บทที่ 6 (1/2) : ขอเลือกใหม่อีกครั้ง (1)

1400 Words
“โอ้ย...ถึงสักที” เหรินเหยียนชิงเอ่ยออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเขาแบกสหายตัวโตกลับมาถึงเรือนพักของพวกเขาได้สำเร็จ จินเฟยหลงไม่รู้ว่าด้วยเพราะฤทธิ์สุราที่เขากินเข้าไปหรือด้วยเพราะอะไร ยามนี้เขาถึงได้อยากกอดคนตรงหน้าเหลือเกิน และก็อาจจะเพราะความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นในตอนนี้ มันทำให้เขาคิดไปถึงความรู้สึกในคืนนั้น...คืนที่เขาพยายามจะลืม แต่ทำอย่างไรเขาก็ไม่สามารถลืมมันได้สักที ถึงแม้ว่าในยามนั้นจินเฟยหลงจะทำมันลงไปเพราะไม่สามารถคุมสติของตัวเองเอาไว้ได้ก็ตาม และหากในคืนนั้นเขาจะเรียกมันว่าความผิดพลาด เขาก็คงจะพลาด...ที่เลือกทำตามใจของตัวเอง แล้วก็เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้น มันได้ทำให้เขารู้ว่าที่จริงแล้วเขารู้สึกกับคนตรงหน้าเช่นไร ตั้งแต่จำความได้คนที่จินเฟยหลงเคยกอดมีเพียงแค่สองคนเท่านั้น นั่นก็คือท่านแม่ใหญ่และพี่ใหญ่ของเขา นอกเหนือจากนั้นเขาไม่เคยคิดอยากจะกอดหรือไม่เคยคิดอยากจะสัมผัส แม้แต่กับสตรีที่เข้ามาวนเวียนอยู่ในชีวิตเขาตอนนี้ก็ตาม และในยามนี้จินเฟยหลงได้รู้แล้วว่ากลิ่นที่เขาชื่นชอบก็คือกลิ่นกระดาษและกลิ่นน้ำหมึกที่มักจะติดมากับตัวของเหรินเหยียนชิง หาใช่กลิ่นน้ำอบหรือกลิ่นถุงหอมจากสตรีนางไหน และก็ด้วยเพราะความที่เขารู้ตัวแล้ว จินเฟยหลงจึงคิดว่า เขาควรต้องหยุด...หยุดความรู้สึกของตนเองเอาไว้ ก่อนที่มันจะหยุดไม่ได้ แต่ว่าในคืนนี้... ‘ข้าขอโทษนะเหยียนชิง ข้าขอทำตามใจของตัวเองอีกสักครั้ง แล้วหลังจากนี้ข้าจะขอหยุดทุกอย่างด้วยตัวของข้าเอง’ จินเฟยหลงเอ่ยขอโทษและบอกกับตัวเองในใจ แม้ยามนี้เขาจะรู้ว่าสิ่งที่เขากำลังจะทำ มันเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แต่หลังจากนี้เขาก็คงไม่มีโอกาสได้ทำตามใจของตัวเองอีกแล้ว เหรินเหยียนชิงเมื่อแบกจินเฟยหลงเดินเข้าไปในห้องนอนของเจ้าตัวได้ เขาก็พยายามประคองอีกฝ่ายให้ลงไปนอนบนเตียง แต่แล้วเขากลับถูกแขนของคนเมาที่เขานำมาคล้องคอเขาเอาไว้ ดึงรั้งจนตัวเขาตกลงไปนอนทับอยู่บนตัวของคนเมา “เฮ้ย!” เหรินเหยียนชิงอุทานขึ้นพร้อมกับพยายามเอาตัวเองลุกออกมาจากตัวของจินเฟยหลง แต่เขาก็ต้องตกใจซ้ำ เมื่อคนเมาใช้แขนข้างหนึ่งมาโอบกอดรอบเอวเขาเอาไว้จนแน่น จากนั้นเจ้าตัวก็ใช้แขนข้างที่คล้องคอเขาอยู่กดรั้งศีรษะเขาลงไป จนยามนี้ใบหน้าของเขาขยับเข้าไปใกล้...จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของคนตรงหน้า “เฟยหลง! หยุด! ปล่อยข้า...นี้เจ้ากำลังจะ...อือ” “ข้าอยากกอดเจ้า ข้าอยากจุมพิตเจ้า ข้าอยากอยู่กับเจ้า...แค่กับเจ้าเท่านั้น!” พูดจบ จินเฟยหลงก็กดรั้งใบหน้าของอีกฝ่ายลงมาจนริมฝีปากของคนตรงหน้าแนบชิดกับริมฝีปากของเขา จากนั้นเขาจึงเริ่มขยับริมฝีปากของตนเองเข้าไปบดขยี้ริมฝีปากบางของเหรินเหยียนชิงทันที แล้วหลังจากนั้นจินเฟยหลงก็พลิกขึ้นไปคร่อมอยู่บนตัวของอีกฝ่ายโดยไม่ยอมให้ริมฝีปากของพวกเขาได้หลุดออกจากกัน และก็ด้วยเพราะเขาไม่เคยทำแบบนี้กับผู้ใดมาก่อน นอกจากในครั้งนั้นกับคนตรงหน้า เขาจึงไม่รู้ว่าการจุมพิตกันแบบแท้จริงนั้นมันต้องทำกันอย่างไร ยามนี้เขาจึงได้แต่ปล่อยให้ความรู้สึกนำพาร่างกายของเขาไปเท่านั้น “ปล่อยข้า...เฟยหลง! ข้าเหยียนชิงสหายของเจ้า! เจ้าได้ยินหรือไม่! ปล่อยข้า...ข้าไม่ใช่ อือ...” เหรินเหยียนชิงที่ดิ้นจนริมฝีปากหลุดออกมาได้ เขาจึงพยายามเรียกสติและดันคนตรงหน้าออกจากตัวเขา แต่เขาก็หลุดออกมาได้เพียงครู่เดียว จากนั้นอีกฝ่ายจะก้มลงมาจุมพิตที่ริมฝีปากของเขาอีกครั้ง แล้วในครั้งนี้เขาก็รู้สึกว่าคนตัวโตตรงหน้าจะจุมพิตเขา และกอดรัดตัวเขาแนบชิดขึ้นกว่าเดิมด้วย จินเฟยหลงปล่อยให้คนในอ้อมแขนได้พักหายใจ ก่อนที่เขาจะก้มลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากบางอีกครั้ง จนผ่านไปได้สักพักเขาก็รู้สึกว่าเหรินเหยียนชิงหยุดดิ้นรน และร่างกายของอีกฝ่ายก็เริ่มสั่นเทาขึ้นมา เขาจึงหยุดการกระทำทุกอย่างและคลายอ้อมแขนของตัวเองออก จากนั้นเขาจึงก้มลงมองคนตรงหน้า แล้วเมื่อจินเฟยหลงมองเข้าไปในดวงตากลมโตของเหรินเหยียนชิง เขาก็ได้เห็นว่ายามนี้แววตาของอีกฝ่ายเริ่มสั่นไหว ดูท่าคนตรงหน้าคงเริ่มสับสนไปกับการกระทำของเขาแล้ว จินเฟยหลงที่รู้ว่าเขาไม่ควรทำให้เหรินเหยียนชิงรู้สึกสับสนกับการกระทำของเขาไปมากกว่านี้ เพราะหลังจากวันนี้เขาจะต้องกลับไปทำตามหน้าที่ของตัวเองแล้ว และเรื่องระหว่างเขากับอีกฝ่ายมันก็ไม่มีวันที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นในยามนี้ เขาต้องทำให้คนตรงหน้าคิดว่าเขาทำมันลงไปเพราะความเมา มันจึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด...สำหรับพวกเขาทั้งสองคน เมื่อคิดได้ดังนั้น จินเฟยหลงจึงก้มลงไปกอดคนตรงหน้าแบบแนบแน่นอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะตัดใจและปล่อยมือจากคนที่เขารักทันที ‘ข้าขอโทษนะเหยียนชิง...เจ้าอย่าได้สับสนและอย่าได้จำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนี้เลย ปล่อยให้มันเป็นความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในชีวิตของเจ้าก็พอ’ เมื่อเห็นคนเมาหยุดการกระทำทุกอย่าง เหรินเหยียนชิงจึงสามารถผลักอีกฝ่ายออกไปจากตัวเขาได้ “หลับ! เจ้าบ้าเฟยหลง เป็นแบบนี้อีกแล้วนะ” เหรินเหยียนชิงลุกขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วมองไปที่คนเมา ก่อนที่เขาจะยกมือของตัวเองขึ้นมาเช็ดที่ริมฝีปาก จากนั้นเขาจึงลุกออกมาจากเตียง แล้วคิดที่จะเดินออกไปจากห้องพักของจินเฟยหลง แต่เมื่อเขามองไปทางประตูห้อง เขาก็เห็นจิงเสี่ยวจางกำลังยืนเอามือปิดปากของตัวเองอยู่... “อาจาง! คือ...เมื่อครู่...” “ข้าไม่รู้ ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” จิงเสี่ยวจางที่คิดจะมาขอนอนค้างที่เรือนพักของสหายในคืนนี้ เพราะแฝดผู้พี่ของเขายังต้องการนั่งร่ำสุราอยู่กับสหายกลุ่มอื่น ๆ ต่อ แล้วเมื่อเขาเดินมาจนถึงหน้าเรือนพักของสหาย เขาก็ได้ยินเสียงร้องโวยวายของเหรินเหยียนชิงดังออกมาจากห้องพักของจินเฟยหลง เขาจึงรีบพุ่งตัวไปที่ห้องนั้นทันที ในตอนแรกเขาคิดจะเข้าไปช่วยเหรินเหยียนชิง แต่เมื่อเขาได้เห็นสายตา ท่าทาง และได้ยินคำพูดของคนทั้งคู่ มันจึงทำให้เขารู้สึกตกใจและรู้สึกไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองเพิ่งได้รับรู้ “เฮ้ย! เดี๋ยว!” เหรินเหยียนชิงที่คิดจะเรียกจิงเสี่ยวจางเอาไว้ แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะอีกฝ่ายได้ใช้วิชาตัวเบาพุ่งออกไปจากเรือนพักของพวกเขาแล้ว เหรินเหยียนชิงยืนนิ่งอยู่กับที่สักพัก จากนั้นเขาจึงเดินกลับออกไปยังห้องพักของตัวเอง ....................................................................... ผู้เขียนขอขอบคุณทุกยอดวิว ยอดกดหัวใจ ยอดกดติดตาม และทุกข้อความของผู้อ่านทุกท่านมาก ๆ นะคะ ทุกยอดคือกำลังใจที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆของผู้เขียนเลยค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD