั้งอยู่เชิงเขาห่างจากถนนธนะรัชต์ไปสองกิโลเมตรทางผ่านไปเขาใหญ่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่หนุ่มหล่อกลุ่มบิ๊กเบิ้มขี่ตามกันมาห้าคันเพื่อมาพักผ่อนสมองหลังเรียนหนักติดกันมาเกือบเดือนพวกเขาขี่บิ๊กไบค์มาจากกรุงเทพมาตามถนนมิตรภาพซึ่งแต่ละคันราคาหลักล้านที่ลูกหลานเศรษฐีทั้งหลายนิยม ทัพพ์ขี่รถบิ๊กไบค์คันใหญ่เข้าไปในบ้านไม้หลังใหญ่ท่ามกลางแมกไม้ร่มรื่นมีบิ๊กไบค์จอดเรียงกันห้าคันและของเขาเป็นคันที่หกหลังจากเขาแวะหาตาที่ฟาร์มก่อนจะตามเพื่อนมาทีหลัง “ไอ้คุณชายทัพพ์มาแล้วโว้ย” เสียงของชนาทิปดังขึ้นเมื่อได้ยินเสียงบิ๊กไบค์และเห็นเพื่อนขี่เข้ามาในรีสอร์ทของเขา “ทัพพ์มาแล้วเหรอน้ำ” นีรัมพานั่งดื่มกาแฟกับเพื่อนสาวอีกสองคนที่ห้องรับแขกได้ยินเสียงรถบิ๊กไบค์ก็เดินออกมาดูและเธอก็เดาถูกเมื่อเห็นหนุ่มหล่อที่เธออยากได้เขามาเป็นแฟนกำลังลงจากบิ๊กไบค์คันใหญ่ “นั่นไงล่ะแฟนเธอรัมพา” ชนาทิปหันไปบอกนีรัมพาที่เดินนวยนาดออกมาจากห้องนั่งเล่นราวกับนางแบบที่หลุดมาจากแคทวอล์ค “ถ้าทัพพ์ยอมเป็นแฟนรัมพาก็ดีน่ะสิ.” นีรัมพามองร่างสูงสมาร์ทในเสื้อการ์ดสำหรับขี่มอเตอร์ไซค์และกางเกงยีนส์สีเข้มที่ชายหนุ่มชอบใส่เป็นประจำ ทัพพ์ถอดหมวกกันน็อคออกสะบัดผมไปมาแล้วใช้มือสางปัดให้พ้นใบหน้าหล่อเข้มสไตล์ลูกเสี้ยวเพราะพ่อของเขาเป็นลูกครึ่งไทยอิตาลีแต่เลือดพ่อมันเข้มข้นมากกว่าแม่เขาจึงได้เลือดพ่อมาเยอะ ใบหน้าเรียวได้รูป จมูกเป็นสันโด่ง ริมฝีปากสีชมพูน่าจูบ ดวงตาสีฟ้าอ่อน ผมดำสนิทจึงทำให้ดวงตาโดดเด่นมีเสน่ห์ชวนฝัน รูปร่างสูงสมาร์ท กล้ามเนื้อแน่น ซิกแพกชวนใจละลายจนสาวๆในมหาลัยอยากเป็นแฟนเขา “ทัพพ์คะ, รัมพามารอตั้งนานแน่ะค่ะ.” นีรัมพาถลาไปเกาะแขนหนุ่มหล่อที่เธอเพิ่งเข้าถึงตัวเขาได้เพราะเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของอดิสรเพื่อนกลุ่มเดียวของทัพพ์ “แล้วจะรอทำไมล่ะ, เฮ้ยพวกมึงมีอะไรมายัดปากบ้างวะ หิวเป็นบ้าเลยว่ะ” ทัพพ์แกะมือของนีรัพาออกเดินไปนั่งข้างชนาทิปเจ้าของรีสอร์ทตัวจริงเพื่อนสนิทของเขา “มึงจะกินอะไรล่ะไอ้ทัพพ์ สั่งไอ้ปองมันเลย” ชนาทิปบอกเพื่อนก่อนจะพยักเพยิดไปทางนีรัมพาที่เดินสะบัดก้นไปนั่งม้านั่งยาวด้านหลังของพวกเขา ที่นี่เป็นบ้านพักส่วนตัวของชนาทิปและพวกเขานั่งตรงหน้าบ้านเป็นเทอเรสกว้างมีโต้ะเก้าอี้ตั้งอยู่สองฝั่งสามารถจัดปาร์ตี้ได้สบาย ส่วนรีสอร์ทก็มีรั้วสีขาวสูงแค่เอวกั้นเขตระหว่างรีสอร์ทกับบ้านพัก “ใครชวนมาวะ” ทัพพ์ถามเพื่อนที่พากันส่ายหน้าเขาไม่ชอบผู้หญิงที่ตามล่าผู้ชายแบบนีรัมพาและได้บอกกับอดิศรไปแล้วว่าเขาไม่ชอบญาติสาวของเพื่อนซึ่งอดิศรก็เข้าใจดีและยังบอกว่าแล้วแต่เขาจะจัดการเพราะเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องไม่ได้สนิทกันแต่เธอเห็นเขาเป็นเพื่อนกับทวิภาคจึงมาทำตัวสนิท “เอาน่าไอ้ทัพพ์ ในเมื่อเธอมาแล้วก็ปล่อยไปเถอะ เดี๋ยวกูจัดที่พักให้ในรีสอร์ทไม่ให้มายุ่งกับพวกเราหรอก” ชนาทิปบอกเพื่อนเพราะเขากำลังคั่วกับเขมจิราเพื่อนของนีรัมพา “มึงนั่นแหละตัวดีไอ้น้ำ ไม่ปล่อยน้ำออกสักวันสองวันจะตายหรือไงวะ” ทัพพ์ด่าเพื่อนเขาพอจะเดาออกเมื่อเห็นเด็กใหม่ของชนาทิปเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น “ไม่ได้ว่ะ เด็กมันกำลังขบเผาะแต่ลีลาแม่งเหลือร้ายวะทำเอากูเข่าอ่อนเลยนะมึง” ชนาทิปกระซิบเพื่อนเบาๆเขากำลังติดใจลีลาของเด็กใหม่ “ไอ้หน้าหม้อ” “มึงก็หม้อเหมือนกันแหละว้า น่าจะหิ้วน้องหมิวมึงมาด้วยนะ” ชนาทิปกระเซ้าเพื่อนเขารู้จักทัพพ์ตอนเรียนปีหนึ่งมาถึงตอนนี้ก็อยู่ปีสุดท้ายกันแล้วพอๆกับเพื่อนอีกสามคนที่รวมกลุ่มกันตั้งแต่อยู่ปีหนึ่งจนสาวๆในมหาลัยตั้งฉายาว่ากลุ่ม พี่บิ๊กเบิ้ม เพราะพวกเขาขี่บิ๊กไบค์มาเรียนตั้งแต่ปีหนึ่ง นี่คือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาสนิทกันและคบกันมาจนถึงตอนนี้ “ผู้หญิงก็น่าเบื่อเหมือนกันหมดนั่นแหละว่ะ ตอนยังไม่ได้ซั่มคุณเธอก็ทำหยิ่งอย่างนั้นไม่ได้อย่างนี้ไม่ดี พอได้ไปสองสามดอกก็อยากได้โน่นนี่นั่น จริงมั้ยคุณรัมพา” ทัพพ์หันไปถามนีรัมพาที่ทำหน้าไม่ถูกกับคำพูดตรงๆของเขา “มะ ไม่รู้ค่ะ แต่รัมพาไม่ได้เป็นเหมือนผู้หญิงที่คุณทัพพ์เคยเจอนะคะ” นีรัมพาตอบหนุ่มหล่อที่หัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจใคร “ฮ่าๆๆ ไม่เหมือนตรงไหนล่ะคุณรัมพาลองบอกมาสิ” ทัพพ์หัวเราะเสียงดังด้วยความขบขันเขาก็เห็นพูดแบบนี้กันทั้งนั้นสุดท้ายก็เหมือนกันหมด นีรัมพาเม้มปากแน่นเพราะตอบไม่ได้ก็และเธอก็คิดเหมือนที่ทัพพ์พูดจริงแต่ไมคิดว่าชายหนุ่มจะพูดออกมาตรงๆแบบนี้ทำเอาเธอไปไม่เป็นและไม่พอใจทัพพ์มาก “ป๊าบบ..” ตุลธรตบไหล่เพื่อนเสียงดัง “เฮ้ย,ไอ้เหี้ยต้อมเจ็บนะโว้ย ตีมาได้” ทัพพ์โวยวายใส่เพื่อนอีกคนที่นั่งฟังอยู่นานจนทนความปากหมาของเพื่อนไม่ได้ทำเอานีรัมพาไปไม่เป็น “มึงเลี้ยงหมาไว้ในปากหรือไงวะไอ้ทัพพ์ พูดจากับผู้หญิงให้มันดีๆหน่อยสิวะ” ตุลธรเตือนเพื่อนที่นับวันปากคอเราะร้ายขึ้นทุกวัน “พูดกันมันตรงๆนี่แหละดี กูถนัดซั่มอย่างเดียวเรื่องอื่นกูไม่สนใครรับได้ก็รับใครรับไม่ได้ก็ไม่ต้องมายุ่งแค่นั้นเอง จะมาตามตื้อกูเหมือนผัวตามเมียน่ะไปไกลเลย..” ทัพพ์พูดฉะฉานสมกับที่เพื่อนว่าปากหมาจริงๆเขาไม่ชอบผู้หญิงประเภทตามตื้อผู้ชายมันทำให้เขาคิดถึงเมียน้อยของพ่อ “คุณทัพพ์พูดจนจินกลัวแทนผู้หญิงเลยนะคะ” เขมจิราพูดแล้วนั่งลงบนตักของชนาทิปอดสงสารเพื่อนไม่ได้ถึงจะหล่อแต่เธอขอถอยดีกว่า “กลัวบ้างก็ดี ส่วนมากที่ผมเจอไม่เห็นกลัวสักคน” ทัพพ์พูดแล้วมองนีรัมพาที่มองเขาอย่างไม่พอใจแต่มันก็เป็นเรื่องของเธอหากเขาพอใจเขาก็จะเป็นฝ่ายเริ่มเอง “เอ้า, เอาเบียร์กระแทกปากเข้าไปจะได้ไม่พูดมาก” อดิศรหยิบขวดเบียร์จากสมปองยื่นให้เพื่อนที่มาถึงก็เอาแต่พูดกระทบนีรัมพาสงสัยมันไปกินรังต่อรังแตนมาแน่เลยถึงได้พาลไปทั่ว “ขอบใจนะสมปอง นายน่าจะเอามาให้ตั้งนานแล้ว” ทัพพ์ขอบใจคนของเพื่อนมาพักที่นี่ทีไรคอยดูและอย่างดีตลอด เมื่อได้ดื่มเบียร์เย็นๆแล้วอารมณ์ของชายหนุ่มก็ดีขึ้น แต่นีรัมพาอารมณ์เสียเพราะทัพพ์ไม่สนใจเธอเลย ทั้งที่คิดว่ามาแบบนี้เขาน่าจะสนใจเธอบ้างต่างจากชนาทิปที่เอาอกเอาใจเขมจิราอย่างออกนอกหน้าแต่เธอรู้ว่าทั้งสองแค่สนุกกันเท่านั้นไม่ได้คิดจริงจัง และเธอก็เช่นกันแต่พอเจอทัพพ์ชายหนุ่มถูกใจเธอทุกอย่างไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา นามสกุลดัง ฐานะร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี ใครบ้างไม่อยากได้เขาและคิดว่าเธอจะถอยหรือเดินหน้าดี “ปองนายพาแขกของฉันไปพักที่รีสอร์ทหน่อยนะ ฉันโทรบอกผู้จัดการแล้ว จินกับเพื่อนไปพักก่อนนะครับ เย็นนี้เรามีปาร์ตี้กันที่นี่ ผมจะให้ปองไปรับนะครับ” ชนาทิปบอกลูกน้องคนสนิทที่เขาไว้ใจเพราะสมปองเป็นลูกของแม่บ้านรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กและสมปองก็เลือกเรียนแค่ ปวส เพราะสงสารแม่ที่ทำงานหนักส่งเสียให้เรียน ชนาทิปจึงให้มาดูแลบ้านพักที่เขาใหญ่และให้เป็นหูเป็นตาดูแลรีสอร์ทแทนเขา แต่คนส่วนใหญ่จะคิดว่ารีสอร์ทนี้เป็นของครอบครัวเขาที่จริงไม่ใช่ เขาเอาเงินของขวัญที่ตาให้เอามาซื้อที่สร้างรีสอร์ทจนตอนนี้มีแต่คนรู้จักและเขาก็บริหารเองและจะมาดูทุกอาทิตย์หากเรียนหนักก็มาเดือนละสองครั้ง หากเขาไม่มาสมปองก็จะเอาเอกสารไปให้เซ็นที่กรุงเทพ “ครับคุณน้ำ เชิญครับคุณผู้หญิง” สมปองเชิญแขกของเจ้านายไปที่รถกอล์ฟเพื่อพาไปพักที่รีสอร์ท “มึงเก็บกดอะไรมาวะไอ้ทัพพ์” อดิศรถามเพื่อนที่มาถึงก็พูดอย่างกับคนเก็บกด “เบื่อไง กูอุตส่าห์หนีมานอนเล่นเงียบๆแล้วนะ เพราะเด็กของมึงนั่นแหละไอ้น้ำทำให้กูเซ็ง มึงก็เห็นว่ายัยรัมพาจ้องเคลมกูอยู่ยังจะชวนมาอีก” “กูจะไปรู้มั้ยว่าเด็กกูจะชวนเพื่อนมาเพราะกูนัดเธอคนเดียวไม่ได้นัดเพื่อนเธอนี่หว่า” ชนาทิปนัดเขมจิราและคิดว่าเธอจะมาคนเดียวกว่าเขาจะรู้พวกเธอก็มานั่งเจ๋ออยู่ที่รีสอร์ทแล้ว “มันจะยากอะไรวะไอ้ทัพพ์ในเมื่อหล่อนมาแล้วมึงก็จัดให้สักดอกสองดอกสิวะจะได้จบๆ หึๆๆ”ดิษย์บอกเพื่อนแล้วหัวเราะ “จบบ้านพ่องมึงสิวะไอ้เพื่อนเวร หล่อนจะได้จับกูทำผัวน่ะสิ ” “โอ้ยย.. พอๆถ้ามึงไม่สนใจซะอย่างเดี๋ยวรัมพาก็ถอยเองแหละ เรามาพักผ่อนกันนะอย่าให้หมดสนุกสิวะ” อดิสรร้องโวยวายเมื่อเพื่อนๆยังไม่หยุดพูดถึงผู้หญิงที่ตามมาจากกรุงเทพ “มึงดูแลกูด้วยนะไอ้หมู” ทัพพ์ชี้ไปที่อดิสรเพราะเป็นญาตินีรัมพา “เออๆ จะดื่มได้หรือยังวะ” “มึงนี่เรื่องมากฉิบหายว่ะไอ้ทัพพ์..” กิติภพพูดขึ้นด้วยความอิจฉาหนุ่มหล่อพ่อรวยอย่างทัพพ์เพราะสาวๆมักจะเข้าหาทัพพ์ก่อนเป็นคนแรก ถึงแม้ที่บ้านกิติภพจะรวยแต่ก็เป็นเศรษฐีใหม่และเขาเพิ่งมาเข้ากลุ่มพี่บิ๊กเบิ้มได้แค่ปีกว่าเพราะชอบบิ๊กไบค์เหมือนกันรถของเขาก็สู้ของทัพพ์ไม่ได้สักคันแต่ไม่มีใครพูดถึงเพราะมีความชอบต่างกัน “แล้วไงมันหนักตรงไหนของมึงวะไอ้บิ๊ก” ทัพพ์หันไปถามกิติภพเขารู้สึกว่าพักหลังมานี้กิติภพมักจะแย้งหรือว่ากระทบบ่อยเขาก็ไม่เคยตอบโต้เพราะคิดว่าเพื่อนพูดหยอกเล่นแต่ความอดทนมันมีข้อจำกัด “เฮ้ยไม่เอาน่าเพื่อน ดื่มกันดีกว่า” ชนาทิปปรามเพื่อนและชวนดื่ม “กูแค่พูดหยอกเล่นๆน่าไอ้ทัพพ์” กิติภพเห็นสายตาของทัพพ์แล้วเขาก็พูดทำนองว่าหยอกเพื่อนทั้งที่เขาพูดจริงและเล็งนีรัมพาอยู่แต่เธอกลับชอบทัพพ์ “นี่มึงหยอกเหรอวะ กูเห็นมึงหยอกกูแบบนี้บ่อยแล้วแต่กูไม่สนใจคิดว่าเป็นเพื่อนกัน แต่กูไม่ชอบว่ะถ้ามึงคิดว่ากูเป็นเพื่อนอย่าหยอกอย่างนี้อีก..” “พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงวะไอ้ทัพพ์..” กิติภพหน้าแดงก่ำถามทัพพ์ที่พูดเหมือนไม่อยากเป็นเพื่อนกับเขา “มึงคิดยังไงก็อย่างนั้นแหละ” “ทำไมวะ มึงคิดว่ามึงรวย มึงแน่อย่างนั้นเหรอวะไอ้ทัพพ์ กูก็ไม่ได้อยากคบกับไอ้คนรวยที่มันหยิ่งไม่เห็นหัวคนอื่นแบบมึงเหมือนกัน” กิติภพลุกขึ้นยืนชี้หน้าทัพพ์ที่ยกขวดเบียร์ขึ้นกระดกแล้วขว้างลงพื้น “เพล้งงง...” “แล้วมึงจะเอายังไงกับกูไอ้บิ๊ก..” ทัพพ์ลุกขึ้นประจันหน้ากับเพื่อนที่มองเขาตาแดงก่ำด้วยความไม่พอใจ “เฮ้ย ไอ้ทัพพ์ ไอ้บิ้ก พอเถอะน่า เพื่อนกันแค่หยอกกันเฉยๆให้มันแล้วไปนะเพื่อน” ชนาทิปกันทัพพ์ไว้ อดิสรกันกิติภพ ตุลธรกับดิษย์ยืนตรงกลาง “พวกมึงไม่ต้องมาห้ามกูอยากรู้เหมือนกันว่าลูกคุณชายอย่างไอ้ทัพพ์มันมีดีอะไรผู้หญิงถึงได้รุมล้อมมันนัก ถ้ามันไม่มีเงินพ่อไม่ได้เป็นนักธุรกิจชื่อดังจะมีใครสนใจมันมั้ย หึๆ.” “มึงหยุดพูดไปเลยบิ๊ก จะหาเรื่องกันเองทำไมวะ.” อดิสรว่าเพื่อนที่ยังพูดแขวะทัพพ์ไม่เลิก “มึงอยากรู้ใช่มั้ยไอ้บิ้ก..” “ใช่...โอ้ยย.....” “ผลั้วะๆ ผลั้วะ ตุ้บๆ ตั้บๆ ผลั้วะ ตุ้บๆ...” สิ้นเสียงของทัพพ์แล้วชายหนุ่มก็ผลักชนาทิปออกพุ่งหมัดเข้าใส่กิติภพที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวล้มลงไปกองกับพื้นแล้วกระหน่ำใส่อีกสี่ห้าหมัดก่อนจะหยุดขณะที่เพื่อนอีกสามคนยืนตะลึงเพราะไม่เคยเห็นชายหนุ่มฟิวส์ขาดแบบนี้มาก่อนยกเว้นดิษย์ที่เคยลุยมาด้วยกันตอนเรียนมัธยมต้นที่สระบุรีจนผู้อำนวยการเรียกผู้ปกครองไปพบหลังจากนั้นไม่มีใครกล้าหือกับทัพพ์อีก “ฝากพวกมึงพามันไปส่งโรงพยาบาลด้วยกูรับผิดชอบทุกอย่าง..” ทวิภาคพูดจบก็หยิบแว่นตามาใส่แล้วเดินออกไปจากบ้านพักของชนาทิป “ไอ้ดิษย์มึงตาไอ้ทัพพ์ไปเดี๋ยวกูจัดการไอ้บิ๊กเอง” ชนาทิปพูดยังไม่ทันจบดิษย์ก็วิ่งไปที่รถทันทีแล้วขับตามเพื่อนไปติดๆก่อนจะล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาอย่างทุลักทุเลตาก็มองตามหลังเพื่อนอยู่ไกลลิบๆจะขี่เร็วก็ไม่ได้พอเสียบโทรศัพท์บนแท่นวางตรงแฮนด์รถก็กดโทรออกหาเพื่อนตัวดีทันที “เฮ้ย