มารยาที่ 5

2080 Words
บทที่ 5 ทางด้านกองถ่าย ช่างภาพกิตติมศักดิ์ กดชัตเตอร์มือระวิง เช่นเดียวกับที่นางแบบสาวที่โพสต์ท่าได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ ทุกคนตั้งใจทำงานมาก เทียร์รีเข้ามาจัดท่าให้กับนางแบบบางครั้ง อาฟารีก็อดที่จะคิดไม่ได้บางครั้งว่าเขาแอบแต๊ะอั๋งเธอ แต่บางครั้งก็เหมือนไม่ใช่เพราะเขามีสีหน้าท่าทางที่เฉยมาก “นี่ คุณมีสติหน่อยใจลอยไปไหนมองขึ้นไปสูงๆ นั่นอย่างนั้น” ชายหนุ่มสั่งเธอเสียงดัง ถ้าไม่พอใจก็เดินมาจัดนู้นนี่ให้เธอ “อีตาบ้า” หญิงสาวทำปากขมุบขมิบว่าเขา “เอาหล่ะเช้านี้พอก่อนตอนบ่ายคุณต้องถ่ายคู่กับเจ็ตสกีแล้วก็นายแบบของเราด้วย” “ฉันขอดูภาพได้ไหมคะ” เธอขอเพราะช่วงเช้านี้เธอยังไม่ได้ดูรูปที่เขาถ่ายเลยซักรูป ขอดูทีไรก็มีอันถูกดุ ทีเมื่อวานเธอยังขอดูของช่างภาพคนอื่นได้เลยนี่นา “ค่อยดูวันอื่นไม่ใช่หน้าที่ของคุณ” เขาบอกแล้วเดินหนีเธอไปทันที แต่คนอย่างเธอหรือจะยอมหญิงสาวหน้างอเข้าใส่เขา “ที่เมื่อวานเจสันยังให้ดูเลย” หญิงสาวเดินตามหลังเขาต้อยๆ ขอดูรูปของเธอ ก็เธออยากรู้นี่นาว่ารูปที่ถ่ายจะออกมาสวยหรือว่าไม่สวยยังไงเธอจะได้ปรับปรุงแก้ไขในช่วงบ่ายนี้ “นั่นเจสันแต่นี่ผม” เขาว่าแล้วทำท่ากวนๆ ใส่เธอ อาฟารีมองเขาอย่างเจ้าเล่ห์แล้วจู่ๆ เธอก็กระโจนเข้าแย่งกล้องเขา แล้ววิ่งหนีทันทีชายหนุ่มวิ่งตามแต่หญิงสาวไวกว่าเธอวิ่งเข้าห้องน้ำ หญิงสาวปิดประตูหนีเขาทำให้เขาตามไปไม่ทัน “เปิดประตูนะ” “เรื่อง..” “ยายตัวแสบ” ชายหนุ่มคำรามออกมาอย่างไม่รู้จะทำยังไง ทางด้านอาฟารีเธอกดรีเพลย์ดูรูปของเธอไปเรื่อยๆ ก็เห็นว่ารูปของเธอสวยทุกรูปฝีมือการถ่ายภาพของเขายอดเยี่ยมจริงๆ แล้วเธอก็ต้องขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันเมื่อเห็นรูปที่ไม่ใช่ตอนที่ถ่ายแบบแต่มันเป็นรูปที่เธออยู่ในกิริยาเผลอ มีทั้งตอนที่เธอหัวเราะกับลอร่า ไม่ว่าจะเป็นตอนแต่งหน้า ตอนที่เธอหน้าบูดบึ้ง หรือมีแม้แต่ที่เธอแอบหลบมุมหลับ อาฟารีทำท่าจะลบรูปทิ้งแต่ว่าอีกความคิดหนึ่งวิ่งปริ๊ดขึ้นมาในสมอง “เอ๋.....หรือว่าอีตาผีดิบแอบชอบเรานะ ถึงได้แอบถ่ายเราตอนเผลออย่างนี้มันต้องพิสูจน์” หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องน้ำมาด้วยท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกดี หญิงสาวยิ้มเมื่อเห็นว่าท่านประธานหนุ่ม ยืนรอเธออยู่หน้าห้องน้ำหญิงท่าทางเก้อๆ “อ่ะ....กล้องของคุณ” หญิงสาวยื่นกล้องให้กับเขาตามด้วยยิ้มหวานๆ “..............” ชายหนุ่มรับกล้องคู่ใจมาแต่ไม่พูดอะไรนอกจากเดินหนีเธอ อาฟารีเดินตามเขาแล้วส่งเสียงใสๆ คุยด้วย “ถ่ายรูปออกมาสวยมากๆ เลยเน๊อะกล้องคุณเนี่ย” เธอว่า ชายหนุ่มหยุดแล้วหันหน้ามามองเธอ อาฟารียิ้มใสซื่อให้เขา แล้วหญิงสาวก็แทบจะปล่อยคิกออกมา เมื่อเธอพบว่าท่านประธานหนุ่มหน้าแดงหูแดงจัดขึ้นต่อหน้าต่อตาเธอ “.........” “ขอตัวก่อนนะคะ คิกๆ” หญิงสาวเดินไปแล้วพร้อมกับเสียงหัวเราะเขา เทียร์รีมองตามหลังเธอแล้วยิ้มออกมา “ยายตัวแสบ เอ้ย หึๆ” ชายหนุ่มเกาศีรษะอย่างเก้อๆ แล้วเดินเลี่ยงไปอีกทางเขาเปิดดูภาพของเธอแล้วยิ้มออกมา ยายตัวแสบเห็นรูปแล้วไม่รู้ว่าจะคิดยังไง แต่ก็ช่างเถอะ คนอย่างเขาไม่เคยปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองอยู่แล้ว ไม่งั้นเสียชื่อตระกูลกาสเตอร์ ของเขาหมด พอช่วงบ่ายก็เริ่มถ่ายแบบต่อคราวนี้ฝ่ายช่างภาพกลับไม่มีสมาธิเอาเสียเลย เมื่อนางแบบสาวขยันส่งยิ้มหวานๆ มาให้ผ่านเลนส์ อีกทั้งยังทำท่ายั่วยวน ยิ้มใส่ตากับนายแบบหนุ่มอีกด้วย บางครั้งเขาถึงกับทนไม่ไหวต้องเดินไปจัดท่าให้เสียเอง “นี่ แฟรี่ ไม่ต้องชิดกับนายแบบมากจนน่าเกลียดหรอกนะ แค่พอดี มือแตะที่ไหล ไม่ใช่คล้องคอ เข้าใจไหม” เขาสั่งเธอเสียงดุ หญิงสาวพยักหน้า แต่พอเธอหยุดยั่วเขา แต่นายแบบหนุ่มกลับยังก้มลงมาจมูกแทบจะชิดอยู่แล้ว “มือแตะตรงนี้ ไม่ต้องก้มสายตามองที่ผม โอเค๊ แอนดรู” น้ำเสียงที่ออกมาจากท่านประธานหนุ่มบ่งบอกอารมณ์ได้เป็นอย่างดีทำเอานายแบบหนุ่มออกอาการไม่เข้าใจ ปกติเขาถ่ายแบบก็ต้องสื่ออารมณ์ให้กันอยู่แล้วจ้องตาก้มลงมองกันก็ธรรมดา “กอดอกตัวเองไว้ แอนดรู แล้วหันหลังให้นางแบบเอาหลังชนกัน” ช่างภาพตะโกนสั่งพร้อมกับกดซัตเตอร์ไปด้วย แต่ด้วยความร้อนรนทำให้นายแบบและนางแบบเสียหลักเกือบจะล้ม ยังดีที่แอนดรูทรงตัวได้เร็วกว่าจึงดึงเอาอาฟารีไว้ทัน ก่อนที่เธอจะล้มลงไปภาพตรงหน้าช่างบาดใจชายหนุ่มช่างภาพนัก แล้วในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว ท่านประธานหนุ่มเดินจ้ำอ้าวๆ ตรงเข้ากระชากแขนอาฟารี แล้วลากเธอตรงไปยังรถของเขาพร้อมกับหันมาสั่งมาคัสเสียงดังลั่น “ยกเลิกกองพรุ่งนี้ค่อยถ่ายใหม่ นางแบบเหนื่อยแล้ว” “เอ๊ะนี่คุณ ทำแบบนี้ไม่ได้นะ” “เงียบไปเลย ยายตัวป่วนมานี้” “ไม่ไป ปล่อยนะ ตาบ้า” ชายหนุ่มเปิดประตูรถแล้วยัดเธอเข้าไปแล้วเขาก็เบียดตามมาติดๆ “เจ็บนะ คุณบ้าไปแล้วหรือไงเทียร์รี” หญิงสาวต่อว่าเขาอย่างไม่พอใจแต่ชายหนุ่มไม่ฟังเสียง “ออกรถ” เขากดปุ่มอินเตอร์คอมในรถก่อนจะหันมาคว้าตัวเธอเข้ามาบดจูบอย่างรุนแรง ลงโทษที่เธอทำให้เขาร้อนอกร้อนใจจนไม่เป็นอันจะทำงาน “อื่อ....เทียร์รี...ปล่อยนะ อื้อ...” จากจูบที่รุงแรงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นนุ่มนวลอ่อนโยน เขาจูบเธออย่างที่อยากจูบ นานเท่าที่ทำได้จนอาฟารีถึงกับตัวอ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมแขนของเขา “เฮ้อ ค่อยยังชั่วหน่อย” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาหลังจากถอนริมฝีปากจากเธอหญิงสาวหน้าแดงก่ำไปหมด “คนบ้า..ปล่อยนะ..นี่แนะ” หญิงสาวดิ้นออกจากอ้อมแขนเขาพร้อมกับหยิกเขาอย่างแรง “โอ้ย ยายตัวแสบเจ็บนะ” ชายหนุ่มทำท่าจะกระโจนเข้าหาเธอแต่อาฟารีร้องออกมาเสียงหลง “หยุดนะเทียร์รี ไม่งั้นนายจะไม่ได้เห็นฉันอีกฉันจะจ่ายนายร้อยห้าสิบล้านแล้วกลับบ้าน” ท่าทางจริงจังของอาฟารีทำให้เทียร์รีไม่กล้าขยับ เขาถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะกระแทกตัวลงกับเบาะรถแล้วหลับตาลง อาฟารียิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อเธอพิสูจน์แล้วว่าชายหนุ่มสนใจเธอ “ชิแล้วมาทำเป็นปากแข็งใส่เรา แต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันนะ” ภาพสาวผมบลอนด์วิ่งเข้ามากอดแล้วจูบเทียร์รี ผุดขึ้นมาในหัวของเธอใบหน้าสวยหวานหันมาขว้างค้อนใส่คนที่นอนหลับตาข้างๆ ขวับๆ ก่อนที่เธอจะหยิบหมอนใบที่อยู่ข้างๆ โยนใส่เขาแรงๆ อย่างหมั่นไส้ “แฟรี่ทำอะไรของคุณ” “ฮึ......” “อะไรของเขานะเฮ้อ ผู้หญิงนี้เข้าใจยากซะมัดเลย” ชายหนุ่มบ่นก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งสองมือกอดหมอนเอาไว้แนบอก ปล่อยให้นางแบบสาวอึดอัดอยู่คนเดียวจนกระทั่งถึงโรงแรมที่พัก “พรุ่งนี้ผมจะมารับ” เขาบอกหญิงสาวพยักหน้าแล้วเดินลงรถทันที สวนกับสาวผมบลอนด์คนเดิมตรงลิฟท์ เธอส่งยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะเดินตรงไปยังรถหรูของเทียร์รี อาฟารีเดินตามออกมาดูก็พบว่าเทียร์รีเดินจูงมือสาวผมบลอนด์กลับเข้ามาในโรงแรม พากันไปนั่งคุยยังห้องอาหาร หญิงสาวแอบดูอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก่อนที่เทียร์รีจะกลับออกไป ส่วนสาวผมบลอนด์ก็เดินกลับห้องพักด้วยทำทางมีความสุขไม่ต่างจากเทียร์รีเลยซักนิด “คุยอะไรกันนะ” หญิงสาวพึมพำ “หนูรู้ค่ะ” เสียงที่ตอบกลับมาทำเอาอาฟารีสะดุ้ง “เธอ...เธอ...” “ถ้าคุณจ่ายหนูสามพันหนูจะบอก” พนักงานสาวเสิร์ฟเรียกร้อง อาฟารีจึงหยักหน้าควักเงินให้เธออย่างง่ายๆ “คุณผู้หญิงคนนั้นเขามาขอเลิกกับท่านประธาน บอกว่าเธอพบคนที่รักแล้ว ส่วนท่านประธานก็บอกว่าพบคนที่......” พนักงานสาวยังพูดไม่ทันจบก็รีบวิ่งไปเมื่อถูกลูกค้าเรียก ทำเอาอาฟารีรู้สึกค้างอย่างแรง “พบคนที่อะไรกันเฮ้อ....ช่างเขาสิจะสนใจทำไมไปนอนดีกว่า” หญิงสาวยกมือขึ้นเปิดปากหาวหวอดๆ แล้วเดินขึ้นไปยังห้องของเธอจัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็หยิบโทรศัพท์โทรหาคุณยายของเธอเหมือนดั่งเช่นทุกคืน “คิดถึงคุณยายจังเลยค่ะ” “ยายก็คิดถึง แฟรี่นะลูกจะกลับเมื่อไหร่ล่ะ” “คงอีกเดือนค่ะคุณยายมาหาแฟรี่ไหมคะ” “ไม่ล่ะ ยายอยู่บ้านสวน ป้าเอิบกับกิ่งแก้วดูแลยายดีมากไม่ต้องห่วง อีกอย่างเดินทางช่วงนี้ก็ไม่สะดวกหรอกลูก” “หนูจะรีบทำงานให้เสร็จแล้วไปหาคุณยายเร็วๆ นะคะ” “จ้ะหลานรัก” สองยายหลานคุยกันอีกซักพักก็วางสาย อาฟารีเอื้อมมือไปปิดไฟเตรียมตัวนอนแต่แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา “สวัสดีค่ะ” “ยังไม่นอนอีกเหรอ” น้ำเสียงหยอกเย้าดังมาตามสาย “ถ้านอนแล้วจะพูดได้หรือไงยะไอ้นัท” “โหย....แกนะแก” ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าให้กับความปากจัดของเพื่อนรัก “มีอะไรโทรมาซะดึกเลย “จะบอกว่าพรุ่งนี้จะไปสตุสกาสกับน้องแพมแกว่างกี่โมงคราวก่อนก็ไม่ได้เจอกัน” “น่าจะเย็นๆ นะมาหาฉันที่โรงแรมกาสเตอร์ สาขาใหญ่นะแกจะได้เจอกัน” “โอเค งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะเพื่อนรัก บายนะ” “อื่ม บาย” หญิงสาววางสายลง แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้งตรูดๆ “ก็บอกแล้วไงว่าว่างตอนเย็นแกนี่นะ” “ผมเอง เทียร์รี” “เอ้อ.....ฉันคิดว่าไอ้นัทเสียอีก คุณมีอะไรหรือคะ” “พรุ่งนี้จะไปรับตอนเช้า” “รู้แล้วก็คุณบอกฉันในรถ” “อ้อ....งั้นเหรอ” “คุณอยู่ไหนทำไมเสียงไม่ดีเลยล่ะเทียร์รี” หญิงสาวเอ่ยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง ฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้วท่าจะไม่สบายเสียแล้วล่ะสิ “อยู่บริษัท น่ะ” เขาตอบเสียงแหบ “ไม่สบายหรือค่ะ” “นิดหน่อย” “กลับบ้านได้แล้วอยู่ที่บริษัทคนเดียวเหรอ” “อยู่กับมาคัส” “ทานยาด้วยนะคะ” “แฟรี่...........” “คะ............” “เป็นห่วงผมเหรอ” ชายหนุ่มถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยน ทำเอาอาฟารีรู้สึกตัวขึ้นมาว่าเธอแสดงออกถึงความห่วงใยเขามากเกินไป หญิงสาวถึงกับหน้าร้อนผ่าวไปหมด “อึ่ม....ก็....ก็...เปล่าหรอกกลัวไม่มีคนมารับพรุ่งนี้ต่างหาก” “งั้นเหรอครับ หึๆ” เสียงหัวเราะเบาๆ มาตามสายเธอยิ่งเขิน “ฉันง่วงแล้วราตรีสวัสดิ์นะคะ” “ครับ กู๊ดไนท์ครับ” “คุณอย่าลืมทานยานะแล้วตอนนี้ก็ควรจะกลับบ้านได้แล้ว” หญิงสาวบอกเขาเร็วก่อนจะรีบวางสายลง ทำเอาคนปลายสายยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว หัวใจของเขาพองโตขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แค่คำพูดไม่กี่คำของเธอก็ทำให้เขารู้สึกดีได้ขนาดนี้เชียวหรือที่สำคัญเธอเป็นห่วงเขา “ยายตัวแสบปากแข็งเสียจริง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD