หญิงสาวร้อนผ่าวไปทั้งตัวเมื่อคิดว่าเสื้อตัวนี้ผ่านการสวมใส่มาแล้วโดยณัฐภาคย์...
แต่ก่อนที่จะถูกเขาเร่งมาอีก หญิงสาวก็รีบผูกปมเชือกให้แน่นหนา เมื่อสำรวจความเรียบร้อยดีแล้ว ร่างเล็กในเสื้อคลุมตัวโตจึงหมุนตัวออกจากห้องน้ำ
มือแกร่งชะงักค้างเมื่อประตูบานสูงถูกเปิดออกพร้อมกับสาวร่างบางตรงหน้าที่เปลี่ยนจากแม่สาวเฉิ่มแฉะกลายมาเป็นแม่สาวหน้าใสแทน ชายหนุ่มสบตากลมโตแล้วหลุบมองริมฝีปากเต็มอิ่มสีเรื่อราวลูกเชอร์รี ระเรื่อยลงมายังแก้มใสอย่างลืมตัว ก่อนจะกระแอมเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าเผลอมองหล่อนนานเกินไปแล้ว
“เสร็จแล้วก็รีบออกมาสิ” ณัฐภาคย์แสร้งทำเสียงดุ แล้วมองลงมายังเสื้อผ้าเปียกชุ่มที่อยู่ในมือของหล่อน ก่อนจะเดินสวนเข้าไปพร้อมกับปิดประตูดังปัง!
ชายหนุ่มพาดเสื้อคลุมขึ้นกับราวอะลูมิเนียมด้านข้าง แล้วก้าวไปยืนนิ่งอยู่หน้ากระจก เท้ามือบนข้างฝานิ่งนาน รู้สึกหงุดหงิดในอาการร้อนรุ่มที่เกิดขึ้นกะทันหัน จนต้องก่นด่าตัวเอง
“เกิดนึกบ้าอะไรถึงได้นึกอยากจูบยัยนั่นขึ้นมา?”
คำถามนั้นกระตุ้นให้เขาคิดถึงดวงตากลมโต ริมฝีปากอวบอิ่มกับซอกคอขาวๆ ที่แอบมองเมื่อครู่ขึ้นมาอย่างห้ามไม่ทัน ก่อนจะก้มลงมองสัดส่วนร้อนแรงกลางกายที่เวลานี้พองคับแน่นจนน่าโมโห
“ไอ้บ้านี่! เฉยไปเลยนะแก คนตั้งเยอะตั้งแยะไม่คิด มาคิดอะไรกับยัยคนนั้น ฝันไปเถอะชาตินี้ไม่มีทางได้แอ้มฉันหรอก!”
ความคิดแสนเย่อหยิ่งของเขาต่างจากร่างกายราวฟ้ากับเหว เพราะเวลานี้มันแทบจะปริแตกวิ่งโร่ออกไปหาคนตัวเล็กข้างนอกอยู่รอมร่อแล้ว!!
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกหันขวับไปยังประตูด้วยดวงตาขุ่นขวาง
“มีอะไร!”
แก้วกัญญาอยู่ข้างนอกก็ทำคอย่นเมื่อได้ยินเสียงห้วนๆ จากเขา
“เอ่อ ลูกแก้วขอตากเสื้อที่ราวริมระเบียงได้ไหมคะ”
คิ้วหนาขมวดมุ่น ระเบียงของเขามีไว้นั่งชมวิว หาใช่ที่ตากผ้าไม่!
“เธอจะบ้าหรือไง ที่นั่นฉันเอาไว้นั่งเล่นเท่านั้น”
แก้วกัญญาหน้ามุ่ยเมื่ออีกฝ่ายปฏิเสธ แล้วจะให้หล่อนตากที่ไหน ตากข้างในกว่าจะแห้งไม่ปาเข้าไปเที่ยงคืนเลยหรือไง
“ถ้าคุณไม่ให้ลูกแก้วตากข้างนอกแล้วจะให้ทำไงล่ะคะ ลูกแก้วมีแค่ชุดนี้ชุดเดียว” แก้วกัญญาตะโกนเข้าไปอีกครั้ง
เจ้าของร่างเปลือยที่เข้าไปยืนใต้ฝักบัวแทนอ่างอาบน้ำหันไปมองประตูอย่างหงุดหงิด เพราะเสียงของหล่อนกวนใจกวนกายจนเจ้าน้องชายชูคอตะโกนว่า อยากได้! อยากได้! อยากได้! ชายหนุ่มจึงได้แต่กัดฟันแน่นแล้วตัดบทตอบส่งๆ ออกไป
“เรื่องของเธอ อยากตากที่ไหนก็ตาก แล้วก็ไม่ต้องเรียกแล้วนะ ฉันจะอาบน้ำ!”
คำตอบถูกใจทำให้หญิงสาวยิ้มหวานก่อนจะวิ่งปรู๊ดออกไปยังระเบียง ทิ้งให้ร่างสูงแข็งแกร่งยืนเกร็งไปทั้งตัว ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดน้ำให้พุ่งลงมาลดราดสุดแรงอย่างต้องการให้ความเย็นของสายน้ำช่วยดับความร้อนในร่างกายที่พุ่งสูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนลงเสีย
ร่างบอบบางในเสื้อคลุมอาบน้ำยกซับในตัวจิ๋วขึ้นตากเป็นชิ้นสุดท้ายก่อนขยับไปยืนเกาะระเบียง ใบหน้าหวานชะโงกมองทิวทัศน์ยามค่ำคืนอย่างทึ่งๆ
“วิวตรงนี้สวยจัง แต่ลมแรงชะมัด” แก้วกัญญาบ่นกับตัวเองพลางกระชับเสื้อคลุมให้มิดชิดยิ่งขึ้นเมื่อถูกลมตีจนชายเสื้อด้านล่างเปิดขึ้นจนเห็นต้นขาเนียนยวนตา
แรงลมทำให้หญิงสาวคลายผมที่ขมวดไว้จนทิ้งตัวลงอวดความเงางามนุ่มนิ่มสละสลวยดำขลับ
แก้วกัญญาปล่อยให้สายลมพัดเป่าผมอย่างสบายใจ แล้วยืนเท้าแขนกับระเบียงมองโน่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อยกระทั่งนึกขึ้นได้ว่ายังมีงานให้ต้องทำอีกจึงรีบหมุนตัวไปยังห้องโถงใหญ่ทันที
จากนั้นเกือบสิบห้านาที ชายหนุ่มจึงออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาศัยความเย็นจัดของสายน้ำช่วยคลายความร้อนรุ่มในตัวเขาจนจางลง มือใหญ่หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดศีรษะพร้อมกับมองหาร่างบางก่อนจะเดินออกไปยังระเบียงห้อง แต่เมื่อก้าวเท้าออกไปได้เพียงข้างเดียวชายหนุ่มก็มีอันต้องหยุดชะงัก สายตาคมกริบนิ่งมองอยู่ที่ผ้าสี่ห้าชิ้นซึ่งเรียงรายไปบนเชือกที่ขึงตึงระหว่างเก้าอี้นั่งเล่นกับโต๊ะอ่านหนังสือด้วยความรู้สึกฉุนปรี๊ด!
หน็อยแน่! ช่างบังอาจนัก แม่เจ้าประคุณเล่นเอาเก้าอี้ตัวโปรดของเขามาขึงเชือกทำราวตากผ้าซะนี่ ให้มันได้ยังงี้สิ
ขณะที่โมโหเขากลับสาวเท้าเข้าไปใกล้ ไล่ตามองเสื้อกับกระโปรงยาวย้วยแสนเชยแล้วหยุดที่ซับในชิ้นเล็กๆ ที่ตรึงสายตาของเขาเอาไว้เนิ่นนาน...
วูบหนึ่งเขาคิดถึงคำว่า ‘ครอบครัว’ ชายหนุ่มวัยสามสิบสองปีเช่นเขา ผ่านร้อนผ่านหนาวรวมทั้งผ่านผู้หญิงมาแล้วหลายคนและหลายชาติ แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำให้เขาคิดถึงการมีครอบครัวเหมือนกับครั้งนี้ เพียงแค่เห็นเสื้อผ้าผู้หญิงสามสี่ชิ้นตากอยู่ในห้องส่วนตัวเขาเท่านั้น!
แก้วกัญญาทำความสะอาดห้องรับแขกเรียบร้อยแล้วจึงนำอุปกรณ์เข้ามาภายในห้องนอนส่วนตัวของชายหนุ่ม หญิงสาววางถังน้ำลงบนพื้น มือเล็กยกไม้ถูพื้นลงจุ่มน้ำ สายตาหลุบมองเสื้อคลุมที่หล่อนสวมใส่พลันขบคิดว่าเสื้อผ้าของตนจะแห้งหรือยัง ไวเท่าความคิดหญิงสาวรีบสาวเท้าตรงไปยังระเบียงหลังห้องของชายหนุ่มทันที
ร่างเล็กชะงักปลายเท้าแค่หน้าประตูระเบียง หยุดมองแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มอยู่ครู่ก่อนตัดสินใจเรียกเขา
“คุณณัฐภาคย์คะ… คุณณัฐภาคย์… คุณแสบคะ”
ณัฐภาคย์หันกลับไปมองต้นเสียง รีบตีสีหน้าขรึมด้วยเกรงว่าหญิงสาวจะคิดว่าเขาเป็นโรคจิตที่แอบมายืนมองชุดชั้นในผู้หญิง
“เสร็จแล้วใช่ไหม” เขาถามพร้อมกับหลุบตาลงซ่อนความรู้สึก
“ยังเลยค่ะ เหลือห้องนอนที่ลูกแก้วยังไม่ได้ทำ”
ชายหนุ่มกวาดตาลงมองร่างบางในชุดเสื้อคลุมของเขาอย่างรวดเร็วเกินกว่าหล่อนจะรู้ตัวแล้วสั่งเสียงเข้ม
“งั้นก็รีบเข้า จะได้รีบกลับ ฉันอยากพักผ่อนแล้วเหมือนกัน” สั่งเสร็จก็เดินสวนเข้าไปภายในห้องด้วยใบหน้าเคร่งขรึมราวกับโกรธหล่อนอย่างนั้น
แก้วกัญญามองตามเขาไปอย่างมึนงง แล้วส่ายหน้าเบาๆ แต่ก่อนเข้าห้องหญิงสาวไม่ลืมหันกลับไปมองเสื้อผ้าที่ตากไว้อีกครั้งพลางขมวดคิ้ว เขามายืนทำอะไรตรงนี้นะ ว่าแล้วหญิงสาวก็ไหวไหล่ก่อนจะหมุนตัวเข้าไปในห้องนอนของชายหนุ่มอีกครั้ง
หญิงสาวก้มๆ เงยๆ ถูพื้นอย่างขะมักเขม้น โดยไม่ทันสังเกตว่าเจ้าของห้องได้มายืนอิงไหล่กับข้างฝามองหล่อนอย่างพินิจพิจารณาตลอดร่างเล็กๆ นั่นอยู่ครู่ใหญ่แล้ว
ดวงตาสีเข้มกวาดตามองเส้นผมเล็กละเอียดสีดำขลับที่ถูกปล่อยลงมาจนถึงกลางหลังที่พลิกพลิ้วตามแรงขยับเขยื้อนของเจ้าของอย่างเพลิดเพลิน ก่อนจะถึงจังหวะที่ทำให้หนุ่มนักรักถึงกับลมหายใจสะดุดเมื่อแก้วกัญญาหมุนตัวกลับมายังด้านที่เขายืนอยู่ ดวงตาดำใหญ่หลุบลงมองปอยผมที่ตกห้อยลงมาระอยู่แถวๆ ทรวงอก ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ช่วยปกปิดสาบเสื้อที่แยกห่างจากกันแล้ว ยังเป็นการดึงดูดสายตาของเขาให้มองต่ำลงไปจนเห็นทรวงอกขาวผ่องวับแวมทุกครั้งที่หล่อนขยับแขนขึ้นถูพื้นโดยไม่ทันระวังว่าได้เผลอโชว์อะไรต่อมิอะไรให้เขาได้มองฟรี
ชายหนุ่มขยับตัวตรงทันทีที่แก้วกัญญาทำไม้ถูพื้นหลุดมือ หญิงสาวอุทานก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มแล้วยิ้มแหยอย่างขอโทษ จังหวะเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวก็ก้มตัวลงหยิบไม้ถูพื้น ทำให้สาบเสื้อคลุมแยกออกจนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าถึงกับตะลึงอย่างไม่ได้เตรียมใจมาก่อนว่าจะได้เห็นทรวงอกคู่งามกลมกลึงเลยสักนิด
ให้ตายสิ หน้าอกยัยนี่ไม่ได้เล็กอย่างที่เขาคิดไว้สักนิด!
เสื้อของเขานั้นตัวโต เมื่อไปอยู่บนร่างของคนตัวเล็กอย่าง แก้วกัญญาจึงค่อนข้างจะหลวมโพรก ถึงแม้เจ้าหล่อนจะผูกเชือกที่เอวจนแน่นก็ตาม
แต่ให้ตายเหอะ! นี่หล่อนต้องการจะยั่วเขาหรือไงนะ ถึงไม่ยอมระวังตัวเอาซะเลย
ขณะที่เขาเอาแต่มองอกอวบงามเต่งตึงที่วับแวมออกมาจากเสื้อคลุมซึ่งแยกเผยให้เห็นไปถึงไหนต่อไหนอยู่นั้น หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมามองเขาขึ้นโดยบังเอิญ
ริมฝีปากสีสดที่ทำท่าจะยิ้มเยือนมีอันต้องชะงัก เมื่อคนตรงหน้าทำท่าเหมือนกับถูกสตัฟฟ์ แก้วกัญญามองตามสายตาเขาลงมาอย่างงงๆ ก่อนจะอ้าปากค้างแล้วอุทานดังลั่น
“ว้าย!!!”
หญิงสาวอุทานพร้อมกับทิ้งไม้ถูพื้นแล้วยกมือขึ้นกระชับสาบเสื้อเข้าหากันด้วยความอับอาย ทำให้ไม้ถูกพื้นหล่นลงกระแทกหลังเท้าของชายหนุ่มเข้าเต็มเปา เช่นเดียวกับเขาที่กว่าจะรู้ตัวว่าถูกจับได้ก็ตอนที่เจ็บตัวร้องโอดโอยออกมานั่นเอง
“โอ๊ย!!!”