ไอ้ทัพพ์รอกูบ้างสิวะ” “มึงขี่ตามกูมาไม่ใช่เหรอ” ทัพพ์กดบูธูทที่ติดหมวกกันน็อคคุยกับเพื่อน “ก็มึงขี่เร็วกูตามไม่ทันอ่ะ” ที่จริงเขาก็ตามทันอยู่แต่มันอันตรายเพราะเพื่อนอยู่ในอารมณ์ไม่ปกติ “เจอกันที่บ้านกู” ทัพพ์บอกเพื่อนแล้วมองกระจกยังไม่เห็นเพื่อนโผล่มาเขาก็ลดความเร็วลงจนเห็นดิษย์ขี่ตามมาจากนั้นเขาก็ใช้ความเร็วปกติขี่ตามกันกลับบ้านที่ตำบลกลางดง ฟาร์มโคนม ทัพพ์พญา ตั้งอยู่อำเภอมวกเหล็กอยู่ห่างจากถนนมิตรภาพถนนหลักเข้าไปสิบกิโลเมตรเป็นที่ตั้งของฟาร์มโคนมใหญ่สุดของจังหวัดสระบุรีของกำนันเทิดศักดิ์ พรหมพิริยะ กำนันแหนมทองของจังหวัดสระบุรีท่านเป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั้งจังหวัดและอำเภอใกล้เคียงเช่นปากช่องไม่มีใครไม่รู้จักกำนันคนดังและฟาร์มโคนมใหญ่ที่สุดของอำเภอมวกเหล็กที่ผลิตน้ำนมวัวส่งให้สหกรณ์โคนมของจังหวัดซึ่งทำรายได้ให้มากมายต่างจากสมัยก่อนที่ล้มลุกคลุกคลานมาจนกว่าจะมีวันนี้ได้ บ้านปูนสองชั้นหลังใหญ่สไตล์ยุโรปร่วมสมัยตั้งอยู่บนเนินเขาล้อมรอบด้วยแปลงหญ้าเนเปียร์ หญ้ากินนีสีม่วง หญ้าแพงโกล่า ข้าวโพด มันสำปะหลัง ถั่วเหลือง นาข้าวและคอกโคนมนับพันตัว บนเนื้อที่ห้าร้อยไร่ของฟาร์มโคนม ทัพพ์พญา ร่างสูงใหญ่สมชายชาตรียืนมองอนาจักรของตัวเองที่สร้างมากับมือถึงยี่สิบห้าปีจากที่มีโคนมแค่สิบตัวตอนนี้มีโคนมมากกว่าหนึ่งพันตัวมีโรงเรือนเรียงเป็นแนวยาวอยู่กลางพื้นที่ห้าร้อยไร่ แบ่งเป็นสัดส่วนสำหรับปลูกอาหารสัตว์ ขุดสระน้ำขนาดกว้างสองไร่ถึงห้าแห่งเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ตอนหน้าแล้ง และบ่อน้ำบาดาลรอบฟาร์มกว่าห้าสิบบ่อเพียงพอสำหรับเลี้ยงโคนมตลอดทั้งปี และติดตั้งระบบโซล่าเซลเพื่อใช้ในฟาร์มหลังจากที่ลองผิดลองถูกมาหลายปีจนสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จตอนหลานชายคลอดพอดี เขาจึงตั้งชื่อฟาร์มว่า ทัพพ์พญา ซึ่งชื่อนี้เขาตั้งให้หลานชายคนแรกแต่ทางลูกเขยขอตั้งชื่อลูกเองท่านจึงตั้งชื่อเล่นหลานชายว่าทัพพ์ หรือ ทวิภาค อัลบาร์โต้ กำนันท่านมีลูกสาวสองคน คนโตชื่อ พริตา แม่ของ ทวิภาคที่แต่งงานกับ มาร์ค หรือ มาร์ติน อัลบาร์โต้ หนุ่มลูกครึ่งไทยอิตาลีรูปหล่อพ่อรวยเจ้าของโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์มากมายขนาดมีเมียแล้วยังเนื้อหอมจนทำให้ครอบครัวแตกแยกเพราะเผลอไปมีความสัมพันธ์กับเลขาจนตั้งท้องทำให้เขาต้องรับผิดชอบแต่พริตายอมรับไม่ได้จึงขอหย่ากับสามีหากมาร์ตินไม่หย่าเธอจะฟ้องทำให้สามียอมหย่าแต่ไม่ได้แต่งงานใหม่กับเมียน้อย มาร์ตินซื้อบ้านให้เตชินีอยู่ต่างหากกับลูกสาวและเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์กับเตชินีอีกเลยนอกจากรับผิดชอบลูกเท่านั้นจนกระทั่งพริตาเป็นโรคมะเร็งลำไส้ตอนลูกชายอายุสิบห้าปีและเขาก็มาดูใจอดีตภรรยาที่เขารักมากที่สุดและได้ทำผิดต่อเธอจนพริตายกโทษให้แล้วเธอก็เสียชีวิต ลูกสาวคนเล็กชื่อ รติมา แต่งงานกับเดชา อุนิลรัตน์ เจ้าของโรงโม่หินที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ มีลูกสาวหนึ่งคนชื่อ ลักษิกา อุนิลรัตน์ หรือ ลักษ์ สาวสวยวัยใสน่ารักรูปร่างเล็กสูงร้อยหกสิบสาม “ตากำนันขา อยู่หรือเปล่าคะพูลเอากล้วยบวชชีมาให้ค่า” เสียงใสดังมาจากใต้ถุนบ้านทั้งๆที่เห็นท่านแล้วเด็กสาวก็ยังเรียกเสียงดัง “วันนี้ไม่ไปเรียนเหรอหนูใบพลู” ป้าคิดแม่บ้านของกำนันถามเด็กสาวที่เห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยจนโตเป็นสาวน้อยหน้าตาน่ารักหากแต่งเนื้อแต่งตัวหน่อยจะสวยมากทีเดียว “หยุดหนึ่งอาทิตย์ค่ะป้าคิด นี่ค่ะกล้วยบวชชีค่ะ พลูขอไปหาตากำนันก่อนะคะ” ใบพลู หรือ อัยยา สาวน้อยน่ารักรูปร่างสูงโปร่งผิวสีน้ำผึ้งนัยตาสีน้ำตาลคมเข้มเอวบางสะโพกผายรับกันเหมาะเจาะหน้าอกหน้าใจสมวัยเด็กมหาลัยเพราะแม่ให้มาเยอะสูงร้อยหกสิบแปดเป็นหลานสาวของ สิงหา กรพัฒนะ เพื่อนของกำนันเทิด เจ้าของไร่ผลไม้แม่บุญมี ที่ทุกคนเรียกจนติดปากเพราะเมียของสิงหาชื่อบุญมี และไร่แม่บุญมีก็อยู่คนละฝั่งถนนกับฟาร์มโคนมทัพพ์พญา อัยยาเป็นลูกสาวคนโตของ อาชัญ บุราพินันท์ อดีตนายอำเภอและตอนนี้ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคอีสาน อาชัญเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็กจึงทำให้เขาต้องมาอาศัยอยู่กับหลวงตาที่วัด ซึ่งเป็นตาของเขาจริงๆท่านบวชตั้งแต่ยายเสีย พอพ่อแม่ของเขาเสียตอนอาชัญอายุสิบขวบเขาก็มาอยู่กับหลวงตาที่วัดเพราะท่านเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ อาชัญเป็นเด็กขยันมีแต่คนรักและเขาก็เรียนเก่งสอบชิงทุนได้ตลอดพอโตขึ้นก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยจนจบปริญาตรีก่อนจะสอบราชการได้เป็นนายอำเภอ หลวงตาก็เสีย และเขาก็ชอบพอกับสลิลรัตน์ลูกสาวของตาสิงหา เทียวจีบอยู่นานกว่าเธอตกลงใจแต่งงานด้วยและมีลูกด้วยกันสองคนคือ อัยยา บุราพินันท์ หรือ ใบพลูวัย20ปีกำลังเรียมหาลัยปีสอง กับ อาชา บุราพินันท์ หรือ หมาก วัย17ปี อาชาไปอยู่กับพ่อแม่ที่จังหวัดนครพนมส่วนอัยยาอยู่กับตาแต่สองพี่น้องก็รักใคร่สนิทสนมกันดี “ไหนล่ะกล้วยบวชชีของตา ” กำนันตะโกนถามหลานสาวของเพื่อนที่ท่านรักเหมือนหลานเพราะวิ่งเข้าออกบ้านท่านตั้งแต่เด็ก “มาแล้วค่ะตากำนันขาสวัสดีค่ะ พอดีพลูให้ป้าคิดเอากล้วยบวชชีไปใส่ชามมาให้ตากำนันค่ะ” เสียงหวานใสพูดเจื้อยแจ้วนั่งคุกเข่าตรงหน้าท่านยกมือไหว้ยิ้มหวานให้ ทำให้คนแก่ชื่นใจที่หลานสาวของเพื่อนยังคิดถึงทำขนมมาให้กินบ่อยๆทั้งที่ในบ้านท่านสั่งคำเดียวก็ได้กินแล้วแต่ไม่เหมือนหลานสาวคนสวยทำมาให้ส่วนหลานสาวหลานชายของท่านไปเรียนที่กรุงเทพกันทั้งสองคนจึงทำให้คนแก่เหงายังดีที่อัยยากลับมาบ้านทีไรก็มาหาท่านทุกครั้งบางทีก็มาช่วยท่านตรวจบัญชีในฟาร์ม “ใบพลูมาก็ดีแล้วลูก ตากำลังอยากได้คนช่วยงาน รู้สึกว่าพักนี้หูตาฝ้าฟางตรวจบัญชีผิดๆถูกๆ เจ้าทัพพ์กับยัยลักษ์ก็ไม่กลับบ้านตาก็เลยไม่มีผู้ช่วย” “ได้เลยค่ะ บ่ายนี้พลูว่าง ตากำนันจะให้พลูทำอะไรก็บอกมาเลยค่ะ” อัยยาเต็มใจช่วยตากำนันเพราะเธอรักและนับถือท่านไม่ต่างจากตาของเธอและเคยมาช่วยงานท่านบ่อยตั้งแต่หลานชายตัวแสบของท่านไปเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่มัธยมปลายหลังจากป้าตาแสนใจดีของเธอเสียชีวิตจึงทำให้ไม่ค่อยได้เจอกัน เวลาทวิภาคกลับบ้านเธอก็ไปเรียนเวลาปิดเทอมของเขาก็ไปเรียนซัมเมอร์ที่อังกฤษส่วนเธอกับลักษิกาก็เจอกันทุกปิดเทอมหรือบางทีก็เสาร์อาทิตย์

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

บำเรอรักขัดดอก

read
2.8K
bc

Secret Love ซ่อนรักคุณหมอมาเฟีย

read
1.4K
bc

พลาดรักนายคาสโนว่า

read
23.2K
bc

ยั่วรัก หม้ายสาวสายแซ่บ

read
22.6K
bc

เมียแต่งที่คุณไม่เคยต้องการ

read
20.8K
bc

พี่สามีอย่ารังแกข้า

read
5.5K
bc

แอบเสียวจนได้ผัว (NC20+)

read
60.2K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook