เฉิ่มได้อีก 2

2541 Words
เมื่อลิฟต์ตัวหรูเคลื่อนลงมาถึงชั้นล่างสุด เท้าเรียวเล็กของ          แก้วกัญญาก็ก้าวออกมาอย่างไม่เร่งรีบ ใบหน้าค่อนข้างมันหันกลับไปมองร่างสูงด้านหลังที่กำลังจะเดินแยกออกไปยังลานจอดรถ หญิงสาวเห็นเขายกโทรศัพท์ขึ้นกดทันทีที่ออกมาจากลิฟต์ ขณะที่หล่อนกำลังนับหนึ่งถึงสิบในใจอย่างระงับความตื่นเต้น  เมื่อเช้าเรายังไม่ได้ขอบคุณเขาเลย  คิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็งัดเอาความกล้าที่มีอยู่น้อยนิดออกมา แล้ววิ่งตามชายหนุ่มไปทันที  ทว่า...สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้งเข้าจนได้  ณัฐภาคย์หันกลับไปด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว และการชะลอฝีเท้าลงอย่างกะทันหันของเขาทำให้หญิงสาวไม่อาจเบรกไว้ได้ทัน ร่างเล็กจึงชนโครมเข้ากับร่างสูงใหญ่ เป็นเหตุให้โทรศัพท์มือถือสุดหรูของเขาหลุดออกจากมือลงไปกระแทกพื้นดังเปรี๊ยะ!  “ว้าย!”  “เฮ้ย!” ณัฐภาคย์อ้าปากค้าง ดวงตาคมปลาบมองตัวต้นเรื่องสลับโทรศัพท์คู่ใจด้วยสายตาเจ็บปวดกับซากของมัน แล้วกัดฟันพูดออกมาราวกับเสียงกระซิบ...  “เธอทำอะไรลงไป... ยัยเฉิ่ม!”  แก้วกัญญาสะดุ้ง หน้าที่ซีดอยู่แล้วซีดลงอีกเท่าตัว ดวงตากลมโตที่หรี่เล็กกว่าปกติมองเขาอย่างขอโทษ ขณะที่ดวงตาคมกริบถลึงตามองหล่อนราวจะกินเลือดกินเนื้อ “จะรีบไปตายหรือไง! ชนมาได้” ณัฐภาคย์ก้มลงมองโทรศัพท์ที่ลงไปนอนแอ้งแม้งบนพื้นอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนหน้าซีดด้วยสายตาขุ่นขวาง ไม่รู้จะทำอย่างไรกับความซุ่มซ่ามอันดับหนึ่งของหล่อน “เอ่อคือ ลูกแก้ว ขะ... ขอโทษ” แก้วกัญญาขอโทษไปแล้วก็ต้องทำคอย่นอีกเมื่อชายหนุ่มหันกลับมามองตาเขียวปัด! “ขอโทษแล้วโทรศัพท์ของผมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหมคุณเฉิ่ม!” ณัฐภาคย์กัดฟันพูด ดวงตาคมเข้มมองราวกับจะแผดเผาให้มอดไหม้ไปเสียเดี๋ยวนั้น  จะไม่ให้โกรธได้ยังไง ในเมื่อเขากำลังคุยธุระสำคัญเกี่ยวกับงานถ่ายแบบชิ้นล่าสุด แล้วแม่นี่ก็นึกบ้าอะไรไม่รู้ วิ่งมาชนซะงั้น คราวนี้จะทำไง บ้าชะมัด! “เอ่อถ้างั้น เดี๋ยวคุณแสบเอ้ย! คุณณัฐภาคย์เอาของลูกแก้วไปใช้ก่อนก็ได้ค่ะ” ว่าแล้วหญิงสาวก็ล้วงกระเป๋าควานหาโทรศัพท์ราคาไม่กี่พันออกมายื่นให้เขา ขณะที่ชายหนุ่มมองโทรศัพท์สลับใบหน้าหล่อนราวกับว่าเขาได้พบเจอสิ่งประหลาดนอกโลกอย่างไรอย่างนั้น กระนั้น มือเรียวยาวของเขาก็ค่อยๆ เอื้อมไปคีบมันมาจากมือหญิงสาวก่อนจะยกขึ้นมาพลิกซ้ายพลิกขวา พิจารณาดูว่า มันยังใช้การได้อยู่ใช่ไหม  ชายหนุ่มก้มลงมองหล่อนอีกครั้งก็พบว่าหญิงสาวกำลังยิ้มให้เขาอย่างเต็มใจสุดชีวิต ทว่าชายหนุ่มกลับยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าหล่อนแล้วเอ่ยปากถาม “เธอบอกฉันสิ ว่ามันยังใช้งานได้จริงๆ ใช่ไหม”  ณัฐภาคย์สบตาหล่อนตรงๆ อย่างเอาเรื่อง ขณะที่แก้วกัญญาทำตาโต รีบบอกสรรพคุณอันมีประโยชน์มากมายก่ายกองแก่เขาทันที “ได้สิคะ ได้หลายอย่างเลย โทร.ออกได้ รับสายได้ คิดเลขได้เล่นเกมได้ เกมงูค่ะลูกแก้วเล่นเป็นประจำเลย มีไฟฉายด้วยนะคะ และก็ยังมี…”  “พอเถอะ!” แก้วกัญญาหุบปากฉับเมื่อเขายกมือห้าม “ฉันไม่อยากฟัง ขอบคุณในน้ำใจอันงดงามของเธอนะ แต่เก็บเอาไว้ใช้เองเถอะ ฉันไม่กล้าถือ!” ณัฐภาคย์ส่งโทรศัพท์รุ่นเก่าขาวดำคืนให้ ก่อนจะส่ายหน้าอย่างหงุดหงิดเป็นกำลัง  ให้ตายสิยัยบ๊อง นอกจากเฉิ่มแล้วยังบ๊องอีก คนระดับเขาจะให้ทนใช้โทรศัพท์รุ่นเก่ากึ้กขนาดนี้ได้ยังไง แม่นี่เอาอะไรคิดวะเนี่ย?! “แล้วคุณจะใช้ที่ไหนล่ะคะ” หญิงสาวสอบถามด้วยความเป็นห่วง ซ้ำยังรู้สึกผิดไม่วายที่เป็นต้นเหตุ “ฉันมี” เขาตอบพลางก้มลงมองโทรศัพท์ยี่ห้อดังที่ตอนนี้หน้าจอแตกยับ และภายในก็คงไม่เหมือนเดิมหรือใช้งานไม่ได้อีกต่อไปด้วยสายตาวาววับ โมโหวาบขึ้นมาอีก “ละ... แล้ว เครื่องนี้ล่ะคะ” แก้วกัญญาถามพลางมองโทรศัพท์บนพื้นอย่างกริ่งเกรงสายตาชายหนุ่ม “ทิ้ง!” คำตอบของเขาทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองตาโตรู้สึกแสนเสียดาย ก่อนจะละล่ำละลักพูดออกไป “อะไรนะคะ! ทิ้งเหรอคะ? น่าเสียดายออกค่ะ ถ้าเอาไปซ่อมก็คง…” “ไม่ต้อง! แล้วเธอก็จัดการเอาไปทิ้งเสียด้วย ที่สำคัญไปกว่านั้น…”  ชายหนุ่มหยุดมองดวงตากลมโตแป๋วแหววที่มองสบมาอย่างตั้งใจฟังตรงหน้าก่อนจะหักยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย แต่กลับสร้างความปลื้มเปรมให้หญิงสาวอย่างมหาศาล  นั่น เขายิ้มให้เราด้วย กรี๊ดดด!!  ทว่าคำพูดต่อมาทำให้หล่อนหุบยิ้มแทบไม่ทัน “เธอจะต้องรับผิดชอบ โดยการไปซื้อเครื่องแบบนี้! รุ่นนี้! และยี่ห้อนี้มาคืนฉันภายในสามวัน!”  สิ้นเสียงทุ้มหนักของณัฐภาคย์ ลมสว้านก็ตีขึ้นจนแก้วกัญญาแทบล้มพับ ริมฝีปากบางอิ่มเผยอค้าง ต่างจากที่ริมฝีปากสีแดงเรื่ออย่างคนมีสุขภาพดีของชายหนุ่มแย้มยิ้มจนเห็นไรฟันขาวสะอาด ก่อนจะหมุนตัวตรงไปยังลานจอดรถอย่างรวดเร็ว  สามวัน! สามวันเหรอ.. ไม่นะ แล้ว... แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อของแบบนี้ให้เขากันล่ะ แค่ทุกวันนี้ก็ต้องกระเบียดกระเสียรจนแทบจะแย่อยู่แล้ว  คิดได้ดังนั้นก็รีบวิ่งตามไปด้วยความร้อนใจอีกครั้ง ชายเสื้อสูทตัวหรูที่ถูกเหนี่ยวรั้งจากด้านหลังทำให้ณัฐภาคย์หันกลับไป แล้วต้องขมวดคิ้วมุ่นอย่างหงุดหงิดเป็นกำลัง ดวงตาสีเข้มหลุบมองหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าด้วยสายตาเป็นคำถามปนหงุดหงิด ก่อนจะหลุบตาลงมองมือที่ดึงชายเสื้อเขาไว้ด้วยดวงตาขุ่นขวาง แก้วกัญญาเห็นสายตานั้นแล้วก็ปล่อยมือของตนจากชายเสื้อเนื้อดีพร้อมกับกลืนน้ำลายอย่างฝืดๆ “มีอะไร!”  “เอ่อ…  คือลูกแก้ว…  คือ…” แก้วกัญญาพูดไม่ทันจบก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกฝ่ายหันมาตะคอกด้วยอารมณ์กราดเกรี้ยว “จะพูดอะไรก็พูด! อย่ามาทำอ้ำๆ อึ้งๆ ฉันเสียเวลากับเธอมาเยอะแล้ว”  ได้ยินน้ำเสียงกราดเกรี้ยว แก้วกัญญาก็กลัวจนหัวหด รู้อยู่หรอกว่าเขาอารมณ์เสียก็เพราะหล่อน แต่ไม่เห็นต้องตะคอกแบบนี้เลยนี่นา... “คือลูกแก้วจะบอกว่า ลูกแก้วไม่มีเงินซื้อโทรศัพท์ให้คุณใหม่หรอกค่ะ”  เมื่อแก้วกัญญาพูดจบบรรยากาศโดยรอบก็เงียบลงจนรู้สึกได้ถึงความวังเวง  ณัฐภาคย์ใช้เวลาอันเงียบงันนั้นสำรวจแก้วกัญญาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอีกครั้ง จากแววตาหงุดหงิดก็เปลี่ยนเป็นมองประเมิน มองนิ่ง มองนาน มองราวกับจะให้ทะลุไปถึงไหนๆ จนหญิงสาวรู้สึกร้อนฉ่ากับวิธีการมองของเขาที่ราวกับจะเปลื้องผ้าหล่อนออกทีละชิ้น! แววตาแบบนั้นทำให้หญิงสาวเขินอายเป็นอย่างมาก และอาการของหญิงสาวเองก็ไม่ได้รอดพ้นสายตาของชายหนุ่มมากประสบการณ์เรื่องผู้หญิงอย่างเขาไปได้เช่นกัน  ริมฝีปากได้รูปจึงบิดขึ้นราวจะยิ้ม รู้มานานว่าหญิงสาวเฉิ่มเชยตรงหน้านี้แอบปลื้มตน แรกๆ เขาไม่ได้ใส่ใจ แต่เพื่อนร่วมงานเป็นคนมากระซิบข้างหูว่ายัยเฉิ่มแอบชอบเขาอยู่ ตอนนั้นเขาได้แต่หัวเราะด้วยความขบขัน แต่วันนี้ ตอนนี้และวินาทีนี้เขาพยายามมองหาความสวยเซ็กซี่และความอึ๋มอย่างที่เขาชอบ  แต่… หายังไงก็หาไม่เจอ!  ในเมื่อหล่อนบอกไม่มีเงิน เขาจึงพยายามมองหาทางออกแฟร์ๆ ให้ ทว่าทางแรกนั้นหล่อนก็หมดสิทธิ์ลงโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาดูกันยาวๆ เพราะจากที่สำรวจด้วยตาเปล่าหล่อนไม่อาจอยู่ในตำแหน่งผู้หญิงคลายเหงาให้เขาได้เลย นอกจากความเฉิ่มเชย โก๊ะกังที่ทำให้เขาเป็นโรคประสาทได้แล้ว เสน่ห์และแรงดึงดูดทางเพศของหล่อนยังติดลบ ดีไม่ดีอาจจะทำให้กามของเขาตายด้านได้ในระยะอันรวดเร็ว ซึ่งเขาไม่อาจเอาตำแหน่งหนุ่มนักรักสุดฮ็อตมาเสี่ยงกับแม่คนนี้ได้เด็ดขาด! ในระหว่างที่ณัฐภาคย์กำลังขบคิดหาทางออกสำหรับการชดใช้อย่างสมน้ำสมเนื้อนั้น แสงสว่างก็วาบเข้ามาในหัวของเขาเวลานั้น!  ห้องชุดของเขาตั้งอยู่บนคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จะเรียกที่นั่นว่าบ้านคงไม่ผิดนัก เพราะเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวที่เขาไม่เคยยอมให้ใครเข้าไปวุ่นวายแม้แต่สาวคู่ควงยกเว้นแม่บ้านทำความสะอาด และถ้าเขาจะพาสาวสักคนไปทำเรื่องอย่างว่า ก็มักจะใช้บริการโรงแรมระดับห้าดาว เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้หญิงที่เขาควงไม่เป็นดาราก็นางแบบ  ดวงตาคมกริบปรายตาไปยังแก้วกัญญาอีกครั้ง เขาครุ่นคิดหนักหน่วงว่าสิ่งที่กำลังตัดสินใจลงไปนั้นถูกหรือผิด... ณัฐภาคย์ก้มลงมองคนตัวเล็กตรงหน้าก่อนจะยิ้มน้อยๆ เมื่อตัดสินใจได้ ขณะที่คนรอคอยให้เขายืนนึกอะไรต่อมิอะไรมายาวนานเหลือเกินมองเขาอย่างใจชื้น  เขาคงอารมณ์ดีขึ้นแล้วแน่ๆ เลย เฮ้อ ค่อยยังชั่ว!  “ฉันรู้แล้วว่าจะให้เธอทำอะไรเพื่อชดใช้” พูดจบคนมากเสน่ห์ก็ยักคิ้วหลิ่วตาให้ ทำเอาหัวใจดวงน้อยๆ ของหญิงสาวซาบซ่านแทบจะละลายกลายเป็นวุ้นที่คลายตัว... “อะ... อะไรเหรอคะ ถ้าลูกแก้วทำได้ ลูกแก้วยินดีทำเต็มที่เลยค่ะ” รอยยิ้มของหญิงสาวสดใส น้ำเสียงก็เช่นกัน... และนั่นทำให้ชายหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างพอใจ “ดี... งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอต้องไปเป็นแม่บ้านทำความสะอาดที่ห้องของฉันทุกวัน จนกว่าฉันจะพอใจ!”  คำสั่งของเจ้าหนี้รูปหล่อทำเอาแก้วกัญญาตาเหลือก “ทุกวัน!” “ใช่ ทุกวัน!” ชายหนุ่มกอดอกยิ้ม แต่หญิงสาวกลับหน้าจ๋อย “ทุกวันคงไม่ได้หรอกค่ะ ขอเป็นวันเสาร์อาทิตย์แทนได้ไหมคะ พอดีว่าลูกแก้วต้อง...”  “ไม่ได้!” ชายหนุ่มตัดบทอย่างคนเอาแต่ใจ “เธอเป็นคนผิด ไม่มีสิทธิ์มาต่อรองอะไรทั้งนั้น! เลือกเอาแล้วกันว่าจะทำความสะอาดหรือชดใช้เป็นเงิน!”   เขาพูดอย่างไม่เห็นใจ ขณะที่แก้วกัญญาตาทำตาแดง “แต่ว่าลูกแก้วต้องทำงานพิเศษหลังเลิกงานทุกวันเหมือนกันนี่คะ ให้ทำอย่างอื่นได้ไหมคะ” หล่อนต่อรองเสียงเบา “ไม่ได้” ชายหนุ่มยืนกรานหนักแน่น “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ ถ้าไม่ทำงั้นก็จ่ายมาสามหมื่น!”  ณัฐภาคย์แบมือออกไปตรงหน้า ทำเอาลูกหนี้สาวจอมเฉิ่มถึงกับอ้าปากค้างทำตาถลนออกมาทันที  “สามหมื่น!!” ไอ้หยา! สามหมื่น! เงินขนาดนั้นเอาไปซื้อมอเตอร์ไชค์ตกรุ่นได้คันหนึ่งเชียวนะ หญิงสาวเข่าอ่อนเมื่อได้ยินยอดหนี้ที่ต้องจ่าย... “เอ่อ... ลูกแก้วไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกค่ะ” คำตอบของหญิงสาวทำให้คนที่กอดอกรอฟังกระตุกยิ้มแล้วหัวเราะหึๆ อย่างรู้ทัน “ก็เพราะงั้นนั่นแหละ ฉันถึงยอมให้เธอเป็นแม่บ้าน” พูดจบชายหนุ่มก็เดินนำไปยังรถยนต์สุดหรู เขาเข้าไปสตาร์ตเรียบร้อย แล้วหันไปมองคนตัวเล็กที่ยืนเก้ๆ กังๆ ณัฐภาคย์ส่ายศีรษะอย่างเซ็งๆ แล้วยกขาลงมาจากรถข้างหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นแล้ววางแขนลงบนหลังคาพร้อมกับเรียกหล่อน “เอ้า! ยื่นเซ่ออยู่นั่นแหละ มาขึ้นรถสิ”  แก้วกัญญาอ้ำอึ้งและอึกอัก ไม่เข้าใจ ไม่แน่ใจและไม่รู้ต้องทำอย่างไรจึงถามออกไปว่า “หะ...ให้ลูกแก้วไปด้วยเหรอคะ” คนถามหน้าตาเหลอหลา ในขณะที่ณัฐภาคย์ถอนหายใจเสียงดังเฮือก “ก็ใช่น่ะสิ ฉันบอกว่าวันนี้ เพราะฉะนั้นเธอก็ต้องไปกับฉันตอนนี้ รู้แล้วก็มาขึ้นรถ!” ชายหนุ่มบ่นอุบ หญิงสาวใจเต้นรัว เริ่มมองหาที่นั่งของตนอย่างไม่แน่ใจอีกครั้ง  หล่อนไม่กล้าเซ้าซี้ จึงคิดเอาเองอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวพร้อมกับตัดสินใจเปิดประตูสำหรับผู้โดยสารด้านหลังแล้วรีบตะเกียกตะกายขึ้นไปนั่งป้อมพร้อมปิดประตูดังปังอย่างลืมตัว  ไอ้หยา! แรงไปตายแน่ ถลอกไหม...  ว่าแล้วก็รีบก้มหาร่องรอยขีดข่วน ขณะที่เจ้าของรถก็ได้แต่กุมขมับ รู้สึกปวดหัวจี๊ดขณะหันไปมองคนนั่งเป็นคุณนายอยู่ด้านหลัง แล้วปล่อยให้เจ้าของรถยนต์ต้องกลายเป็นคนขับรถด้วยสายตาวาววับ เริ่มนับหนึ่งถึงสิบในใจก่อนจะเอ่ยปากออกไปด้วยน้ำเสียงสุภาพเกินปกติว่า... “คุณเฉิ่ม! กรุณาย้ายมานั่งด้านหน้าด้วยครับ…”  สิ้นเสียงทุ้มหญิงสาวก็นิ่งงัน ก่อนที่จะตอบเสียงอ่อยออกมาอย่างเจียมตัวเพราะตระหนักดีว่าเวลานี้หล่อนคือผู้อาศัย! “เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะ ลูกแก้วเกรงใจ ขอนั่งข้างหลังดีกว่า”  ให้ตายเถอะ ฟังหล่อนพูดออกมาสิ! หล่อนบอกเกรงใจ แต่เขาต้องกลายเป็นคนขับรถเนี่ยนะ?  ชายหนุ่มตั้งสติใหม่ หันกลับไปมองพวงมาลัย ส่ายหน้าพร้อมกับดุนลิ้นไปทั่วกระพุ้งแก้มก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนล้า จนเมื่อมั่นใจว่าเขาจะไม่กัดหล่อนแล้ว จึงหันไปยิ้มหวานเจี๊ยบให้กับอีกฝ่ายพลางบอก “ไม่ต้องเกรงใจครับ และก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน เพราะว่าอะไรรู้ไหม…”  หญิงสาวมองเขาตาปริบๆ ก่อนส่ายหน้ายิ้มเขิน ณัฐภาคย์พยักหน้ายิ้มๆ รับรู้ว่าเขากำลังเจอกับอะไร ก่อนตอบออกมาว่า “คำตอบคือ... เพราะฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอน่ะสิ! ได้ยินชัดแล้วก็ช่วยย้ายก้นของเธอมานั่งข้างหน้าเดี๋ยวนี้!”  ชายหนุ่มพูดรัวเร็วเกือบเป็นตะโกน ทำให้แก้วกัญญาลนลานออกจากเบาะหลังวิ่งมาเปิดประตูหน้าแล้วก้มมองเขาทีหนึ่งก่อนจะหย่อนก้นลงไปบนหนาเบาะนุ่มพร้อมกับหัวใจดวงน้อยที่เต้นระรัว!  ก็ใครจะไปรู้ล่ะ กลัวว่านั่งหน้าก็จะหาว่าเจ๋ออีก คนอะไรก็ไม่รู้ดุชะมัด  หญิงสาวดึงประตูปิดลงอย่างเบามือ ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งจ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อแล้วใจหล่นตุ้บ “รัดเข็มขัดซะด้วย ฉันขี้เกียจไปเสียค่าปรับที่โรงพัก วันนี้ฉันเสียเวลากับเธอมามากพอแล้ว”  ว่าแล้วหนุ่มหล่อเจ้าอารมณ์ก็ขับรถออกไปอย่างนุ่มนวลผิดกับอารมณ์ของเจ้าตัวลิบลับ หญิงสาวจึงลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก รู้สึกเป็นครั้งแรกว่าไม่อยากได้ยินเสียงหล่อๆ ของเขาอีก... 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD