ภายในรถยนต์คันหรู ที่มีที่นั่งกว้างใหญ่จนทำให้น่านฟ้ารู้สึกว่ามันกว้างเกินไปจนเกินที่ว่างตรงกลางค่อนข้างเยอะ เธอจึงเลือกที่จะเอากระเป๋าสะพายใบใหญ่วางไว้ตรงกลาง ระหว่างเธอกับเขา
"เออคุณ"
"มีอะไรอีก"
"เสื้อผ้าฉัน ยังไม่ได้เอามาจากบ้านเลย"
"ฉันให้คนเอามาให้แล้ว...ทุกอย่าง" น้ำป่าจงใจเน้นคำว่าทุกอย่างให้น่านฟ้าได้คิดตาม และนั่นมันทำให้เธอถึงกลับเบิกตากว้างทันที
'แย่แล้ว เสื้อใน กางเกงใน ผ้าอนามัย ซิลิโคน'
"เป็นอะไร" น้ำป่าถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเธอทำหน้าตาราวกับว่ามีเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หรือว่ามีเรื่องคอขาดบาดตายหรือไง
"คุณ.." น่านฟ้ามองที่ดวงตามีเสน่ห์อย่างล้ำลึก พลางเม้มปากแน่นด้วยความประหม่า ผู้ชายคนนี้กำลังทำเธอเสียอาการเมื่อได้อยู่ใกล้กัน
"เรียกฉันว่าคุณน้ำป่าไม่ได้สิ คนแต่งงานกันต้องมีคำเรียกแทนชื่อ...เรียกฉันว่าเฮียป่า แม่กับพ่อจะได้ไม่สงสัย"
"ฉันต้องรู้เรื่องอะไรอีกไหม นอกเหนือจากคุณเป็นเจ้าของผับและกาสิโน"
"ที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ได้ฟังไหม เรียกฉันว่าเฮียป่า"
"..." แต่ดูเหมือนน่านฟ้าจะไม่ได้รับรู้อะไรอีก เพราะตอนนี้เธอกับอับอายกับชุดชั้นในเชยๆ เสื้อผ้าเก่าๆที่ถูกเธอดัดแปลงจนเธอไม่ได้สนใจหรือฟังคนข้างกายเลยแม้แต่น้อย
"รอให้ถึงที่พักก่อนก็แล้วกัน" ดวงตาล้ำลึกปรากฏรอยยิ้ม ก่อนจะหันมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ไม่ใช่อะไรหรอกนะ เขารู้ว่าเธอกำลังนึกถึงเรื่องอะไร เขาเองก็ได้รับรูปภาพที่ลูกน้องส่งมาให้ดูทั้งก่อนเก็บเข้ากระเป๋าและหลังเก็บเข้ากระเป๋า เพื่อเป็นการยืนยันว่าพวกเขาได้เอามาหมดทั้งตู้แล้ว
มันจะมีสักกี่เรื่องกันเชี่ยวที่ผู้หญิงธรรมดาแบบเธอจะอาย
"..."
ทุกการกระทำของน้ำป่า มือขวาอย่างอเลสซิโอ และมือซ้ายอย่างยากุเห็นทุกอย่างทำให้ทั้งสองคนต่างมีใบหน้าที่เปื้อนยิ้มอย่างปิดไม่มิด
เพนท์เฮ้าส์
น่านฟ้าเดินกึ่งวิ่งสลับกันเร็วบ้างช้าบ้างเพื่อที่จะได้เดินให้ทันคนขายาวอย่างน้ำป่า จังหวะที่ถึงหน้าห้อง น้ำป่าหยุดยืนนิ่งจนทำให้คนร่างเล็กกว่าไม่ทันได้ระวังชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างอย่างเต็มแรง
อึก!
"ระวังหน่อยได้ไหม"
น้ำเสียงทุ้มปนดุ ใบหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาแต่ทว่าแขนที่กำยำเต็มไปด้วยหมัดกล้ามรีบโอบกอดร่างนุ่มนิ่มเพราะเกรงว่าจะหงายหลังไปเสียก่อน
ใบหน้าไร้เครื่องสำอางเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อด้วยความเขินอายจนต้องรีบผละตัวออกก่อนจะก้มศีรษะเล็กน้อยเพื่อเป็นการขอโทษ
"..."
"พูดไม่เป็นหรือไง" น้ำป่าผละออกจากร่างนุ่มนิ่ม แล้วพูดด้วยเสียงเรียบนิ่งเช่นเคย
"คะ?"
"ฉันเพิ่งช่วยเธอ ไม่ให้เธอล้ม"
"อ๋อ...มีทวงด้วยแหะ ขอบคุณค่ะ" ประโยคแรกน่านฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่กลับดังขึ้นในประโยคหลัง
"ไม่เป็นไร" น้ำป่ายกยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากกับการกระทำของน่านฟ้า เขาอดยิ้มไม่ได้เลยว่าวันพรุ่งนี้มันจะบรรเทิงแค่ไหนกัน
วันนี้น่านฟ้าดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษด้านในเพนท์เฮาส์ถูกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ราคาแพงหูฉี่ เธอเป็นดีไซเนอร์ย่อมรู้อยู่แล้วของแต่ละชิ้นในเพนท์เฮาส์นี้มันมีมูลค่าแค่ไหน
"นี่! ห้องเธอ รหัสเข้าห้องเปลี่ยนได้เลย" น้ำป่าพาน่านฟ้ามาส่งที่หน้าห้อง ก่อนจะเดินลงบันไดกลับไปที่ห้องรับแขก
"นายยิ้มเหรอครับ" อเลสซิโอพูดหลังจากที่เห็นว่าน่านฟ้าเดินเข้าห้องไปแล้ว น้ำป่าหันมามองหน้ามือขวาคนสนิทที่อยู่กับเขามานานกว่าสิบปี
"นายรู้ไหมครับ ผมกับยากุดีใจแค่ไหนที่เห็นนายยิ้ม...ผมขอตัวก่อนนะครับ" อเลสซิโอพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขก่อนจะเดินออกจากห้องไป หลายปีมานี่เขาแทบจะนับจำนวนครั้งที่นายของเขายิ้มได้เลยนับแต่ตั้งคุณน้ำป่าเลิกกับคุณอันเซล
น้ำป่านั่งฟังอเลสซิโอพูด ทำให้เขานึกถึงสิ่งที่เขาผ่านพ้นมา "สองปี ผ่านมาแล้วสองปี"
ก๊อก ก๊อก
แกร๊ก!
"คะ?" น่านฟ้าเปิดประตูออกมาด้วยความสงสัย
"อาบน้ำแต่งตัวเสร็จออกมาคุยกันหน่อย" น้ำป่าพูดจบเขาก็เดินตรงไปที่บันไดทันที โดยที่ไม่ได้หยุดรอคำตอบ
"ค่าา"
ภายบริเวณห้องรับแขกชั้นล่างของเพนท์เฮ้าส์ น้ำป่านั่งไขว้ห้างรอน่านฟ้า บนโต๊ะมีสมุดโน๊ตวางเอาไว้อยู่ตรงหน้าน้ำป่าหนึ่งเล่ม
"นั่งสิ"
"คุณน้ำป่ามีอะไรเหรอคะ"
"เรียกใหม่ จำไม่ได้เหรอที่ฉันบอกเมื่อตอนที่นั่งอยู่ในรถ" สายตาจับจ้องคนตรงหน้าอย่างสงสัย 'นี่คงไม่ได้ฟังที่เราพูดแน่ๆ' เมื่อเห็นว่าน่านฟ้ายังคงทำหน้างงเขาจึงเฉลย จะได้รีบคุยธุระให้เสร็จ
"เรียกฉันว่าเฮียป่า แล้วก็นี่เป็นสมุดโน๊ต เปิดอ่านให้หมดอย่าให้ตกหล่นแม้แต่ตัวเดียว"
น่านฟ้าพยักหน้าอย่างเข้าใจพลางยื่นมือไปรับสมุดโน๊ตขนาดพอดีแล้วเปิดออกอ่านทันที สายตาสดใสที่จ้องเพ่งเล็งตัวหนังสือถึงกลับอ้าปากค้างเล็กน้อย เพราะมันคือนิสัยส่วนตัวของน้ำป่า หน้าที่การงาน ตำแหน่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้รวมไปถึง พี่ชายของน้ำป่าเป็นผู้น้ำของกลุ่มมาเฟียที่อิตาลี
"นี่แค่อ่านผ่านๆนะเนี่ย ทำไมคุณน้ำป่า เอ้ย!เฮียป่าดูไม่ค่อยน่ากลัวเหมือนที่เขาพูดกันว่า พวกมาเฟียน่ากลัว...ตรงกันข้าม ฉันเฮียป่าดูอารมณ์ดีตลอดเวลาถึงแม้จะดูขี้เก็กไปบ้างก็เหอะ"
"พูดจบหรือยัง ฉันจะได้พูดบ้างแล้วก็ ให้เธอแทนตัวเองว่า น่านฟ้า"
"ค่ะ ได้ค่ะ"
"ส่วนพรุ่งนี้เธอต้องไปจดทะเบียนกับฉันแต่เช้า แล้วก็จดทุกอย่างเหมือนที่ฉันจดให้เธอใส่สมุดเอามาให้ฉันภายในพรุ่งนี้ไม่เกินสองทุ่ม เพราะเป็นเวลาที่ฉันจะกลับมาพักผ่อน"
"ค่ะ แต่ขอเป็นวันมะรืนได้ไหมคะ พรุ่งนี้น่านฟ้าต้องทำงาน" น่านฟ้ารู้สึกว่าทุกอย่างมันดูฉุกละหุก ไหนจะงานเธออีกคงต้องลาครึ่งวันแล้วล่ะ
น้ำป่ารู้สึกดีเมื่อคนตรงหน้าแทนตัวเองด้วยชื่อ น้ำป่ายกยิ้มมุมปากพลางใช้นิ้วยาวเคาะลงที่โซฟาหนังอย่างใช้ความคิดก่อนจะตอบออกไป
"ได้ ยังพอมีเวลา อาทิตย์หน้าเธอต้องบินไปกลับฉัน..ไม่ต้องถาม แค่ทำตามที่บอกเข้าใจไหม" น้ำป่ารีบพูดตัดบทเพื่อไม่ให้น่านฟ้าได้เอ่ยปากถามอะไรอีก เพราะเขาขี้เกียจจะตอบ
"เห้อ ค่า ค่า เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ" น่านฟ้าได้นึกในใจ คนอะไรรู้ทันเธอไปหมด
น้ำป่ามองน่านฟ้าอย่างสงสัย ไม่รู้ว่าสรรหาคำพูดคำจามาจากไหน แล้วดูหน้าสิน่ะ ทำหน้าอะไรแบบนั้นขี้เหร่เสียจริง แต่ในขณะที่เขาบอกว่าเธอขี้เหร่ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มบางๆ
"จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ ห้องของฉันอยู่ชั้นลอยห้องกระจกเธอมีอะไรก็เคาะเรียก ไม่สิห้องกันเสียง เธอควรโทรหาฉันเบอร์ฉันเธอก็มีอยู่แล้วนี่นา"
"ค่ะ"
ภายในห้องนอนที่มีเอาไว้สำหรับแขกแต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นลีโอ พี่ชายฝาแฝดที่มักจะมานอนตอนที่มาไทยเท่านั้น น้ำป่าสั่งให้ทำห้องใหม่ตกแต่งตามสไตล์ของผู้หญิงทั่วไป และน่านฟ้าก็รู้สึกชอบห้องนี้เป็นมากๆ เพราะบ้านเก่าของเธอเป็นบ้านธรรมดาไม่ได้ตกแต่งหรูหราอะไร
"ไหนอ่านสิ พ่อคนหน้านิ่ง"
น่านฟ้าตั้งฉายานามให้กับน้ำป่า พร้อมกับเปิดสมุดบันทึกที่น้ำป่าเอาให้เธอ เพื่อเรียนรู้นิสัยใจคอ ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
"ไม่กินเผ็ด ชอบกินผักซี พูดหวานไม่เป็น คบกันมาได้หนึ่งปี...แล้วนี่อะไร"
"...ไม่เชื่อในเรื่องของความรักจนกระทั่งได้เจอกับคุณ" น่านฟ้าอ่านบรรทัดนี้จบเธอก็เห็นวงเล็บเอาไว้ว่า เผื่อแม่ของเขาถาม เขาจะตอบแบบนี้
"จริงสินะ เราแค่ทำตามสัญญาจะมาคิดมากอะไรกับอีแค่ประโยคนี้"
น่านฟ้าปิดหนังสือลง แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า "โอ้โห้..เสื้อผ้าเยอะมาก นี่เขาซื้อให้เราหมดเลยเหรอ"
มือเล็กจับบายเสื้อผ้าในตู้ ก่อนจะเหลือบไปเห็นกระเป๋าเดินทางของเธอที่วางแอบๆไว้ในตู้เสื้อผ้า ก่อนจะรื้อออกมา จับแขวนในตู้เสื้อผ้าให้เรียบร้อย
"อาบน้ำนอนดีกว่า พรุ่งนี้อีกยาวไกล" ก่อนที่เธอจะเข้าไปอาบน้ำเธอก็ได้ส่งข้อความไปหารสาเพื่อขอลางานในช่วงเช้า ถ้าเสร็จธุระเธอจะรีบเข้าไปทำงาน
ห้องรับแขก
น้ำป่าเปิดแท็บเล็ตเพื่อดูอีเมล์ต่างๆพร้อมตอบกลับไปยังผู้ที่ร่วมลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท ตอบกลับการร่วมงานประมูลต่างๆแล้วเปิดดูกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของผับ กาสิโนรวมไปถึงความเรียบร้อยของตัวตึก ที่เขาเป็นเจ้าของตึกกว่าสิบแห่ง กระจายอยู่หลายหลายประเทศที่เขาร่วมลงทุน เขาชอบการลงทุนอะไรที่ทำเงินได้ เขาก็อยากจะเสี่ยงทำถึงแม้บางครั้งจะมีคนพูดว่าอย่าทำเลย อย่าลงทุน ตึกนี้ซื้อไปก็ทำอะไรไม่ได้ และอีกหลายๆคำเตือนที่เขาจะได้รับจากนักลงทุนหัวโบราณ แต่คงไม่ใช่กับเขา
ร่างสูงกำยำลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินขึ้นไปห้องของตัวเอง แววตาคมเหลือบมองที่หน้าประตูห้อง ห้องที่เคยว่างแต่ตอนนี้...เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อนแล้ว สิ่งที่เขาต้องการคือ อยากให้ผ่านพ้นงานวันเกิดของแม่เขา และการที่เขากลับบ้านใหญ่ครั้งนี้กับภรรยาคงเป็นที่พูดออกไปเป็นวงกว้างอย่างแน่นอน
อันดับแรก เขาต้องเตือนตัวเองว่าห้ามนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวออกมาจากห้องอย่างเด็ดขาด