ปรายแนะนำตัวทันทีโดยที่ไม่รอให้น่านฟ้าแนะนำ พลางส่งสายตาอย่างไม่ปิดบังว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่เพราะแววตาของปรายมันสื่อความหมายได้เป็นอย่างดี
"ถ้าไม่มีอะไร ผมขอเอาตัวคุณน่านฟ้าไปทำธุระต่อให้เสร็จก่อนนะครับ คุณปราย" ทันที่พูดจบ สองมือใหญ่ก็ดึงแขนของน่านฟ้ากระทันหันทำให้เธอเสียหลักนิดหน่อย แต่นั้นมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้เธอต้องยืนต่ออยู่ตรงที่เดิม เท้าเล็กทั้งสองจึงก้าวยาวๆเพื่อให้เดินตามคนข้างหน้าได้ทัน
"เอ่อ! เดี๋ยวสิคะคุณน้ำป่า!"
"ได้ ครั้งนี้จะปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน เราได้เจอกันอีกแน่" ปรายได้แต่คิดว่า ครั้งหน้าเธอคงไม่ปล่อยให้เสียโอกาส ด้วยรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา บวกกับเสื้อผ้าที่น้ำป่าใส่ทั้งตัวก็ไม่รู้ว่ากี่หมื่นแล้ว ถ้าเธอได้น้ำป่ามาครอบครองเธอคงต้องสบายไปตลอดทั้งชาติอย่างแน่นอน
ตั้งแต่ที่ทั้งสองคนขึ้นรถ บรรยายกาศในตัวรถเงียบมาก ถึงมากที่สุดจนทำให้ได้ยินเสียงของเครื่องปรับอากาศบนรถที่แผ่วเบาจนได้ยินอย่างชัดเจน น่านฟ้ากับน้ำป่า ต่างคนต่างเงียบมีเพียงสองคนที่นั่งข้างหน้าต่างมองหน้ากันอย่างเข้าใจ นายของพวกเขาไม่เคยอารมณ์เสียได้ถึงขนาดนี้มาก่อน ขืนใครพูดหรือถามอะไรออกไปในตอนนี้มีหวังเละแน่ๆ เพราะฉะนั้นความเงียบคือสิ่งที่ดีที่สุด
และผ่านมาไม่เพียงกี่นาทีเป็นน่านฟ้าที่พูดขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบที่แสนอึดอัดนี้เสีย "ขอบคุณค่ะ แล้วก็ขอโทษค่ะ"
"...เธอคนที่พูดไปเรื่อย เถียงคำไม่ตกฟากไปไหนเสียล่ะ ปล่อยให้เพื่อนเธอพูดจาแบบนั้นใส่เธอได้ยังไง..เห็นแล้วหงุดหงิดเป็นบ้า" น้ำเสียงเข้มปนดุ บอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้น้ำป่ากำลังโกรธและหัวเสียแค่ไหน
"แล้วอีกอย่างอย่าคิดว่าฉันทำเพื่อเธอนะ สิ่งที่ทำไปฉันแค่ทำตามหลักสิทธิมนุษยชนก็เท่านั้น"
"..." ภายในใจของเธอในตอนนี้มันหลากหลายความรู้สึก จนทำให้เธอไม่สามารถพูดหรือบรรยายมันออกมาได้ ร่างบางได้แต่นั่งก้มหน้าบีบมือเข้ากันราวกับกักเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
"เดี๋ยวฉันจะเข้าผับต่อ ส่วนเธอเดี๋ยวให้ยากุขับรถไปส่ง"
"...ค่ะ"
"แล้วอย่าลืมสิ่งที่ฉันให้เธอทำ ฉันกลับมาต้องมีส่งให้ฉัน เข้าใจไหม"
"เข้าใจค่ะ เฮียป่า..."
น้ำป่าหันไปมองนอกตัวรถเพื่อพ่นลมหายใจออกมาเพื่อระบายความไม่ได้ดั่งใจ...และเขาไม่อยากให้เธอเห็น..ไม่รู้ว่าเป็นอะไรนัก กับเรื่องแค่นี้ทำให้เขาหงุดหงิดได้ถึงขนาดนี้
และเมื่อน้ำป่าลงจากรถเข้าผับไปแล้ว ยากุจึงเริ่มพูดขึ้นเพื่อให้น่านฟ้าไม่คิดมาก นายเขามักจะปากร้ายแบบนี้เวลาที่โมโหหรือหงุดหงิดกับสิ่งที่เข้าไปกวนใจ
"นายผมเห็นปากแบบนี้ แต่ก็ใจดีนะครับคุณน่านฟ้า"
"ค่ะ"
"เดี๋ยวพอสักพัก อารมณ์ก็จะเย็นเองครับ"
"ค่ะ"
ยากุเมื่อเห็นใบหน้าของน่านฟ้าผ่านกระจก เขาก็รู้ได้ถึงความรู้สึกที่น่านฟ้ามีอยู่ในขณะนี้ เขาจึงเลือกที่จะเงียบจนส่งเธอเข้าห้องพักเป็นที่เรียบร้อย
ภายในใจของน่านฟ้า เธอแค่ยอมรับกับสิ่งที่ปรายพูด ไม่มีผิดแม้แต่คำเดียว สิ่งที่เธอทำมันก็เหมือนพ่อเธอขายเธอให้กับน้ำป่า ผิดกันตรงที่เป็นที่เธอที่รับข้อเสนอนั้นเอง เพียงเพื่อไม่ต้องการให้บ้านหลังนั้นถูกขายทอดตลาด บ้านเป็นสิ่งที่เธอรัก ความทรงจำมากมายที่แม่และเธอมีร่วมกันล้วนอยู่ในบ้านหลังนั้น
'แต่เดี๋ยวนะแค่ทำตามหลักสิทธิมนุษยชนงั้นเหรอ เหอะ!' น่านฟ้าเมื่อมานั่งทบทวนคำพูดของน้ำป่า เธอก็ได้แต่แสดงสีหน้าออกมาพร้อมกับทำปากขมุบขมิบราวกับว่ากำลังคุยกับแม่ซื้อยังไงอย่างงั้น จนทำให้ยากุที่มองผ่านกระจกรถได้แต่นึกขำในใจ 'ช่างเหมาะกันเหลือเกิน'
ผับโซแอล
ผ่านมาหนึ่งชั่วโมง น้ำป่ายังคงนั่งเซ็นเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงาน วันนี้เพื่อนๆของเขาจะเข้ามาที่ผับพอดีเขาเลยตั้งใจจะเซ็นเอกสารให้หมดจะได้ไม่ค้างคา
"นายครับคุณคิมหันต์ คุณควินน์และคุณเบนรอที่ห้องประจำแล้วนะครับ"
"อืม"
ภายในห้องวีไอพี
เสียงพูดคุยกันตามประสาเพื่อนสนิทที่นานๆจะหาเวลารวมตัวกันครบ แต่ถึงยังไงก็ยังขาดไลออนพี่ชายฝาแฝดของน้ำป่าอยู่ดี เพราะตั้งแต่มีคู่หมั้น ไลออนก็เปลี่ยนไป
"นี่! แล้วพวกนายจะไปงานวันเกิดแม่น้ำป่ากันไหม แต่กูติดธุระว่ะ" คิมหันต์ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มหลังจากที่เปิดประโยคคำถาม
"กูไป แต่คงได้แค่เอาของขวัญไปให้ ต้องบินไปประชุมกับผู้ถือหุ้นน่ะ" ควินน์บอกพร้อมกับหันไปโอบร่างบาง เอวคอดอย่างอดกลั้น
"แล้วมึงล่ะไอ้เบน เงี่ยน..เอ้ยเงียบเชี่ยววันนี้" น้ำเสียงปนหัวเราะของคิมหันต์ เพราะตั้งแต่มีน้องๆสาวสวยเข้ามาในห้องก็เอาแต่ลูบคลำ เดี๋ยวจูบ เดี๋ยวล้วง
"ไอ้สัสคิม พูดจา...เดี๋ยวกูไปเปิดห้องแน่ รอไอ้ป่าเนี่ยยังไม่มาเสียที"
"นินทาดังนะ กูได้ยิน" เป็นจังหวะน้ำป่าผลักประตูเข้ามาในห้องวีไอพีพอดี
"ไงมึง พี่อเลสซิโอบอกพวกกูว่า มึงได้คนมาแต่งงานด้วยแล้ว สวยไหมว่ะ"
"งั้นๆ เหมือนเด็ก" สิ้นประโยคคำพูดของน้ำป่า เพื่อนๆก็พากันหันมามองหน้าน้ำป่าเป็นตาเดียวกัน เมื่อน้ำป่าเห็นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเพื่อนของเขาอยากจะถามอะไร
"ไม่ กูไม่ทำอะไรเด็กคนนั้นหรอก ไม่ใช่สเปคกูสักนิด"
"ให้มันจริงอย่ากลืนน้ำลายตัวเองนะมึง กูล้อยันลูกบวชแน่"
ผมได้ยินไอ้คิมหันต์พูด ก็ส่ายหัวให้มันเป็นเชิงบอกว่า ไม่มีวัน เด็กคนนั้นไม่ใช่สเปคเขา เตี้ยก็เตี้ย ผมสั้น ใส่แว่นแถมยังชอบแต่งตัวแปลกๆ นี่ผมยังแอบคิดเลยว่าแม่ผมจะเชื่อไหมว่า น่านฟ้าคือคนที่ผมรักและจดทะเบียนกันจริงๆ
ผมนั่งคุยกับเพื่อนๆ ต่ออีกหนึ่งชั่วโมงก็ขอตัวกลับ เพราะผมมีนัดกับน่านฟ้า ผมเป็นประเภทไม่ลืมอะไรง่ายๆ และที่สำคัญไม่เคยผิดนัดใครแม้แต่ครั้งเดียว
ภายในห้องของน่านฟ้า
สายตากลมโตยังคงจ้องมองแหวนเพชรที่มีราคาแพงจนเธอไม่กล้าใส่ กับอีกแค่แกล้งแต่งงาน จดทะเบียนทำไมต้องซื้อแหวนเพชรราคาแพงให้มันเปลืองเงินเสียเปล่าๆ แต่ก็นั่นแหละเธอได้แต่ทำตามที่เขาบอก มันน่าจะเป็นผลดีที่สุด
น่านฟ้ามองเวลาที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือพร้อมกับมองไปที่สมุดบันทึกที่เธอได้จดทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอ มันแค่ไม่กี่บรรทัด และหวังว่าเฮียป่าจะจำได้
ครืด ครืด เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือทำให้น่านฟ้ายื่นมือไปหยิบแล้วเปิดอ่าน
Line
เฮียป่า : ฉันรออยู่ที่ห้องรับแขก
น่านฟ้ากดปิดห้องแชท แล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบสมุดบันทึกที่เธอจดเอาไว้ ถือไว้ในมือแล้วเดินออกจากห้องเพื่อไปหาคนที่แชทมาหาเธอ
ภายในห้องรับแขก น้ำป่าได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปม สงสัยว่าทำไมคนอ่านทำไมถึงไม่ตอบตนเอง
"อ่านไม่ตอบ มันน่านัก!" พูดไม่ทันขาดคำ เสียงสดใสที่เขาได้ยินบ่อยๆในช่วงนี้ก็ดังขึ้น
"จะตอบทำไมล่ะคะ ไหนๆก็จะเดินมาหาแล้ว" ไม่พูดเปล่า น่านฟ้ายังยังทำหน้าทำตาล้อเลียน คิ้วเรียงเส้นทุกผูกเป็นปมแต่ทว่าคนที่นั่งรอที่โซฟาไม่อาจเห็นได้ เพราะแว่นตาอันใหญ่มันบังจนแทบจะไม่เห็นอะไรนอกจากแว่นตาเท่านั้นที่อยู่บนใบหน้าของเธอ
"ฉัน...เฮียนึกว่าน่านเผลอหลับ ก็แค่นั้น" น้ำป่าพูดพลางก้มมองสมุดบันทึกในมือเธอ
"ค่าๆ ทีหลังจะตอบให้ นี่ค่ะสมุดบันทึก"
มือใหญ่รับมาแล้วเปิดอ่านทันที แต่เพียงแค่เสี้ยวนาทีเท่านั้น สายตาคมก็เปลี่ยนจากอ่านสมุดบันทึกเป็นเงยหน้าเพื่อมองเจ้าของลายมือสวยด้วยใบหน้าที่สุดแสนจะเอือมระอา
"แค่นี้"
"ค่ะ"
น้ำป่าเมื่อได้รับคำตอบก็ก้มอ่านในสมุด ราวกับเพื่อเป็นการทบทวน
"ชอบกินทุกอย่าง แพ้ปู ไม่เคยเข้าร้านหรูๆเพราะมันแพง แล้วก็ไม่เคยกินแอลกอฮอล์"
"แค่นี้แหละค่ะ พิเศษหน่อยก็คือ แพ้ปู เฮียป่าช่วยจำด้วยก็แล้วกันค่ะ"
"นั่งสิ เฮียมีอะไรจะพูด"
ร่างบางย่อตัวลงนั่งบนโซฟาแต่โดยดีพร้อมมองไปที่ใบหน้าหล่อที่ทำเธอหัวใจเต้นแรงเป็นบางครั้ง
"เรื่องเมื่อเย็นเฮียขอโทษ เฮียไม่ควรพูดแบบนั้น"
"มันดีออก คำพูดของเฮียช่วยทำให้น่านคิดอะไรได้บ้าง บางครั้งเราก็ควรตอบโต้อะไรออกไปบ้าง ถ้าเรื่องนั้นไม่เป็นความจริง"
"ตอนนี้เราสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้ว ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับน่าน เฮียก็ต้องรู้ด้วยเช่นกัน
พูดจบน้ำป่าก็ลุกขึ้นยืน แล้วมองใบหน้ามีเห็นแต่แว่นก่อนจะเดินขึ้นกลับห้องของตัวเองพร้อมกับสมุดบันทึกของน่านฟ้า