ตอนที่ 7 แค่ทำตามหลักสิทธิมนุษยชน

1646 Words
ปรายแนะนำตัวทันทีโดยที่ไม่รอให้น่านฟ้าแนะนำ พลางส่งสายตาอย่างไม่ปิดบังว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่เพราะแววตาของปรายมันสื่อความหมายได้เป็นอย่างดี "ถ้าไม่มีอะไร ผมขอเอาตัวคุณน่านฟ้าไปทำธุระต่อให้เสร็จก่อนนะครับ คุณปราย" ทันที่พูดจบ สองมือใหญ่ก็ดึงแขนของน่านฟ้ากระทันหันทำให้เธอเสียหลักนิดหน่อย แต่นั้นมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้เธอต้องยืนต่ออยู่ตรงที่เดิม เท้าเล็กทั้งสองจึงก้าวยาวๆเพื่อให้เดินตามคนข้างหน้าได้ทัน "เอ่อ! เดี๋ยวสิคะคุณน้ำป่า!" "ได้ ครั้งนี้จะปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน เราได้เจอกันอีกแน่" ปรายได้แต่คิดว่า ครั้งหน้าเธอคงไม่ปล่อยให้เสียโอกาส ด้วยรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา บวกกับเสื้อผ้าที่น้ำป่าใส่ทั้งตัวก็ไม่รู้ว่ากี่หมื่นแล้ว ถ้าเธอได้น้ำป่ามาครอบครองเธอคงต้องสบายไปตลอดทั้งชาติอย่างแน่นอน ตั้งแต่ที่ทั้งสองคนขึ้นรถ บรรยายกาศในตัวรถเงียบมาก ถึงมากที่สุดจนทำให้ได้ยินเสียงของเครื่องปรับอากาศบนรถที่แผ่วเบาจนได้ยินอย่างชัดเจน น่านฟ้ากับน้ำป่า ต่างคนต่างเงียบมีเพียงสองคนที่นั่งข้างหน้าต่างมองหน้ากันอย่างเข้าใจ นายของพวกเขาไม่เคยอารมณ์เสียได้ถึงขนาดนี้มาก่อน ขืนใครพูดหรือถามอะไรออกไปในตอนนี้มีหวังเละแน่ๆ เพราะฉะนั้นความเงียบคือสิ่งที่ดีที่สุด และผ่านมาไม่เพียงกี่นาทีเป็นน่านฟ้าที่พูดขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบที่แสนอึดอัดนี้เสีย "ขอบคุณค่ะ แล้วก็ขอโทษค่ะ" "...เธอคนที่พูดไปเรื่อย เถียงคำไม่ตกฟากไปไหนเสียล่ะ ปล่อยให้เพื่อนเธอพูดจาแบบนั้นใส่เธอได้ยังไง..เห็นแล้วหงุดหงิดเป็นบ้า" น้ำเสียงเข้มปนดุ บอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้น้ำป่ากำลังโกรธและหัวเสียแค่ไหน "แล้วอีกอย่างอย่าคิดว่าฉันทำเพื่อเธอนะ สิ่งที่ทำไปฉันแค่ทำตามหลักสิทธิมนุษยชนก็เท่านั้น" "..." ภายในใจของเธอในตอนนี้มันหลากหลายความรู้สึก จนทำให้เธอไม่สามารถพูดหรือบรรยายมันออกมาได้ ร่างบางได้แต่นั่งก้มหน้าบีบมือเข้ากันราวกับกักเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว "เดี๋ยวฉันจะเข้าผับต่อ ส่วนเธอเดี๋ยวให้ยากุขับรถไปส่ง" "...ค่ะ" "แล้วอย่าลืมสิ่งที่ฉันให้เธอทำ ฉันกลับมาต้องมีส่งให้ฉัน เข้าใจไหม" "เข้าใจค่ะ เฮียป่า..." น้ำป่าหันไปมองนอกตัวรถเพื่อพ่นลมหายใจออกมาเพื่อระบายความไม่ได้ดั่งใจ...และเขาไม่อยากให้เธอเห็น..ไม่รู้ว่าเป็นอะไรนัก กับเรื่องแค่นี้ทำให้เขาหงุดหงิดได้ถึงขนาดนี้ และเมื่อน้ำป่าลงจากรถเข้าผับไปแล้ว ยากุจึงเริ่มพูดขึ้นเพื่อให้น่านฟ้าไม่คิดมาก นายเขามักจะปากร้ายแบบนี้เวลาที่โมโหหรือหงุดหงิดกับสิ่งที่เข้าไปกวนใจ "นายผมเห็นปากแบบนี้ แต่ก็ใจดีนะครับคุณน่านฟ้า" "ค่ะ" "เดี๋ยวพอสักพัก อารมณ์ก็จะเย็นเองครับ" "ค่ะ" ยากุเมื่อเห็นใบหน้าของน่านฟ้าผ่านกระจก เขาก็รู้ได้ถึงความรู้สึกที่น่านฟ้ามีอยู่ในขณะนี้ เขาจึงเลือกที่จะเงียบจนส่งเธอเข้าห้องพักเป็นที่เรียบร้อย ภายในใจของน่านฟ้า เธอแค่ยอมรับกับสิ่งที่ปรายพูด ไม่มีผิดแม้แต่คำเดียว สิ่งที่เธอทำมันก็เหมือนพ่อเธอขายเธอให้กับน้ำป่า ผิดกันตรงที่เป็นที่เธอที่รับข้อเสนอนั้นเอง เพียงเพื่อไม่ต้องการให้บ้านหลังนั้นถูกขายทอดตลาด บ้านเป็นสิ่งที่เธอรัก ความทรงจำมากมายที่แม่และเธอมีร่วมกันล้วนอยู่ในบ้านหลังนั้น 'แต่เดี๋ยวนะแค่ทำตามหลักสิทธิมนุษยชนงั้นเหรอ เหอะ!' น่านฟ้าเมื่อมานั่งทบทวนคำพูดของน้ำป่า เธอก็ได้แต่แสดงสีหน้าออกมาพร้อมกับทำปากขมุบขมิบราวกับว่ากำลังคุยกับแม่ซื้อยังไงอย่างงั้น จนทำให้ยากุที่มองผ่านกระจกรถได้แต่นึกขำในใจ 'ช่างเหมาะกันเหลือเกิน' ผับโซแอล ผ่านมาหนึ่งชั่วโมง น้ำป่ายังคงนั่งเซ็นเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงาน วันนี้เพื่อนๆของเขาจะเข้ามาที่ผับพอดีเขาเลยตั้งใจจะเซ็นเอกสารให้หมดจะได้ไม่ค้างคา "นายครับคุณคิมหันต์ คุณควินน์และคุณเบนรอที่ห้องประจำแล้วนะครับ" "อืม" ภายในห้องวีไอพี เสียงพูดคุยกันตามประสาเพื่อนสนิทที่นานๆจะหาเวลารวมตัวกันครบ แต่ถึงยังไงก็ยังขาดไลออนพี่ชายฝาแฝดของน้ำป่าอยู่ดี เพราะตั้งแต่มีคู่หมั้น ไลออนก็เปลี่ยนไป "นี่! แล้วพวกนายจะไปงานวันเกิดแม่น้ำป่ากันไหม แต่กูติดธุระว่ะ" คิมหันต์ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มหลังจากที่เปิดประโยคคำถาม "กูไป แต่คงได้แค่เอาของขวัญไปให้ ต้องบินไปประชุมกับผู้ถือหุ้นน่ะ" ควินน์บอกพร้อมกับหันไปโอบร่างบาง เอวคอดอย่างอดกลั้น "แล้วมึงล่ะไอ้เบน เงี่ยน..เอ้ยเงียบเชี่ยววันนี้" น้ำเสียงปนหัวเราะของคิมหันต์ เพราะตั้งแต่มีน้องๆสาวสวยเข้ามาในห้องก็เอาแต่ลูบคลำ เดี๋ยวจูบ เดี๋ยวล้วง "ไอ้สัสคิม พูดจา...เดี๋ยวกูไปเปิดห้องแน่ รอไอ้ป่าเนี่ยยังไม่มาเสียที" "นินทาดังนะ กูได้ยิน" เป็นจังหวะน้ำป่าผลักประตูเข้ามาในห้องวีไอพีพอดี "ไงมึง พี่อเลสซิโอบอกพวกกูว่า มึงได้คนมาแต่งงานด้วยแล้ว สวยไหมว่ะ" "งั้นๆ เหมือนเด็ก" สิ้นประโยคคำพูดของน้ำป่า เพื่อนๆก็พากันหันมามองหน้าน้ำป่าเป็นตาเดียวกัน เมื่อน้ำป่าเห็นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเพื่อนของเขาอยากจะถามอะไร "ไม่ กูไม่ทำอะไรเด็กคนนั้นหรอก ไม่ใช่สเปคกูสักนิด" "ให้มันจริงอย่ากลืนน้ำลายตัวเองนะมึง กูล้อยันลูกบวชแน่" ผมได้ยินไอ้คิมหันต์พูด ก็ส่ายหัวให้มันเป็นเชิงบอกว่า ไม่มีวัน เด็กคนนั้นไม่ใช่สเปคเขา เตี้ยก็เตี้ย ผมสั้น ใส่แว่นแถมยังชอบแต่งตัวแปลกๆ นี่ผมยังแอบคิดเลยว่าแม่ผมจะเชื่อไหมว่า น่านฟ้าคือคนที่ผมรักและจดทะเบียนกันจริงๆ ผมนั่งคุยกับเพื่อนๆ ต่ออีกหนึ่งชั่วโมงก็ขอตัวกลับ เพราะผมมีนัดกับน่านฟ้า ผมเป็นประเภทไม่ลืมอะไรง่ายๆ และที่สำคัญไม่เคยผิดนัดใครแม้แต่ครั้งเดียว ภายในห้องของน่านฟ้า สายตากลมโตยังคงจ้องมองแหวนเพชรที่มีราคาแพงจนเธอไม่กล้าใส่ กับอีกแค่แกล้งแต่งงาน จดทะเบียนทำไมต้องซื้อแหวนเพชรราคาแพงให้มันเปลืองเงินเสียเปล่าๆ แต่ก็นั่นแหละเธอได้แต่ทำตามที่เขาบอก มันน่าจะเป็นผลดีที่สุด น่านฟ้ามองเวลาที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือพร้อมกับมองไปที่สมุดบันทึกที่เธอได้จดทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอ มันแค่ไม่กี่บรรทัด และหวังว่าเฮียป่าจะจำได้ ครืด ครืด เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือทำให้น่านฟ้ายื่นมือไปหยิบแล้วเปิดอ่าน Line เฮียป่า : ฉันรออยู่ที่ห้องรับแขก น่านฟ้ากดปิดห้องแชท แล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบสมุดบันทึกที่เธอจดเอาไว้ ถือไว้ในมือแล้วเดินออกจากห้องเพื่อไปหาคนที่แชทมาหาเธอ ภายในห้องรับแขก น้ำป่าได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปม สงสัยว่าทำไมคนอ่านทำไมถึงไม่ตอบตนเอง "อ่านไม่ตอบ มันน่านัก!" พูดไม่ทันขาดคำ เสียงสดใสที่เขาได้ยินบ่อยๆในช่วงนี้ก็ดังขึ้น "จะตอบทำไมล่ะคะ ไหนๆก็จะเดินมาหาแล้ว" ไม่พูดเปล่า น่านฟ้ายังยังทำหน้าทำตาล้อเลียน คิ้วเรียงเส้นทุกผูกเป็นปมแต่ทว่าคนที่นั่งรอที่โซฟาไม่อาจเห็นได้ เพราะแว่นตาอันใหญ่มันบังจนแทบจะไม่เห็นอะไรนอกจากแว่นตาเท่านั้นที่อยู่บนใบหน้าของเธอ "ฉัน...เฮียนึกว่าน่านเผลอหลับ ก็แค่นั้น" น้ำป่าพูดพลางก้มมองสมุดบันทึกในมือเธอ "ค่าๆ ทีหลังจะตอบให้ นี่ค่ะสมุดบันทึก" มือใหญ่รับมาแล้วเปิดอ่านทันที แต่เพียงแค่เสี้ยวนาทีเท่านั้น สายตาคมก็เปลี่ยนจากอ่านสมุดบันทึกเป็นเงยหน้าเพื่อมองเจ้าของลายมือสวยด้วยใบหน้าที่สุดแสนจะเอือมระอา "แค่นี้" "ค่ะ" น้ำป่าเมื่อได้รับคำตอบก็ก้มอ่านในสมุด ราวกับเพื่อเป็นการทบทวน "ชอบกินทุกอย่าง แพ้ปู ไม่เคยเข้าร้านหรูๆเพราะมันแพง แล้วก็ไม่เคยกินแอลกอฮอล์" "แค่นี้แหละค่ะ พิเศษหน่อยก็คือ แพ้ปู เฮียป่าช่วยจำด้วยก็แล้วกันค่ะ" "นั่งสิ เฮียมีอะไรจะพูด" ร่างบางย่อตัวลงนั่งบนโซฟาแต่โดยดีพร้อมมองไปที่ใบหน้าหล่อที่ทำเธอหัวใจเต้นแรงเป็นบางครั้ง "เรื่องเมื่อเย็นเฮียขอโทษ เฮียไม่ควรพูดแบบนั้น" "มันดีออก คำพูดของเฮียช่วยทำให้น่านคิดอะไรได้บ้าง บางครั้งเราก็ควรตอบโต้อะไรออกไปบ้าง ถ้าเรื่องนั้นไม่เป็นความจริง" "ตอนนี้เราสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้ว ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับน่าน เฮียก็ต้องรู้ด้วยเช่นกัน พูดจบน้ำป่าก็ลุกขึ้นยืน แล้วมองใบหน้ามีเห็นแต่แว่นก่อนจะเดินขึ้นกลับห้องของตัวเองพร้อมกับสมุดบันทึกของน่านฟ้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD