อีคอน - 02 เดินทาง

1718 Words
แต็ด แต็ด แต็ด... เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มจอดเทียบท่า ก่อนถูกปิดด้วยมือคนขับแล้ววางหางเสือยึดพื้นทราย ตะคัดในเรือถูกยกขึ้นมาวางแผ่เกยตื้น จังหวะนั้นเหลือบเห็นร่างบางของลูกสาววิ่งหน้าระรื่นมาแต่ไกล “ได้เยอะไหมพ่อ” แขนและศอกเท้าขอบเรือ “โห เหมือนจะได้เยอะกว่าเมื่อวานไหม?” ชายวัยกลางคนผิวดำคล้ำจากการตรากตรำทำงานหนักและอยู่ใกล้ทะเลมาตั้งแต่เกิด เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อคอยปาดมันออกทุกครั้งที่ไหลเข้าตา หันไปมองอีคอน ที่ตักน้ำออกจากท้องเรือ แล้วจึงหันไปตอบลูกสาว “โน่น ของไอ้คอนมัน พ่อไม่ได้ลงหรอก” ล้อมเดือนชำเลืองมองตาม ริมฝีปากบนยกขึ้นหวังแกล้ง “เหรอ? แต่ก็เหมือนกันละเนอะพ่อเนอะ เดือนจะเอาไปแกงแล้วกินให้เกลี้ยงเลย” “น้อยๆหน่อยนังเดือน ปลาพี่เขาขาย อย่านิสัยเสีย” แต่พ่อของหล่อนกลับเอาจริงเอาจังซะงั้น “โธ่พ่อ..ฉันแค่แกล้ง” เธอทำหน้ามุ่ยเดินอ้อมไปเกาะขอบเรืออีกฝั่ง “เป็นไงบ้างจ๊ะ เหนื่อยไหม” “เอาสิเดือน มีตั้งเยอะแยะ จะแบ่งไปแกงสักมื้อก็ได้ ยังไงก็ต้องเก็บไว้กินก่อนอยู่แล้ว” เจ้าของปลาบอกก้มหน้าก้มตาวิดน้ำ ไม่ได้มองหน้าคนฟังที่ยิ้มแฉ่งอยู่ตอนนี้ “ไม่เป็นไร พี่เก็บไว้ขายเถอะ กินแต่ปลาก็เบื่อเหมือนกัน ว่าแต่.. เหนื่อยไหมจ๊ะ” “ก็..ไม่เท่าไหร่” “เหนื่อยก็บอกว่าเหนื่อย” หญิงสาวทำหน้างอ พร้อมยื่นถุงกระดาษไปตรงหน้า “อะ ฉันให้” “อะไรหรือ?” “เปิดดูสิ หวังว่าพี่จะชอบ” หล่อนยิ้มแก้มปริหุบไม่ลง รู้สึกเขินไม่น้อยกับการซื้อของให้ผู้ชายเป็นครั้งแรก ซึ่งกว่าจะเก็บเงินซื้อได้มันไม่ง่ายเลย แต่กลับต้องหุบยิ้มตอนที่ชายหนุ่มควานหาผ้าเช็ดมือ พอไม่มีจึงเปลี่ยนมาเช็ดกางเกงของตัวเองแทน เพราะกลัวมือที่เปียกน้ำจะมาเปื้อนของข้างใน “ชอบไหมจ้ะ” อีคอนถึงกับนิ่งชะงัก หลังดึงของในถุงออกมาคลี่ดู แล้วยัดลงไปใหม่ ส่งกลับคืนสู่เจ้าของ “ไม่เอา” “ทำไมล่ะ” “แพง แถมสีขาวด้วย ดูแลยาก” สิ่งนั้นมันคือเสื้อชาวเลเนื้อผ้าลินินสีขาวนวลสะอาดตา ทันทีที่ถูกปฏิเสธ ล้อมเดือนหลุบตาต่ำทำหน้าสลดทันที แต่ยังไม่คิดจะรับถุงกระดาษนั้นกลับมาแม้แต่นิด ต้องการที่จะเปลี่ยนใจเขาก่อน “ฉันอุตส่าห์เอาเงินเก็บซื้อให้นะ จะปฏิเสธกันง่ายๆแบบนี้เลยหรือ..” “นั่นล่ะ ยิ่งไม่ได้ใหญ่ เอาเงินเก็บตัวเองมาซื้อของให้คนอื่นมันใช่ที่ไหนกัน ไม่เสียดายบ้างรึไง ทำงานก็ใช่จะไม่เหนื่อย" ล้อมเดือนเงียบกริบ ช้อนตามองคนตัวสูงบนเรือแทบจะเห็นแต่ตาขาว กัดปากแน่น ก่อนจะเผยธาตุแท้แห่งความดื้อรั้นออกมา ที่ใครทางก็พากันชินชา เนื่องจากสาวเจ้าไม่ใช่คนเรียบร้อยเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร “ก็เหนื่อยนั่นแหละจ้ะ แต่สำหรับคนสำคัญแล้ว มีใครบ้างจะเสียดายที่จะให้ มีแต่จะดีใจหากเขารับมันไป อีกอย่างพี่ก็ไม่ใช่คนนอกที่ไหน พี่คือพี่ชายของฉัน ทำไมไม่รับไปดีๆ ให้ฉันได้ยิ้มบ้าง ซื้อไปแล้วเอาไปคืนตอนนี้มีหวังแม่ค้าได้แหกอกฉันเอาสิ! ไอ้พี่บ้า ไอ้ยักษ์ ฮึ่ย!” แวดใส่แทบไม่เว้นช่องว่างให้หายใจ ก่อนถกชายผ้าถุงเหนือหัวเข่า เดินลุยน้ำประมาณหน้าแข้งไปยังทางกลับบ้าน ปล่อยให้อีคอนยืนอ้าปากค้างมองตาม “เป็นไงล่ะนิสัยลูกข้า รับไปแต่แรกก็จบ แกไม่ใส่ก็เก็บไว้ได้นี่หว่า คนตั้งใจจะให้เขาเสียความรู้สึก” ท่ามกลางเสียงหัวเราะของตามุน และชาวประมงอีกหลายคน ซึ่งเทียบฝั่งอยู่เช่นกัน คืนนั้นอีคอนนอนไม่หลับ หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จหาที่นั่งให้ย่อย แต่เหมือนจะเพลิน ไปหน่อย จึงเกินเวลานอนปกติไปตั้งสองชั่วโมง เสียงคลื่นกระทบท้องเรือดังโครมครามเป็นระยะ สาดหัวใจเขาให้เต้นตามไปด้วย พร่ำถามตัวเองในใจว่าคนอย่างเขามาอยู่จุดนี้ได้อย่างไรกัน หน้าตาเป็นฝรั่ง จมูกโด่งเป็นสัน ไหนจะตาสีสนิมคมแขกถัดไปทางฝั่งยุโรปอีก กลับมาเป็นชาวประมงอย่างนี้นะหรือ อีคอนแค่นหัวเราะ ย้อนกลับไปนึกถึงความทรงจำในอดีต ปัง! ปัง! เสียงปืนดังสองนัด เท่ากับได้พรากความกลัวจากใจเขาไปแล้ว เหมือนเปลี่ยนความหวาดผวานั้นให้กลายเป็นความเกลียดชัง โกรธแค้นถาโถมเข้ามาสอนให้ต้องผูกใจเจ็บ ชนิดที่ไม่มียาขวดไหนรักษาได้ คำสัญญาของมิเชลผู้เป็นแม่ยังคอยหลอกหลอนวนเวียนอยู่ในสมอง ไม่ว่าจะตอนหลับใหล ไม่ว่าจะตอนไหนๆ ซึ่งสิ่งนั้นอาจทำให้ทรมาน แต่อีกนัยยะก็ให้ความหวัง เป็นยาชูกำลังให้แก่เขา ‘ อีคอน... ลูกต้องทำ นั่นคือหนทางรอดสุดท้าย ไม่ต้องห่วงแม่ แม่จะไม่ยอมตายจนกว่าลูกจะโต แต่พ่อนี่สิน่าเป็นห่วง เพราะเขาไม่เหลือใครเลย ฉะนั้นอีคอน ลูกต้องโดด..’ องค์ประกอบรอบตัวในอดีตไม่ได้อยู่ในความจำของเขาเท่ากับการกระทำของผู้เป็นแม่ ครั้งนั้นเด็กผู้ชายไม่ได้อยากจะกระโดด และไม่แม้แต่จะคิด หากแต่เขาถูกบังคับด้วยการผลักให้ร่วงลงไป ทุกครั้งที่คิดถึงในสมองของเขาจะได้ยินแต่เสียงปืน กับสีหน้าของคนขับเรือที่เขานั้นจำได้แม่น ทันทีที่เห็นเขาลุกขึ้นมาจากกองตะคัด ที่ ' ข้าพูดฝรั่งไม่เป็นนะยายแม้น แกก็ยังจะยัดเยียดให้ข้าไปถาม ' ' อ้าว แล้วจะรู้หัวนอนปลายเท้ามันไหมวะ เผื่อมันเป็นลูกโจรขึ้นมา มีหวังเราได้ตายกันทั้งบางนะโว้ย แกนะแกตามุน ไม่ได้ดูเล๊ย... สักแต่ขับเรืออย่างเดียว ' ' มันมาตอนไหนข้าก็ไม่รู้นี่หว่า ได้ยินเสียงปืนไกลๆ ข้าก็เผ่นแนบแล้ว เป็นแก แกจะอยู่เรอะ' ‘อยู่ให้โง่เรอะ’ ‘เห็นไหมแกยังไม่อยู่เลย’ ' บ๊ะ! ไอ้นี่มีย้อน เดี๋ยวปั้ดตบหัวคะมำ ไปโน่นไปสาวตะคัดมาเก็บ ' ' แม๊...ดุจริงๆ แม่คุณ ..' ' จะไปไม่ไป!' ' ไปจ้ะ ไปๆ ' เขาจำเหตุการณ์หลังจากนั้นได้ดี ที่สองคนผัวเมียอายุราวๆสามสิบปลาย มายืนเถียงกันนานสองนานกับเรื่องของเขา ถึงเขาจะฟังไม่ออก ทว่าจากภาษากายของคนทั้งคู่ก็พอจะรู้ ' ไง..ล่ะเอ็ง ชื่ออะไรรึ บอกได้ไหม ฟังไม่ออกล่ะสิ งั้นข้าจะบอกชื่อข้าก่อนก็แล้วกัน ' สายตาสีสนิมมองคนข้างๆอย่างหวั่นๆ ขณะที่หล่อนตอนนี้ยิ้มแฉ่งซะจนเห็นฟันขาว ชี้นิ้วไปที่ตัวเอง แล้วพูดแต่คำเดิมๆ 'แม้น ..ชื่อข้า ไหนลองเรียกสิ... แม้น' ' ...มะ แม่น' ' เอ้อ! แม่นอะไรวะ แม้น...' ' แม่น..' 'อุวะ!! ไอ้นี่ สำเนียงผังจริงๆสิแกน่ะ เออเอา แม่นก็แม่น มันก็เพราะดีเหมือนกัน ว่าแต่..เอ็ง ชื่ออะไร?' เขาไม่เข้าใจมันหรอก หล่อนพูดอะไรอยู่ แต่เห็นชี้มาที่เขา ก็คงอยากจะรู้ชื่อเขานั่นแหละ ' เออ เอ็งนั่นล่ะ ชื่ออะไร ' ‘My name?' 'เออ นั่นล่ะ ข้าก็นึกไม่ออก เนมนั่นล่ะ ชื่ออะไร' 'อีคอน.. โดมินิก อีคอน ' 'ห๊ะ! อะไรค่อนๆนะ ' 'อีคอน..' 'ชื่อเรียกยากว่ะ แถมหยาบ เดี๋ยวนี้เขาไม่เรียกอีกันแล้ว ไอ้คอนได้ไหมวะ เอ็งเป็นผู้ชายน่ะ ข้าถนัดกว่า ' ถึงขั้นยายแม้นเกาหัวแกรกๆ ไปไม่ถูกเลยทีเดียว กับหน้าอีคอนที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ทว่าถึงไม่เข้าใจ ภาษาอาจจะแข็งกระด้างไปหน่อย ฟังเหมือนถูกตะเพิด แต่เขาก็พอจะรู้ ลึกๆยายแม้น แกเป็นคนใจดี อีคอนรู้สึกใจชื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกที่เจอกับคนไม่มีพิษไม่มีภัย แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะยิ้มออกมาซะทีเดียว ในแววตานั่นยังคงมีความเศร้าซ่อนอยู่ นึกถึงแล้วทำให้เขาขำไม่หาย ใช้ภาษาใบ้สื่อสารกันเกือบครึ่งเดือน กว่าจะมีล่ามเข้ามา ก็คงเป็นชาวประมงละแวกนั้นที่อาจได้ภาษาจากการมีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติบ้าง หลังจากนั้นราวปีเศษจึงจะมีครูมาสอน เป็นครูสอนเด็กเล็กที่นี่ เพราะความเอ็นดูล้วนๆ จึงอาสาสอนภาษาไทยให้เขา ส่งผลให้ความผูกพันระหว่างเขากับชาวประมงค่อยๆก่อตัวขึ้น จากน้อยเป็นมาก จากมากก็ผูกพันรักใคร่ไปโดยปริยาย จนกระทั่งเขาเริ่มใช้ชีวิตติดดินจนชิน 'ลูกต้องรอด...' กับคำสั่งจากมารดา ที่มีเจตจำนงยอมตายแทน เพราะแค่จะให้ลูกชายรอด ... แล้วเขาจะยอมตายง่ายๆได้ยังไงกัน มาถึงตรงนี้ ในตาหม่นหมองไร้แสงประกายนั่นมีหยดน้ำเอ่อล้นลงมาเล็กน้อย อีคอนเจ็บจุกทุกครั้งที่นึกถึง ลำบากต้องใช้กำปั้นทุบอกสั่งหยุดมันไม่หวั่นไม่ไหว ก่อนขบกรามเข้าหากันเป็นเส้นปูด ก็ตอนที่เปลี่ยนใจไปนึกถึงปกนิตยสารเล่มนั้น และเนื้อหาข้างในตอนให้สัมภาษณ์ 'ฉันจะกลับไปอยู่ประเทศไทยอย่างถาวรค่ะ' 'พูดแบบนี้หมายความว่า คุณแอนเจลีก้า จะลาวงการเพื่อสานต่อธุรกิจให้คุณพ่อจริงๆใช่ไหมคะ' ‘ใช่แล้วค่ะ’ อีคอนเหยียดยิ้มเต็มมุมปาก กะพริบตาปล่อยให้น้ำตาที่เอ่ออยู่ได้กลิ้งลงแค่เปลือกล่าง บีบอุ้งมือเข้ากันแน่น ด้วยความคับแค้นใจทำปากสั่นระริก ในหัวย้ำคิดถึงแต่แผนการ..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD