บทที่ 6
“คัท”
เสียงผู้กำกับคนดังตะหวาดลั่นกองถ่ายโฆษณาด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความโกรธสุดๆ ทำเอานางแบบสาวคนสวยกำกับหน้าเจื่อนสนิท
“บ้าที่สุด คุณแฟรี่ แอ็คติ้งคุณแย่มาก ไหนคุณเป็นนางแบบมืออาชีพไง”
ผู้กำกับคนดังตะโกนว่าเธอเสียงดังลั่นทำเอาอาฟารีเดือดทันที หญิงสาวเดินเข้ามาตรงหน้าเขา
“ก็ฉันเป็นนางแบบไม่ใช่นักแสดงนี่ แอ็คติ้งฉันแย่ก็จริง แต่คุณสิแย่กว่าฉัน ในบทไม่เห็นมีฉากเลิฟซินเลยนะคะจู่ๆ มาเพิ่มบทได้ไง นี่โฆษณาเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อสุขภาพในการออกกำลังกายนะไม่ใช่เพื่อปลุกเซ็กส์ เชิญนายหานางแบบใหม่ได้เลย เห็นทีฉันคงแอ็คติ้งห่วยจริงๆ แหล่ะแสดงไม่ได้หรอกแบบนี้”
หญิงสาวแว๊ดผู้กำกับชื่อดังด้วยความโมโหก่อนจะกระแทกเท้าเดินหนีทันที ทำเอาทีมงานต้องวุ่นวายอีกครั้ง
“คุณแฟรี่คะใจเย็นๆ ค่ะ คุณแฟรี่”
หญิงสาวคนหนึ่งวิ่งตามนางแบบสาวที่เดินจ้ำอ้าวๆ ไปยังรถตู้คันใหญ่ แต่แทนที่ผู้กำกับคนดังจะร้อนใจ เขากลับยิ้มกริ่ม คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะกำจัดอาฟารีได้รวดเร็วขนาดนี้ เขายอมรับว่านางแบบสาวคนนี้สวยมาก เหมาะกับการเป็น พรีเซนเตอร์ของสินค้า แต่เขาอยากให้เขาริซ่า นางแบบสาวคนรักของเขาเป็นพรีเซนเตอร์มากกว่า งานดีๆ เงินดีๆ แถมยังชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกใครๆ ก็อยากได้ ทั้งๆ ที่เขาคิดว่าริซ่าเป็นตัวเก็งในการคัดเลือกแล้วแท้ๆ แต่อาฟารีกลับได้งานนี้ไปแบบเหนือคำคาดหมาย
“ไมเคิล นางแบบสาวเธอกลับไปแล้วหว่ะเพื่อน”
ทีมงานคนหนึ่งตะโกนบอกเขาพร้อมกับส่ายหัวไปมา
“นี่น่ะเหรอนางแบบมืออาชีพ ขี้วีนสมฉายาจริงๆ หานางแบบใหม่เลยเพื่อน”
ทีมงานอีกคนเสริมมาด้วยความหงุดหงิดที่งานไม่เดิน
“แต่นายก็ผิดนะไมเคิลที่เปลี่ยนบทกะทันหัน”
ทีมงานหญิงอีกคนเสริมขึ้นเพราะเท่าที่เธอสังเกตเห็นมาตลอดอาทิตย์ การถ่ายภาพนิ่งนางแบบสาวทำงานได้ดีมากๆ ไม่มีวีนหรืออารมณ์เสียด้วยซ้ำ แต่พอเป็นโฆษณาและมีการเพิ่มบทเธอก็เริ่มไม่พอใจมากขึ้นจนทนไม่ได้
“เราขายของนะ ถ้าไม่มีแรงจูงใจลูกค้าก็ขายไม่ได้หรอก พวกเราทุกคนก็รู้เรื่องนี้ดีนี่นา บอสต้องการให้เครื่องดื่มชุดนี้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกก็ต้องมีจุดขายสิ”
ผู้กำกับคนดังเอ่ยขึ้น ซึ่งก็มีคนเห็นด้วยบ้างไม่เห็นด้วยบ้าง เพราะใครๆ ต่างก็รู้ว่าไมเคิลอยากดันคนรักของเขามาเป็นพรีเซนเตอร์ขนาดไหน
“ว่าไงนะไมเคิล เธอพูดอย่างนั้นเหรอ โอเค นายมาพบฉันที่ห้องทำงานตอนนี้เลย”
เทียร์รีวางสายโทรศัพท์ลง ใบหน้าหล่อเหลาครุ่นคิดในสิ่งที่เขาได้ยินมาจากผู้กำกับคนดัง ก่อนจะสั่งให้อาฟารีมาพบ ความจริงแล้วนี่ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องเข้าประชุมสำคัญเขาคงต้องไปดูแลด้วยตัวเอง
“มาคัสให้คนตามอาฟารีมาพบผมที่ห้องตอนนี้เลยนะ”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งนางแบบสาวและผู้กำกับคนดัง ก็มานั่งอยู่ตรงหน้าของท่านประธานหนุ่ม ต่างก็จ้องหน้าอย่างไม่ยอมกัน
“ขอเหตุผลของการไม่ยอมถ่ายโฆษณาของคุณด้วย มิสอาฟารี”
น้ำเสียงและแววตาของเขาเรียบสนิท เขาเรียกเธอราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อาฟารีเม้มปากแน่น น้อยใจขึ้นมาแต่พอมาคิดอีกทีเขาก็ทำถูกแล้วเพราะนี่เป็นเวลางาน
“ก่อนที่ดิฉันจะตอบคำถามนี้ของคุณ ฉันอยากจะทราบค่ะว่างานโฆษณาสินค้านี้ต้องการให้ผู้บริโภคได้เห็นสินค้าในรูปแบบไหน คอนเซ็บที่คุณต้องการสื่อให้ลูกค้าเห็นคืออะไร”
แทนที่จะตอบเธอกลับถามเขาแทน ชายหนุ่มหรี่ตามองหญิงสาวอย่างแปลกใจ ไม่คิดว่าเธอจะถามในสิ่งที่เธอก็ทราบดีแล้วตั้งแต่ต้น
“ถ้าคุณลืมผมจะอธิบายอีกครั้ง สินค้าของเราต้องการให้ลูกค้าสนใจ เพราะเป็นเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อสุขภาพที่ดี ย้ำสินค้าตัวนี้เป็นสินค้าที่ทำขึ้นเพื่อสุขภาพทดแทนในการเสียเกลือแร่จากการออกกำลังกาย พรีเซนเตอร์จะต้องดูแลเป็นสปอร์ตเกิร์ล ที่มีสุขภาพดีแข็งแรง”
อาฟารีฟังคำอธิบายตั้งแต่ต้นจนจบ เธอหันไปมองหน้าผู้กำกับคนดังที่นั่งนิ่งเฉยราวกับทองไม่รู้ร้อน ถ้าเธอไม่อคติจนเกินไปละก็ เธอคิดว่าผู้กำกับคนนี้จงใจทำให้เธอถอนตัวจากการเป็นพรีเซนเตอร์ในครั้งนี้
“ที่ฉันเข้าใจก็เป็นอย่างที่คุณพูดนะคะ ฉันไม่ได้เซ็นสัญญา ตรงกันข้ามทางฝ่ายคุณต่างหากที่ผิดสัญญา ทำการเปลี่ยนบทกะทันหันโดยไม่แจ้งล่วงหน้า โดยเฉพาะฉากเลิฟซีน ซึ่งฉันทำไม่ได้”
ปั่ง “ฉากเลิฟซีน หมายความว่ายังไง”
คราวนี้ท่านประธานหนุ่มตบโต้ะดังปั้ง น้ำเสียงเกรี้ยวกราด แววตาที่จ้องมองไปยังผู้กำกับชื่อดัง แสดงให้เห็นถึงความโกรธชัดเจน น้อยครั้งที่จะได้เห็น ทำเอาผู้กำกับหนุ่มถึงกับหน้าซีดเผือด
“มันเป็นฉากเลิฟซินเล็กๆ น้อยๆ ที่จะทำให้สินค้าของเราดูดีน่าสนใจ และสะดุดตาทันทีที่ลูกค้าได้เห็นครับบอส อีกอย่างนางแบบคนอื่นที่เคยแสดงก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรนี่ครับ”
“เล็กๆ น้อยๆ ที่ไหนกัน นายบอกให้แอนดรูจูบฉันอย่างดูดดื่มราวกับเป็นคู่รักกันไง แค่ปากชนปากก็ถือว่ายอมมากแล้วนะ เทียร์รีถ้านายยังให้ฉันแสดงฉากเลิฟซีนบ้าๆ นี้อีกละก็ฉันจะกลับประเทศไทยทันที ฉันทนไม่ได้หรอกนะที่ใครจะมา...มา...จูบฉันน่ะ”
หญิงสาวหน้าแดงก่ำบีบมือตัวเองแน่น ก้มหน้าลงไม่กล้าสบสายตากับเขา เธอจะให้คนอื่นที่ไม่ใช่เขามาจูบได้ยังไง แค่คิดเธอก็รับไม่ได้แล้ว เทียร์รีขบกรามแน่นให้ตายสิเขาอยากไปกระชากนายแบบที่ชื่อแอนดรู มาชกหน้านัก โทษฐานเอาปากมาแตะปากยายตัวแสบของเขา
“ไมเคิล นายทำเกินไปแล้วนะเปลี่ยนบทโดยไม่บอกฉันซักคำ วันนี้เลิกกองซะแล้วพรุ่งนี้ถ่ายใหม่ แล้วใช้บทเดิมที่มีอยู่แล้วอย่าทำอะไรโดยไม่บอกฉันอีก คุณกลับไปพักผ่อนได้แล้วแฟรี่”
โดยไม่ให้เขาได้พูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง อาฟารีลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงานของเขาทันที เทียร์รียกหูโทรศัพท์ให้คนของเขาคอยดูแลอาฟารีให้ดี
“มาคัสไปส่งแฟรี่ที่ให้ถึงห้องล่ะให้ลอร่าดูแลเธอด้วย”
เขาสั่งแล้ววางหูลงก่อนจะหันหน้ามามองผู้กำกับหนุ่ม
“ฉันหวังดีกับนายนะเทียร์รี ยายนั่นน่ะเรื่องมากเอง”
“นายแน่ใจเหรอว่านายหวังดีจริงๆ ไม่ได้ต้องการอย่างอื่น อย่าคิดว่าฉันไม่รู้สิว่านายคิดจะทำอะไร นายเองก็คงจะไม่พอใจหรอกใช่ไหม ถ้าเขาให้ริซ่าแฟนนายไปจูบกับแอนดรูอย่างดูดดื่มน่ะ ฉันหวังว่านายคงเข้าใจที่ฉันพูดนะกลับไปเตรียมตัวทำงานในวันพรุ่งนี้ดีกว่า แต่ถ้านายไม่พร้อมที่จะทำงานนี้ก็บอกมาตรงๆ ฉันจะให้คนอื่นไปทำแทนให้”
ผู้กำกับคนดังถึงกับหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เมื่อได้ยินคำพูดที่แสดงออกกรายๆ ว่าอาฟารีเป็นผู้หญิงของเขา ใครก็แตะไม่ได้ ไมเคิลพึ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเขาเกือบทำผิดพลาดไป งานที่สปอร์ตอัฟทำให้เขามีรายได้เป็นกองเป็นกำ และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ถ้าเขาพลาดงานนี้ละก็เขาก็แทบจะดับเลยทีเดียว เรื่องอะไรจะปล่อยให้โอกาสที่ดีหลุดลอยไป
“ฉันจะทำงานนี้ต่อ”
ไมเคิลบอกออกมาในที่สุด ท่านประธานหนุ่มพยักหน้ารับ
“ทำหน้าที่ของนายให้ดีก็แล้วกัน ฉันเชื่อว่านายจะทำงานชิ้นนี้ออกมาได้ยอดเยี่ยมฉันเชื่อในศักยภาพของนาย”
เทียร์รีพูดออกมาจากใจ จะว่าไปแล้วไมเคิลเป็นคนที่มีฝีมือมากคนหนึ่ง เขาทำงานกับบริษัทมานานเกือบจะสิบปีแล้ว เขาเป็นคนที่ได้ชื่อว่าละเอียดรอบคอบ และเถรตรงที่สุดก็ว่าได้ แต่คราวนี้คงเป็นเพราะความรักที่เขามีต่อนางแบบสาวคนสวยผมบรอนด์ชาวอังกฤษที่ออดอ้อนอยากให้เขาช่วยที่จะได้เป็นพรีเซนเตอร์ของสปอร์ตอัฟ
“ขอโทษครับบอส”
คำขอโทษสั้นๆ จากไมเคิลก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ท่านประธานหนุ่มนั่งเหม่อลอยอยู่เพียงลำพังพลันคำพูดของอาฟารีก็ดังขึ้นก้องอยู่ในหูของเขา
“เล็กๆ น้อยๆ ที่ไหนกัน นายบอกให้แอนดรูจูบฉันอย่างดูดดื่มราวกับเป็นคู่รักกันไง แค่ปากชนปากก็ถือว่ายอมมากแล้วนะ เทียร์รีถ้านายยังให้ฉันแสดงฉากเลิฟซีนบ้าๆ นี้อีกละก็ฉันจะกลับประเทศไทยทันที ฉันทนไม่ได้หรอกนะที่ใครจะมา...มา...จูบฉันน่ะ”
“ยายตัวแสบนี่ถึงขนาดยอมให้คนอื่นแนบปากเลยเหรอมันน่านัก”
ชายหนุ่มบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ไม่ได้การล่ะยังไงพรุ่งนี้เขาจะต้องไปดูการถ่ายทำโฆษณาด้วยตัวเองเสียแล้วไม่อย่างนั้นเขาคงอกแตกตายเสียก่อน และยายตัวแสบกับเขาต้องมีเรื่องเคลียร์กันหน่อยซะแล้ว
9.00 น. วันต่อมา
บรรยากาศในการถ่ายโฆษณาดูอึดอัดเกรงไปหมด ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงชายหญิงตลอดจนทีมงานทุกคน ก็จะไม่ให้ทุกคนเกรงได้ไงไหว ก็ท่านประธานบริษัทเล่นมานั่งเฝ้าดูการถ่ายทำตั้งแต่เช้า แถมตอนถ่ายภาพนิ่งท่านก็เป็นคนถ่ายภาพของนางแบบนายแบบด้วยตนเอง ทุกคนไม่อาจปฏิเสธได้ว่าฝีมือการถ่ายภาพของท่านประธานดีเยี่ยมขนาดไหน เพียงแต่ว่าน้อยแสนน้อยที่ท่านจะลงมาถ่ายภาพ แถมยังไปจัดท่าทางให้นางแบบนายแบบด้วยตนเองอย่างเช่นตอนนี้
“นางแบบยืนให้ดูแข็งแรงหน่อย ใช่ แบบนั้น”
ชายหนุ่มเดินเข้าไปจัดเสื้อผ้าเกลี่ยผมที่หล่นลงมาข้างแก้มของอาฟารีทัดหูของเธอก็ไม่กล้าขยับใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ แต่เขากลับมีใบหน้าที่เรียบเฉย บางครั้งก็ดุเธอต่อหน้าคนอื่นเสียงดัง
“นี่ ยืนนิ่งๆ สิ เฮ้ ไม่ต้องขยับใกล้นายแบบขนาดนั้นก็ได้ กุลสตรีไทยน่ะลืมแล้วหรือไงแฟรี่”
เขาตะโกนว่าเธอหญิงสาวหน้างอง้ำแต่ก็ยอมทำตามคำสั่งของเขา กว่าที่เวลาช่วงเช้าของการทำงานจะเสร็จลงก็ทำเอานางแบบสาวถึงกับเหนื่อย ชายหนุ่มมองมายังเธอด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ จะเข้าไปหาก็ติดอยู่ที่กลัวว่าเธอจะเกลียดเขามากกว่าเดิม แค่นี้อาฟารีก็แทบจะไม่มองหน้าเขาอยู่แล้ว เขาจึงได้แต่มองเธออยู่ห่างๆ ด้วยความเป็นห่วง
“บ่ายนี้เราจะถ่ายทำฉากที่คุณแฟรี่ออกกำลังกายนะครับ ทุกคนเตรียมตัวได้”
ผู้กำกับคนดังตะโกนบอกทีมงานทุกคนให้เตรียมตัวทำงาน อาฟารีทำงานแทบจะไม่ได้พักเลยก็ว่าได้ ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าของเธอทำให้ภาพออกมาดูไม่ค่อยจะเป็นที่พอใจของท่านประธานนัก
“แฟรี่ตั้งใจหน่อยสิ อีกแค่เทคเดียวเอาให้ผ่านนะอดทนหน่อยสิ”
เจ้านายจอมโหดเดินมากระซิบกับเธอเสียงเข้มหน้าขรึมๆ อาฟารีอยากจะร้องไห้นัก หญิงสาวกัดฟันทำงานกว่าจะเสร็จสิ้นสำหรับวันนี้ก็ปาไปเกือบสามทุ่ม เทียร์รีให้คนมาส่งเธอส่วนเขายังคงรอดูภาพการถ่ายทำโฆษณาและภาพนิ่งที่เขาถ่าย หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องยื่นกระเป๋าให้กับลอร่าเมทวัยกลางคนที่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอ ระหว่างที่เธอพักอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้
“ทานอะไรก่อนนะคะมิส”
ลอร่าถามพร้อมกับยกอาหารเย็นมาให้ อาฟารีส่งยิ้มเซียวๆ ให้กับเธอ
“ขอบคุณค่ะลอร่า กำลังหิวพอดีเลย”
หญิงสาวทานอาหารจนหมดก่อนจะขอตัวเข้าไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัวหลังจากนี้ ก็โทรศัพท์กลับมาประเทศไทยหาคุณยาย ซึ่งเธอก็ปฏิบัติแบบนี้เป็นประจำทุกวัน ก่อนจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
“หลับไปแล้วค่ะบอส ดูท่าทางมิสเธอคงเหนื่อยมาก ค่ะบอส ได้ค่ะ”
ในขณะที่อาฟารีกำลังหลับสบายอยู่บนเตียง ลอร่าก็ได้โทรศัพท์รายงานพฤติกรรมของเธอให้กับบอสของเธอฟัง ซึ่งเธอเองก็มีหน้าที่โทรรายงานอยู่ทุกวันอยู่แล้ว
อาฟารีถ่ายโฆษณาอีกสองวัน แทบไม่ได้พักผ่อนเลยก็ว่าได้ โดยมีท่านประธานหนุ่มมาคอยดูแลกำกับด้วยตนเองจนกระทั่งงานของเธอเป็นอันเสร็จสิ้น คงเหลือแต่เพียงเก็บรายละเอียดของงานอีกเพียงเล็กน้อย อาฟารีคิดว่างานเธอเสร็จเร็วกว่ากำหนด เธอจะไปเยี่ยมเพื่อนรักซักหน่อย แต่ร่างกายของเธอที่เหน็ดเหนื่อยสะสมมาเป็นเวลาหลายวัน ทำให้หญิงสาวไม่สบายไข้ขึ้นสูง จนลอร่าต้องโทรตามหมอ ยิ่งเทียร์รีทราบข่าวว่าเธอไม่สบายเขาก็เป็นห่วง ชายหนุ่มตัดสินใจพาเธอไปพักที่บ้านกาสเตอร์ เพื่อที่จะมีคนช่วยดูแลเธอ นางแบบสาวนอนซมด้วยพิษไข้อยู่สามวันกว่าอาการของเธอจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ สร้างความพอใจให้กับคนในบ้านกาสเตอร์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเทียร์รี กาสเตอร์ บีทไรท์
“เป็นยังไงบ้างลูกแฟรี่ รู้สึกดีขึ้นไหมจ๊ะ”
คุณเกดกนกพูดกับเธออย่างอ่อนโยนใบหน้าของท่านเต็มไปด้วยความห่วงใย
“ดีขึ้นแล้วค่ะคุณป้า ขอบคุณคุณป้ามากๆ เลยนะคะที่คอยดูแลแฟรี่”
หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณผู้สูงวัยไว้อย่างนอบน้อม
“หนูพักผ่อนน้อยหักโหมงานหนัก ร่างกายรับไม่ไหวเลยทำให้ฟื้นตัวช้า พักผ่อนให้มากๆ ทานยาที่หมอสั่งหนูก็จะค่อยๆ ดีขึ้นจ้ะ”
หญิงสาวมองคุณเกดกนกด้วยความซาบซึ้งใจพลันเธอก็คิดถึงคุณยายของเธอขึ้นมาจับใจ
“คุณยาย”
เธอครางออกมาเบาๆ คุณเกดกนกยิ้ม
“ไม่ต้องกังวล น้องเทียร์โทรคุยกับคุณยายของหนูตลอด ท่านทราบแล้วว่าหนูมาอยู่กับป้าที่บ้านกาสเตอร์ น้องเทียร์บอกท่านแล้วว่าแม่เป็นคนดูแลหนู คุณยายท่านก็เลยค่อยสบายใจขึ้น”
อาฟารีถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะสอดสายตาหาคนใจร้ายที่ใช้งานเธอหนักจนเธอล้มป่วยและเหมือนจะเข้าใจคุณเกดกนกเลยพูดออกมา
“น้องเทียร์ไปอเมริกาอีกสามสี่วันถึงจะกลับ ไปเปิดตลาดสินค้าที่ชิคาโกเป็นแห่งแรก รู้สึกว่าได้รับการตอบรับดีเกินคาดจึงต้องอยู่ต่ออีกจ้ะ”
คุณเกดกนกบอกเธอด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในตัวลูกชายสุดที่รัก พลอยทำให้หญิงสาวรู้สึกดีไปด้วย
“น้องเทียร์น่ะ เป็นคนที่น่ารัก ช่างอ้อนมาตั้งแต่เด็กๆ บราๆ .....”
เรื่องราวต่างๆ ของเทียร์ กาสเตอร์ บีทไรท์ ตั้งแต่เด็กจนโตถูกถ่ายทอดจากปากผู้ให้กำเนิดให้แก่คนบนเตียงได้ฟัง คุณเกดกนกเล่าถึงบุตรชายด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข แต่พอหันกลับมามองคนบนเตียงกลับหลับไปเสียแล้ว ท่านมองผู้หญิงคนแรกที่ลูกชายพาเข้าบ้านด้วยสายตาที่พินิจพิจารณา คราวก่อนเธอก็รู้สึกประทับใจมากแล้ว มาคราวนี้ท่านบอกได้เต็มปากเลยว่าหมายมั่นปั้นมือจะให้อาฟารีเป็นลูกสะใภ้ของเธอให้จงได้
“ลูกสะใภ้ของแม่จะเป็นใครไม่ได้นอกจากหนู หวังว่าน้องเทียร์จะไม่ปล่อยให้คนดีๆ แล้วก็น่ารักอย่างหนูแฟรี่ หลุดลอยไปนะ”