ช่วงปิดเทอม
มุกดาใช้เวลาในการลดน้ำหนักไปทั้งหมดในช่วงปิดเทอม ซึ่งเกือบรางหนึ่งเดือนได้
เธอเปลี่ยนการรับประทานอาหาร ทั้งเลิกทานของหวาน ของทอด ของที่มีไขมันมาก ซึ่งล้วนแต่เป็นของที่เธอเคยชอบมากเกือบทุกอย่าง เธอเปลี่ยนมาทานอาหารสุขภาพสำหรับคนลดน้ำหนักอย่างจริงจัง และหันมาวิ่งออกกำลังกายและเข้าฟิตเนสอย่างจริงจัง
“โคตรเหนื่อยเลย” มุกดาบ่นให้ฝ้ายป่านฟังเมื่อเธอแวะมาหาที่ฟิตเนส
“สู้ ๆ นะแก”
“อือ ขอบใจมากนะแก”
“แกผอมลงเยอะมากมุกดา อีกไม่นานสิ่งที่แกหวังไว้ต้องสำเร็จแน่ ๆ”
“ขอให้เป็นอย่างนั้นนะ”
สองสาวเพื่อนซี้ยิ้มให้กัน โดยที่มุกดามีกำลังใจเต็มเปี่ยม แถมแรงฮึกเหิมก็ไม่มีตก
วันเปิดเทอม
มุกดานั่งมองอาทิตย์ขณะกำลังเล่นบาสเกตบอลกับเพื่อน ๆ ของเขาอย่างไม่วางตา นี่เป็นวันแรกตั้งแต่ปิดเทอมที่เธอได้มาเจอเขาด้วยภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
เธอมองเขาอย่างชื่นชม ทุกส่วนบนร่างกายดูดีไปหมด ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้ม ดวงตา ใบหน้าได้รูป จมูกโด่งเป็นสัน ผิวขาว และส่วนสูงร้อยแปดสิบเซนติเมตร ภายในใจก็คิดว่าผ่านไปไม่ถึงเดือนเอง ไม่ใช่แค่เธอที่เปลี่ยนไป แต่เขาเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
อาทิตย์ดูหล่อเหลาขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนในความคิดของเธอ หรืออาจเพราะเขาถอดเหล็กดัดฟันก็เป็นได้ จึงทำให้เขาดูหล่อและมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิม
“หวัดดีครับ” เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยทักมุกดาขึ้น เธอจึงละความสนใจจากอาทิตย์ แล้วหันไปมองต้นเสียง
“ค่ะ คะ?”
เมื่อหันมามองต้นเสียงก็เห็นว่าเป็นรุ่นพี่หนุ่มที่เธอเคยทำลูกบาสเกตบอลอัดหน้าไปเมื่อเทอมก่อน
“น้องมุกดาใช่ไหมครับ?” รุ่นพี่ยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร แต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกหวั่นในใจอย่างบอกไม่ถูก
“เอ่อ ใช่ค่ะ” มุกดาตอบตะกุกตะกัก ประหม่าไม่น้อย ความรู้สึกผิดยังไม่จางไปจากใจ
“โห ไม่เจอกันไม่กี่เดือน สวยขึ้นนะครับ”
ยิ่งรุ่นพี่เอ่ยชมยิ่งทำให้เธอรู้สึกกังวลใจเพิ่มมากขึ้น ไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิดที่ได้รับคำชื่นชมนี้
“อ้อ ขอบคุณค่ะ” มุกดายิ้มแหยให้รุ่นพี่อย่างทำตัวไม่ถูก เพราะเธอไม่รู้ว่ารุ่นพี่ต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ถึงได้เข้ามาทักทายเธอเช่นนี้
“จำพี่ได้ไหม?”
“ค่ะ พี่ที่หนูทำลูกบาสอัดใส่หน้า” มุกดาพูดออกไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“ฮ่า ๆๆ ใช่แล้วล่ะ” รุ่นพี่หลุดขำออกมาอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าไม่เหลือความขุ่นเคืองใด ๆ นั่นเลยทำให้มุกดายิ่งแปลกใจ “พี่ชื่อหมอกนะครับ”
“อ้อค่ะ” มุกดาพยักหน้ารับให้หมอก อันที่จริงเธอรู้อยู่แล้วว่าเขาชื่อว่าอะไร
“พี่ขอโทษเรื่องวันนั้นจริง ๆ นะ พี่โมโหไปหน่อย เลยเผลอพูดอะไรแรง ๆ กับมุกดาไป มุกดายังโกรธพี่อยู่หรือเปล่า?”
“ไม่โกรธค่ะ หนูไม่เคยโกรธพวกพี่เลย”
ได้ยินดังนั้นหมอกก็คลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่มุกดานั้นไม่โกรธเขา
“แล้วพี่ยังโกรธหนูเรื่องวันนั้นอยู่หรือเปล่าคะ?”
“พี่ไม่โกรธมุกดาหรอกครับ”
“ขอบคุณมาก ๆ นะคะ” มุกดายกมือขึ้นไหว้ขอบคุณหมอก ขอบคุณเขาที่ไม่โกรธและเอาเรื่องเธอ
“ไม่เป็นไร ๆ แต่ว่าพี่ขอเบอร์เราได้ไหมอ่ะ?”
“คะ?” เธอทำหน้างุนงง ไม่คิดว่าหมอกจะขอเบอร์โทรศัพท์มือถือของเธอ
“พี่ขอจีบมุกดาได้ไหม?”
คำพูดตรง ๆ ของหมอกยิ่งทำให้มุกดาอึ้งหนักเข้าไปอีก เธอทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดีกับสถานการณ์แบบนี้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกผู้ชายขอเบอร์โทรศัพท์มือถือแถมยังขอจีบอีก
“ว่าไงครับ?” หมอกถามซ้ำเมื่อเห็นท่าทางกระอักกระอ่วนใจของมุกดา
“…หนูมีคนที่ชอบอยู่แล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ” มุกดาตัดสินใจพูดออกไปตรง ๆ ไม่อยากให้ความหวังใคร เพราะถึงยังไงเธอก็ไม่สนใจเขาอยู่ดี
“อ้อ ไม่เป็นไรครับ” สีหน้าของหมอกสลดลงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะฝืนยิ้มบาง ๆ มาให้มุกดา
มุกดาจึงส่งยิ้มบาง ๆ ให้หมอกกลับคืนไป แล้วโค้งศีรษะให้เขาเล็กน้อย ก่อนจะเดินหลบออกมา ตรงไปหาฝ้ายป่านที่กำลังเดินมาทางเธอพอดี
“แกจะกลับตอนไหนเนี่ยมุกดา?” ฝ้ายป่านถามขึ้นเมื่อเดินมาถึงตัวมุกดา
มุกดาไม่ได้ตอบฝ้ายป่านในทันที แต่หันหน้ากลับไปมองที่สนามบาสเกตบอลที่ในตอนนี้ไม่มีชายหนุ่มที่เธอยืนมองเขาเล่นบาสเกตบอลก่อนหน้านี้แล้ว
“กลับเลยก็ได้”
“ป้ะ”
หลังจากที่มุกดาดูสวยขึ้น ทำให้ตอนนี้เธอกลายเป็นสาวฮอตที่มีหนุ่ม ๆ เข้ามาขายขนมจีบเป็นจำนวนมาก แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับไม่ได้สนใจผู้ชายพวกนั้นเลยสักนิด เว้นเสียแต่ผู้ชายที่ทำให้เธอกล้าเปลี่ยนแปลงตนเองจนมาถึงขั้นนี้ เธอยังคงแอบมองเขาอยู่ทุกวัน มีในบางครั้งที่เขายิ้มให้เธอบ้างในตอนที่เดินผ่านกัน แต่เธอก็ยังไม่มีความกล้ามากพอที่จะเข้าไปทักทายหรือพูดคุยกับเขา จนทำให้ฝ้ายป่านนั้นรู้สึกหงุดหงิดใจให้เพื่อนตนเองที่ขี้ขลาดตาขาวไม่น้อย
“ทำไมแกไม่ไปสารภาพรักกับเขาสักทีวะ”
“มันยังไม่ถึงเวลา”
“ยังไม่ถึงเวลาอะไร แกสวยขึ้นขนาดนี้แล้วนะเว้ย มุกดา สวยกว่าผู้หญิงที่เขาเคยควงตั้งหลายต่อหลายคนด้วยซ้ำ แกจะกลัวอะไร”
“ฉันไม่ได้กลัว”
“แล้วเมื่อไรล่ะ?”
“ฉันจะสารภาพรักกับเขาวันวาเลนไทน์”
“หา ทำไมต้องวาเลนไทน์ด้วยวะ?”
“ก็วันนั้นมันโแมนติกไง”
“เอิ่ม…” ฝ้ายป่านพูดไม่ออกกับความคิดของเพื่อนตัวเอง จึงต้องยอมรับในสิ่งที่เพื่อนสนิทคิดเอาไว้อย่างทำอะไรไม่ได้
“ระวัง!”
กึก!
“โอ๊ยยยย!”
ขณะที่มุกดากำลังเดินกลับบ้านและกำลังตั้งหน้าตั้งตาดูดน้ำมะม่วงปั่นแสนอร่อยที่เพิ่งซื้อมาจากในตลาดสดเมื่อครู่นี้ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยเตือนขึ้น เธอจึงหันไปมองและพบว่ากำลังมีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับมาด้วยความเร็วสูง เธอจึงพยายามหมุนตัวเพื่อหลบหลีกเต็มแรงและแบบกะทันหัน นั่นเลยทำให้ข้อเท้าเกิดพลิกแพลง จนล้มฟุบลงไปนั่งกองกับพื้นถนน
อาทิตย์รีบวิ่งตรงเข้าไปหาร่างบางที่แทบจะนอนแนบไปกับพื้นถนนทันที ในใจก็รู้สึกโล่งอกพลางคิดว่าถ้าหากเขาเตือนเธอไม่ทัน มีหวังจุดจบของเธอคงได้ไปนอนที่โรงพยาบาลแน่ ๆ
“เป็นไงบ้าง?” อาทิตย์เอ่ยถามมุกดาอย่างเป็นห่วง
“จะ..เจ็บข้อเท้าค่ะ”
มุกดากุมที่ข้อเท้าของตัวเองด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายที่วิ่งเข้ามาหาเธอ และผู้ชายตรงหน้าก็ทำให้เธอแทบหยุดหายใจไปชั่วขณะ เธอไม่คิดว่าอาทิตย์จะเป็นคนช่วยเธอเอาไว้
อาทิตย์จับที่ข้อเท้าของมุกดาเพื่อเช็กดูว่าเป็นอย่างไรมากหรือเปล่า โดยไม่รู้ตัวว่าเธอกำลังมองจ้องหน้าเขาแบบตาไม่กะพริบ
“น่าจะข้อเท้าแพงนะ”
“อะ..อ้อค่ะ”
“ลุกไหวไหมเดี๋ยวพาไปนั่งพัก”
“วะ..ไหวค่ะ โอ๊ยยยย!” มุกดาพยายามจะฝืนลุกขึ้นยืน แต่ความเจ็บก็พลันแล่นเข้ามาตรงบริเวณข้อเท้า จึงทำให้เธอล้มพับลงไปอีกครั้ง
“ดูแล้วไม่น่าไหวนะ” อาทิตย์มองหญิงสาวตรงหน้าที่พยายามดื้อดึงจะลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองเสียให้ได้
“วะ..ไหวค่ะ” มุกดายังคงพยายามฝืนยืนทรงตัวให้ได้ เพราะเธอไม่อยากเป็นภาระหรือรบกวนอาทิตย์มากเกินไป
“มาขี่หลังฉัน” พูดบอกก่อนจะนั่งคุกเข่าหันหลังให้เธอขึ้นขี่หลังเขาอย่างเต็มใจ
“มะ..ไม่เป็นไรค่ะ”
“ขึ้นมาเถอะ”
“แต่ว่า...”
“ถ้าเธอไม่ยอมขึ้นมา ฉันปล่อยเธอทิ้งไว้ที่นี่คนเดียวนะ”
“ค่ะ ๆ”
เมื่อโดนเขาขู่แบบนั้นเธอก็ไม่กล้าขัด รีบขึ้นขี่หลังของเขาอย่างว่าง่าย
ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!
เมื่อได้ขี่หลังผู้ชายที่ตนเองแอบชอบ หัวใจของมุกดาก็เต้นระรัวสั่นไหวอย่างรุนแรงด้วยความตื่นเต้น เธอไม่เคยได้ใกล้ชิดกับเขาแบบนี้มาก่อน และไม่คิดว่าครั้งหนึ่งเธอจะโชคดีมีโอกาสได้ขี่หลังอันแข็งแกร่งของเขาอย่างนี้
นี่ฉันได้ขี่หลังของคนที่ตัวเองแอบชอบจริง ๆ เหรอเนี่ย อร๊ายยยยยย!...มุกดากรีดร้องในใจ