ตอนที่ 4 รักแรกพบ
ตกกลางดึกในคืนเดียวกันนั้น ในขณะที่เพลงพิณได้หลับไปแล้ว...เธอได้ฝันเห็น ความสวยงามของธรรมชาติอันแสนคุ้นเคย
แม่น้ำขนาดใหญ่ กว้างขวาง สงบ เย็นสบาย แสงจันทราในยามค่ำคืนสาดส่องลงมาถูกกระทบผิวของเธอ ทำให้เธอรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย มีพลัง มีความสุข แต่อยู่ๆก็มีเสียงของใครบางคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นว่า...
"มึงมันไม่ใช่คน!! อีหลอกลวง!!" เสียงที่ได้ยินนั้น ในความรู้สึกของเธอช่างคุ้นหูยิ่งนัก เธอไม่รู้ว่ามันดังมาจากทางทิศไหน ไม่เห็นคนพูด แต่แล้วเสียงเคียดแค้นเสียงนั้นก็ทำให้เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝัน
"ฮึก!" ทันทีที่เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหัวใจของเธอเต้นแรงโครมครามอย่างหนักด้วยความหวาดกลัว ซึ่งมันยังคงกึกก้องอยู่ในหูของเธอไม่หาย เธอพยายามบอกกับตัวเองว่ามันเป็นแค่เพียงความฝัน ไม่ใช่เรื่องจริง
เพลงพิณล้มตัวนอนลงอีกครั้ง พยายามข่มตาให้หลับ แต่เสียงของใครคนนั้นก็ยังคงกึกก้องอยู่ในหูของเธอไม่ยอมหายไป
"มึงมันไม่ใช่คน!! อีหลอกลวง!!"
เช้าวันรุ่งขึ้น
ในขณะที่เพลงพิณกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้ากับทุกคน อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา อยู่ๆเธอก็คิดถึงความฝันเมื่อคืนนี้ขึ้นมา ภาพแม่น้ำขนาดใหญ่ที่เธอเห็นในความฝันมันคล้ายกับแม่น้ำโขงที่เธอเคยไปตอนเด็กๆ
"คุณพ่อคุณแม่คะ หนูขอไปเที่ยวสักวันสองวันได้มั้ยคะ" อยู่ๆเพลงพิณก็นึกอยากไปเที่ยวพักผ่อนแถวๆแม่น้ำโขง
"เพลงอยากไปเที่ยวที่ไหนลูก" เป็นเสียงของคุณพ่อ
"เพลงอยากไปแถวๆแม่น้ำโขงค่ะ เมื่อคืนเพลงฝันถึง เพลงก็เลยนึกอยากไปค่ะ" ในความฝันนั้นตอนแรกมันก็เป็นฝันดีอยู่หรอกนะ แต่เสียงนั่น...
"ให้ฉันไปเป็นเพื่อนเอามั้ย" ไอ้ฟ้าเสนอตัวทันที...ก็ดีนะ!
"ไม่ได้จ่ะ เพิ่งจะแต่งงาน ยังเข้าหอไม่ครบสามคืนเลย โบราณเขาถือ" อ้าว...อดเลย โดนคุณแม่สกัด ส่วนพี่ขุนนั่งเงียบเขากำลังคิดอะไรอยู่นะ
"ให้พ่อกับแม่ไปเป็นเพื่อนเอามั้ย"
"เพลงไปคนเดียวได้ค่ะ" สีหน้าของไอ้ฟ้าดูเหมือนว่ามันจะอยากไปกับฉันมากกว่าอยู่กับพี่ขุนนะ
"ไอ้ฟ้า...แกอยู่บ้านกับพี่ขุนเถอะ ช่วงนี้พี่ชายฉันต้องการคนมาดามใจ" ฉันพูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มไปให้เพื่อน
"ยัยเพลง..." พี่ขุนเอ็ดฉันเบาๆ ฉันจึงส่งยิ้มหวานๆไปให้
"ไม่ต้องเขินน้องหรอกน่า" ฉันแกล้งแซว
"เรานี่นะ ชอบไปแซวพี่เขา...ว่าแต่ ขุนโอเคมั้ยลูก" คุณแม่น่าจะเป็นห่วงความรู้สึกของลูกชายอยู่ไม่น้อย ก็เจ้าสาวตัวจริงดันถูกผัวตัวจริงฉุดกลับบ้านไปกลางงานแต่ง...ว่าแต่ทำไมพี่ชายฉันมั่นใจจังว่าเด็กในท้องของพี่ว่านไม่ใช่ลูกตัวเอง
"โอเคครับ"
"ไม่โอเค ก็ต้องโอเค เมียแกคือหนูฟ้า จำเอาไว้ คุณอานนท์อุตส่าห์ยกลูกสาวให้แกง่ายๆ ดูแลน้องให้ดีด้วยล่ะ" คุณพ่อบ่นซะยาว ท่าทางจริงจังตลอด...คุณพ่อของฉันท่านก็จะดุๆหน่อยแบบนี้แหละ
"ครับ"
"หนูฟ้า กินเยอะๆนะลูก ถ้าไม่พอเดี๋ยวพ่อสั่งแม่ครัวทำมาเพิ่มให้"
"พอแล้วค่ะคุณพ่อ..."
"ตักถึงมั้ยลูก มาแม่ตักไก่ทอดให้ เห็นว่าหนูชอบ" เมื่อก่อนไอ้ฟ้ามันก็มากินข้าวบ้านฉันออกจะบ่อย ไม่เห็นจะมีใครเอาใจมันเท่ากับวันนี้มาก่อนเลย...สงสัยฉันกับพี่ขุนคงต้องลงไปอยู่ในกระป๋องแล้วมั้ง
@แม่น้ำโขง จังหวัดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
และแล้ววันนี้ฉันก็ได้เดินทางมาอยู่ที่ริมแม่น้ำโขง ฉันกำลังยืนดูน้ำในแม่น้ำอันแสนกว้างใหญ่ไหลไปตามธรรมชาติของมัน
ฉันสูดเอาอากาศสดชื่นเข้าปอดลึกๆ ในใจรู้สึกสดชื่น สงบ ผ่อนคลาย มีความสุข เหมือนความรู้สึกในความฝันเลย...
"ขอโทษนะครับ เชือกรองเท้าคุณหลุดน่ะ"
"อ๋อค่ะ" ฉันก้มลงไปผูกเชือกรองเท้าทันที โดยที่ยังไม่ได้มองหน้าคนที่บอกฉันเลยด้วยซ้ำ เมื่อฉันถูกเชือกเสร็จ ฉันก็ลุกขึ้นยืน
"ขอบคุณนะคะ" ฉันส่งยิ้มให้เขาพร้อมกับเอ่ยคำขอบคุณ แต่...แววตาคู่นี้ของผู้ชายตรงหน้า ทำไมฉันถึงได้รู้สึกคุ้นเคยอย่างนี้นะ
ฉันตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ คล้ายกับเหมือนมีอะไรบางอย่างมาสะกดฉันเอาไว้ เหมือนโลกที่ฉันกำลังยืนอยู่มันหยุดหมุน รอบๆตัวฉันเหมือนมีแค่ฉันกับเขาแค่สองคนเท่านั้น
#ภูธเรศ
รอยยิ้ม แววตา น้ำเสียง ของผู้หญิงตรงหน้า มันช่างคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก เหมือนว่าเธอคือคนที่ผมกำลังตามหาอยู่ เพียงแค่ได้สบตากับเธอหัวใจของผมก็กระตุกวูบวาบ
"คุณเป็นนักท่องเที่ยวหรือว่าเป็นคนพื้นที่ครับ" ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำให้ผมรู้สึกอยากทำความรู้จักกับผู้หญิงคนนี้
"ฉันเป็นคนกรุงเทพฯ มาเที่ยวค่ะ"
"จริงเหรอครับ ผมก็เป็นคนกรุงเทพฯเหมือนกัน"
"คุณไม่ใช่นักตุ้มตุ๋นแน่นะคะ" หน้าตาของผมเหมือนนักต้มตุ๋นตรงไหนกัน?
"ไม่ใช่แน่นอนครับ ผมมาเที่ยวที่นี่ทุกปี ปีละหนึ่งถึงสองครั้ง" ผมชอบที่นี่ แต่ผมไม่ได้ชอบน้ำหรือแม่น้ำโขงที่นี่หรอกนะ แต่ที่ผมมาผมรู้สึกว่าที่นี่มีคนที่ผมตามหา ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร
"มาบ่อยขนาดนี้ไม่เบื่อเหรอคะ"
"ไม่ครับ ผมชอบและรู้สึกคุ้นเคยกับที่นี่มาก ช่วงไหนที่ผมเครียดๆผมก็จะขับรถมาพักผ่อนที่นี่ ช่วยได้เยอะเลยนะครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน" ผมน่าจะชอบธรรมชาติสวยๆของที่นี่มั้ง
"ขับรถมา...จริงเหรอคะ โคตรเก่ง"
"จริงครับ" ถึงระยะทางมันจะไกลจากกรุงเทพฯมากก็จริง แต่ผมไม่ชอบความแออัด มืดไหนนอนนั่น อยากแวะที่ไหนก็แวะ
"แล้วคุณล่ะ มายังไง" ผมพยายามชวนเธอคุย รู้สึกถูกชะตากับเธอตั้งแต่แรกพบ
"นั่งเครื่องมาค่ะ"
"อ๋อครับ"
"มาคนเดียวเหรอครับ/มาคนเดียวเหรอคะ" เหมือนว่าทั้งผมและเธอใจตรงกัน
"ครับ ผมมาคนเดียว"
"ฉันก็มาคนเดียวค่ะ เพิ่งถึงยังไม่รู้เลยว่าจะไปที่ไหนดี มีที่สวยๆแนะนำมั้ยคะ" ที่เธอถามผมแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะประโยคที่ผมบอกกับเธอไปว่าผมมาเที่ยวแถวนี้บ่อย ดีเลยเข้าทาง...ผมอยากทำความรู้จักกับเธอ
"คุณถามถูกคนแล้วครับ ผมมาที่นี่บ่อย เคยไปทุกที่ ถ้าไม่รังเกียจไปเที่ยวด้วยกันมั้ยครับ" ชวนกันหน้าด้านๆแบบนี้แหละ สมัยนี้เขาไม่ถือกันแล้ว
"จะดีเหรอคะ" ดูเหมือนว่าเธอก็อยากไปกับผมนะ
"คุณคงไม่ไว้ใจผม นี่ครับนามบัตร" ถ้าเธอจะไม่ไว้ใจก็คงไม่แปลกเพราะเราเพิ่งจะเคยเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก แต่ลึกๆในใจของผมเหมือนมีบางอย่างดึงดูดให้ผมอยากเข้าหาเธอ อาจจะเป็นความสวยของเธอมั้ง
ผมแสดงตัวตนโดยยื่นนามบัตรให้เธอ เธอรับนามบัตรจากในมือของผมเอาไปถือไว้
"ตรวจสอบได้เลยครับ" เธอหยิบมือถือขึ้นมาตรวจสอบทันที ข้อมูลในอินเตอร์เน็ตครบถ้วนชัดเจน และที่สำคัญมีใบหน้าของผมเป็นเจ้าของบริษัท
บริษัทนี้ผมเพิ่งจะสร้างมันขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ไม่เกี่ยวกับธุรกิจของที่บ้าน ผมโชคดีที่เกิดมาอยู่ในครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะร่ำรวย ผมจึงกล้าที่จะออกมาพิสูจน์ตัวเอง ผิดกับคนที่มีฐานะยากจน คนพวกนั้นจะไม่มีสิทธิ์เลือก อะไรได้เงินก็ต้องทำไปก่อน ถึงแม้ว่างานหรืออาชีพที่พวกเขาต้องทำ เขาจะไม่ชอบมันเลยก็ตาม แต่ไม่ใช่กับผม...ผมจะเลือกทำและเลือกอยู่กับคนที่ผมชอบเท่านั้น ฟังดูแล้วเหมือนคนเห็นแก่ตัวไปหน่อยแต่ทั้งหมดนี้คือผม
"ข้อมูลพวกนี้...พอจะให้คุณเชื่อใจผมได้มั้ยครับ" เห็นเธอจ้องหน้าจอมือถืออยู่นาน น่าจะอ่านครบแล้วมั้ง
"ไปด้วยก็ได้ค่ะ มีเพื่อนก็ดีกว่าไปคนเดียว" เธอตกลงไปกับผมแล้ว...เธอเก็บนามบัตรและมือถือใส่กระเป๋า
"ขอฉันหารค่าน้ำมันด้วยนะคะ"
"ไม่ต้องหรอกครับ ผมมาเที่ยวอยู่แล้ว ว่าแต่...คุณชอบไหว้พระมั้ย" ผมชอบทำบุญมาก เวลาไปไหว้พระผมจะรู้สึกสบายใจ
"ชอบค่ะ ได้ข่าวว่าแถวนี้วัดเยอะด้วย"
"เรียกพี่ว่าพี่ภูก็ได้ ว่าแต่น้องชื่ออะไรครับ" คุยกันมาตั้งนานยังไม่รู้จักชื่อเธอเลย
"เพลงพิณ...เรียกเพลงเฉยๆก็ได้ค่ะ"
"โอเค...เพลงมีที่พักหรือยัง"
"ยังเลยค่ะ"
"พี่ก็ยังไม่มี ไปหาที่พักกันก่อนดีมั้ยเดี๋ยวจะไม่มีที่นอน" ผมชวนเธอขึ้นรถ เราสองคนตะเวนหาห้องพัก ผมทำหน้าที่ขับรถส่วนเธอช่วยหาห้องในเน็ตและโทรถาม สุดท้ายเราก็ได้ห้องนอนแล้วครับ ผมขับรถเข้ามาจอดที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งติดแม่น้ำโขงบรรยากาศดี
"ที่โทรมาสอบถามเมื่อสักครู่ สองห้องน่ะครับ"
"อ๋อค่ะ ชื่อคุณเพลงพิณใช่มั้ยคะ"
"ครับ...เพลงพิณ"
"สองห้องค่ะ" พนักงานของทางรีสอร์ตส่งกุญแจให้ผมสองดอก ผมถือไว้หนึ่งดอก ส่วนอีกหนึ่งดอก ผมยื่นให้น้องเพลงซึ่งเธอก็รับเอาไปถือไว้ เราแยกย้ายพากันเอากระเป๋าเข้าไปเก็บ