ชายแซ่หลี่

1611 Words
" ทูลองค์ชายสิบสาม หญิงงามผู้นั้นคือแม่ทัพซูเหมยลี่ที่พึ่งกลับมาจากชายแดนพ่ะย่ะค่ะ " องค์ชายสิบสามนามว่า หลี่มู่เฉิน รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ ผิวขาวอมชมพูราวลูกหมู ดวงตาเป็นประกายยามได้ทราบชื่อแซ่ของหญิงงาม ที่กำลังเลือกเครื่องประดับอยู่ภายในร้านพ่อค้าพลอยชื่อดังใจกลางเมืองหลวง ลืมไปเสียสนิทว่าตนก็มาหาซื้อปิ่นสักอันเป็นของขวัญให้นางสนมคนโปรดเช่นกัน ตอนนี้กลับถูกใจบุตรสาวตระกูลซูผู้นี้เสียจนไม่อาจละสายตา หากได้รับนางเข้าวังมาเป็นสนมอีกสักคนคงอิ่มใจไม่น้อย " ข้าอยากเข้าไปพูดคุยกับนางสักหน่อย " " เกรงว่าจะไม่งาม... " " ไม่งามอะไรกันเล่า งามออกปานนี้ ! " ไม่รอช้าองค์ชายสิบสามพระโอรสคนโปรดของฮ่องเต้ ก็ขยับกายอ้วนพลุ้ยเดินตรงไปที่ซูเหมยลี่และสาวใช้ติดตามทันที เมื่อเขาแสดงตัวนางจึงต้องค้อมศีรษะถวายพระพรให้อย่างเสียไม่ได้ " องค์ชายสิบสามหลี่มู่เฉินเสด็จ~ " " ซูเหมยลี่ถวายพระพรองค์ชายสิบสาม " " ไม่ต้องมากพิธี ข้าได้ยินชื่อเสียงเรียงนามแม่ทัพซูมานาน หากอยากได้เครื่องประดับชิ้นใดบอกข้าเถิด ทั้งหมดในร้านนี้ย่อมได้ ขอมอบเป็นสินน้ำใจจากข้า " ซูเหมยลี่อึกอัก นางออกมาเปิดหูเปิดตานอกจวน หลังจากนอนเกียจคร้านเป็นหมูมาหลายวัน วันนี้เพียงอยากได้ปิ่นปักผมสวย ๆ สักอันติดมือก่อนกลับ ไม่นึกว่าจะได้มาพบองค์ชายท่านหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งตัว " เกรงว่าจะไม่เหมาะสม หม่อมฉันขอตัวกลับจวนก่อนเพคะ " แม่ทัพหญิงปฏิเสธอย่างสุภาพ นอกจากของบำเหน็จจากทางการ ของขวัญอื่นจากบุรุษเพศ สตรีที่ยังไม่ออกเรือนอย่างซูเหมยลี่ไม่ควรรับสุ่มสี่สุ่มห้าตามอำเภอใจ เรื่องนี้ซูฮูหยินกำชับหนักแน่น หากมีใครใคร่สู่ขอบุตรสาวตระกูลซู ให้ส่งแม่สื่อมาเจรจาที่จวนอย่างถูกต้องเท่านั้น แต่คุณชายหลี่คนนั้นก็ส่งแม่สื่อมามอบของขวัญถูกต้องที่จวนทุกอย่าง ทำไมท่านแม่จึงไล่เขาเล่า ดูคุณชายหลี่อ้วนคนนี้ซี หน้าด้านถึงขนาดจะมอบเครื่องประดับทั้งร้านให้นาง ต่อหน้าธารกำนัลที่กำลังยืนจับกลุ่มซุบซิบทีเดียว " ไม่เหมาะสมอย่างไรกัน หญิงงามเช่นท่านย่อมคู่กับเครื่องประดับแวววาว " " ขอองค์ชายโปรดระวังวาจา หม่อมฉันเป็นสตรีที่ยังไม่ออกเรือนเพคะ " " เช่นนั้นให้ข้าได้ส่งแม่สื่อไปที่จวนตระกูลซูอย่างถูกต้องดีหรือไม่ " ซูเหมยลี่กัดฟัน.... ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นองค์ชายสูงศักดิ์ กระบี่สั้นที่เหน็บเอวมาคงได้ปลดมาปาดคอหลี่มู่เฉินเป็นแน่แท้ เขาแสดงออกทางสีหน้าโดยไม่ปิดบังว่าถูกใจนาง อีกทั้งยังพูดจาดูแคลนจะสู่ขอนางเข้าวังต่อหน้าผู้คน ราวกับนางเป็นสตรีที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้เดี๋ยวนี้ เพียงแค่ส่งแม่สื่อไปสู่ขอเท่านั้น คิดว่าจะง่ายถึงเพียงนั้นหรือ ? " มิบังอาจรับน้ำใจจากองค์ชาย หม่อมฉันทูลลา " แม่ทัพหญิงถอนสายบัวค้อมลงด้วยสีหน้าเรียบเฉย เม้มริมฝีปากอิ่มระงับโทสะ เมื่อผู้คนทั่วไปเริ่มให้ความสนใจการเกี้ยวพาราสีอย่างโจ่งแจ้งเปิดเผยขององค์ชาย เขาไม่ได้ฉุดรั้งนางไว้ อีกทั้งหัวเราะอย่างอารมณ์ดี " เอาเถอะ แม่ทัพซูไม่ต้องเขินอายไป เอาไว้ข้าจะทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้องแน่นอน " เขินอายกับผีน่ะสิ กระบี่ข้าสั่นไปหมดแล้ว ! " เสี่ยวผิง เสี่ยวลู่ กลับจวน ! " " หนอยไอ้อ้วนหมูตอนนั่น ! " เมื่อหนีสถานการณ์ชวนอึดอัดใจกลับมาได้ถึงหน้าจวนตระกูลซู ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่นานแท้ ๆ แต่ซูเหมยลี่กลับพบว่ามีแม่สื่อจากวังหลวง มายืนเจรจากับท่านแม่อยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของจวนเสียแล้ว หญิงสาวได้ยินเสียงแม่สื่อชรากล่าวแว่ว ๆ ว่ามาจากตำหนักองค์ชายสิบสาม ก็ถึงกับสบถด่าหยาบคาย จนสาวใช้ต้องรีบกันช่วยตะครุบตัวปิดปากคุณหนูตระกูลซูทันที " ทั้งหมดนี้เป็นทองพันชั่ง และผ้าแพรพรรณราคาแพง ซูฮูหยินโปรดพิจารณาเถิด " " เกรงว่าองค์ชายสิบสามจะทรงพระทัยร้อนเกินไป บุตรสาวของเรามีภาระบ้านเมืองเต็มบ่า คงไม่อาจเป็นนางสนมที่ดี " ซูฮูหยินพยายามปฏิเสธอย่างใจเย็น เมื่อเห็นว่าบุตรสาวยืนมองอยู่ไกล ๆ หลังขบวนแม่สื่อ จึงได้รีบส่งสายตาไปทางทิศเหนือของจวน เป็นสัญญาณว่าให้หลบหนีเข้าจวนไปทางประตูเล็กเสีย " ไม่เอาน่าซูฮูหยิน หรือว่าสินสอดเพียงเท่านี้ยังไม่มากมายพอ เพียงท่านบอกความต้องการ องค์ชายล้วนจัดหาให้ท่านแน่นอน " หญิงวัยกลางคนคิ้วกระตุก เรื่องข้าวของเงินทองไม่ได้สำคัญนัก ตระกูลซูมีกินมีใช้จนล้นเหลือ แต่ชื่อเสียงของผู้มาสู่ขออย่างองค์ชายสิบสามนั้นเลื่องลือเรื่องมากมีนางสนมอุ่นเตียง การงานใดของแผ่นดินล้วนไม่มีส่วนช่วยจับต้อง เจ้าสำราญกินใช้ทรัพย์สินท้องพระคลังตามใจ เนื่องด้วยเป็นพระโอรสที่ฮ่องเต้ทรงโปรดปราน แม้แต่องค์ชายรัชทายาทคนปัจจุบันอย่างองค์ชายแปดยังไม่เป็นที่โปรดปรานเท่า ขืนยอมรับสินสอดก็เท่ากับส่งลูกสาวคนเดียวไปเป็นนางบำเรอกามน่ะสิ ! " ตระกูลซูไม่ต้องการสิ่งใด นอกจากบุตรเขยที่เหมาะสมกับแม่ทัพซู เข้าใจในหน้าที่การงานของนาง ไม่ใช่ให้นางรอรับใช้ หรือเป็นแม่บ้านแม่เรือน " " เป็นนางสนมองค์ชายสิบสามนั้นแสนสบายไปทั้งปีทั้งชาติ จะต้องไปจับมีดจับดาบทำไมกันเล่าซูฮูหยิน " " ขออภัยที่บุตรสาวตระกูลซูชอบจับดาบสังหารคน กับองค์ชายสิบสามนางคงไม่กล้าล่วงเกิน แต่กับแม่สื่อที่ไม่มีตำแหน่งสำคัญอะไร ก็ไม่แน่ว่า... " " เช่นนั้นวันนี้ข้าขอตัวก่อน หากองค์ชายสิบสามยังยืนยันหมั่นเหมาะจะมาเยี่ยมเยียนใหม่ " แม่สื่อชราเมื่อรู้ตัวว่าตนเองชักพูดจาไม่เข้าหู จึงรีบถอยทัพหนี ปกตินางใช้วิธีพูดข่มขวัญให้พวกบ้านตระกูลต่าง ๆ ยอมสวามิภักดิ์องค์ชายจนเคยชิน นึกไม่ถึงว่าตระกูลซูจะถือเนื้อถือตัวขนาดนี้ " ท่านแม่ นางไปแล้วหรือเจ้าคะ " ซูเหมยลี่โผล่ใบหน้าออกมาจากหลังบานประตูจวน เมื่อเห็นขบวนแม่สื่อเก็บของกลับวัง หญิงสาวถอนหายใจโล่งอก โชคยังดีที่มารดาของนางมีไหวพริบ หากเป็นบางตระกูลเพียงเห็นว่าเป็นแม่สื่อวังหลวงคงดีใจเสียจนเนื้อเต้น รีบตอบตกลงโดยไวไปแล้ว " ลูกเคยพบองค์ชายสิบสามหรือ เขาถึงได้มาสู่ขอ " " พึ่งพบโดยบังเอิญเมื่อครู่ที่ร้านเครื่องประดับเจ้าค่ะ เจอกันเพียงครั้งเดียว เขาก็พูดต่อหน้าผู้คนว่าจะให้แม่สื่อมาเจรจา ไม่คิดว่าจะมาเร็วเพียงนี้ " " บ้ากามเสียจริง ! " ซูฮูหยินรีบเดินเข้ามาสบถในตัวบ้าน บุตรสาวเองก็พยักหน้าเห็นด้วย คิดถึงเหตุการณ์และสายตาหยาบโลนในร้านเครื่องประดับแล้วก็ยังขนลุกไม่หาย หากให้นางไปเป็นสนมของเขา สู้ให้นางปราบโจรอยู่ที่ชายแดนชั่วชีวิตยังดีเสียกว่า " ว่าแต่...ครั้งก่อนมีคุณชายแซ่หลี่ส่งแม่สื่อมามอบของกำนัล ทำไมท่านแม่จึงไล่ไปหรือเจ้าคะ " การมอบของกำนัลกับการสู่ขอนั้นต่างกัน หากเพียงแค่มอบของกำนัลเพื่อขออนุญาตครอบครัวฝ่ายหญิงให้ได้ทำความรู้จักกัน ก็มักจะส่งมอบมาเป็นเพียงของขวัญชิ้นเดียว รับไว้ก็ไม่ได้เสียหายสิ่งใด หากได้ทราบชื่อแซ่ของฝ่ายชายไปพิจารณาแล้วพึงพอใจ ค่อยแจ้งให้เขามาสู่ขอทีหลังย่อมได้ " แม่เห็นว่าลูกพึ่งกลับมาเหนื่อย ๆ จึงไม่อยากรีบร้อน ให้เจ้าพักผ่อนจนพอใจค่อยตัดสินใจยังไม่สายนัก " " ตอนนี้ลูกนอนพักจนตัวพองเป็นหมูสามชั้นแล้วเจ้าค่ะ แต่หากเป็นองค์ชายสิบสามผู้นี้ ลูกก็ขอนอนพักตลอดไป " มารดายิ้มขบขัน พยักหน้ารับความจำนงที่บุตรีแจ้งไว้ หากแม่สื่อขององค์ชายสิบสามหลี่มู่เฉินจะมาอีกร้อยครั้ง นางก็จะปกป้องลูกสาวร้อยครั้งเช่นกัน ซูเหมยลี่จะต้องได้ตบแต่งกับบุรุษที่สุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรง รวมถึงมีหน้าที่การงานมั่นคง สร้างประโยชน์ให้ราชสำนักและแผ่นดินมังกรได้ยิ่งดี หากเก่งการต่อสู้ก็ยิ่งประเสริฐล้ำ แบบนั้นจึงจะเหมาะสมกับแม่ทัพซูเหมยลี่ " แค่ก ! " " ทูลท่านอ๋อง ของกำนัลที่ถูกปฏิเสธมา ลองส่งไปอีกสักครั้งดีหรือไม่ " กล่องไม้เก่าดูไร้ราคา ภายในบรรจุปิ่นปักผมทองคำสลักลวดลายหงส์ฟ้า ถูกส่งมอบคืนจากแม่สื่อที่หลิวจื่อหลิงไหว้วาน ท่านอ๋องผู้เป็นเจ้าของสำลักไอเบา ๆ หนึ่งครั้ง ก่อนปรายตามามองแล้วส่ายหน้า ไม่มีวาสนาก็แล้วไป เขาเพียงแค่อยากส่งคืนเจ้าของก็เท่านั้น " เช้านี้อากาศหนาวเสียจริง " " ทูลท่านอ๋อง...ก็ท่านมานอนเอนกายอยู่บนสะพานไม้เช่นนี้ ด้านล่างเป็นบ่อน้ำเย็นสะท้าน ย่อมไม่ดีกับร่างกาย " " ปลาพวกนี้ยังแหวกว่ายได้ไม่เห็นเป็นไร... " หลิวจื่อหลิงถอนหายใจอ่อน ปลาหลากสีที่ว่ายวนเวียนอยู่ใต้สะพานไม้ยังแข็งแรงกว่าเจ้านายของเขาไม่รู้กี่เท่า คนที่แค่ลมหนาวพัดกระทบกายก็สลบไสลไปสามวัน จะมาเทียบกับปลาพวกนั้นได้อย่างไร " แค่ก ! โอ้..เลือดกำเดาไหลเสียแล้ว... "
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD