เสียงคุยกันของคนหลายคน บวกกับกลิ่นผ้าเย็นปลุกให้เตียร์ตื่นจากความฝัน วินาทีแรกที่เธอพบเจอคือหน้าของใครคนหนึ่งกำลังโน้มเข้ามา เธอจำเขาได้แบบนี้ นั้นก็หมายความว่าเธอยังไม่ตาย
“ซาโตรุ” หลังจากนั้นความเจ็บปวดบริเวณท้ายทอย ส่งผลให้เธอรู้สึกก็ตอนเธอผวาลุกขึ้น “ โอ้ย”
“ค่อยๆลุกสิ”
“เกิดอะไรขึ้น?”
ดวงตาคู่ลอย เสมือนคนเมาค้างตลอดเวลา เนื่องจากตาที่โตจนลูกตาดำดูเล็กกว่าคนปกติ แต่มีเสน่ห์ชวนมองอย่างน่าประหลาดใจกวาดมองไปทั่ว ภาพที่เจอสะดุดหยุดอยู่กับที่ สามารถเป็นคำตอบได้ดีโดยคนถูกถามไม่ต้องพูด กับคนหลายคนในชุดเครื่องแบบ ซึ่งเดินสวนกันไปมาอยู่ข้างนอก
“เมื่อคืน..” ก่อนจะลากสายตากลับมาที่เดิม “ฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วก็..”
“คำพูดพวกนี้เอาไปเล่าให้ตำรวจฟังเถอะ”
ตำรวจ? นี่พี่แจ้งตำรวจเหรอ”
“ถึงไม่แจ้งเขาก็มา”
“ทำไมล่ะ เกิดเรื่องใหญ่ตอนฉันหลับไปใช่ไหม?”
“ก็เออน่ะสิ เธอคิดว่ากองเลือดพวกนั้นเป็นของใครกันล่ะ”
กองเลือด!
ร่างบางในชุดเสื้อคลุมตัวโคร่งเด้งพรวดพราดขึ้นมาอย่างลืมเจ็บ กว่าจะรู้นอนอยู่บนฟูก เตียงเจ้าของร้านสำหรับการพักผ่อนชั่วคราวในบางคืน เฉพาะช่วงติดงานแล้วต้องค้าง เพราะไม่อยากกลับบ้านดึก ก็ตอนเท้าคู่ลอยอยู่เหนือพื้น ลืมสนใจไปเสียสนิทว่าสิ่งนี้สำคัญต่อเขาขนาดไหน เพราะหลายต่อหลายครั้งที่เธอเล่นเกมเพลินจนเลยเวลากลับบ้าน ขอนอนค้างบนเตียงนี้ของเขา เขาไม่เคยอนุญาตเธอเลยสักครั้ง
“มีคนตายเหรอ?”
เตียร์เบิกตาถาม น่าแปลกสัญชาตญาณลึกๆบอกเธอก่อนแล้ว ทว่าไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง จำได้ เมื่อคืนมีใครคนหนึ่งเดินเข้ามา มาขอใช้คอมด่วนทั้งที่ไม่กี่นาทีข้างหน้าจะหมดเวลาอยู่รอมร่อ ในขณะเธอเองชี้แจงเขา แม้การบอกกล่าวนั้นจะก่อสำเนียงให้บทสนทนาไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่ แต่แทนที่เขาจะเข้าใจและเดินออกไปดีๆ กลับคะยั้นคะยอทำตามความต้องการของตัวเอง
มิหนำซ้ำยังทำเรื่องอุกอาจ อาทิเช่นตีหัวเธออีก!
เตียร์หลงลืมไปชั่วขณะ หลังได้ยินคำบอกเล่านั้นจากปากของเจ้านาย ถึงรู้เรื่องของเมื่อคืนมันไม่ใช่ความฝัน แต่ไม่คิดว่ามันจะเลวร้ายขนาดนี้
“มีคนตายเลยเหรอ?”
เบื้องหน้าเป็นความวุ่นวาย ภาพเคลื่อนไหวนั้นไม่ได้ต่างกับสิ่งแวดล้อมที่เคยเจอมากนัก บ่อยครั้งวัยรุ่นหนุ่มสาวเดินสวนกันไปมา ข้ามเขตของตัวเองไปอาณาจักรของคนอื่น บ้างตะโกนผ่านหัวกันและกันเพื่อพูดคุย เหตุการณ์เหล่านั้นเกี่ยวกับการแข่งขันเกมส์กันล้วนๆ หรือทำกิจกรรมบางอย่างขณะใช้คอมพิวเตอร์หรือเกมกดชนิดผู้เล่นมีสองคนทั้งสิ้น เธอในฐานะพนักงานมีหน้าที่เฝ้าร้านก็มักจะคุ้นเคยกับเสียงโหวกเหวกโวยวาย ซึ่งเสียงนั้นก็มักจะทำให้เธอโกรธ หงุดหงิดผลจากการถูกรบกวนมากไป จะหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นโดยการใส่หูฟังเปิดเพลงดังๆเพื่อกลบมันเสมอ ที่ไม่ใช่ตอนนี้ และวินาทีนี้..
เพราะภาพที่เธอเห็นไม่ใช่แค่เด็กวัยรุ่นติดเกมส์ทั่วไป แต่เป็นเจ้าหน้าที่ในชุดเครื่องแบบมากกว่าสิบคน!
เตียร์เดินเชื่องช้า หลุดพ้นจากห้องนอนชั่วคราวของเจ้านาย ไปหยุดอยู่ตรงลานกว้าง ระดับสายตากวาดมองไปรอบๆ เห็นแต่ภาพความเสียหายยับเยิน ข้าวของเครื่องใช้กระจัดกระจายไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้ภายในเวลาอันสั้น นอกจากร่องรอยการต่อสู้แล้ว ถัดมาคือกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งตลบอบอวล ถึงจะไม่เห็นศพอยู่ในสภาพไหน อาจจะถูกเก็บไปแล้วในช่วงเวลาที่เธอสลบ ทว่าภาพตรงหน้า พร้อมกับความรู้สึกก็พอจะทำให้มองออก เมื่อคืนที่แห่งนี้มีการฆาตกรรมกันจริง
“ตื่นนานแล้วหรือครับ”
เสียงทุ้มของร่างสูงปริศนาดังมาจากข้างหลัง ฉุดความสับสนของคนเหม่อลอยหลุดจากภวังค์หันกลับไปมอง เมื่อเห็นเป็นเจ้าหน้าที่ เธอจึงพยักหน้าตาละห้อย
“คุณคือคนสุดท้ายที่อยู่ในร้านใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น รบกวนตามเรามาหน่อย”
สาวเจ้าพยักหน้าอีกครั้ง ยอมเดินตามไปแต่โดยดี และไม่วายหันมองไปยังเจ้านายเธอ ร่างสูงซึ่งยืนให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่อยู่อีกคน ด้วยท่าทางไร้ความกังวล ไม่ได้ตกใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเท่ากับเธอ หรือว่าก่อนหน้าเธอจะฟื้นเขาช็อกไปแล้ว
“ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ ภาพสุดท้ายที่คุณเห็นคืออะไร”
เมื่อเข้ามายังห้องหนึ่ง ไม่เคยมีโอกาสได้เหยียบย่างเข้ามาก่อน เนื่องจากถูกปิดตายมาโดยตลอด ทำหัวคิ้วดกขมวดเข้าหากัน ไม่ใช่เพราะงงกับสถานที่ แต่เป็นเพราะคำถามนั้นทำให้สมองต้องย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องราวบางเรื่อง ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมง และเธอก็ไม่อยากจะนึกถึงมัน
“ผู้ชายคนหนึ่งค่ะ เขาเดินเข้ามาข้างใน”
ลูกค้างั้นหรือ”
“ใช่ค่ะ เขามาขอใช้คอม”
“เขามาช่วงไหนพอจะบอกได้ไหมครับ”
“ก่อนร้านจะปิดสิบนาทีค่ะ”
“บอกเป็นเวลาได้ไหมครับ”
ห่างจากหัวคิ้วที่แสดงปฏิกิริยาก็เป็นดวงตาที่เบิกกว้างกวาดไปมารอบๆ เธอกำลังสงสัยว่ากล้องจรปิดที่ติดตั้งไว้ทุกมุมร้านได้ทำงานกันหรือเปล่า
“เมื่อคืนกล้องวงจรปิดที่นี่ใช้ไม่ได้ครับ”
“คะ?”
“ภาพทั้งหมดหยุดฉายกลางคัน ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นคุณกำลังนั่งกัดเล็บ”
เตียร์เผลอเผยอริมฝีปาก หัวใจเต้นระทึกขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อจับต้นชนปลายได้คร่าวๆ เบิกตากว้างมองเจ้าหน้าที่ตรงหน้า
“ก่อนเขามาประมาณห้านาทีค่ะ”
“เขาเป็นลูกค้าประจำที่นี่หรือเปล่า”
“ดิฉันคิดว่าไม่ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นพอจะบอกลักษณะเขาได้ไหมครับ”
“ไม่ค่ะ”
“ครับ?”
พลันก้มหน้างุดก็ตอนที่เห็นเจ้าหน้าที่เลิกคิ้วสูง เธออยากให้ความร่วมมือก็จริง แต่กระนั้นข้อมูลที่ได้ช่างน้อยเหลือเกิน หมอนั้นปกปิดมิดชิดแทบไม่เห็นสีผิวด้วยซ้ำ
“ฉันไม่รู้ค่ะ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เขาเข้ามาขอใช้คอม เมื่อไม่ได้ตามที่ต้องการเขาก็ทำร้ายฉัน..จนสลบไปอย่างที่เห็น แต่ถ้าจะให้บอกลักษณะตามที่เห็นละก็ อ๋อ... เขาไม่ใช่คนเอเชียค่ะ”
“ครับ?”
“ดวงตาของเขาที่ฉันเห็นไม่ใช่คนเอเชียค่ะ น่าจะเป็นลูกครึ่งเหมือนกับฉัน”