ยายแม้นลุกขึ้นพรวด ลืมเสียสนิทถึงข้อเข่าที่ไม่แข็งแรง ทันทีที่เขาบอกเล่าข่าวร้าย หลังจบมื้ออาหารเที่ยงในวันถัดมาเพียงไม่กี่นาที
“อีกทีสิไอ้คอน ตะกี้เอ็งว่าอะไรนะ เอ็งจะไปไหน??”
“ครับป้า ป้าได้ยินถูกแล้ว”
“ไปทำพระแสงอะไรวะฮะ! รึเอ็งเจอญาติเอ็งแล้ว!”
ยายแม้นเบิกตากว้าง ยืนเท้าเอวมอง ลูกชายนอกสายเลือดร่างหนาเอาแต่นั่งก้มหน้า มือผสานกันตรงตัก รู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย เพราะแม้แต่ตามุนรู้สึกตกใจไม่ต่าง แต่ยังมีสติมากพอที่จะกระตุกผ้าถุงเมียให้หล่อนใจเย็นและนั่งลง
“เดี๋ยวก็เป็นลมเป็นแล้งไปหรอกยัยแม้น”
“อย่าห้ามข้า แกไม่ได้ยินหรือไง มันบอกจะไปจากเรา หนอย... พอโตได้หน่อย อ่านภาษาข้าออก ริจะบินหนีเชียวเรอะ?!”
“เปล่านะครับป้า ผมไม่เคยคิดแบบนั้น แค่จะไปสมัครงาน”
“สมัครงาน? หมายความว่าไง อ้อ! สาวตะคัดแบกอวนกับพวกข้า มันตรากตรำ ลำบากมากสิท่า หึ”
คำตำหนิที่พ่นออกมาจากปากหญิงร่างท้วมวัยห้าสิบเศษแต่ละคำ ทำอีคอนเถียงไม่ออก เขามีเหตุผลมากกว่านี้หลายเท่า แต่พูดออกมาไม่ได้ เพราะรู้ อย่างไรผู้ที่ชุบเลี้ยงเขามาคงไม่สนับสนุนเป็นแน่ ได้แต่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น มือบีบผสานกันจนขึ้นสันปูด ขณะล้อมเดือนที่นั่งฟังอยู่นานในตอนนี้ได้แต่เม้มปากแน่น เข็มด้ายในมือกะจะเย็บนุ่นเข้าหมอนชะงักกลางคัน ในหัวคิดไปถึงนิตยสารเล่มนั้น ที่หล่อนเห็นเพียงแวบเดียว ก็จำหน้าปกแม่นจนหาซื้อมาได้
...อย่าบอกนะ ว่าพี่อีคอน จะไปสมัครเป็นบอดี้การ์ดของนางแบบคนนั้นน่ะ ....
“เอาวะ เอ็งก็โตแล้วนึ่ ข้าก็คงเลี้ยงเอ็งได้แต่ตัว เอ็งอยากทำอะไรที่มันดีต่อตัวเอ็ง ก็เชิญเลย ข้าไม่คิดขวาง”
ยายแม้นตัดพ้อ เตรียมจะเดินหนีทว่าอีคอน เด็กที่ไม่เคยออดอ้อน ไม่เคยช่างเจรจาฉอเลาะอะไรกับใครมาก่อน ตอนนี้ฉวยแขนยายแม้นไว้ ผุดขึ้นลุกเต็มความสูงแล้วกอดข้างหลัง
“แล้วผมจะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆครับป้า ยังไงผมก็ไม่ทิ้งหรอกครับ”
ผู้มีพระคุณทั้งคนจะทิ้งลงคอได้ยังไง แค่เพียงตอนนี้ถึงเวลาที่อีคอนต้องตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทวงความเป็นธรรมให้กับตัวเองก็เท่านั้น
“แล้ว...จะไปเมื่อไหร่ ..”
เสียงหล่อนเริ่มอ่อนลง อีคอนลดแขน ถอนหายใจเบา
“พรุ่งนี้ครับ”
“ห๊า!!!”
เช้าของวันถัดมา อีคอนเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่เพียงแค่การตัดผมให้สั้นกว่าเดิม ส่วนหนวดเคราก็ตกแต่งให้เข้ากับรูปหน้าก็ถือว่าใช้ได้ ไม่ดูโหดเกินและไม่ดูปวกเปียกเกินไป เปลี่ยนจากเสื้อผ้าชาวเลเป็นชุดที่ดูดีกว่าเดิม ด้วยเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาว
“ว้าวพี่คอน นี่รถพี่รึ โคตรสวยเลย”
ล้อมเดือนเป็นคนแรกที่เดินมาลูบๆคลำๆ ตื่นเต้นราวกับมันคือรถของตัวเอง ส่วนยายแม้นเอาแต่กอดอกไม่พูดไม่จา แถมเบือนหน้ามองออกไปฝั่งทะเล
“กว่าจะเอาออกมาได้ ต้องใช้คนค้ำเป็นครูสอนหนังสือไอ้คอนมันเชียวนา”
ตามุนทำท่าภาคภูมิใจ ยืนเท้าเอวมองรถคันสีดำยิ้มไม่หุบ แต่กลับต้องหุบยิ้มทันควันก็ตอนเผลอไปสบตาเมีย
“จริงเหรอจ๊ะ อย่างนี้พี่ก็ต้องผ่อนจนหมดนะสิ”
“ก็ต้องอย่างนั้นล่ะ ซื้อสดจะเอาเงินที่ไหนล่ะเดือน” เขาบอกหล่อนมียิ้มบนใบหน้า หันไปสนใจอีกคน ก่อนเดินช้าไปหา “ป้าครับ..”
“ไปเถิดเอ็ง ไม่ต้องมาสนใจข้า” คนเป็นป้าพูดตัดพ้อน้ำตาคลอเบ้า “ประเดี๋ยวเอ็งไปเจอพวกไฮโซมีเงินมีทองปรนเปรอเอ็ง ก็คงลืมข้าไปแล้วล่ะ”
“ทำไมพูดอย่างนั้นเล่ายายแม้น แทนที่จะบอกลากันดีๆ ให้มันได้สบายใจ เดี๋ยวมันขับรถอีกไกลนา อีกอย่างอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน ไม่รู้นิสัยมันเชียวเรอะ”
“เอ็งไม่ใช่ช้า เอ็งก็พูดได้สิ”
“ป้า... ผมไปเดี๋ยวเดียวก็มา”
คราวนี้คนทำหน้าเศร้ากลายเป็นอีคอนแทน ยื่นมือไปแตะแขนผิวคล้ำหยาบกร้าน บีบเบาๆเป็นเชิงปลอบใจ
“งั้นเอ็งบอกเหตุผลข้ามาสิไอ้คอน จะทำงานทั้งทีทำไมต้องไปไกลถึงโน่นฮึ ถ้าอยากจะมีเงินเก็บ มากกว่าการไปสาวอวนเช้าเย็น ในเมืองก็มี เอ็งโกนหนวดโกนเคราออกสักหน่อย ขี้คร้านเขาจะรีบรับแล้ว”
อีคอนเงียบกริบ เพราะหาคำตอบไม่ทันไปอึดใจหนึ่ง และเข้าใจยายแม้นเป็นอย่างมากซึ่งไม่แปลกที่หล่อนจะไม่เข้าใจ เพราะหล่อนไม่ได้ล่วงรู้ความคิด และความจริงของเขาทั้งหมด
“ผม...”
“เอ็งเบื่อที่นี่แล้วใช่ไหมวะ เบื่อพวกข้า เบื่อความจน”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับป้า”
“เอาเถอะ ข้าก็พูดไปเรื่อยนั้นแหละ อย่าถือสากันเลย เรื่องนี้มีแต่เอ็งที่รู้แก่ใจดี ข้าน่ะเคารพการตัดสินใจของเอ็งนะ แต่เอ็งก็ใจร้ายกับข้าเกินไปไอ้คอน บอกเมื่อวาน วันนี้จะเดินทางซะแล้ว”
“ผมขอโทษครับป้า”
ทันทีที่พูดจบ ป้าแกก็เดินถกผ้าถุงหายไปอย่างรวดเร็ว คงไม่อยากเห็นรถคันที่เพิ่งจะซื้อมาหมาดๆ เพื่อใช้ในการเดินทางค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปจนย่อขนาดเป็นเล็กลง และหายลับไปกับตา
“อย่าถือสาป้าแกเลยนะคอน ป้าแกก็เป็นอย่างนี้ล่ะ ปากร้าย..แต่รักเอ็งไม่ต่างจากลูกแท้ๆหรอก”
“ครับลุง ผมเข้าใจ ถ้าอย่างนั้นลาเลยนะครับ”
“ไปเถอะ เดินทางปลอดภัย”
“พี่ไปนะ เดือน”
“จ้ะ ขับรถดีๆ นะพี่คอน” ร่างบางเดินมากอด บทถึงเวลาพี่ชายตนจะไปก็อดใจหายไม่ได้ นึกถึงตอนเขาไม่อยู่ หล่อนจะต้องเหงามากแน่ๆ คิดแล้วก็เศร้า “มาเยี่ยมกันบ่อยๆนะพี่”
“ได้ ไปถึงแล้วพี่จะโทรมา ดูแลป้ากับลุงดีๆนะเดือน แล้วก็ตัวเดือนด้วย ”
ทุกคนบอกลากันราวกับรู้ว่ายากที่เขาจะกลับมาแล้ว นั่นเพราะไม่มีใครรู้เขาคือใคร หัวนอนปลายเท้ามาจากที่ไหน และเป็นใครมาก่อน การพบเจอกันระหว่างครอบครัวนี้กับเขาอยู่ในหมวดทำความดีไม่หวังผลตอบแทน หากวันหนึ่งต้องไปไม่มีใครคิดรั้งไว้อยู่แล้ว แต่ใครจะรู้ดีเท่าเขาเล่า ใจเขานั้นคิดอะไร