หลังจากทำความสะอาดบริเวณเจดีย์เก็บอัฐิเสร็จมาวินก็พามาเบลล์ขึ้นรถกลับทว่าระหว่างทางออกจากวัดหางตาคมเห็นเข้ากับร่างบางของหญิงสาวที่เขาคลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนมุกดาแม่ของมาเบลล์แต่ที่น่าแปลกใจเหมือนเธอกำลังเดินอยู่กับผู้ชายตัวสูงใหญ่อีก 2 คน
“ มีอะไรรึเปล่าคะ ” มาเบลล์เอ่ยถามคนด้านข้างเมื่อเห็นเขาเอาแต่จ้องมองอะไรสักอย่าง ผ่านกระจกมองหลัง
“ เปล่าครับ คิดว่าคนรู้จักแต่คงไม่ใช่ ” มาวิวตอบน้องทั้งที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก รถหรูขับไปด้วยความเร็วตรงไปบนถนนเส้นหลักมุ่งหน้าไปห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
“ ไปกินข้าวกันก่อนนะครับตั้งแต่เช้าน้องเบลล์ยังไม่ได้กินอะไรเลย ” เขาหันไปบอกน้องที่นั่งนิ่งอยู่ด้านข้าง
“ พี่วินอยากกินอะไรคะ เดี๋ยววันนี้เบลล์เลี้ยงเอง ”
“ ไม่ต้องพี่เลี้ยงเอง ผู้ชายที่ไหนจะให้ผู้หญิงเขาเลี้ยงกัน ”
“ แสดงว่าเลี้ยงข้าวสาวที่มหาลัยบ่อยแน่เลยใช่ไหมคะ ” นิ้วชี้เรียวยาวชี้ไปทางคนขับและเอ่ยถามด้วยความหยอกล้อตามประสา
“ 555 ไม่เคยครับ เสียดายตังค์ ”
“ เอ้า!! ” มาเบลล์ร้องเสียงหลง
“ พี่เลี้ยงแค่น้องเบลล์คนเดียวครับ ” มาวิวตอบน้องทั้งที่สายตาก็ยังคงจ้องมองไปยังถนนเบื้องหน้า จริงอย่างที่มาวินบอกเขาไม่คิดที่จะสนใจและพาสาวคนไหนไปกินข้าวด้วยเลยนอกจากมาเบลล์รุ่นน้องที่เขาแอบสนใจในตัวเธอมาตลอด ทั้งที่ความเป็นจริงมีนักศึกษาสาวหลายคนในมหาลัยสนใจในตัวเขามาก
“ น้องเบลล์คิดไว้บ้างไหมครับว่าจบ ม.6 แล้วจะไปเรียนต่อที่ไหน คณะอะไร ” มาวิวหันไปถามน้องในใจภาวนาให้น้องเลือกเรียนมหาลัยเดียวกันกับเขา
“ ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ แต่มหาลัยที่พี่วินเรียนอยู่ก็น่าเรียนนะคะ ”
“ ไปสิครับ ไปเรียนที่เดียวกับพี่ๆจะได้ดูแลน้องเบลล์ได้ ”
“ เบลล์โตแล้วนะคะ ดูแลตัวเองได้ ”
“ พี่สัญญากับคุณลุงเอาไว้แล้วว่าจะดูแลน้องเบลล์จะให้พี่ผิดสัญญากับผู้ใหญ่เหรอ ” มาวินเอ่ยขึ้นเพราะเขายึดถือ ยึดมั่นในคำสัญญาที่ให้ไว้กับ ดร. มาโดยตลอดและเขาก็ดูแลมาเบลล์ดีมาตลอดเหมือนกัน
“ เรื่องเรียนค่อยว่ากันตอนใกล้จบแต่ตอนนี้เราไปกินอาหารเกาหลีกันไหมคะ..? เบลล์อยากกินมาก ” มาเบลล์เอ่ยขึ้นเธอค่อนข้างสนิทสนมกับมาวินอีกทั้งๆสองก็ไปกินข้าวด้วยกันอยู่บ่อยๆ
“ ครับ “ มาวินรับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะเร่งความเร็วรถขึ้น ไม่นานรถหรูก็เข้ามาจอดยังช่องจอก vip ของห้าง
@ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
มาวินจูงน้องเดินตรงมายังร้านอาหารเกาหลีที่มาเบลล์อยากกินทว่าขณะที่เธอกำลังจะเดินเข้าร้าน
“ มะ แม่ ” มาเบลล์เอ่ยด้วยความตกใจเมื่อเห็นแม่เดินควงกับผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปร้านแบรนด์เนมชื่อดัง
“ พี่วินเดี๋ยวเบลล์มานะคะ ”
“ น้องเบลล์ ! ” มาวินรีบวิ่งตามหลังน้องไปเมื่อน้องสาวเท้าเร็วๆเดินตรงไปยังร้านแบรนด์เนมมาเบลล์ยืนหันซ้ายแลขวาแต่เธอกลับไม่เห็นแม่กับชายคนนั้นทั้งที่เธอเห็นชัดเต็ม 2 ตาว่าทั้งสองเดินเข้ามาร้านนี้
“ อ้าว…ไปไหนซะแล้วละ ” มาเบลล์เอ่ยพึมพำเมื่อเธอไม่เห็นคนที่เธอคิดว่าเป็นแม่ ด้านมาวินก็กวาดสายตามองจนทั่วร้านแต่เขาก็ไม่เห็นใครเลย เช่นกัน
- หลายเดือนผ่านไป -
“ แม่ค่ะ แม่จะเอาของพวกนี้ไปไหนคะ ” มาเบลล์เอ่ยถามเมื่อเห็นมุกดาขนแจกันเก่า รูปภาพตกแต่งบ้านขึ้นรถไปจนแทบจะเต็มรถ หลังจากพี่แย้มลาออกไปมาเบลล์ก็ไม่เหลือใครเลยแม้กระทั่งแม่ของตัวเองเธอเจอแม่แทบจะนับครั้งได้หลังจากที่ผู้เป็นพ่อจากเธอไป เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ทำอะไรอยู่ที่ไหน เธอต้องกิน ต้องนอนคนเดียวทุกคืนมีแค่เพียงมาวินที่ค่อยเป็นเพื่อนพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของเธออยู่ทุกวัน
“ ไม่ใช่เรื่องของแก ” มุกดาเอ่ยตอบลูกสาวด้วยน้ำเสียงเย็นชาเธอไม่มองแม้แต่หน้าของมาเบลล์ แถบสรรพนามที่เรียกเธอก็เปลี่ยนไป
“ แม่ค่ะ พรุ่งนี้จะต้องจ่ายค่าเทอมนะคะ ” มาเบลล์เอ่ยขึ้นเพราะจะต้องจ่ายค่าเทอมของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แล้วเวลาทุกๆนาทีรวดเร็วจนตอนนี้เธอขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แล้ว
สถานภาพทางการเงินของมาเบลล์ก็ไม่ค่อยดีเท่าที่ควรเธอใช้เงินเก็บของตัวเองในการไปกินขนมและจ่ายค่ารถไปโรงเรียนทุกวัน มุกดาไม่เคยหยิบยื่นค่าอะไรให้มาเบลล์เลยเธอเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคน
“ …… ” มุกดาเงียบไม่ปริปากพูดอะไรออกมาจนเธอขับรถออกจากบ้านไป มาเบลล์หันไปมองในบ้านที่ตอนนี้โล่งแทบไม่มีอะไรอยู่เลยของตกแต่งบ้านราคาแพงที่ผู้เป็นพ่อชอบก็ค่อยๆหายไปที่ละชิ้นสองชิ้น ร่างบางยืนนิ่งอยู่ที่เดิมนานหลายนาทีก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง
- เช้าวันใหม่ -
มาเบลล์ตื่นแต่เช้าเหมือนอย่างทุกวันเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนเธอสาวเท้าลงจากชั้น 2 มาด้วยความเคร่งเครียดเพราะวันนี้จะต้องจ่ายค่าเทอมหลายแสนบาทแต่แม่เธอก็ยังไม่กลับมาไม่ติดต่อมา มาเบลล์หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าและกดโทรออก
หลายต่อหลายสายแต่ปลายสายก็ไม่กดรับสายของเธอเลย
เอี๊ยด….
เสียงรถขับเข้ามาจอดหน้าบ้านไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงเป็นมาวินที่มารับเธอไปโรงเรียนอย่างแน่นอน
“ พี่วิน “
” ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นละครับ เป็นอะไร มีอะไรหรือเปล่า “ มาวินเอ่ยถามด้วยความสงสัย เขาจ้องมองน้องอย่างต้องการคำตอบ แม้ในใจจะเป็นกังวลมากเพียงใดแต่เธอก็ส่ายหัวเพื่อเป็นคำตอบว่า เธอไม่เป็นอะไร
“ มีอะไรน้องเบลล์บอกพี่ได้ทุกเรื่องนะครับ อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว ห้ามคิดคนเดียวมีพี่อยู่อีกคนอย่าลืมสิ ” มาวิวจับไปที่มือเล็กและเอ่ยบอกน้องถึงมาเบลล์จะไม่เล่าเรื่องในบ้านให้เขาฟังแต่มาวินก็เดาออกว่าชีวิตของน้องมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แถมน้องยังต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่นี้เพียงคนเดียว
“ ค่ะ ไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวพี่วินจะไปเรียนสาย ” มาเบลล์เดินขึ้นรถไปด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ไม่นานรถหรูของรุ่นพี่ก็ขับมาจอดยังจุดส่งนักเรียนในสายชั้นมัธยม
“ วันนี้พี่เลิกเที่ยงเดี๋ยวน้องเบลล์เลิกเรียนพี่มารับนะครับ “
” ค่ะ ขับรถดีๆนะคะ “ มาเบลล์ลงจากรถเดินเข้าอาคารเรียนไปทันที มีเพียงรุ่นพี่ที่นั่งมองแผ่นหลังเล็กของน้องเดินไกลออกไปจนสุดสายตา ในใจเอาแต่นึกเป็นห่วงน้องที่ช่วงนี้ดูค่อนข้างเงียบ ไม่สดใส ร่าเริงเหมือนกับที่ผ่านมา
” เบลล์มาแล้วเหรอฉันรอเธออยู่ไปเพื่อนจ่ายค่าเทอมหน่อยสิคนอื่นเขาโอนจ่ายกันหมดแล้วปะป๊านึกยังไงเซ็นเช็คให้ฉันก็ไม่รู้เธอก็คงจะโอนจ่ายแล้วใช่ไหม…? “ จีน่าชูเช็คให้มาเบลล์ดูและเอ่ยชวนมาเบลล์ไปห้องการเงินเพื่อชำระค่าเทอม
“ ของฉันแม่คงโอนมาแล้ว ” มาเบลล์เอ่ยบอกในใจเอาแต่ภาวนาให้แม่ของเธอโอนเงินมาชำระค่าเทอมให้เธอแล้วเพราะถ้าไม่จ่ายเธอก็คงจะไม่ได้เรียนต่อที่นี่ ใบหน้าสวยของเด็กสาวลูกครึ่งค่อนข้างเคร่งเครียดราวกับคนที่มีเรื่องให้คิดไม่ตกอยู่ตลอดเวลา
“ เหรอ งั้นไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ ” จีน่าจับไปที่ข้อมือของมาเบลล์แล้วพาเธอเดินไปยังห้องการเงินที่อยู่อีกตึกนึง
ภายในห้องการเงินมีคุณครูหลายคนนั่งอยู่ จีน่าเดินตรงไปยังโต๊ะการเงินก่อนจะยื่นเช็คให้กับคุณครู
” แล้วของหนูละ …? “ คุณครูเอ่ยถามมาเบลล์
” คุณแม่ยังไม่โอนมาเหรอคะ “
” ยังจ๊ะ ทั้งชั้นเหลือแค่หนูคนเดียวที่ยังไม่จ่าย ” คุณครูเอ่ยบอกเมื่อมองไปในใบรายชื่อเหลือแค่เพียงมาเบลล์ที่ยังไม่ได้ชำระค่าเทอม
“ ของหนูเดี๋ยวคุณแม่คงโอนมาให้ค่ะ “ มาเบลล์ก้มหน้าตอบ
” จ๊ะ ยังไงหนูก็แจ้งคุณแม่หน่อยนะคะว่าหมดเขตชำระค่าเทอมพรุ่งนี้ ครูฝากหนังสือเตือนนี้ไปให้คุณแม่ด้วยนะจ๊ะ “ คุณครูส่งใบแจ้งเตือนให้กับเธอ มือเรียวสั่นน้อยๆก่อนที่เธอจะรับมันมา ด้านข้างก็ยังมีสายตาอยากรู้อยากเห็นของจีน่าจับจ้องมองเธอไม่วางตา
ทั้งสองเดินกลับมาที่ห้องเรียนอีกครั้ง มาเบลล์นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะของตัวเธอเธอพยายามส่งข้อความหามุกดาหลายข้อความแต่ผู้เป็นแม่กลับไม่เปิดอ่านข้อความของเธอเลย
“ เบลล์ติดต่อแม่ไม่ได้เหรอ ” จีน่าเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“ แม่เราคงกำลังยุ่งนะ ”
“ เหรอ ฉันคิดว่าฉันจะจ่ายคนสุดท้ายซะอีกแต่ยังมีเธอที่ไม่ได้จ่าย ปกติเธอจ่ายก่อนคนอื่นตลอดนะ“ จีน่าเอ่ยขึ้นปกติ ดร. จะชำระค่าเทอมให้กับลูกสาวก่อนคนอื่นตลอดบางครั้งก็ชำระทีเดียวพร้อมกันทั้งสองเทอมมาเบลล์แทบไม่ต้องรับรู้เรื่องพวกนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปเธอต้องรับภาระแม้กระทั่งค่าน้ำ ค่าไฟภายในบ้านตอนนี้ก็เป็นเธอเองที่ต้องเอาเงินเก็บที่มีมาจ่าย เงินก้อนสุดท้ายที่มีเธอแค่จะเอาไว้ใช้จ่ายในการเรียนและมันก็ไม่พอสำหรับค่าเทอมของโรงเรียนนานาชาติที่แพงจนหูฉีก
พรึบ!
“ เบลล์จะไปไหน ” จีน่าเอ่ยถามเมื่อจู่ๆเพื่อนก็ลุกออกจากที่นั่ง
“ ห้องน้ำ ” เธอรีบเดินออกจากห้องเรียนสมองตอนนี้ตื่อตันไปหมดเธอคิดอะไรไม่ออก แม่เพียงคนเดียวที่มีก็ติดต่อไม่ได้เขาไม่รับสายของเธอหรือแม้แต่จะติดต่อกลับมาก็ไม่มีเลย
ร่างบางยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ ดวงตาสีเทาสั่นระริกเธออยากจะร้องไห้ดังๆให้กับชีวิตที่มันเหมือนเรือน้อยกลางมหาสมุทรเธอไม่รู้จะไปในทิศทางไหนดีมันเคว้งคว้าง อ้างว้าง เปลี่ยนเหงามากเหลือเกิน
^^