สองเท้าเล็กๆของเด็กสาวในวัย 17 ปีวิ่งออกจากบ้านมาด้วยความเร็ว เธอกำลังเอาชีวิตรอดจากพ่อเลี้ยงใจร้าย มาเบลล์วิ่งไปด้วยหันมองทางด้านหลังไปด้วยเธอใช้ทั้งสติและเรี่ยวแรงทั้งหมดไปจดจ่ออยู่ที่ความเร็วในการวิ่งเมื่อเห็นร่างสูงที่ใส่เสื้อสีขาววิ่งออกมาจากความมืดกลางซอย
หมับ!
กรี๊ดดดด!
“ ไอ้ชาติชั่วปล่อย ปล่อย! ” ป้องภพที่แข็งแรงกว่า ขายาวกว่า วิ่งตามเธอแค่ไม่กี่นาทีก็จับตัวเธอได้ง่ายๆ มาเบลล์ร้องกรี๊ดด้วยความตกใจกลัว น้ำตาไหลอาบสองแก้มของเธอ เขากอดรัดเธอแน่นอยู่กลางถนนในซอย ลมหายใจของเขาเป่ารดต้นคอกับกลิ่นเหล้าจางๆมันทำให้เธออยากจะขย้อนอาหารที่กินไปวันนี้ออกมาซะจริง
“ จริงๆหนูควรจะทำดีกับฉันให้เยอะๆนะ เพราะถ้าไม่มีฉันที่ซุกหัวนอนหนูก็ไม่มี ลำพังแม่หนูที่วันๆเอาแต่เข้าบ่อนคิดเหรอว่ามันจะมีปัญญา ”
คำพูดประโยคนั้นของคนใจชั่วมันทำให้เธอนิ่งไปสักพัก ‘นี่แม่เล่นการพนันเหรอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน’
“ ไม่ใช่เพราะแกเหรอที่แม่ของฉันต้องเป็นแบบนี้ ”
“ หึ! อยากโทษแต่พ่อสิ ก็แม่หนูอยากโง่เองช่วยไม่ได้นะ ” ป้องภพหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนที่เขาจะยิ้มหยันออกมาอย่างนึกสมเพชเด็กปากดีตรงหน้า ‘วันนี้เขาจะสั่งสอนให้เธอหลาบจำว่าอย่ามาดื้อรั้นและปากดีกับเขาอีก’
“ ไปเถอะจ๊ะกลับบ้านไปเล่นอะไรสนุกๆกันดีกว่าอย่าดื้อให้เหนื่อยเลยนะเพราะมันไม่มีประโยชน์ ”
ปัก! ปัก!
เพี๊ยะ!
“ อือ…ปล่อย ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย! ” มาเบลล์ตะโกนเสียงดังร้องให้คนช่วยแต่ทุกบ้านปิดไฟเงียบสนิทไม่มีแม้แต่เสียงหมาเห่า ร่างบางดีดดิ้นจนสุดแรง แต่แรงอันน้อยนิดของเธอไม่ได้ทำให้ฝ่ามือเหนียวๆของเขาเบาแรงจับลงได้เลยกลับกันเขายิ่งจับเธอแน่นขึ้นด้วยความบังเอิญในจังหวะที่เธอพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากเขามือเล็กๆฟาดลงบนแก้มสากของป้องภพ
“ มึงกล้าตบกูเหรอวะ ” มันแรงพอที่จะทำให้อีกคนรู้สึกเจ็บจนโมโหขึ้นมา ป้องภพจ้องมองหน้าลูกเลี้ยงอย่างเอาเรื่อง
พรึบ!
อ๊ะ!
แคว่ก !
เขาเหวี่ยงร่างบางเข้าไปในพงหญ้าข้างทางก่อนจะลงไปคร่อมร่างเล็กของมาเบลล์เอาไว้ เสียงชุดเดรสที่เธอใส่อยู่ฉีกขาดจากแรงดึงของคนชั่ว เผยให้เห็นอกอวบที่มีชั้นในห่อหุ่มเอาไว้
“ หึ! ซ่อนรูปนี่หว่า ” เขาหัวเราะเบาๆในลำคอและเอ่ยพูดเมื่อเห็นความใหญ่โตที่ซ่อนเอาไว้ภายใน
“ ฮือ…อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ ปล่อยหนูไปเถอะ ฮือ… ” สองมือเรียวยกมือไหว้ขอความอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไป
“ ทำไมต้องปล่อยในเมื่อกูอยากได้ตัวมึง ” ป้องภพที่โมโหจนสุดขีดตะคอกใส่หน้ามาเบลล์ เขาจับข้อมือเล็กสองข้างตรึงไปกับพื้นหญ้า ก่อนจะก้มหน้าลงไปยังซอกคอของเธอ ‘กลิ่นเด็กสาวนี่มันช่างหอมหวนมากเหลือเกิน’
“ อือ .. ปล่อย ! ”
ผลัวะ!
อ๊ากกก!!
มาเบลล์ควานหาสิ่งของข้างๆตัวจนเจอเข้ากับก้อนหินก้อนใหญ่เธอหยิบมันมาฟาดไปที่หัวป้องภพเข้าเต็มแรงจนอีกคนร้องออกมาด้วยความเจ็บเลือดสีแดงสดไหลออกมาตามกรอบหน้าของเขา
พรึบ!
” โธ่เว้ย! อ๊ากกก! “ เมื่อเห็นอีกคนเผลอเธอสะบัดตัวแรงๆและผลักป้องภพออกจากตัวจนเขาล้มลงไปนอนราบบนพื้น มันทั้งเจ็บ ทั้งมึน จนเขาลุกไม่ขึ้น
มาเบลล์วิ่งมาถึงปากซอยริมถนนที่มีรถเล่นผ่านไปผ่านมาค่อนข้างเยอะเธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทั้งที่น้ำตาก็ยังไหลอยู่ไม่ยอมหยุดให้เธอสู้ชีวิตทำงานเลี้ยงตัวเองเธอทำมันได้สบายแต่ถ้าให้เธอต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อยู่บ่อยๆเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดได้ตลอดไปไหม มาเบลล์ทรุดกายลงนั่งยองๆและก้มหน้ากอดเข่าร้องไห้อย่างน่าสงสาร
“ ฮึก..ฮือ.. ทำไมโลกใบนี้มันถึงใจร้ายกับหนูขนาดนี้คะ แด๊ดมารับหนูไปอยู่ด้วยได้ไหม ” คนเดียวที่เธอคิดถึงมีเพียงผู้เป็นพ่อที่จากไปแล้ว
Rrrrr..Rrrrrr
ทว่าในขณะที่ความทุกข์กาย ทุกข์ใจกำลังเล่นงานเด็กสาวอยู่นั้นเสียงมือถือเครื่องเก่าที่เพื่อนเธอให้ก็ดังขึ้นมันไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นเพลงขวัญที่โทรมาตามเวลานัดหมาย มาเบลล์ไม่รอช้ารีบกดรับสายทันที
“ เย้!! รับเร็วทันใจจัง เบลล์ทำอะไรอยู่ ” เพลงขวัญเอ่ยถามด้วยความดีใจเมื่อเพื่อนกดรับสาย เธอเหงาแบบนี้ทุกคืนเวลาที่ต้องอยู่คนเดียว
“ ฮึก..ฮือ ขวัญ ”
“ บะ เบลล์ร้องไห้ทำไม เธอเป็นอะไร ”
“ ฮือ..พ่อเลี้ยงจะข่มขืนฉัน ”
“ ห๊ะ..ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ฉันจะไปหา ” เพลงขวัญร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ
“ ปากซอยบ้าน ฮืออ.. ”
“ รอฉันแป๊บเดี๋ยวฉันไปหา ” เพลงขวัญกดตัดสายไปทันที
ไม่นานวินมอเตอร์ไซค์ก็ขับเข้ามาจอดยังจุดที่มาเบลล์ยืนอยู่ด้วยความรวดเร็วเพลงขวัญรีบจ่ายเงินแล้วสาวเท้าวิ่งเข้าไปสวมกอดเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“ ฮือ ขวัญ ” มาเบลล์ร้องไห้โฮออกมาทันทีเธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมากับอ้อมกอดของเพื่อน ทั้งที่ในตอนนี้เธอทั้งเสียใจและผิดหวังแต่ไร้ซึ่งคนเคียงข้างคงจะมีเพียงแค่เพลงขวัญคนเดียวเท่านั้นที่เป็นห่วงเธอที่สุด
“ มันทำอะไรเธอหรือเปล่า ” เพลงขวัญผละกอดมาเบลล์ก่อนที่เธอจะจับมาเบลล์หันซ้ายหันขวาดวงตาคู่สวย กวาดสายตามองแขนเรียวทั้งสองข้างมีแต่รอยแดงเพราะโดนหญ้าบาดจนมีเลือดไหลซึมออกมา เสื้อผ้าขาดหลุดรุ่ย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง
“ ฉันจะไปจัดการมัน “ เพลงขวัญเมื่อเห็นร่างกายที่มีสภาพยับเยินก็รู้ได้ทันทีว่าเพื่อนเจอกับอะไรมาบาง เธอโมโหจนควันออกหู
” ยะ อย่าขวัญมันไม่คุ้มเสียหรอกเราสู้มันไม่ได้หรอกอย่าไปยุ่งกับเขาเลย “ เธอรู้ว่าพวกเธอสู้อะไรกับคนชั่วคนนั้นไม่ได้
” งั้น ไปแจ้งความตำรวจเบลล์ ตำรวจช่วยเราได้ “
” มะ ไม่ได้นะขวัญ เราเป็นห่วงแม่ “ มาเบลล์รีบเอ่ยห้ามเพื่อนอีกครั้งแม่คงลำบากถ้าเรื่องนี้ถึงตำรวจดีไม่ดีแม่ของเธออาจจะโดนจับไปด้วย ถึงแม้ในตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับแม่ไม่ได้ดีอย่างเมื่อก่อนแต่ยังไงซะ เขาก็คือแม่ของเธออยู่ดี
” งั้น เธอก็ต้องมาอยู่กับฉัน ฉันเป็นห่วง ”
“ ฮือ..ขอบคุณนะขวัญ ฉันไม่มีใครแล้วจริงๆ ” มาเบลล์ไม่ได้อยากอ่อนแอให้ใครเห็นแต่ครั้งนี้มันรุนแรงเกินกว่าที่เธอจะทนเก็บเอาไว้คนเดียวไหว
“ เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ ไปเถอะกลับห้องกัน ” เพลงขวัญจูงมือมาเบลล์เดินกลับหอพักที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก
ภายในห้องพักขนาดเล็กมีเตียงนอนขนาด 3 ฟุตกับห้องน้ำและมีระเบียงเล็กๆถึงแม้มันจะแคบและเล็กมากแต่มันก็ดูสะอาดสะอ้าน
“ ห้องฉันแคบไปหน่อยนะเธออยู่ได้ใช่ไหม ”
“ อือ อยู่ได้ “ มาเบลล์ยิ้มให้เพลงขวัญทั้งที่ดวงตาของเธอก็ยังคงเศร้าหมองจนเพลิงขวัญอดที่จะสงสารเพื่อนไม่ได้
” อย่าคิดมากเลยเน๊อะไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวจะได้ทำแผลดูสิแขนเป็นรอยหมดเลยเจ็บไหม “
“ ไม่เจ็บ ขอบคุณนะขวัญ ”
“ พอแล้วเลิกขอบคุณไปอาบน้ำใส่เสื้อผ้าฉันไปก่อนเดี๋ยววันหยุดฉันจะพาเธอไปเก็บเสื้อผ้าที่บ้านเอง“ เพลงขวัญผลักมาเบลล์เข้าไปในห้องน้ำก่อนจะหันไปหาเสื้อผ้าให้กับเพื่อน
^^